ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ดีหรอกเหรอ ที่จะมีผมสลวยได้ทุกวัน? ไม่ว่าคุณจะมีสภาพเส้นผมแบบไหนก็สามารถมีผมสุขภาพดีเงางามได้ในทุกสถานการณ์ ในบทความนี้ เราจะนำเสนอวิธีการง่ายๆ ที่ทำตามแล้วคุณจะได้ผมสวยสุขภาพดี แถมวิธีการดูแลสภาพเส้นผมแบบต่างๆ อีกด้วย มาทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อผมสวยสุขภาพดีของคุณกันเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

การดูแลผมทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ควรสระผมทุกวันเพราะจะทำให้น้ำมันธรรมชาติของเส้นผมเสียไป อันดับแรก หากคุณเป็นคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกสเปรย์ฉีดผม เจลแต่งผม หรือผลิตภัณฑ์แต่งผมต่างๆ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะขัดขวางการทำงานของน้ำมันธรรมชาติในเส้นผม จำเป็นจะต้องสระผมล้างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกเป็นประจำ แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน แค่สระผมเป็นครั้งคราวก็พอ
    • การนวดหนังศีรษะด้วยแชมพูไม่ใช่ครีมนวดผม นวดประมาณ 40 วินาทีก่อนล้างแชมพูออก หากเป็นคนผมมันให้ทำซ้ำอีกหนึ่งครั้ง (ด้วยแชมพู ไม่ใช่ครีมนวดผม) การที่คุณนวดหนังศีรษะจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและยังช่วยป้องกันรังแคอีกด้วย แต่ถ้าคุณดัดผม ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของซัลเฟตและซิลิโคน
    • บีบครีมนวดผมลงบนมือของคุณ นวดจากปลายผมไปโคนผม หากคุณต้องการผมที่นุ่มยิ่งขึ้นปล่อยให้ครีมนวดผมทำงานสักพักค่อยล้างออก
    • พยายามสระผมในที่อากาศค่อนข้าง “เย็น” หรืออย่างน้อยก็ล้างผมด้วย “น้ำเย็น” เพราะจะเป็นการรักษาเส้นผม (ชั้นนอกสุดของเส้นผม) และรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผมเงางาม อาจใช้น้ำที่อุ่นกว่าสระผมบ้างเป็นครั้งคราว ถ้าหากผมมันหรือสกปรกให้ใช้ “น้ำเย็น” ในการล้างผมครั้งสุดท้าย
  2. เครื่องเป่าผมมีประโยชน์มากกว่าการปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติหากคุณใช้อย่างถูกวิธี เวลาเป่าผมให้เลือกใช้ลมเย็น และเว้นระยะห่างระหว่างผมกับเครื่องเป่าผมเพื่อปกป้องผมของคุณจากความร้อนที่มากเกินไป หากคุณถือเครื่องเป่าผมใกล้เกินไปน้ำในผมจะระเหยเป็นการทำให้ผมเสีย นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องเป่าผมคือตัวการร้ายที่ทำให้ผมเสีย แต่ถ้าใช้อย่างถูกวิธีมันจะกลายเป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงการใช้ระดับความร้อนสูงๆ ที่คอยทำร้ายผมของคุณ
    • หลีกเลี่ยงการเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูหลังสระผมเสร็จใหม่ๆ เพราะผมทีเพิ่งสระจะเปราะบางเป็นพิเศษ การเช็ดผมหลังสระทันทีจะทำให้ผมหลุดร่วงง่าย
    • ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อนเวลาใช้เครื่องเป่าผม รวมถึงเครื่องทำความร้อนต่างๆ ด้วย
  3. ผมที่เปียกมีความยืดหยุ่นมากขาดได้ง่าย และก็ไม่ควรหวีผมบ่อยเกินไป บางคนบอกว่าการหวีผม 100 ครั้งจะทำให้ผมนุ่มขึ้น แต่ความจริงแล้วจะยิ่งทำให้ผมขาดง่าย
    • ใช้หวีที่ผลิตจากขนแข็งของสัตว์เวลาหวีผม เช่นหวีขนหมูป่า หวีแบบนี้จะช่วยกระจายน้ำมันในผมได้ดี ทำให้ผมนุ่มและเงางาม
    • สำหรับผมเปียกให้ใช้หวีซี่ห่างๆ เท่านั้น ทาครีมบำรุงผมแบบไม่ต้องล้างออก หรือสเปรย์ล้างผมจะทำให้ผมยืดหยุ่นมากขึ้น
    • หมักผมด้วยครีมบำรุงผมที่มีส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในการบำรุงผมอย่างล้ำลึกเช่น ไข่ น้ำมันมะกอก น้ำมันอาร์แกน น้ำมันอะโวคาโด หรือน้ำมันมะพร้าว
    • หรือจะซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่างๆ มาหมักผมก็ได้
    • ใช้ครีมหมักผมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอกกับมายองเนสและไข่ หรือนมประเภทไขมันเต็มส่วน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง และล้างออกโดยไม่ต้องใช้แชมพูหรือครีมนวดผม ทำสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
    • ใช้ครีมบำรุงผมแบบไม่ต้องล้างออกสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ครีมจะซึมเข้าไปในชั้นผมช่วยรักษาสภาพผมคุณได้
    • ฉีดสเปรย์ล้างผมหรือครีมบำรุงแบบไม่ต้องล้างออกหลังการสระผม จะทำให้ผมยืดหยุ่นและจัดทรงง่าย
  4. การทำผมจะทำให้หนังศีรษะแห้งหากโดนหนังศีรษะโดยตรง พยายามอย่าใช้บ่อยจนเกินไป หากจำเป็นต้องใช้ให้เว้นบริเวณหนังศีรษะไว้ให้ผลิตภัณฑ์โดนเพียงแค่เส้นผมเท่านั้น จัดแต่งผมไม่เกิน 4 วันต่อสัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผม
  5. กิ๊บหรือที่หนีบผมต่างๆ สามารถทำให้ผมของคุณดูสวยขึ้นได้ โดยเลือกให้เข้ากับเสื้อผ้าและบุคลิกของคุณ เช่นถ้าคุณใช้ยางมัดผมก็อาจนำผ้ามาพันรอบยางไว้เพื่อกันยางขาดและยุ่งติดผม
  6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผมแข็งแรงเป็นเงางาม และยังช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมด้วย.
    • กรดไขมันจำเป็น โดยเฉพาะกรดไขมัน โอเมก้า 3 ซึ่งช่วยบำรุงผิว เส้นผม และเล็บ ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เป็นประจำทุกวัน:
      • ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาแม็กเคอเร็ล และปลาที่เต็มไปด้วยไขมันชนิดอื่นๆ
      • น้ำมันจากเมล็ดป่าน
      • ผลวอลนัท, อัลมอนด์ และนม
    • วิตามิน บี-6, บี-12 และกรดโฟลิกก็สำคัญกับเส้นผมเช่นกัน คุณสามารถรับประทานวิตามินอื่นๆ เพิ่มเติมได้แต่ให้เน้นอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้เป็นสำคัญ
      • วิตามินบี-6 : กล้วย, มัน (ทั้งมันฝรั่ง และมันเทศ) และผักโขม
      • วิตามินบี-12 : เนื้อสัตว์, สัตว์ปีก, ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม
      • กรดโฟลิก : ผลไม้ตระกูลส้ม, มะเขือเทศ, ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย, ถั่วต่างๆ
    • โปรตีนทำให้ผมมีสุขภาพดี ควรรับประทานปลา, เนื้อไก่, ไข่ หรือนมถั่วเหลืองเป็นประจำ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

การดูแลสำหรับผมตรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้แชมพูและครีมนวดผมสำหรับผมตรงเพื่อฟื้นฟูผมที่บางไม่มีน้ำหนัก. เพื่อเพิ่มความหนาให้กับเส้นผม (โดยเฉพาะคนผมบาง) หากว่าใช้แชมพูทั่วไปแล้วไม่ได้ผลให้เปลี่ยนมาใช้แชมพูที่ไม่มีซัลเฟตและซิลิโคน
  2. หวีแบบนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผมขาดร่วงแล้วยังทำให้ผมนุ่มลื่นเป็นเงางามอีกด้วย
  3. เพื่อให้ผมคุณเป็นประกายสวยงามใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงก่อนจะเป่าผมด้วยเครื่องเป่าผม หากต้องการให้ผมอยู่ทรงก็สามารถฉีดสเปรย์สำหรับจัดแต่งทรงได้
  4. หากคุณอยากจะหนีบผม ให้เลือกเครื่องที่สามารถปรับระดับความร้อนได้เลือกระดับความร้อนต่ำสุดเพื่อไม่ให้เส้นผมถูกทำลายมากเกินไป
  5. ใช้เครื่องมือดัดผมอย่างเหมาะสม หากคุณต้องการเนรมิตผมลอนแสนสวย.
  6. ทรงผมง่ายๆ อย่างการถักเปียสามารถทำได้ทุกวันเวลาที่นึกไม่ออกว่าจะทำทรงอะไรดี บางครั้งอาจใช้แกนม้วนผมไฟฟ้าทำผมบ้างแต่การปล่อยผมตรงก็ดีที่สุด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

เทคนิคดีๆ สำหรับผมดัด หรือหยักศก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แชมพูต้องไม่มีส่วนผสมของซัลเฟตและซิลิโคนเพราะซัลเฟตจะคลายผมของคุณ ส่วนซิลิโคนจะทำให้เป็นลอนมากขึ้น แต่สามารถใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคนได้หากว่ามีส่วนประกอบของ โคคามิโดโพรพิว บีเทน หรือ โคโค บีเทน อยู่ด้วย
  2. สระผมเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องการสูญเสียน้ำมันในเส้นผม
    • นวดแชมพูลงบนหนังศีรษะให้ฟองทั่วเส้นผม
    • ทาครีมนวดลงบนกลางศีรษะลูบให้ทั่วเส้นผม หวีผมด้วยหวีซี่ห่าง ขยำผมเพื่อช่วยให้ลอนอยู่ตัว
    • ล้างผมด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำเย็นเพื่อรักษาลอนไม่ให้คลายตัว
  3. เช็ดผมด้วยผ้าฝ้าย 100%, ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือกระดาษเช็ดหน้า “ห้าม” เช็ดผมที่เปียกด้วยผ้าขนหนูเด็ดขาด.
  4. และทำการหมักร้อนเดือนละหนึ่งครั้งเพื่อประกายผมที่สวยงาม
  5. เพราะการหวีจะเสียดสีชั้นผมด้านนอกเป็นสาเหตุทำให้ผมหยิก ควรใช้หวีซี่ห่าง หรือนิ้วในการหวีผมแทน
  6. อย่าจับหรือทำผมขณะที่ผมเปียก ควรปล่อยให้ผมแห้งก่อน
  7. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์. สเปรย์ผมที่ประกอบด้วยเกลือทะเลจะช่วยรักษาลอนผมได้ดี แต่จะทำให้ผมแห้ง จึงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของครีมบำรุงผมด้วย
  8. แต่ถ้าคุณจะหลับแล้วจริงๆ ให้ถักเปียแบ่งอย่างน้อยสามส่วน นอนลงบนปลอกหมอนที่ทำจากผ้าต่วน หรือผ้าไหม [2]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

การดัดผม และการยืดผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ดัดหรือยืดผมมากกว่าหนึ่งครั้งในหกสัปดาห์. เพราะจะมีผลต่อสารเคมีในเส้นผม ดังนั้นผมที่ผ่านการดัดหรือยืดจะเสี่ยงต่อการขาดและเสียได้ง่าย
  2. รวมถึงการย้อมสีหรือการใช้สารเคมีต่างๆ กับเส้นผมด้วยเพราะกระบวนการเหล่านี้เป็นตัวทำให้ผมที่ดัดหรือยืดนั้นเสียมากขึ้น
  3. หลีกเลี่ยงการยืดหรือดัดผมหากหนังศีรษะของคุณมีอาการระคายเคือง. [3]
  4. การทำสีหลังจากดัดผมหรือยืดผมสามารถทำได้แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะจะทำให้ผมเสียมาก ทำเป็นไฮไลท์แค่บางส่วนจะดีกว่า หากต้องการทำสีผมควรรออย่างน้อยสามถึงเจ็ดวันหลังจากการดัดหรือยืด ทางที่ดีควรปรึกษาช่างทำผมของคุณเพื่อสุขภาพผมที่ดี [4]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

ผมทำสี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าสีนั้นไม่ต่างจากสีผมธรรมชาติเท่าไร แต่ถ้าหากอยากได้สีผมตรงตามที่ต้องการร้านทำผมช่วยคุณได้
    • ทาปิโตรเลี่ยมเจลรอบกรอบหน้าเพื่อป้องกันผิวขณะย้อมสีผม
    • ย้อมผมทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุข้างกล่องผลิตภัณฑ์ เมื่อหมดเวลาล้างออกให้สะอาด
    • บำรุงผมก่อนทำสีประมาณสองวันเพื่อให้สีติดได้ดีขึ้น หากต้องการให้สีผมติดคงทนขึ้นอย่าเพิ่งใช้แชมพูหลังทำสี
    • นำรูปติดไปด้วย . เผื่อคุณอยากทำสีบลอนด์แบบ "สตรอว์เบอร์รี บลอนด์" แต่สีบลอนด์ของช่างอาจไม่เหมือนกับคุณ รูปภาพจะช่วยให้ช่างทำตามสีที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้น
    • เพื่อรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพดีและชุ่มชื้น อย่าไดร์ผมนาน
    • ปกป้องเส้นผมเมื่อคุณออกไปข้างนอก [5] ควรใส่หมวก ผ้าคลุมผม การถักเปียหรือมัดผมก็ช่วยได้เช่นกัน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เอสพีเอฟ
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

การดูแลผมสำหรับคุณผู้ชาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แต่หากมีปัญหาเรื่องรังแคก็ให้หาแชมพูที่มีส่วนผสมของ คีโตโคนาโซล, กรดซาลิซิลิก, ทาร์, สังกะสี หรือ เซลีเนียม ซัลไฟด์ มาใช้ดู
    • หากคุณเป็นคนผมตรง ผมสั้น จะใช้หรือไม่ใช้ครีมนวดผมก็ได้
    • สำหรับผมดัด ผมหยักศก หรือแบบอื่นๆ จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อที่หลากหลาย เพื่อดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
  2. ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันอันตรายจากแสงแดดอาจเป็นแบบทา หรือสเปรย์ เพื่อไม่ให้หนังศีรษะไหม้และลอก
  3. ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผม หรือปรึกษาแพทย์ อาจใช้เจลแต่งผมตกแต่งให้ผมดูดกขึ้น [6]
  4. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมในปริมาณที่มากเกินไป. กล่าวคือไม่ควรเกินขนาดเหรียญสิบต่อการใช้หนึ่งครั้ง เพราะเพียงแค่ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ผมเป็นทรงและเปล่งประกายแล้ว [7]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ใช้หวีซี่ห่างขณะผมเปียก และทาครีมบำรุงลงบนผมของคุณ
  • สำหรับผมหยักศกให้ใช้ครีมนวดผมมากกว่าแชมพู ครีมนวดผมจะดีกับผมแบบนี้มากกว่า
  • ถักเปียหลวมๆ หรือใช้ผ้าโพกศีรษะเวลานอน จะช่วยให้ผมไม่พันกันมาก
  • หากคุณเป็นคนผมตรงแต่อยากดัดผม หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องม้วนผมไฟฟ้า ควรใช้โรลม้วนผมแทน
  • หวีผมอย่างช้าๆ และเบามือเสมอ การหวีผมลวกๆ อาจจะเร็วแต่เป็นผลร้ายกับเส้นผมของคุณ
  • ควรทำให้ผมเปียกก่อนว่ายน้ำเพื่อไม่ให้เส้นผมดูดซึมคลอรีน และล้างผมอีกครั้งหลังจากว่ายน้ำเพื่อขจัดคลอรีน ทางที่ดีควรใส่หมวกว่ายน้ำเพื่อปกป้องผมของคุณ
  • หากคุณเป็นคนผมหยักศก ควรปล่อยผมตามธรรมชาติบ้าง อย่าทำผมตรงตลอดเวลา เพราะจะเป็นผลเสียกับผมของคุณในระยะยาวได้
  • อุปกรณ์ทำผมที่ใช้ความร้อนนั้นก็ใช้ได้ แต่หากใช้บ่อยจนเกินไปจะทำให้ผมเสีย
  • ควรใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าต่วน หรือผ้าไหม เพราะปลอกหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายจะทำให้ผมแห้ง สูญเสียความชุ่มชื้นเป็นสาเหตุให้ผมไม่ตรงสวย ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการนอนขณะผมเปียก
  • เรียนรู้การตัดผมด้วยตัวคุณเองเพราะบางครั้งช่างตัดผมอาจตัดได้ไม่ตรงใจคุณ คุณสามารถศึกษาวิธีการตัดผมมากมายได้จากเว็บไซต์ยูทูป
  • หากมีปัญหารังแค ให้ใช้น้ำมะนาวผสมน้ำเปล่าสระผม
  • หากต้องหลับขณะผมเปียก อย่านอนบนหมอนหรือไม่ก็หาอะไรมารองศีรษะของคุณก่อนนอน อาจจะถักเปีย ทำมวยผม หรือรวบผมไว้ข้างๆ ก็ได้
  • ใช้แชมพูทำความสะอาดเส้นผมอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เพื่อล้างสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ
  • หวีผมก่อนนอนทุกครั้ง สำหรับผมดัดให้เกล้าผมหรือมัดแบบหางม้า ส่วนผมตรงให้ปล่อยผมตามปกติก่อนนอน
  • ผมดำที่ไม่เคยผ่านการทำสีมักจะดูหม่นหมอง สีผมดำมักไม่เข้ากับบุคลิกน่ารักๆ และไม่น่าดึงดูด
  • แปรงหวีผมจากขนสัตว์ใช้หวีผมได้ดี ไม่เสียหายอะไรถ้าจะหาซื้อติดไว้สักอันถ้าคุณมีผมแตกปลาย
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเส้นผมของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีผมประเภทไหน บาง หนา ตรง ดัด หรือหยักศก
  • เปลี่ยนแชมพูที่ใช้ไปเรื่อยๆ การใช้แชมพูเดิมซ้ำๆ จะทำให้ประสิทธิภาพของแชมพูที่มีต่อผมคุณลดลง
  • เปลี่ยนทรงผมของคุณบ้าง การเปลี่ยนทรงผมจะทำให้เส้นผมคุณแข็งแรงและมีสุขภาพดี
  • อย่าเป่าผมหรือแม้กระทั่งการบำรุงผมด้วยความร้อนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ผมเสีย
  • อย่าเกาหนังศีรษะ
  • ปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ
  • เวลาใช้อุปกรณ์ทำผมที่ใช้ความร้อน เช่น เครื่องหนีบผม อย่าลืมใช้ครีมบำรุงที่ปกป้องผมของคุณจากความร้อนเพื่อไม่ให้ผมเสีย
  • สำหรับคนผมหยิกควรใช้แชมพูและครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกและน้ำแร่ธรรมชาติ เพราะจะไม่ทำให้หนักผม
โฆษณา

คำเตือน

  • หากกำลังประสบปัญหาผมแห้ง ควรสระผมให้น้อยลงเพื่อฟื้นฟูน้ำมันในเส้นผม รอจนกว่าผมจะกลับมาเงางามดังเดิมจึงสระผมตามปกติ
  • ไม่มีใครรู้ว่าการจัดการกับปัญหารังแคที่ดีที่สุดคืออะไร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้สระผมบ่อยขึ้นหากพบว่ามีปัญหาเรื่องรังแค (โดยใช้ครีมนวดผมคุณภาพดี) หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาแพทย์ เพราะบางทีอาจไม่ใช่อาการของรังแค แต่เป็นอาการของโรคผิวหนังอย่างโรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาต่อไป
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • แชมพู
  • ครีมนวดผม
  • สเปรย์ป้องกันความร้อน
  • หวีแปรงที่ทำจากขนสัตว์
  • หวีซี่ห่าง
  • ครีมหมักผม
  • ครีมบำรุงผม
  • น้ำมันมะกอก
  • มายองเนส และไข่ หรือนมประเภทไขมันเต็มส่วน
  • ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3, วิตามินบี-6, วิตามินบี-12, กรดโฟลิก และโปรตีน
  • มูส และสเปรย์ตกแต่งผม (สำหรับผมตรง)
  • กระดาษเช็ดหน้า
  • ครีมหมักผม, น้ำมันหมักผมสูตรร้อน และสเปรย์เกลือ (สำหรับผมหยักศก)
  • หมวก หรือผ้าพันคอสำหรับกันแดด
  • สเปรย์ หรือครีมกันแดดสำหรับผม
  • เจล และแว็กซ์ (สำหรับผู้ชาย)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,937 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา