ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไฟล์ .jar นั้นใช้สำหรับการจัดเก็บและแตกไฟล์ หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของไฟล์ .jar ก็คือการบีบอัดข้อมูลแบบ loss-less หรือก็คือไม่สูญเสียข้อมูลไหนไป เหมือนไฟล์ต้นฉบับ ถ้าคุณอยากเปิดไฟล์ java สกุล .jar ก็ต้องติดตั้ง แล้วกำหนดเป็นเหมือนไฟล์ .exe ที่เปิดได้เลยซะก่อน ด้วยขนาดของไฟล์ .jar ทำให้สะดวกมากสำหรับจัดระเบียบและส่งต่อไฟล์
ขั้นตอน
ดาวน์โหลดบทความ
-
ติดตั้ง Java ในเครื่องเสียก่อน. คุณเช็คได้ว่าติดตั้งหรือยัง โดยพิมพ์ java -version ในหน้าต่าง terminal ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Java เวอร์ชั่นล่าสุดอยู่ ก็ให้อัพเดทก่อน
-
ทำไฟล์ .jar ให้เปิดใช้งานได้ . คุณทำไฟล์ .jar ให้เป็นเหมือนไฟล์ .exe คือเปิดใช้งานได้เลย โดยรวบรวม class files ของแอพ Java ตัว compiler หรือ JVM (Java Virtual Machine) จะอ่านไฟล์พวกนี้ได้ ปกติไฟล์ .jar จะเปิดจาก javaw (Java web start) คุณต้องตั้ง entry point ของแอพจากในไฟล์ .jar (entry point ที่ว่าก็คือ class ที่บรรจุฟังก์ชั่นการทำงานหลักของแอพไว้) คุณต้องตั้ง entry point ด้วยไฟล์ Manifest อ่านวิธีการข้างล่างนี่เลย
- Jar tool จะตั้ง meta-inf/manifest.mf เป็น path ของไฟล์ .jar โดยอัตโนมัติ เวลาคุณเปิดไฟล์ Manifest ตั้งต้น ก็จะขึ้นว่า "Manifest-Version: 1.0, Created-By: 1.6.0 (Sun Microsystems Inc)"
- สร้างไฟล์ manifest เพิ่มเติมเป็นไฟล์ .txt ให้พิมพ์ Main Class: [Package Name].[Class Name] แล้วกรอกข้อมูลเฉพาะของคุณลงไปในวงเล็บ (จะอยู่ในรูปของชุดค่าตัวแปร (attribute value pair)) อย่าลืมใส่บรรทัดว่างที่ท้ายไฟล์ด้วย
- ให้คุณใส่คำสั่ง jar cfm [jar file name] [manifest-addition] [input files] ใน terminal เพื่อปรับแต่งไฟล์ Manifest ให้รวม entry point ของแอพเข้าไป อย่าลืมใส่ชื่อไฟล์ของคุณในวงเล็บด้วย
- เช็คไฟล์ Manifest ของคุณ พอตั้งค่า entry point แล้ว จะขึ้นว่า "Manifest-Version: 1.0,Created-By: 1.6.0 (Sun Microsystems Inc), Main Class: [Package Name].[Class Name]"
- หรือจะตั้งค่า entry point ด้วย .jar tool ก็ได้ โดยจะไปทับค่า Main-class เดิมของไฟล์ Manifest ให้คุณใส่คำสั่ง jar cfe [jar file name] [Package Name] [Class Name with main function] ใน terminal
-
เปิดไฟล์ .jar . เปิดไฟล์ .jar ด้วยคำสั่งต่อไปนี้ (วิธีหลักที่ใช้เปิดแอพ java) java -jar [Jar file Name]
-
กำหนดให้เปิดไฟล์ .jar โดยดับเบิลคลิก (ไม่จำเป็น) . ถ้าอยากเปิดไฟล์ .jar ได้ง่ายๆ แค่ดับเบิลคลิก ให้เปลี่ยน directory ไปเป็นตำแหน่งของไฟล์ javaw (java web start) ที่เปิดใช้ได้เลย โดยพิมพ์คำสั่ง C:\Program Files\Java\j2rex.y.z\bin\javaw.exe" -jar "%1" %* ใน terminalโฆษณา
-
เปิด terminal. ปกติใน Linux ถ้าดับเบิลคลิก ไฟล์ .jar จะเปิดขึ้นมาในโปรแกรม zip พร้อมแสดงเนื้อหาในไฟล์ แต่คราวนี้ให้คุณคลิกขวาแล้วเลือก "Open Terminal" แทน
-
ใช้คำสั่ง $>java -jar [jar file name] .
-
เปิดไฟล์ .jar โดยดับเบิลคลิก (ไม่จำเป็น) . ถ้าคุณอยากเปิดไฟล์ .jar โดยดับเบิลคลิก ก็อาจต้องลองเปลี่ยนชนิดของไฟล์ที่ใช้เปิด (วิธีการเดียวกับของ Windows) ตามระบบ Linux ที่คุณใช้งาน
- เช็คให้ชัวร์ว่าคำสั่งข้างบนได้ผล
- พิมพ์คำสั่ง $>/usr/lib/jvm/jre-1.6.0-sun/bin/java -jar %f ใน terminal
- ตั้ง path เป็นตำแหน่งของ Java ในเครื่องของคุณ
โฆษณา
![Step 2 ใช้คำสั่ง $>java -jar [jar file name].](#/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Run-a-.Jar-Java-File-Step-6-Version-4.jpg)
เคล็ดลับ
- ไฟล์ .jar อาจต้องพึ่งพาไฟล์อื่นถึงจะเปิดใช้งานได้ (เหมือนไฟล์ .exe) ถ้าไม่อยู่ใน classpath โปรแกรมของคุณก็อาจจะไม่ทำงาน
- ในโฟลเดอร์ที่มี javaw.exe จะมีโปรแกรมชื่อ javaws.exe อย่าสับสน! javaw.exe นั้นใช้เปิดโปรแกรม java ใน windows ส่วน javaws.exe คือ JAVA w eb s tart
- ถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการสร้างไฟล์ .jar ลองหาอ่านในเน็ตดู
- โปรแกรม Java ปกติแล้วใช้งานได้ในทุกระบบ แต่ถ้าไม่ได้ แสดงว่าเขียนโปรแกรมมาไม่ถูกต้อง หรือเป็นโปรแกรมเฉพาะมากๆ จนต้องใช้ทรัพยากรหรือโปรแกรมอื่นในเครื่องร่วมด้วย
- ไฟล์ .jar บางทีก็เป็นโปรแกรม บางทีก็เป็น library ถ้าเป็น library (ไม่มี class ที่ใช้เปิดโปรแกรมข้างใน) ก็อย่าไปดันทุรังเปิดเลย
โฆษณา
คำเตือน
- Java นี่แหละปลอดภัยกว่าภาษาเขียนโปรแกรมอื่นๆ แต่ก็ยังมีที่มัลแวร์มาในรูปของ Java เพราะงั้นคนใช้งานเองก็ต้องรู้จักศึกษาและระวังแต่ละโปรแกรมที่ติดตั้งลงในคอมของตัวเอง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- เว็บ Sun Microsystems Java - คุณดาวน์โหลดโปรแกรม java runtime ได้ที่เว็บนี้ฟรี
- อภิธานศัพท์ Java และอินเทอร์เน็ต โดย Roedy Green มาเรียนรู้ศัพท์ "ภาษา Java (Javanese)" กันเถอะ
โฆษณา
