ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไฟล์ PDF นั้นเหมาะสุดๆ สำหรับการรักษาความสมบูรณ์ของเอกสาร แต่มันอาจจะยุ่งยากสักหน่อยถ้าคุณกำลังพยายามใส่มันลงไปในเอกสารฉบับอื่นหรือในสไลด์นำเสนอ นอกจากนี้ ไฟล์ PDF ยังต้องใช้โปรแกรมเฉพาะเพื่อเปิดไฟล์ จึงอาจทำให้คุณตาหรือลูกๆ ของคุณรู้สึกสับสน การแปลงไฟล์ PDF เป็นไฟล์ภาพแบบ JPG จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ และทำให้คุณสามารถนำภาพไปแปะ แก้ไข หรือแชร์ได้แบบสบายๆ ลองทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้เพื่อแปลงไฟล์ PDF ของคุณโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทเพื่อซื้อโปรแกรมพิเศษ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย และส่วนใหญ่ก็ใช้ได้ฟรีซะด้วย บริการเหล่านี้จะให้คุณอัปโหลดไฟล์ PDF จากนั้นเว็บจะทำการแปลงไฟล์ที่อัปโหลดเป็น JPG ถ้าไฟล์ PDF ของคุณมีหลายหน้า แต่ละหน้าจะถูกแปลงออกมาเป็น JPG แยกเป็นไฟล์ๆ ไป
  2. คลิกปุ่ม “Choose file” บนเว็บไซต์แปลงไฟล์ที่คุณเลือก แล้วค้นหาไฟล์ PDF ที่ต้องการอัปโหลดจากคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ข้อจำกัดหนึ่งของบริการเหล่านี้ก็คือ ขนาดไฟล์มักจะถูกจำกัดอยู่ที่ 25 MB ต่อไฟล์ (สำหรับเว็บ Zamzar จะเป็น 100 MB และไม่มีข้อจำกัดสำหรับเว็บ Smallpdf)
  3. ในบางเว็บ คุณสามารถเลือกได้ว่าอยากแปลงไฟล์ทั้งหน้า หรือจะดึงออกมาเฉพาะภาพที่บันทึกไว้ใน PDF.
  4. เว็บไซต์แปลงไฟล์ส่วนใหญ่จะตั้งค่าคุณภาพเริ่มต้นเป็น 150 DPI ซึ่งจะทำให้ได้ไฟล์คุณภาพดีพอประมาณ ปกติคุณจะสามารถเปลี่ยนเป็น 300 DPI ซึ่งจะทำให้ได้ไฟล์คุณภาพดีขึ้นอีกเยอะ แต่ขนาดไฟล์ก็จะใหญ่ขึ้นอีกเยอะเหมือนกัน
    • สำหรับบางเว็บ คุณอาจจะต้องเลือก JPG เป็นไฟล์ที่ต้องการให้แปลงออกมา (ส่วนเว็บอื่นๆ จะตั้งไฟล์ JPG ไว้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว)
  5. เวลาที่ใช้ในการแปลงจะขึ้นอยู่กับจำนวนไฟล์ที่เซิร์ฟเวอร์กำลังทำการแปลง รวมถึงขนาดไฟล์ของคุณ หลายๆ บริการจะมีให้เลือกส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อแปลงไฟล์เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรืออาจจะส่งลิงก์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์ที่แปลงออกมาให้ทางอีเมล
    • ถ้าไฟล์ของคุณมีหลายหน้า คุณอาจจะได้รับลิงก์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์แบบแยกเป็นหน้าๆ ไป หรืออาจจะดาวน์โหลดทุกหน้าในคราวเดียวเป็นไฟล์ ZIP ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้โปรแกรมปรับแต่งภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรแกรม Photoshop นั้นค่อนข้างจะแพงเอาการ ส่วน PaintShop Pro จะราคาถูกลงมาหน่อย แต่สำหรับ GIMP มันเป็นโปรแกรมที่เลียนแบบหลายๆ ฟังก์ชันของ Photoshop ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ฟรีแบบไม่มีข้อจำกัดเลยล่ะ อย่างไรก็แล้วแต่ ทุกโปรแกรมจะช่วยให้คุณสามารถแปลงไฟล์ PDF ได้อย่างรวดเร็ว
  2. ถ้าไฟล์มีหลายหน้า โปรแกรมจะมีตัวเลือกให้คุณโหลดไฟล์ออกมาเป็นเลเยอร์หรือภาพ ให้คุณเลือกแบบภาพเพื่อเปิดแต่ละหน้าออกมาเป็นไฟล์ภาพแยกออกจากกัน เพราะถ้าเลือกแบบเลเยอร์ มันจะทำให้คุณแปลงเอกสาร PDF ทั้งหมดได้ยากสักหน่อย
  3. สำหรับ Photoshop หรือ PaintShop Pro ให้คลิก File แล้วเลือก Save As จากนั้นเลือก JPG เป็นประเภทไฟล์ หลังจากนั้น คุณจะสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์ JPG ที่ต้องการบันทึกได้ ส่วนใน GIMP ให้คลิกที่ File แล้วเลือก Export จากนั้นให้เลือก JPG จากเมนูรูปแบบไฟล์แบบดึงลง แล้วจึงเลือกคุณภาพของไฟล์ JPG ที่ต้องการสร้าง
    • ทำตามขั้นตอนนี้อีกครั้งสำหรับหน้าอื่นๆ แต่ละหน้า
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้โปรแกรม Preview บน Mac OS X

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรแกรม Preview เป็นแอปพลิเคชันสำหรับดูภาพและแปลงไฟล์ที่ติดตั้งมาใน Macintosh OS X โดยจะมีวิธีการที่ทั้งง่ายและรวดเร็วให้คุณสามารถจัดการไฟล์ภาพได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึง PDF ด้วย ถ้าไม่มีไอคอนโปรแกรมอยู่บนหน้าเดสก์ท็อป คุณสามารถหาโปรแกรมได้ในโฟลเดอร์ Applications
  2. จากเมนู File ให้เลือก Open… จากนั้น Preview จะแสดงกรอบสนทนาขึ้นมา จากกรอบสนทนานี้ คุณสามารถเลือกเพียงไฟล์เดียวหรือหลายไฟล์ก็ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ถ้าคุณต้องแปลงหลายๆ ไฟล์
  3. ในกรอบสนทนา Export ให้เลือก JPEG จากเมนู Format แบบดึงลง หลังจากนั้น คุณสามารถปรับคุณภาพและความละเอียดของภาพที่จะส่งออกได้ถ้าต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนชื่อไฟล์ได้ถ้าอยากให้ชื่อต่างกัน
    • เมนู Where ช่วยให้คุณสามารถกำหนดได้ว่าต้องการบันทึกไฟล์ไว้ที่ไหน
  4. โปรแกรมจะแปลงไฟล์ PDF ของคุณและสร้างไฟล์ JPEG ขึ้นมา จากนั้น คุณสามารถเปิดไฟล์ JPEG ในโปรแกรมภาพต่างๆ แปะภาพลงในเอกสาร หรือจะอัปโหลดลงอินเตอร์เน็ตก็ได้นะ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ Google Drive

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อัปโหลดไฟล์ PDF ของคุณ (หรือไฟล์เอกสารอื่นๆ) ไปยัง Google Drive โดยคลิกที่ปุ่มอัปโหลดด้านบนซ้าย.
  2. คุณจะเห็นวงกลมสีกำลังหมุนๆ ซึ่งแสดงว่าระบบกำลังโหลดเอกสารของคุณอยู่ อีกสักแปป คุณจะเห็นหน้าเอกสารแสดงขึ้นมา ให้คุณซูมเข้าไปจนสุดเพื่อให้ได้คุณภาพดีที่สุด
    • หากใช้ Google Chrome อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าเลือกแท็บ "Elements" แล้ว จากนั้นคลิกที่ไอคอน "แว่นขยาย" แล้วคลิกเลือกหน้าที่ต้องการแปลงเป็นภาพจากในตัวอย่างเอกสาร
    • หากใช้ Firefox ให้เปลี่ยนเป็นเปิดแท็บ "Inspector" หรือ “ตัวตรวจสอบ” แล้วคลิกไอคอน "เคอร์เซอร์รูปลูกศร" ตรงมุมบนซ้ายของหน้าต่าง Inspector จากนั้นคลิกตัวอย่างเอกสารด้านบน (ใน Google Drive)
  3. มันจะมีแท็ก <img src="ลิงก์ไปยัง JPG ของคุณ"> ซึ่งอยู่ด้านล่างลงมาหน่อย (4 บรรทัด)
    • คลิกขวาที่ลิงก์ แล้วเลือก "Open link in new tab" แค่นี้ก็สำเร็จ! ภาพของคุณพร้อมสำหรับการบันทึกแล้วล่ะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณมีโปรแกรม Fine Print (ทดลองใช้ฟรี แต่มันจะมีลายน้ำติดมาด้วย) ให้สั่งปรินท์ด้วยเครื่องปรินท์ Fine Print แล้วบันทึกไฟล์ปรินท์เป็นไฟล์ .jpg


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,642 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา