ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการกู้ข้อความ (SMS) ที่ลบไป ทั้งใน iPhone และ Android โดยเซฟ backup คืนเครื่อง จริงๆ ก็มีโปรแกรมแบบเสียเงินที่ใช้กู้ข้อความได้ แต่ระวังจะถูกหลอก หรือไม่ได้ผลเท่าที่ควร

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กู้ข้อความใน iPhone

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำใจก่อนว่าถ้าไม่เคย backup ข้อมูลไว้ จะกู้ข้อความคืนมาด้วยวิธีนี้ไม่ได้. ถ้าไม่เคย backup ข้อมูลใน iPhone ลง iTunes ก็กู้ข้อความหรือ SMS คืน iPhone ไม่ได้
  2. ไอคอนของ iTunes จะเป็นโน้ตดนตรีหลากสีบนพื้นขาว
    • ถ้ามี ให้คลิก Download iTunes ก่อน และต้องอัพเดทแล้วรีสตาร์ทคอมก่อนทำขั้นตอนต่อไป
    • ถ้าจะใช้ backup ข้อมูลจาก iCloud แทน ให้เปิด Settings ใน iPhone
  3. ให้ใช้สายชาร์จ โดยเสียบปลายข้างหนึ่งที่ iPhone และปลายอีกข้างที่คอม
    • ถ้าใช้ backup ข้อมูลจาก iCloud ให้เลื่อนลงไปแตะ General แล้วเลื่อนลงไปจนสุด เพื่อแตะ Reset
  4. ที่เป็นรูป iPhone ทางด้านซ้ายบนของหน้าต่าง iTunes เพื่อเปิดหน้า "Summary"
    • ถ้าใช้ backup จาก iCloud ให้แตะ Erase All Content and Settings แล้วใส่ passcode ตอนถูกถาม
  5. ทางขวาของหัวข้อ "Backups" ทางด้านบนของหน้า
    • ถ้ามีขึ้นเตือน ให้ปิด "Find My iPhone" ก่อนทำตามขั้นตอน
    • ถ้า iPhone ไม่ backup ข้อมูลอัตโนมัติ ให้คลิก Back Up Now เพื่อเซฟ backup ปัจจุบัน เผื่อจะกู้คืนในภายหลัง
    • ถ้าใช้ backup จาก iCloud ให้แตะ Erase iPhone 2 ครั้ง แล้วรอจนมือถือล้างข้อมูลจนเสร็จสิ้น
  6. แล้วเมนูจะขยายลงมา
    • ถ้าใช้ backup จาก iCloud ให้กดปุ่ม Home ตอนที่ขึ้น
  7. ต้องเลือกวันที่ที่ข้อความนั้นยังไม่ถูกลบไปจาก iPhone
    • ถ้าใช้ backup จาก iCloud ให้เลือกภาษาและภูมิภาค (language and region) เลือกสัญญาณ Wi-Fi (Wi-Fi network) แล้วแตะ Restore from iCloud Backup
    • ถ้า backup ล่าสุดของมือถือไม่ใช่วันที่มีข้อความนั้นใน iPhone ก็จะกู้ข้อความใน iPhone คืนมาไม่ได้
  8. ทางด้านขวาของหัวข้อ "Backups" ในหน้านั้น เพื่อให้ iPhone เริ่มกู้คืน backup ที่มีข้อความนั้นอยู่
    • ถ้า backup ที่เลือกมีการเข้ารหัสไว้ ก็ต้องใส่รหัสผ่านก่อน
    • ต้อง อัพเดทระบบของ iPhone ก่อน ถ้ามีขึ้นเตือน
    • ถ้าใช้ backup จาก iCloud ให้ใส่ Apple ID แล้วแตะ Choose Backup จากนั้นเลือกวันที่ backup ตามต้องการ
  9. เสร็จแล้วก็ดูข้อความที่ลบไปในแอพ Messages ได้เลย ไอคอนของแอพจะเป็นรูปลูกโป่งคำพูดสีขาวบนพื้นเขียว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กู้ข้อความใน Android

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำใจก่อนว่าถ้าไม่เคย backup ข้อมูลไว้ จะกู้ข้อความคืนมาด้วยวิธีนี้ไม่ได้. ถ้าก่อนหน้านี้ไม่เคยดาวน์โหลด SMS Backup & Restore ของ Android แล้วใช้สร้างไฟล์ backup ไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์ (เช่น Google Drive) ก็จะใช้วิธีนี้ไม่ได้
  2. แตะไอคอนของแอพ SMS Backup & Restore ที่เป็นรูปนาฬิกาสีขาวบนพื้นเขียว
  3. ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะเด้งขึ้นมา
  4. ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่โผล่มา
  5. แตะตำแหน่งเซฟไฟล์ (เช่น GOOGLE DRIVE ) ที่ backup ข้อความไว้
  6. สวิตช์จะกลายเป็นสีเขียว แปลว่า SMS Backup & Restore จะกู้ข้อความมาจากไฟล์ backup
    • หรือแตะสวิตช์สีเทาข้างหัวข้อ "Phone calls" ถ้าเคย backup สายโทรออกแล้วอยากกู้คืนด้วย
    • ถ้า Backup & Restore หาไฟล์ backup ไม่เจอ (เช่น คุณย้ายที่ไป) เว็บคลาวด์ที่ใช้จะเปิดขึ้นมา ก็ต้องแตะเลือกไฟล์ backup เองอีกที
  7. ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
  8. อันนี้แล้วแต่มือถือที่ใช้ บางทีก็ต้องทำตามขั้นตอนเพิ่มเติมที่ปรากฏ ถึงจะกู้ข้อความที่ลบไปคืนมาได้
  9. ติดตั้งและตั้งค่า SMS Backup & Restore เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายในอนาคต. ถ้าไม่อยากเสี่ยงข้อความหายอีกในอนาคต ก็ต้องติดตั้งและตั้งค่า SMS Backup & Restore โดย
    • ติดตั้ง SMS Backup & Restore จากใน Google Play Store แล้วแตะ OPEN
    • แตะ GET STARTED
    • แตะ NEXT
    • เลือกเว็บคลาวด์ที่ใช้ แตะ LOG IN แล้วกรอกข้อมูลล็อกอินตอนที่ถูกถาม
    • แตะ SAVE
    • แตะ NEXT
    • ติ๊กช่อง "Daily", "Weekly" หรือ "Hourly"
    • แตะ BACK UP NOW
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้โปรแกรมแบบเสียเงิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ข้อความที่เพิ่งถูกลบไป (เช่น ไม่เกิน 2 - 3 ชั่วโมง) จะกู้คืนมาง่ายกว่าข้อความที่ลบไปเมื่อวาน (หรือนานกว่านั้น) เพราะข้อความ "ที่ถูกลบไป" จะสำรองพื้นที่หนึ่งไว้ พอข้อมูลในเครื่องเปลี่ยนแปลงก็ถูกเซฟทับได้ง่ายไว้ เช่น ติดตั้งแอพใหม่ อัพเดทระบบ หรือมีข้อความใหม่
    • ถ้าเพิ่งลบข้อความไป ก็น่าจะยังกู้คืนทัน แต่ต้องหยุดใช้งานมือถือทันที
  2. เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อความหรืออัพเดทใหม่โผล่มาในมือถือ ป้องกันไม่ให้ข้อความที่ถูกลบไปถูกเซฟทับ
    • iPhone — ปัดหน้าจอขึ้นมาจากทางด้านล่าง แล้วแตะไอคอนรูปเครื่องบิน
    • Android — ปัดหน้าจอลงมาจากทางด้านบน แล้วแตะไอคอนรูปเครื่องบิน
  3. ค้นใน Google (หรือ search engine ที่ถนัด) ว่ามีโปรแกรมไหนเป็น text message recovery ช่วยกู้ SMS ได้ อย่าลืมพิมพ์ยี่ห้อ/รุ่นมือถือและคอมที่ใช้ด้วย
    • เช่น พิมพ์ว่า iphone text message recovery for windows ใน search engine
    • โปรแกรมที่คนนิยมใช้กันก็เช่น MobiKin Doctor และ FoneLab
  4. เช็คก่อนว่าโปรแกรมที่เลือก ใช้ได้กับมือถือของคุณ. โปรแกรมกู้ข้อความส่วนใหญ่จะมีหัวข้อระบุแพลตฟอร์มที่รองรับ เพราะงั้นก็ลองเช็คดูว่า iPhone หรืออุปกรณ์ Android ของคุณรวมอยู่ในนั้นด้วย
  5. ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งของโปรแกรมกู้ข้อความจากเว็บไซต์ โดยคลิกลิงค์ทดลองใช้ฟรี (free trial) แล้วดับเบิลคลิกไฟล์ติดตั้ง จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ
    • อย่าเลือกโปรแกรมกู้ข้อความที่บังคับซื้อเลย ไม่มีให้ทดลองใช้ก่อน
  6. เสียบปลายสายชาร์จมือถือด้านที่เป็น USB ที่พอร์ท USB ของคอม แล้วเสียบสายชาร์จอีกด้านที่พอร์ทชาร์จของมือถือ
    • ถ้าใช้ iPhone กับคอม Windows ต้องเปิด iTunes หลังเสียบมือถือกับคอมแล้ว พอเห็นไอคอน iPhone โผล่มาที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง iTunes ก็ปิด iTunes แล้วทำขั้นตอนต่อไปได้เลย
    • ถ้าใช้ Android อาจจะต้องเปิดใช้ USB debugging ในเมนู Developer ก่อน
    • ถ้าใช้ Mac ต้องมี adapter แปลง USB 3.0 เป็น USB-C ถึงจะเสียบสาย USB มาตรฐาน (สี่เหลี่ยมผืนผ้า) ได้
  7. ขั้นตอนนี้จะต่างกันไปตามโปรแกรมกู้ข้อความที่ใช้ เพราะงั้นให้ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏในหน้าจอ เพื่อตั้งค่าแล้วสแกนมือถือหา SMS ที่ถูกลบไป ด้วยโปรแกรมกู้ข้อความที่ดาวน์โหลดมา
  8. ส่วนใหญ่เวอร์ชั่นทดลองใช้ฟรีของโปรแกรมกู้ข้อความ จะมี thumbnails แสดงตัวอย่างข้อความที่กู้คืนมาได้
    • แต่จะเปิดดูข้อความเต็มรูปแบบไม่ค่อยได้
    • ถ้าโปรแกรมกู้ข้อความที่ใช้ บอกแค่ว่าคุณ กู้ข้อความนั้นได้ แต่ไม่ได้ แสดง ข้อความจริงๆ ก็อย่าไปใช้ เพราะดูน่าสงสัย
  9. ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าโปรแกรมกู้ข้อความนั้นดีจริง คุ้มค่าคุ้มราคา ก็ซื้อโปรแกรมเวอร์ชั่นเต็มมาใช้กู้ข้อความได้เลย
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัยหายห่วง เช่น PayPal แทนบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
    • อันนี้แล้วแต่โปรแกรมกู้ข้อความที่เลือกใช้ บางที SMS ที่กู้คืนมาได้ก็ใช้ในมือถือไม่ได้อีก แต่อย่างน้อยก็เก็บไว้อ่านในคอมได้
    โฆษณา


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 138,363 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา