ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Kool-Aid ที่ใช้ชงดื่ม สามารถเอามาย้อมสีผมเล่นได้แบบปลอดภัยในราคาย่อมเยา ผมจะออกมามีไฮไลท์สีสด หรือจะ dip-dye เฉพาะปลายผมก็ได้ แต่ตอนรอให้สีจางหรือล้างออกนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน ปกติสีจะจางไปเองใน 2 - 3 อาทิตย์ อันนี้แล้วแต่ว่าคุณสระผมบ่อยแค่ไหน แต่ถ้าอยากล้างสีก่อนหน้านั้น ก็มี 2 วิธีที่ช่วยคุณได้ วัตถุดิบหลักที่ต้องมีคือเบคกิ้งโซดา ที่จะช่วยล้างสีได้อย่างรวดเร็ว จะละลายเบคกิ้งโซดาในน้ำร้อนแล้วแช่ผม หรือผสมกับแชมพูให้เหนียวข้นเป็น paste ก็ได้ [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

แช่ผมในน้ำร้อนผสมเบคกิ้งโซดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทใส่กะละมังใบเล็กหรือภาชนะอื่น. เติมน้ำในหม้อให้พอที่จะแช่ผมได้ จากนั้นตั้งเตาจนเดือดแล้วยกลง จะเทใส่ชามแก้ว กะละมังพลาสติก หรือภาชนะอื่นก็ได้ แต่ต้องใหญ่พอจะใส่น้ำทั้งหมดและแช่ผมได้ [2]
    • ถ้าย้อมไว้แค่ปลายผม ให้ใช้น้ำแค่ 4 ถ้วยตวง แต่ถ้าจะล้างสีทั้งหัว ก็ต้องเติมน้ำเยอะกว่านั้น
    • วิธีนี้เหมาะกับผมที่ย้อมแค่ปลายหรือสีผมเดิมงอกมาเยอะแล้ว ไม่ค่อยเหมาะกับผมที่เพิ่งย้อมใหม่
    • เวลาใช้น้ำร้อนต้องระวังมากๆ อย่าให้กระฉอกหรือกระเด็น เพราะจะลวกบาดเจ็บได้
  2. ใส่เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) แล้วคนผสมจนละลายเข้ากัน. ให้ใช้ช้อนตวงตักเบคกิ้งโซดา แล้วคนผสมในน้ำร้อนจนละลายเข้ากัน ตอนผสมอาจจะมีฟองฟู่บ้าง ถือว่าปกติ ไม่ต้องกังวล! [3]
  3. แช่ผมที่ย้อมด้วย Kool-Aid ในน้ำที่ผสมแล้ว 30 วินาที. แช่ผมที่มีสีย้อมในน้ำที่ผสมแล้ว ภายในไม่กี่นาที จะเริ่มเห็นเลยว่าสีละลายออกมา พอผ่านไป 30 วินาที น้ำในกะละมังจะกลายเป็นสีเดียวกับ Kool-Aid และผมคุณจะกลับไปเป็นสีเดิม [4]
    • วิธีนี้ทำผมแห้งเสียง่ายมาก เพราะงั้นอย่าพยายามแช่ผมนานเกิน 30 วินาที
  4. เทน้ำเบคกิ้งโซดาทิ้งในอ่างล้างหน้า แล้วรีบล้างอ่าง จากนั้นสระผมด้วยแชมพูและน้ำอุ่น เสร็จแล้วเช็คว่าล้างสี Kool-Aid ออกจากผมหมดหรือยัง
    • ให้ใช้แชมพูที่มีมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผม เพราะเบคกิ้งโซดาจะทำผมคุณแห้งมาก
  5. ใช้ครีมบำรุงผมแบบล้ำลึก เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม. วิธีนี้ทำให้ผมแห้งมาก สูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไป เพราะงั้นต้องใช้ครีมบำรุงผมหลังทำเสร็จ เช่น ครีมนวดที่เข้มข้นเป็นพิเศษ หรือมาสก์บำรุงผม ใช้แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 - 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม [5]
  6. ถ้ารอบแรกสียังหลุดไม่หมด ให้ทำซ้ำในวันรุ่งขึ้น. ถ้าผมคุณสีอ่อน สีย้อมจะติดทนกว่า โดยเฉพาะสีสดอย่าง Kool-Aid เพราะงั้นอาจจะต้องล้างสีผมรอบที่ 2 สี Kool-Aid ถึงจะหายไป โดยทำซ้ำตามขั้นตอนในวันรุ่งขึ้น แล้วอย่าลืมใช้ครีมบำรุงเหมือนเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ผสมแชมพูกับเบคกิ้งโซดาให้เหนียวข้นเป็น Paste

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมเบคกิ้งโซดากับแชมพูในสัดส่วนที่เท่ากัน ให้ได้ paste เหนียวข้น. ให้ผสมเบคกิ้งโซดาในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยคนผสมในชามแก้วหรือพลาสติก ถ้าจะแน่ใจว่าผสมมากพอจะล้างสีย้อมทั้งหมด ก็ต้องตวงแชมพูก่อน ว่าปกติคุณสระผมแล้วใช้แชมพูมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็ผสมเบคกิ้งโซดาเข้าไปในปริมาณที่เท่ากัน [6]
    • ว่ากันว่าแชมพูขจัดรังแคใช้แล้วได้ผลดีสุด เพราะค่า pH สูง ช่วยกัดสีย้อม แต่จะใช้ clarifying shampoo สำหรับทำความสะอาดอย่างล้ำลึกก็ได้ [7]
  2. เอา paste ที่ผสมแล้วเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำราดผมให้ชุ่ม. ถ้าเอา paste ไปล้างสีผมในห้องน้ำจะเลอะเทอะแค่ไหนก็ทำความสะอาดง่าย ให้วาง paste ไว้ก่อนระหว่างเปิดน้ำอุ่นราดผมให้ชุ่ม
  3. เอามือควัก paste มาพอประมาณ แล้วขยี้ที่ผมตรงจุดที่เริ่มมีสีย้อม ใช้มือสาง paste ไปตามเส้นผมจรดปลาย ถ้าไม่พอก็เพิ่ม paste ได้ จนส่วนที่มีสีย้อมปกคลุมไปด้วย paste [8] ส่วนไหนเป็นสีผมตามธรรมชาติ ก็ไม่ต้องลง paste ให้ลงเฉพาะส่วนที่มีสี Kool-Aid เท่านั้น
    • ถ้าสีย้อมเริ่มที่รากผมเลย ก็ต้องลง paste จากรากผมลงมาจนถึงปลายผม
    • ถ้า dip-dye เฉพาะปลายๆ ก็ให้ลง paste เหนือส่วนที่ย้อมผมขึ้นมาประมาณ 1 - 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) จะได้ครอบคลุม
    • สูตรนี้ไม่เหมือนสูตรที่ใช้น้ำร้อนกับเบคกิ้งโซดา ตรงที่ปลอดภัยกว่า ใช้กับหนังศีรษะได้
  4. ตั้งเวลาหรือให้ใครช่วยเตือนก็ได้ จะได้ไม่เผลอทิ้ง paste ไว้นานเกินไป ระหว่างนั้นก็นั่งรอในห้องน้ำไปก่อน ปิดน้ำด้วย อย่าเพิ่งให้ส่วนที่พอก paste ไว้โดนน้ำ
  5. พอครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ล้าง paste ออกในห้องน้ำ พยายามใช้น้ำร้อนสุดเท่าที่ทนได้ ไม่ลวกผิว จะได้ล้างสีออกมากที่สุด และล้างไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือ paste ที่เส้นผม [9]
  6. ลงครีมนวดสูตรเข้มข้นเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม. สูตรนี้ก็ทำผมแห้งเสียเช่นกัน เพราะงั้นต้องรีบลงครีมนวดหลังล้าง paste ออก โดยนวดให้ครีมบำรุงทั่วถึงทั้งหัว เน้นตรงปลายเยอะๆ [10] ทิ้งไว้ 15 - 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น [11]
    • ล้างผมให้สะอาดด้วยน้ำเย็น จะได้ปิดเกล็ดผม
  7. พอล้างสีผมไป 1 รอบ สีของ Kool-Aid จะจางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้ายังไม่หายสนิท ก็ต้องทำซ้ำหลายครั้ง ให้ใช้ paste ได้วันละ 1 ครั้ง หลายวันติดต่อกัน แต่ก็ต้องตามด้วยครีมนวดสูตรเข้มข้นทุกครั้งเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม [12]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ ครีมบำรุงผมสูตรเข้มข้น หลังล้างสีด้วยวิธีต่างๆ. ไม่ว่าเลือกใช้วิธีไหน ผมก็มักจะสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไปตอนล้างสี ผมจะแห้ง แตก ขาดง่าย หรือแตกปลาย ต้องใช้ครีมบำรุงสูตรเข้มข้น เพื่อให้อาหารผมและคืนความชุ่มชื้นที่เสียไปตอนล้างสีผมแบบเร่งด่วน [13]
    • จะซื้อครีมบำรุงสำเร็จรูป หรือ ผสมเอง ด้วยน้ำมันละหุ่งก็ได้
    • เน้นบำรุงที่ปลายผมมากเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นส่วนที่แห้งเสียง่ายที่สุด [14]
  2. หมักผมด้วยมาสก์อาทิตย์ละครั้งเพื่อคงความชุ่มชื้น. ถึงจะล้างสีไปหลายอาทิตย์แล้ว ก็ยังต้องบำรุงผมเป็นพิเศษ ให้หมักผมทั้งหัวด้วยมาสก์อาทิตย์ละครั้ง โดยทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุในฉลาก จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
    • จะซื้อมาสก์หมักผมสำเร็จรูป หรือผสมเองจากวัตถุดิบที่มีในบ้านก็ได้ เช่น โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก [15]
  3. อย่าเพิ่งจัดทรงด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ความร้อน จนกว่าผมจะกลับมาสวยสุขภาพดีตามเดิม. เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียไปกว่าเดิม พยายามอย่าจัดแต่งทรงผมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ความร้อน เช่น แกนม้วนผม ที่หนีบผม กระทั่งไดร์เป่าผม รอจนกว่าจะบำรุงผมไปสัก 2 - 3 อาทิตย์ ให้ผมกลับมาแข็งแรงสุขภาพดีตามเดิมก่อนจะดีกว่า
  4. 2 - 3 วันค่อยสระผมด้วยแชมพูที จะได้รักษาสมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติที่หนังศีรษะ. พอล้างสีผมแล้วผมจะแห้งเสีย เปราะ ขาดง่าย เลยต้องอย่าสระผมด้วยแชมพูถี่เกินไป ให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่มีซัลเฟต และสระผม 2 - 3 วันครั้ง ผมจะได้มีเวลาปรับสมดุลน้ำมันตามธรรมชาติ ให้ผมกลับมาแข็งแรงเงางามตามปกติ [16]
    • ถ้าผมแห้งแตก ขาดง่ายเป็นพิเศษ ให้สระเร็วๆ อย่านาน แล้วลงครีมนวดโดยเฉพาะตรงปลาย
  5. สีจาก Kool-Aid ไม่เหมือนสีย้อมถาวร ไม่ได้ใช้สารเคมีแรงๆ เพราะงั้นก็ไม่ต้องรอนานมาก กลับมาย้อมได้เร็วกว่า ยังไงให้รอสัก 4 อาทิตย์ พอที่ผมจะกลับมาแข็งแรง คืนความชุ่มชื้น แต่ใครผมแห้งเสียเป็นพิเศษ ต้องรอต่อไปอีกสัก 1 - 2 อาทิตย์ [17]
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

แช่ผมในน้ำร้อนผสมเบคกิ้งโซดา

  • หม้อ
  • น้ำ
  • เบคกิ้งโซดา
  • กะละมังพลาสติกหรือภาชนะอื่น
  • ครีมบำรุงผมเข้มข้น

ผสมแชมพูกับเบคกิ้งโซดาให้เหนียวข้นเป็น Paste

  • แชมพูขจัดรังแค (หรือ clarifying shampoo สำหรับขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง)
  • ถ้วย
  • ครีมบำรุงผมเข้มข้น

คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม

  • ครีมบำรุงผมเข้มข้น
  • มาสก์บำรุงผม
  • แชมพูที่ไม่มีซัลเฟต

คำเตือน

  • วิธีไหนล้างสีผมได้มักทำให้ผมแห้งเสีย เพราะงั้นต้องระวัง! อย่าใช้วิธีนั้นถ้าผมแห้งเสีย ขาดง่าย หรือหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่ายอยู่แล้ว
  • ตอนล้างผมด้วยน้ำร้อน ระวังอย่าให้ลวกหนังศีรษะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,014 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา