ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีผมสวยสุขภาพดีนั้นไม่ยากเกินเอื้อม ถ้าคุณดูแลผมอย่างถูกต้องอย่างเป็นนิสัยและปกป้องเส้นผมของคุณจากการถูกทำร้าย ดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยนด้วยการบำรุงด้วยครีมนวดผมจากธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผม เท่านี้คุณก็จะทำให้ผมดูสุขภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อน การทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินก็จะส่งผลกับสภาพเส้นผมของคุณด้วย และผมของคุณก็จะมีสุขภาพดีจากภายใน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดูแลเส้นผมของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จับเส้นผมของคุณเบาๆ ขณะที่คุณสระหรือเช็ดให้แห้ง. วิธีที่คุณจับเส้นผมของคุณอาจจะส่งผลสำคัญต่อลักษณะและสภาพเส้นผม เมื่อคุณสางผมแรงๆ ผมของคุณจะงอและเริ่มดูไม่มีชีวิตชีวา เส้นผมนั้นเป็นสิ่งที่เปราะบางซึ่งคุณควรที่จะจับมันด้วยความระมัดระวังเหมือนกับที่จับผ้าทอที่ละเอียดประณีต นี่เป็นสิ่งที่คุณควรระลึกไว้
    • ขณะที่ใช้แชมพูสระผม อย่าขยำผมแรงๆ ให้ค่อยๆ นวดแชมพูที่เส้นผมของคุณและใช้นิ้วเกลี่ยกระจายแชมพู
    • ล้างผมด้วยน้ำเย็นที่สุดที่คุณสามารถทนได้ น้ำอุณหภูมิเย็นจะช่วยให้ผมของคุณเงางาม ขณะที่น้ำร้อนจะทำให้ผมงอและดูไม่มีชีวิตชีวา
    • ค่อยๆ บีบน้ำออกจากผมและใช้ผ้าเช็ดตัวตบเบาๆ ให้แห้งแทนการบิดให้น้ำออก
  2. การใช้แชมพูสระผมทุกวันจะทำให้ผมแห้งและเปราะง่าย หนังศีรษะของคุณจะผลิตน้ำมันเพื่อบำรุงเส้นผม แต่ถ้าคุณสระผมทุกวัน น้ำมันนี้ก็จะถูกล้างออกไปทั้งๆ ที่มันยังไม่ได้ทำหน้าที่ของมัน ถ้าคุณอยากให้ผมของคุณคงความสุขภาพดีและเงางาม คุณจะต้องสระผมแค่ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์เท่านั้น [1]
    • เมื่อคุณได้ลดการสระผมบ่อยๆ แล้ว คุณอาจจะสังเกตว่าผมของคุณมันกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะว่าหนังศีรษะของคุณผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปเนื่องจากหนังศีรษะของคุณเคยชินกับการสระผมทุกวัน หลังจากผ่านไปหนึ่งถึงสองอาทิตย์ หนังศีรษะจะเริ่มมีความสมดุลและผมของคุณจะดูสะอาดยาวนานขึ้น
    • ในช่วงวันที่คุณไม่ได้สระผม เมื่อคุณอยากทำให้ผมของคุณมีชีวิตชีวาขึ้น ให้ลองใช้ดรายแชมพู โดยมันจะเป็นแป้งที่คุณสามารถนำมาโรยที่เส้นผมของคุณเพื่อให้มันดูดซับความมัน ซึ่งมันจะทำให้ผมไม่มันได้อย่างกับใช้เวทย์มนตร์
  3. วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้ผมของคุณมีสุขภาพดีก็คือการปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติแทนการใช้ไดร์เป่าผม ความร้อนจากไดร์เป่าผมจะทำร้ายเส้นผม แล้วถ้าคุณใช้ไดร์เป่าผมทุกวัน คุณจะเห็นว่าผมของคุณจะเสียอย่างแน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป เลิกใช้ไดร์เป่าผมและปล่อยให้ผมของคุณแห้งอย่างธรรมชาติ
    • การใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม เช่น แกนม้วนผมไฟฟ้า เครื่องหนีบผม และแกนร้อน ก็จะทำให้ผมเสียเช่นกัน
    • ในวันที่คุณต้องใช้ไดร์เป่าผมหรืออุปกรณ์จัดแต่งทรงผมอื่นๆ ให้ใช้เซรั่มกันความร้อนก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการทำร้ายผมมากนัก
  4. การใช้แปรงพลาสติกแข็งๆ แปรงเส้นผมของคุณ โดยเฉพาะเมื่อผมเปียกอยู่ สามารถยืนยันได้เลยว่ามันจะเป็นการทำร้ายเส้นผมของคุณ การแปรงผมจะทำให้ผมขาด แต่การสางจะทำให้ผมค่อยๆ คลายปมโดยไม่ต้องดึงกระชาก ใช้แปรงที่มีซี่ใหญ่ๆ สางผมโดยเริ่มสางจากปลายผมแล้วค่อยๆ เคลื่อนที่ไปยังรากผม
  5. การย้อม กัดสี ใช้น้ำยายืดผมและดัดผม จะเป็นการทำร้ายโครงสร้างเส้นผม สำหรับการให้เส้นผมที่มีสุขภาพดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก็ควรจะเลิกทำทรีทเมนต์เหล่านี้และปล่อยให้ผมของคุณมีสีและสภาพตามธรรมชาติจะดีที่สุด ผมของคุณอาจจะไม่ได้มีสีที่ถูกใจคุณ แต่มันจะมีสุขภาพดี นุ่มลื่น และเงางาม
    • ถ้าคุณอยากย้อมผมจริงๆ ให้เลือกเฮนนา น้ำผึ้ง หรือใช้ชาในการย้อมผม ยาย้อมผมแบบธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูความเปล่งประกายให้เส้นผมของคุณมากกว่าจะเป็นการทำร้ายเส้นผม สีผมของคุณอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่คุณจะสามารถเปลี่ยนสีผมได้ 2-3 เฉดที่อ่อนกว่าหรือเข้มกว่าสีผมธรรมชาติ
  6. ทรงผม เช่น ผมหยิกเป็นคลื่น (Waves) ผมหยิกเป็นลอนเล็กๆ (Wefts) การถักผมแบบเดรด (Dreads) และทรงผมอื่นๆ ที่ต้องดึงจนแน่นงอ จะเป็นการทำร้ายผมและทำให้ผมร่วง แม้ว่าจะมีการถักผมบางอย่างที่ไม่ทำร้ายผมมากกว่าอีกแบบหนึ่ง (เช่นการถักผมแล้วใช้ด้ายเย็บต่อผม (Sewn weaves) จะดีกว่าการต่อผมโดยใช้กาว) แต่ผมของคุณจะมีสุขภาพดีขึ้นถ้าคุณเลิกทำมันทั้งหมด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ทรีทเมนต์บำรุงจากธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูผมให้นุ่มลื่นและเงางาม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ครีมนวดปริมาณพอเหมาะในการเคลือบเส้นผมของคุณโดยไม่ต้องชโลมครีมนวดให้หนักผม ใช้ครีมนวดให้ห่างจากรากผมประมาณ 1 นิ้วหรือมากกว่านั้น และใช้แปรงซี่ห่างค่อยๆ หวีครีมนวดลงมาที่ปลายผม ล้างครีมนวดด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นเพื่อให้ผมเปล่งประกาย
    • ถ้าเส้นผมของคุณดูเหมือนจะแห้ง ให้ใช้ครีมนวดแบบลีฟอิน ใช้ครีมนวดหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จแล้วและผมยังหมาดอยู่ มันจะทำให้ผมของคุณนุ่มและมีน้ำหนักจนถึงการใช้แชมพูสระผมครั้งหน้า
  2. ทรีทเมนต์สำหรับการบำรุงล้ำลุกเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่ทำให้ผมของคุณนุ่มลื่นขึ้นและเปล่งประกายยิ่งขึ้น เพราะว่าทรีทเมนต์นั้นได้ผลดีเยี่ยมมาก คุณควรต้องใช้แค่หนึ่งครั้งใน 1-2 อาทิตย์ จะใช้ทรีทเมนต์ที่ซื้อจากร้านค้าก็ได้ หรือจะใช้น้ำมันที่มีอยู่ในบ้านอย่าง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ ให้ทำทรีทเมนต์ตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • ทำให้ผมเปียกชื้นและใช้ทรีทเมนต์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใช้หวีซี่ห่างหวีกระจายทรีทเมนต์ทั่วเส้นผม
    • รวบผมให้เป็นมวยสูงหรือเป็นหางม้าสูงๆ ด้านบนของศีรษะ ใช้หมวกอาบน้ำคลุมหรือใช้จะใช้พลาสติกห่อไว้ก็ได้
    • ทิ้งทรีทเมนต์ไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือจะทิ้งไว้นานสุด 8 ชั่วโมง
    • ใช้แชมพูสระผมตามปกติเพื่อล้างทรีทเมนต์ที่เหลือออก
  3. ในวันที่คุณไม่มีเวลาใช้ทรีทเมนต์บำรุงล้ำลึก แต่อยากบำรุงผมมากกว่าปกติ ลองใช้ของในบ้านในการบำรุงให้ลักษณะและสภาพเส้นผมดีขึ้น ระหว่างที่อาบน้ำ หลังจากที่ทำให้ผมเปียกแล้ว ค่อยใช้ที่หมักผม จากนั้นให้สระด้วยแชมพูก่อนที่จะอาบน้ำเสร็จ นี่เป็นสูตรหมักผมแบบโฮมเมดที่จะทำให้ผมนุ่มลื่นเปล่งประกาย
    • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะหรือไข่ขาว 1 ฟอง
    • กล้วยหรืออะโวคาโดบด 1 ลูก
    • นมหรือโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ
    • ใช้ส่วนผสมด้านบนผสมๆ กันก็ได้
  4. ใส่น้ำมันเคลือบผมหรือใช้เซรั่มเพื่อให้ผมเปล่งประกาย. ถ้าผมของคุณดูหยิกและไม่มีชีวิตชีวา การใช้น้ำมันใส่ผมหรือเซรั่มจะช่วยทำให้ผมนุ่มลื่นและปกป้องผมจากสิ่งต่างๆ ตลอดทั้งวัน เทเซรั่ม 2-3 หยดที่นิ้วมือจากนั้นให้ลูบเซรั่มทั่วเส้นผมโดยเน้นที่ส่วนปลาย ลองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเซรั่มหรือน้ำมันสำหรับผมที่มีส่วนผสมต่อไปนี้สักหนึ่งอย่าง [2]
    • น้ำมันอาร์แกน (Argan oil)
    • น้ำมันโมรอคแคน (Moroccan oil)
    • น้ำมันโจโจบา (Jojoba oil)
  5. แปรงหวีผมส่วนใหญ่นั้นไม่ดีต่อผม แต่แปรงหวีผมที่ทำจากขนหมูป่านั้นถูกออกแบบอย่างพิเศษเมื่อใช้แปรงแล้วจะทำให้ผมของคุณเงางามและนุ่มลื่น ขนที่แปรงนั้นจะมีสภาพใกล้เคียงกับเส้นผมมนุษย์ มันจะแปรงน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะจากรากผมมายังที่ปลายผมเหมือนการบำรุงผมอย่างครีมนวด ในตอนกลางคืนหรือตอนเช้าก่อนที่คุณจะสระผมด้วยแชมพู ใช้หวีซี่ห่างสางผมที่พันกันก่อน จากนั้นแปรงผมด้วยแปรงจากขนหมูป่าเป็นเวลาประมาณ 10 นาทีเพื่อเป็นการกระจายน้ำมันธรรมชาตินั้น รออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนใช้แชมพูสระผม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

มีผมสวยจากการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารและนิสัยต่างๆ มีผลกระทบอย่างมากกับสภาพเส้นผมของคุณ เมื่อคุณทานโปรตีน สารอาหารที่มีประโยชน์ และไขมันที่ดี ในปริมาณที่เยอะ ผมของคุณก็จะดูเงางามและมีสุขภาพดี แต่ถ้าคุณไม่ได้มีนิสัยทานอาหารเช่นนั้น เส้นผมของคุณก็จะเป็นสิ่งแรกที่บ่งบอกว่าคุณมีสุขภาพที่ไม่ดี เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของเส้นผมเมื่อคุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • ทานอาหารที่มีโปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 และธาตุเหล็ก อาหารเช่น ปลาแซลมอน ปลาซาดีน อะโวคาโด ถั่ว และเมล็ดแฟลกซ์ (flax seeds) เป็นอาหารยอดเยี่ยมที่จะช่วยทำให้ผมงอกยาวอย่างมีสุขภาพดี
    • ทำให้ร่างกายชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ผมของคุณจะเริ่มแห้งเปราะ
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะเป็นการทำร้ายผมโดยผมจะแห้งและดูไม่มีชีวิตชีวา
  2. ส่วนผสมที่อยู่ในแชมพูและครีมนวดอาจจะทำให้ผมแห้งและดูไม่มีชีวิตชีวาแทนที่จะผมจะดูนุ่มลื่นและเงางาม ให้เปลี่ยนไปใช้แชมพูและครีมนวดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการบำรุงเส้นผมแทนการทำร้ายผมไม่ให้เปล่งประกายและลีบแบน นี่เป็นสิ่งที่ควรใช้ [3]
    • เลือกแชมพูที่ไม่มีสารซัลเฟต ซัลเฟตเป็นสารทำความสะอาดที่รุนแรง และมีการใช้ซัลเฟตในแทบทุกอย่างตั้งแต่สบู่ล้างจานไปจนถึงผงซักฟอก ซึ่งตอนนี้ผู้คนเริ่มตระหนักแล้วว่าสารซัลเฟตนั้นไม่ดีต่อเส้นผม ให้มองหาแชมพูที่เขียนว่า "ปราศจากซัลเฟต (sulfate-free)" และทำมาจากสารทำความสะอาดที่เป็นธรรมชาติ
    • เลือกครีมนวดที่ไม่มีซิลิโคน ที่ใส่ซิลิโคนลงในครีมนวดก็เพราะว่ามันจะทำให้ผมดูเงางามและนุ่มลื่นหลังจากการใช้ในครั้งแรกๆ 2-3 ครั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ซิลิโคนจะเกาะตัวที่เส้นผมของคุณและทำให้เส้นผมดูไม่มีชีวิตชีวาและลีบแบน ดังนั้น คุณควรจะเลือกครีมนวดที่ปราศจากซิลิโคนจะดีกว่า
  3. นอกจากการนวดจะทำให้รู้สึกดีแล้ว มันยังช่วยทำให้เลือดที่บริเวณหนังศีรษะไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้นและแข็งแรงขึ้น นวดหนังศีรษะทุกครั้งเมื่อคุณอาบน้ำ ให้วางนิ้วมือของคุณบนหนังศีรษะและนวดวนๆ เบาๆ
    • เพื่อให้การนวดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ และน้ำมันโจโจบา นวดศีรษะของคุณ นี่จะมีประโยชน์มากๆ ถ้าคุณไม่กังวลเกี่ยวกับอาการผมบาง
    • น้ำมันทีทรี น้ำมันลาเวนเดอร์ และน้ำมันซีดาร์วูด ก็มีประโยชน์ต่อเส้นผมเช่นกัน
  4. เล็มผมแตกปลายอย่างเป็นประจำเพื่อให้ผมของคุณมีสุขภาพดีที่สุด การเล็มผมอย่างเป็นประจำจะทำให้ผมของคุณดูเงางามขึ้น เพราะคุณได้ตัดส่วนที่เสียและไม่มีชีวิตชีวาทิ้งไปแล้ว เล็มผมแบบที่ทำให้ผมคุณดูดีที่สุด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มน้ำเยอะๆ ทุกๆ วัน
  • ล้างผมหลังว่ายน้ำเสมอ เพราะคลอรีนทีที่อยู่ในสระว่ายน้ำนั้นไม่ดีต่อเส้นผมของคุณ.
  • ใช้ผ้าขนหนูพันผมที่เปียกชื้นไว้เพื่อให้ผมแห้งเร็วขึ้นและเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผม
  • ทรีทเมนต์บำรุงอย่างล้ำลึกนั้นดีมากๆ สำหรับผมแห้ง
  • สำหรับการล้างแชมพูและครีมนวดน้ำสุดท้าย ให้ล้างด้วยน้ำเย็น เพราะมันจะช่วยทำให้ผมเงางาม
  • นอนบนหมอนผ้าไหมหรือผ้าซาติน เพราะจะช่วยให้ผมไม่พันเป็นกันหรือเป็นปม และจะเป็นการลดผมแตกปลายที่เกิดขึ้นขณะที่คุณหลับอยู่ แถมหมอนพวกนี้ยังนุ่มแล้วก็สบายมากด้วย!
  • ใช้ที่หมักผม ถ้าคุณกำลังพยายามไว้ผมอยู่ ลองหมักผม 1 ครั้งต่ออาทิตย์ไปจนถึง 1 ครั้งต่อเดือน ใส่กล้วยที่บดแล้ว 1 ลูกลงไปในถ้วย จากนั้นใส่ไข่ 1 ฟอง นม 3 ช้อนโต๊ะ และใส่น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน ใช้ชโลมที่หนังศีรษะและเส้นผม ทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกและสระผมตามปกติ คุณจะลองอีกสูตรหนึ่งก็ได้ ใส่ไข่ 2 ฟองลงไปในถ้วย จากในเพิ่มน้ำมันมะกอกอีก 5 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันและใช้ที่หนังศรีษะ สวมหมวกอาบน้ำ และทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกและสระผมตามปกติ
  • รวบผมให้เป็นผมมวย หางม้า หรือถักเปียในวันที่มีลมแรง
  • ถ้าคุณอยากให้ผมเปล่งประกายเงางามอย่างรวดเร็ว ลองใส่มะนาวลงไปในถ้วยและใช้สระผม จากนั้นทำให้ผมแห้งตามปกติ มันจะได้ผลจริงๆ !!
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงไปต่อสภาพเส้นผมของคุณ
  • อย่าใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อนทุกวันเป็นประจำ เพราะว่าความร้อนจะทำร้ายผมอย่างมาก แกนม้วนผมไฟฟ้า ที่หนีบผมตรง และไดร์เป่าผม ที่หนีบผมให้เป็นลอน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ความร้อน จะทำร้ายผมของคุณในระยะยาว หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เหล่านี้บ่อยๆ และให้เลือกการทำผมที่ไม่ใช้ความร้อนและใช้ลมเป่าให้ผมแห้งแทน บีบผมเบาๆ ให้น้ำที่ชุ่มอยู่ที่ผมออกมา และค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูสะอาดตบผมเบาๆ ให้แห้ง
  • หลีกเลี่ยงการทำสีผม การทำสีผมนั้นไม่ดีต่อเส้นผม ยาย้อมผมที่เป็นอันตรายและสารเคมีจะทำให้ผมเสียและแตกปลาย ให้เลือกใช้ยาย้อมผมแบบกล่องหรือยาย้อมผมชั่วคราวถ้าคุณจำเป็นต้องย้อมผมจริงๆ นี่จะทำให้คุณสนุกกับการเปลี่ยนสีผมโดยไม่ทำร้ายเส้นผม การกัดสีผมนั้นทำให้ผมเสียมาก คุณสามารถย้อมผมนานๆ ครั้งก็ได้ แต่ไม่ควรทำบ่อยๆ


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,312 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา