ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อคุณชอบผู้ชายคนหนึ่งมากๆ ก็เป็นธรรมชาติที่คุณจะอยากคุยกับเขาตลอดเวลา มีหลายวิธีที่คุณสามารถเริ่มและทำให้ความสัมพันธ์กับเขาแข็งแรงขึ้นเพื่อให้คุณทั้งสองคนได้คุยกันมากขึ้นอย่างที่คุณต้องการ ในตอนเริ่มแรกคุณอาจจะอุ่นเครื่องกับเขาโดยใช้โซเซียลมีเดียเพื่อกดไลค์โพสต์ของเขาและเรียนรู้ความสนใจและสไตล์ของเขาก่อน จากนั้นอาจจะเริ่มการสนทนาอย่างขี้เล่น ไม่มีพิธีรีตอง วิธีที่ดีในการรักษาความสนใจของเขาคือการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขาโดยการถามกับความเห็นของเขา การทำกิจกรรมข้างๆ เขา และการสนทนาในเชิงลึก ด้วยประการทั้งปวง การทำให้เขาพูดคุยกับคุณตลอดเวลานั้นเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีปฏิบัติต่อเขาเหมือนเพื่อนและจีบเขาไปพร้อมๆ กับค้นพบตัวตนของกันและกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การสร้างความสัมพันธ์ครั้งแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีหนึ่งที่จะเริ่มบทสนทนาก็คือการให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณ หาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคุณที่คุณสามารถแสดงความคิดเห็นตลกๆ เกี่ยวกับมันได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นช่วงอาหารเที่ยงและอาหารยังไม่มาและคุณสองคนกำลังรออยู่ข้างนอกท่ามกลางอากาศร้อนๆ คุณก็อาจจะพูดอะไรไร้สาระอย่างเช่น "คุณคิดว่าพวกเขาจะหาน้ำให้เราสำหรับการรอแบบนี้ไหม หรือพวกเขาแค่อยากให้เราตาย" หนุ่มๆ พบว่าความสนุกสนานขี้เล่นนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจในตัวผู้หญิงและมันจะทำให้คุณมีอะไรให้เชื่อมความสัมพันธ์เล็กๆ ต่อไปได้
    • แม้ว่าคุณจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนตลก แต่คุณก็ยังสามารถเป็นคนขี้เล่นได้นะ [1]
    • ความสนุกสนานขี้เล่นนี้สามารถช่วยให้บทสนทนาสนุกและมีความกดดันต่ำ
    • จำไว้ว่าการเริ่มบทสนทนานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่ากังวลมากเกินไปว่าจะเปิดบทสนทนาอย่างไร แต่ให้มุ่งเน้นความสนใจที่จะคุยต่อไปอย่างไรแทน
  2. วิธีหนึ่งที่จะทำให้ผู้ชายชอบคุยกับคุณก็คือถ้าคุณดูเหมือนว่ากำลังรู้สึกสนุกในการคุยกับเขา คุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังสนุกได้สองสามวิธี คือ ถ้าคุณสบตา ยิ้มบ่อยๆ หัวเราะอย่างจริงใจ และโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยตอนคุณกำลังพูด ตอนคุณพูดให้เอียงหัวไปด้านหนึ่ง ยิ้มและจับผม คอ หรือเสื้อผ้าของคุณ แต่อย่าคิดมากเกินไป แค่ทำในสิ่งที่รู้สึกเป็นธรรมชาติด้วย ท่าทางที่ไม่ใช้คำพูดของคุณน่าจะแสดงให้เขาเห็นว่าคุณกำลังรู้สึกสนุก [2]
    • ถ้าโดยส่วนใหญ่แล้วคุณจะส่งข้อความก็ทำให้เขารู้ว่าคุณชอบส่งข้อความกับเขา ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า "ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่ส่งข้อความด้วยแล้วสนุก"
  3. เขียนสิ่งที่ทำให้คุณเยี่ยมยอด การรู้ว่าทำไมคุณถึงเยี่ยมยอดและไม่กลัวที่จะแสดงมันออกมานั้นจะเป็นการดึงดูดผู้อื่น [3]
    • อย่ากลัวที่จะทำผิดพลาดใกล้ๆ ตัวเขา เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ทำท่าทางประหลาดๆ และทั้งหมดที่เป็นคุณ ผ่อนคลายและหัวเราะตอนคุณทำผิดพลาด ใครๆ ก็ทำพลาดกันทั้งนั้น
    • อย่าทำตัวแบบที่คุณคิดว่าเขาชอบแทนที่จะเป็นตัวของตัวเอง ลองจินตนาการดูว่าถ้ามีใครบางคนกำลังทำในแบบเดียวกันเพื่อเอาใจคุณแล้วจะชอบหรือไม่ บางทีอาจจะไม่
  4. ไปเที่ยวกับเขาพร้อมกับคนอื่นๆ ที่ดึงส่วนที่ดีที่สุดของคุณออกมา. สนุกกับการหัวเราะและไปเที่ยวกับคนอื่นๆ ด้วยกันกับเขา การแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสนุก อิสระ และมีเพื่อนของคุณเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรสร้าง
    • นี่จะแสดงให้เขาเห็นว่าเพื่อนๆ มีความสำคัญกับคุณและจะช่วยให้เขาเห็นว่าคุณเข้ากับคนอื่นอย่างไร
    • มันอาจจะทำให้เขาอิจฉาเล็กน้อย (ในทางที่ดี) และบางทีเขาอาจจะอยากไปเที่ยวกับคุณมากกว่าเมื่อก่อน
  5. ถ้าคุณไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดียและเขาใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นประจำ ก็ให้สร้างบัญชีขึ้นมา กดไลค์ หรือรีทวีตสิ่งที่เขาโพสต์ ถ้าคุณทั้งคู่ใช้งานโซเชียลมีเดียอยู่ นี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มคุย การกดไลค์หรือการรีทวีตสิ่งที่เขาโพสต์ในโซเชียลมีเดียของเขาสามารถช่วยสร้างมิตรภาพและทำให้คุณรู้สิ่งที่เขาชื่นชอบ นอกจากนี้ การกดไลค์โพสต์ต่างๆ ของเขาจะช่วยให้คุณรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
    • หลังจากกดไลค์สิ่งที่เขาโพสต์แล้ว คุณควรจะเขียนแสดงความคิดเห็นบนโพสต์หรือส่งข้อความหาเขา
    • อย่ากดไลค์ทุกอย่างที่เขาโพสต์ เลือกสิ่งที่คุณชอบจริงๆ หนึ่งหรือสองอย่างและเว้นช่วงระหว่างไลค์ของคุณทุกสองสามวัน ถ้าคุณให้ความสนใจกับเขามากเกินไป ก็อาจจะทำให้ดูว่าคุณกำลังพยายามมากเกินไปหรือน่าขนลุก
  6. ถ้าคุณกดไลค์หรือแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของเขามาตลอด ให้โพสต์สิ่งต่างๆ ที่แสดงให้เขาเห็นสิ่งที่คุณชื่นชอบเช่นกัน เขาควรจะเห็นความสนใจของคุณพอๆ กับที่คุณควรจะเห็นของเขา ยกตัวอย่างเช่น แชร์รูปสวยๆ หรือน่าสนใจที่คุณถ่าย หรือหารูปจิฟ (Gif) ตลกๆ รูปภาพหรือคำพูดจากอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถโพสต์พร้อมกับความคิดเห็นว่าทำไมคุณถึงชอบ
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาเขียนโพสต์เกี่ยวกับวงดนตรีที่เขาชอบเยอะแยะมากมาย และมีวงดนตรีที่คุณทั้งคู่ชอบแล้วล่ะก็ คุณอาจจะโพสต์วิดีโอเพลงหนึ่งของวงดนตรีนั้น หรือเนื้อเพลงจากเพลงหนึ่งของพวกเขาพร้อมกับความคิดเห็นว่าทำไมคุณถึงชอบ
    • ซื่อสัตย์กับตัวเอง โพสต์เฉพาะสิ่งที่คุณชอบและเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของคุณจริงๆ มันอาจจะแสดงให้เห็นว่าคุณแสร้งทำได้ถ้าคุณโพสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เคยแสดงความสนใจมาก่อนเลย
  7. คุณควรจะแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ที่เขาเขียนแต่เนิ่นๆ หลังเขาโพสต์ ถ้าคุณเขียนความคิดเห็นแต่เนิ่นๆ เขามีแนวโน้มที่จะตอบกลับ ลองชื่นชมโพสต์นั้น ถามคำถามเกี่ยวกับโพสต์นั้น หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาเขียนโพสต์เกี่ยวกับการไปงานแสดงของวงดนตรีที่คุณชอบ คุณอาจจะตอบโดยพูดว่า "ฉันอิจฉามากที่คุณมีโอกาสได้เห็นพวกเขา คุณคิดว่าพวกเขาเล่นสดเป็นยังไงมั่ง ดีหรือเปล่า"
    • หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นบ่อยเกินไป ให้แน่ใจว่าคุณเว้นช่วงความคิดเห็นของคุณบ้าง
  8. ถ้าดูเหมือนว่าเขาห่างเหินหรือตีตัวออกห่างและไม่ตอบคุณเท่าไรแล้วล่ะก็ เขาอาจจะไม่สนใจ โชคดีที่มีผู้ชายคนอื่นๆ ที่อยากจะคุยกับคุณและคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับพวกเขาได้ แทนที่จะคิดถึงความล้มเหลวในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้ ให้ลองนึกถึงว่าการมีปฏิสัมพันธ์ที่คุณมีกับเขาเป็นการฝึกฝนที่ดีสำหรับการคุยกับผู้ชายคนอื่นๆ ในอนาคตก็แล้วกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแข็งแรงขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถามความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจเหมือนกัน. หลังจากที่คุณได้สร้างความสัมพันธ์ครั้งแรกแล้ว คุณคงอยากส่งข้อความถึงเขาและคุยต่อเพื่อให้ความสัมพันธ์ที่คุณสร้างกับเขานั้นแข็งแรง วิธีหนึ่งในการทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแข็งแรงขึ้น และทำให้การสนทนาของคุณคงความน่าสนใจไว้ได้ก็คือการถามความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
    • อะไรก็ตามที่คุณสนใจเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หนัง อาหาร ฯลฯ ลองนึกถึงคำถามดีๆ เพื่อถามเขา ซึ่งเป็นคำถามปลายเปิดและจะเริ่มบทสนทนาที่น่าสนใจได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทั้งคู่ชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ คุณอาจจะถามว่า "คุณคิดว่าหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่มไหนดีที่สุด" และรู้สึกอิสระที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเขา ความไม่เห็นด้วยเหล่านี้อาจจะนำไปสู่การเย้าแหย่และอาจจะเป็นเรื่องสนุก
    • คุณอาจจะเริ่มด้วยการบอกความคิดเห็นบางอย่างของคุณและถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำถามนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับบริบทของสถานที่ที่คุณอยู่หรือสิ่งที่คุณกำลังทำก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังกินแอปเปิลตอนอาหารเที่ยง คุณอาจจะพูดว่า "ฉันคิดว่าแอปเปิลเขียวแกรนนี่ สมิธเป็นแอปเปิลที่อร่อยที่สุด แต่อยากรู้จริงๆ ว่าคุณชอบแอปเปิลอะไร" [4] และอีกเช่นเคย ความขี้เล่นเป็นวิธีที่ดีในการทำให้บทสนทนาของคุณสนุกขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพูดถึงหัวข้อที่เรียบง่ายและเพิ่งเริ่มคุยกันต่อ
    • ก่อนที่คุณจะคุยกับเขา ให้คิดคำถามที่แตกต่างกันสักสองสามคำถามที่คุณสามารถถามเขาได้ เพราะว่าหัวข้อสนทนาสามารถไปได้เร็วกว่าที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก
  2. เขาจะอยากคุยกับคุณต่อถ้าคุณคุยสนุก ตัวอย่างของการล้อเล่นคือ คุณเลิกคิ้วขึ้นตอนที่เขาบอกคุณว่าแอปเปิลโปรดของเขาคือ แอปเปิลแดง เรดดีลิเชียส และคุณพูดอะไรที่ไร้สาระอย่างเช่น "คุณบอกว่าคุณชอบแอปเปิลแดงมากที่สุดหรอ เอ่อ ฉันเดาว่าคงไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมดสินะ" ผู้ชายชอบการล้อเลียนไร้สาระแบบนี้เพราะว่ามันมีความกดดันต่ำและสนุก การล้อเล่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะคุณทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอะไรโดยเฉพาะเจาะจง แต่คุณยังคงสร้างความสัมพันธ์ได้
    • ฝึกการล้อเล่นกับเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณ หาเรื่องไร้สาระเพื่อขัดแย้งกับพวกเขา การไม่เห็นด้วยอย่างสนุกๆ นี้อาจจะดีต่อความสัมพันธ์อื่นๆ ของคุณด้วย
  3. หลีกเลี่ยงการถามคำถามที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว. พยายามอย่าใช้การพูดคุยเรื่องจิปาถะหรือคำถามทำความรู้จัก เช่น "เป็นไงบ้าง" หรือ "คุณมาจากไหน" คำถามเหล่านี้ไม่ค่อยน่าสนใจและคุณจะไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเขามากเท่าไรเพราะเขาอาจจะให้คำตอบที่เขาเคยใช้มาหลายครั้งแล้ว คุณคงต้องการให้เขาออกจากการสนทนาแบบนี้และตื่นเต้นที่ได้คุยกับคุณอีกครั้ง ดังนั้นจงหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องจิปาถะ
  4. ทุกคนอยากจะรู้สึกดีกับตัวเอง และถ้าคุณสามารถทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้ เขาก็มีแนวโน้มที่จะอยากคุยกับคุณต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นบอกเขาให้ดีว่าทำไมคุณถึงชอบเขาด้วยคำชมที่จริงใจเล็กๆ น้อยๆ คุณไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ คุณอาจจะแค่บอกเขาง่ายๆ ว่าทำไมเขาถึงดีเยี่ยม ในความเป็นจริงแล้วให้หลีกเลี่ยงการชมจนมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังเดินอยู่ที่ไหนสักแห่งและถ้าคุณสังเกตเห็นว่าเขาเป็นคนที่รู้จักทิศทางดีแล้วล่ะก็ คุณอาจจะพูดว่า "ฉันชอบที่คุณรู้ตลอดเลยว่าเราจะไปที่ไหนอย่างไร" [5]
  5. วิธีหนึ่งที่จะทำให้ชายหนุ่มของคุณอยากคุยกับคุณมากขึ้นคือเมื่อคุณจบการสนทนาในเวลาที่เหมาะสม วิธีที่ดีที่สุดในการจบบทสนทนาคือการหาจังหวะหลังจากที่คุณได้สร้างความสัมพันธ์ดีๆ แล้ว และก่อนที่บทสนทนาจะเริ่มกร่อยลง ดังนั้นให้คิดถึงเหตุผลที่คุณต้องกลับบ้าน และหลังจากที่คุณหัวเราะหรือสร้างความสัมพันธ์กับบางอย่างแล้ว บอกให้เขารู้ว่าคุณจำเป็นต้องไป ให้แน่ใจว่าคุณบอกเขาว่าคุณสนุกจริงๆ และตั้งตารอที่จะได้คุยกับเขาอีกครั้ง
    • จบบทสนทนาสบายๆ และไม่เป็นทางการ ให้พูดอะไรอย่างเช่น "เฮ้ สนุกมากเลยนะที่ได้คุยกับคุณ แต่ฉันคิดว่าฉันต้องกลับบ้านไปทำการบ้านก่อน แต่ฉันตั้งตารอที่จะได้ไปเที่ยวกับคุณเร็วๆ นี้นะ"
    • สบตากับเขาให้ดีตอนคุณจะจากไป สบตาค้างไว้อีกหน่อยพร้อมกับยิ้มสดใสหรือทะเล้นขึ้นอีกนิดให้เขา
  6. ขึ้นอยู่กับรูปแบบการสนทนาของคุณและชายหนุ่มที่คุณชอบ โดยปกติแล้วอาจจะหมายถึงสิ่งที่แตกต่างกัน เริ่มส่งข้อความหาเขาทุกสองสามวัน และถ้าเขาตอบกลับทันทีหรือตอบช้า คุณก็อาจจะส่งข้อความบ่อยขึ้นหรือน้อยลง ส่งความคิดเห็นที่สนุกๆ หรือตลกๆ ให้เขา หรือคำถามที่ทำให้เขามีส่วนร่วม
    • ยกตัวอย่างเช่น ขอให้เขาอัพเดตว่าตอนนี้สิ่งต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง คุณอาจจะถามเขาว่า "เฮ้ รายงานกลางภาคเป็นไงบ้าง ไปถึงไหนแล้ว"
    • หรือบอกเขาเกี่ยวกับบางอย่างที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นกับคุณหรือเกี่ยวข้องกับเขาในวันนั้น คุณอาจจะพูดอะไรอย่างเช่น "อย่าลืมกินแซนด์วิชเนยถั่วนะเพราะรถอาหารมาช้า ฉันเห็นกลุ่มที่พักเที่ยงรอบสองกำลังกินอาหารทั้งหมดของเราแล้ว"
    • ลองส่งข้อความให้หลากหลาย อย่าแค่ขอข้อมูลอัพเดทหรือพูดเรื่องตลกๆ ลองรวมคำถามและความคิดเห็นตลกๆ เข้าด้วยกัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การทำให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนุ่มๆ บางคนผูกพันกับคนอื่นๆ โดยการทำสิ่งต่างๆ แทนที่จะคุยกันอย่างเดียว เขาอาจจะรู้สึกสนิทกับคุณมากขึ้นถ้าคุณทำกิจกรรมเคียงข้างกัน ตัวอย่างของกิจกรรมที่ต้องทำข้างๆ กัน อาจจะเป็น การเล่นกีฬา การเล่นเกม หรือการทำโครงงานด้วยกัน ใส่ใจกับกิจกรรมที่เขาชอบทำและทำกิจกรรมเหล่านั้นกับเขา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การยิงปืน ก็ขอให้เขาสอนวิธียิงปืนให้ดูสิ หรือถ้ามีเกมที่เขาชอบเล่น ก็ให้เรียนรู้วิธีเล่นด้วยเหมือนกัน
    • แม้ว่าคุณจะทำกิจกรรมที่เขาชอบไม่เป็นก็ตาม แต่ถ้าคุณพยายามที่จะเรียนรู้ ก็อาจจะมีความหมายกับเขามาก
    • สนุกในขณะที่คุณไปเที่ยวกับเขา หัวเราะเสียงดังให้ข้อผิดพลาดของตัวเอง ถามคำถามเยอะๆ และคุยกับคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรมด้วย
    • แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่ชอบพูดชอบคุย แต่ถ้าคุณทำกิจกรรมข้างๆ กันก็อาจจะสร้างความสัมพันธ์ของคุณแบบใหม่ก็ได้
  2. ทำรู้จักกับความสนใจต่างๆ ของเขาและความสัมพันธ์ที่สำคัญในชีวิตของเขา. ผู้ชายบางคนรู้สึกเชื่อมต่อกับสาวๆ โดยยึดตามความรู้สึกและการพูดคุยของพวกเขา และแม้แต่ผู้ชายที่ไม่ค่อยตื่นเต้นที่จะพูดถึงความรู้สึกของพวกเขาเท่าไร ก็อาจจะต้องการคุยกับคุณเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสนใจตอนที่พวกเขาสบายใจกับคุณจริงๆ หลังจากที่คุณใช้เวลาทำความรู้จักกับเขาแล้ว คุณก็ควรก้าวต่อไปอีกขั้นและทำความรู้จักเขาในระดับที่ลึกลงไปอีก เขาจะรู้สึกสนิทกับคุณมากขึ้นและไว้ใจคุณมากขึ้นถ้าคุณรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขาชื่นชอบและประวัติชีวิตของเขามากขึ้น
    • บทสนทนาทำนองนี้เป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมที่จะคุยตอนกลางคืน คุณควรจะถามคำถามเขาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สำคัญในอดีต ความสัมพันธ์ที่สำคัญในชีวิตของเขา และสิ่งที่เขาชื่นชอบ
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะถามเขาว่า "ความสนใจไหนของคุณที่มีความหมายต่อตัวตนของคุณมากที่สุด และทำไมคุณถึงชื่นชอบเรื่องนี้มาก" หรือถามเขาว่า "ใครในครอบครัวของคุณที่คุณคิดว่าสนิทที่สุดและทำไม" คำถามเหล่านี้อาจจะธรรมดามากๆ แต่การฟังดีๆ จะช่วยให้คุณมีการสนทนาที่มีความหมายกับเขาจริงๆ
  3. หาสถานที่เงียบๆ ที่คุณจะไม่ถูกขัดจังหวะเพื่อสนทนา. สำหรับการสนทนานั้น ให้นั่งตรงข้ามกับเขาหรือในตำแหน่งที่คุณสามารถมองเห็นหน้าของเขาและได้ยินเขาชัดๆ ถามคำถามเกี่ยวกับตัวเขาและใช้ทักษะการฟังต่อไปนี้เพื่อให้มีบทสนทนาที่ดีเยี่ยมกับเขา [6]
    • แสดงให้เขาเห็นท่าทางของคุณว่าคุณกำลังฟังอยู่ สบตา พยักหน้า และตอบรับเขาด้วยเสียงเบาๆ หรือกิริยาท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ขณะที่เขากำลังพูด
    • เว้นระยะห่างให้เหมาะสม ถ้าคุณยืนใกล้เกินไป อาจจะทำให้ดูว่าคุณสนใจมากเกินไปและน่าอึดอัดหายใจไม่ออก แต่การยืนอยู่ไกลเกินไปจะทำให้คุณดูเหมือนห่างเหิน ฉะนั้นให้เว้นที่ว่างเพื่อให้เขาคุย แต่วางตำแหน่งตัวเองเพื่อให้คุณได้ยินและเห็นเขาชัดๆ
    • พูดใจความหลักของสิ่งที่เขาพูดซ้ำอีกครั้ง นี่จะทำให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจประเด็นที่เขาพูด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาพูดถึงวันที่น่าหงุดหงิดของเขา คุณอาจจะสรุปส่วนที่สำคัญที่สุดของสิ่งที่เขาพูด เช่น คุณอาจจะพูดว่า "คุณกำลังบอกว่าคุณไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายของคุณถึงได้แสดงอาการแบบนั้นจนกระทั่งคุณเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาที่โรงเรียน"
    • เห็นอกเห็นใจกับความรู้สึกของเขา ความเห็นอกเห็นใจหมายถึงคุณสามารถเข้าใจความรู้สึกที่เขาได้ประสบแม้ว่าคุณจะไม่มีส่วนร่วมกับความรู้สึกนั้นก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถผสมผสานการพูดใจความหลักของเขาซ้ำอีกครั้งกับการเห็นอกเห็นใจเข้าด้วยกันโดยการพูดอะไรอย่างเช่น "คุณต้องรู้สึกผิดหวังที่ต้องทำข้อสอบนั้นอีกครั้งหลังจากที่ได้ครั้งแรกคุณได้อ่านหนังสือหนักมากแน่ๆ เลยใช่ไหม" สิ่งสำคัญก็คือการบอกเขาว่าคุณเข้าใจความรู้สึกที่เขามีและเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้น
  4. อย่าลืมที่จะเปิดเผยตัวตนของคุณเหมือนกัน ถ้าคุณชอบเขามาก คุณก็อาจจะรู้สึกอายที่จะพูดถึงตัวเอง แต่เขาจะเชื่อมต่อกับคุณได้ดีขึ้นถ้าคุณสามารถคุยกับเขาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณชื่นชอบได้เช่นกัน บอกเขาถึงความสัมพันธ์สำคัญต่างๆ ในชีวิตของคุณ ประสบการณ์ใหญ่ๆ ที่คุณจะได้พบเจอ และสิ่งดีๆ ที่คุณรักในชีวิตของคุณ และเช่นเคย ให้สบตาเขาตอนคุณพูด ใช้ท่าทางของคุณเพื่อแสดงความรู้สึกต่างๆ และปล่อยให้โทนเสียงของคุณแสดงสิ่งที่คุณหมายถึง เขาจะสามารถเชื่อมต่อและสนใจคุณมากขึ้นเมื่อเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับคุณ
  5. อยู่กับเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากในฐานะเพื่อนที่ไว้วางใจได้. ทุกคนต้องการใครสักคนที่จะพึ่งพาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถ้าคุณสามารถเป็นคนนั้นให้เขาได้ล่ะก็ คุณจะสร้างความผูกพันที่แข็งแรงอย่างยิ่งที่จะทำให้เขารู้สึกสนิทกับคุณ คุณสามารถทำได้หลายอย่างเพื่ออยู่กับเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ว่าเขาได้เกรดแย่และกำลังจะไปคุยอย่างจริงจังกับครูของเขา ให้ส่งข้อความให้กำลังใจเขาก่อนที่เขาจะไปคุยกับครู คุณอาจจะพูดอะไรอย่างเช่น "โชคดีนะ ฉันรู้ว่าคุณจะแก้ปัญหานี้ได้เพราะคุณทำได้เสมอ" จากนั้นหลังจากที่เขาคุยกับครูแล้ว ให้ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และบอกให้เขารู้ว่าคุณจะอยู่กับเขาถ้าเขาอยากคุย
    • บางครั้งคนเราก็อาจจะมีจิตใจว้าวุ่นตอนที่พวกเขากำลังผ่านสิ่งที่ยากลำบาก ในกรณีนั้น ให้ส่งข้อความตลกๆ ที่ทำให้เขาหัวเราะ
    • ถ้าเขาบอกว่าเขากำลังมีปัญหากับบางอย่าง ให้ถามเขาว่าเขาอยากเจอกันและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ หรือคุณอาจจะบอกให้เขารู้ว่าคุณอยู่ตรงนั้นเพื่อเขาถ้าเขาแค่อยากออกไปเที่ยวให้สบายใจ
    • ถ้าคุณสามารถอยู่ตรงนั้นเพื่อเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ล่ะก็ นี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณลึกซึ้งขึ้นและทำให้เขามีแนวโน้มที่จะไปหาคุณในครั้งต่อไปเมื่อมีสิ่งที่ดีหรือไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา
  6. ผู้ชายชอบตอนที่พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณที่คุณต้องการความช่วยเหลือ บอกให้เขารู้และขอความช่วยเหลือจากเขาล่วงหน้า ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในการวาดโปสเตอร์ให้ชมรมหลังโรงเรียนเลิก ให้ถามเขาว่ามีวันที่เขาว่างช่วยคุณหรือไม่ เมื่อเขาไปถึงที่นั่นก็ให้แน่ใจว่าคุณมีอะไรให้เขาทำ การทำงานให้สำเร็จด้วยกันนั้นเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่จะเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกันแนวทางใหม่ๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • นึกถึงเขาแบบคนที่คุณอยากเป็นเพื่อนด้วย วิธีนี้คุณจะรู้สึกประหม่าน้อยลง และเขาจะรู้สึกถึงตัวตนของคุณได้ดีขึ้น
  • อย่าเครียดใส่เขา เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งและเป็นมนุษย์เหมือนกับคุณ และเขาอาจจะเครียดกับการพูดคุยกับสาวๆ เหมือนกัน
  • อย่าพูดถึงตัวคุณเองมากเกินไป เมื่อคุณรู้สึกประหม่าก็อาจจะทำให้พูดมากกว่าปกติได้ง่ายๆ จำใส่ใจและให้แน่ใจว่าคุณยังคงถามคำถามเขากลับด้วย ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าตัวเองพูดมานานแล้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,865 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา