บทความนี้ของวิกิฮาวจะสอนวิธีการหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของชุดข้อมูลใน Microsoft Excel
ขั้นตอน
-
เปิด Microsoft Excel. คลิกหรือดับเบิลคลิกที่สัญรูปแอป Microsoft Excel ซึ่งเป็นรูป "X" สีขาวอยู่บนพื้นหลังสีเขียวเข้ม หน้าเริ่มต้นของ Excel จะเปิดขึ้น
- ถ้าเรามีเอกสาร Excel ซึ่งมีข้อมูลที่เราต้องการใช้ ดับเบิลคลิกเอกสารเพื่อเปิดใน Excel จากนั้นข้ามขั้นตอนไปสู่ขั้นตอน "คลิกเซลล์ว่าง"
-
คลิก Blank Workbook . จะอยู่ที่ด้านซ้ายบนของหน้าเริ่ม Excel
-
ใส่ค่าที่ต้องการใช้คำนวณ. เลือกสดมภ์ที่เราต้องการใส่ข้อมูล จากนั้นพิมพ์ค่าที่เป็นข้อมูลลงไปในแต่ละเซลล์ของสดมภ์นั้น
- ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกสดมภ์ "A" เป็นพื้นที่ในการใส่ข้อมูล เราก็ต้องพิมพ์ตัวเลขลงในเซลล์ A1 เซลล์ A2 เซลล์ A3 และต่อไปเรื่อยๆ
-
คลิกเซลล์ว่าง. เราควรคลิกเซลล์ว่างที่เราต้องการให้แสดงค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การคลิกเซลล์ว่างเป็นการเลือกเซลล์
-
พิมพ์สูตรค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน. สูตรที่เราจะพิมพ์ในเซลล์ว่างคือ =STDEV.P( ) โดย "P" แทน "Population" หรือประชากร ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานประชากรจะนำจำนวนของข้อมูลทั้งหมด (N) มาพิจารณา [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเราต้องการหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ "ตัวอย่าง" เราจะพิมพ์ =STDEV.S( ) ในเซลล์นี้แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวอย่างจะนำค่าที่น้อยกว่าจำนวนข้อมูลทั้งหมดอยู่หนึ่ง (N-1) มาพิจารณา
-
ใส่พิสัยของค่าแรกและค่าสุดท้าย. ในวงเล็บพิมพ์ตัวอักษรและตัวเลขของเซลล์ที่มีข้อมูลค่าแรก พิมพ์เครื่องหมาย (:) และพิมพ์ตัวอักษรและตัวเลขของเซลล์ที่มีข้อมูลค่าสุดท้าย
- ตัวอย่างเช่น ถ้าเราใส่ข้อมูลในสดมภ์ "A" จากแถวที่ 1 ถึงแถวที่ 10 เราจะพิมพ์ =STDEV.P(A1:A10) ลงในเซลล์นี้
- ถ้าต้องการแค่แสดงค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าในเซลล์ไม่กี่เซลล์ที่อยู่ห่างๆ กันอย่างเช่น A1 , B3 และ C5 เราสามารถพิมพ์ชื่อเซลล์แยกกันโดยใช้จุลภาคคั่น (ตัวอย่างเช่น =STDEV.P(A1,B3,C5) ) แทน
-
กด ↵ Enter . การกดปุ่มนี้จะทำให้ Excel คำนวณตามสูตรที่เราพิมพ์ไว้ แสดงค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของเซลล์ที่เลือกไว้ในเซลล์ของสูตรโฆษณา
เคล็ดลับ
- ในกรณีส่วนใหญ่เราจะใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานประชากรอธิบายจำนวนข้อมูลทั้งหมดที่ได้เลือก
โฆษณา
คำเตือน
- สูตร =STDEV( ) ซึ่งเป็นสูตรเก่าใช้ไม่ได้กับ Excel เวอร์ชั่นที่เก่ากว่าปี 2007
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,698 ครั้ง
โฆษณา