ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หมัดระบาดแล้วได้ยุ่งกันยกใหญ่ เพราะทำคุณลำบากใจ เหมือนหมัดจะยกโขยงกันมาไม่มีจบสิ้น บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการกำจัดหมัดจากพรมให้คุณเอง นอกจากนี้ยังมี 2 - 3 เคล็ดลับสำหรับป้องกันไม่ให้หมัดกลับมากวนใจอีก
ขั้นตอน
-
ดูดฝุ่นพรมทุกซอกทุกมุม. ให้เสียบหัวดูดเล็กลง จะได้เก็บงานละเอียด อย่าไถเครื่องดูดฝุ่นไปเรื่อยเปื่อย เริ่มจากด้านหนึ่งของห้อง แล้วดูดฝุ่นไล่ไปเป็นเส้นจนครบพรมทั้งผืน เน้นหนักตามมุมห้องและบัวเชิงผนัง เพราะหมัดชอบซ่อนตัวตามมุมมืดและอับชื้น ต้องคอยดูดฝุ่นใต้เฟอร์นิเจอร์ให้ดี
- เน้นเป็นพิเศษบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบไปขลุกอยู่ รวมถึงตามบัวเชิงผนัง แถวประตู และใต้เฟอร์นิเจอร์
- ถ้าหมัดระบาดหนัก ต้องดูดฝุ่นทุกวัน ติดต่อกัน 10 - 14 วัน [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of California Integrated Pest Management Program ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าคลุมหรือบุนวม. เน้นหนักที่ฐานและด้านใต้ หมัดชอบกระโดดขึ้นเฟอร์นิเจอร์ ถ้าไม่พลิกพรมมาดูดฝุ่น อาจกลายเป็นแหล่งกบดาน
-
ทิ้งถุงเก็บฝุ่นไปเลย. แต่ห้ามทิ้งในบ้าน ต้องเอาถุงออกจากเครื่องดูดฝุ่น ซ้อนในถุงพลาสติกอีกที มัดปากให้แน่น แล้วเอาไปทิ้งถังขยะนอกบ้าน จะได้แน่ใจว่าหมัดจะไม่กลับมาในบ้านและตามพรมอีก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเครื่องดูดฝุ่นเป็นแบบ canister คือเป็นกระบอก ไม่มีถุงเก็บฝุ่น ก็ต้องเอาออกมาเทฝุ่นใส่ถุงพลาสติก มัดให้แน่น แล้วเอาไปทิ้งถังขยะนอกบ้าน
-
ทำความสะอาดพรมกับเฟอร์นิเจอร์ด้วยไอน้ำ. ถ้าไม่มี steam cleaner หรือเครื่องทำความสะอาดด้วยไอน้ำ ก็ต้องหาซื้อหรือยืมเพื่อนมาใช้ก่อน อย่าลืมอ่านคำแนะนำการใช้งานให้ละเอียดแล้วทำตามอย่างเคร่งครัด หรือถ้ามีงบก็ใช้บริการบริษัททำความสะอาดที่เขาใช้เครื่องพ่นไอน้ำซะเลย ไอน้ำอุณหภูมิสูงที่ปล่อยออกมาจะฆ่าได้ทั้งไข่และหมัดโตเต็มวัยเลย
-
ทำความสะอาดเบาะนอนของสัตว์เลี้ยง. ให้ซักเครื่องด้วยความร้อนสูง แล้วอบต่อด้วยความร้อนสูงสุดของเครื่อง ทำแบบนี้ทุกวันจนหาหมัดไม่เจอโฆษณา
-
ใช้ยาฆ่าแมลงที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงและคน ใช้ในบ้านได้. ฉีดยาฆ่าแมลงแบบใช้ในบ้านที่พรม แล้วรอจนแห้งค่อยเริ่มดูดฝุ่น ดูดฝุ่นซ้ำทุก 2 - 3 วันต่อไปอีก 2 อาทิตย์ ยาฆ่าแมลงจะกำจัดหมัดโตเต็มวัยได้ แต่กำจัดไข่หมัดไม่ได้ ถ้าดูดฝุ่นก็จะช่วยลดปัญหาการแพร่พันธุ์ รอสัก 2 - 3 อาทิตย์แล้วค่อยทำซ้ำ [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of California Integrated Pest Management Program ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้าจะใช้ยาฆ่าแมลง ก็ต้องแยกหมาแมวไปไว้ที่อื่นก่อน เพราะเดี๋ยวเป็นอันตราย อย่าลืมว่ายาฆ่าแมลงเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงด้วย กันไว้ก่อน จะได้ไม่เสียใจภายหลัง ก่อนใช้ต้องอ่านคำแนะนำที่ฉลากแล้วทำตามอย่างเคร่งครัด ยาบางตัวฉีดแล้วก็ต้องรอนานหลายชั่วโมงกว่าจะกลับเข้าห้องได้ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาเกลือหรือผงบอแรกซ์โรยให้ทั่วพรม. เน้นหนักบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบไปขลุกอยู่ รวมถึงโถงทางเดิน แถวบัวเชิงผนัง และใต้เฟอร์นิเจอร์ ให้โรยผงบอแรกซ์หรือเกลือให้ทั่วพรม เอาให้แทรกไปตามเส้นใยเลย ถ้าใช้ผงบอแรกซ์ ให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วค่อยดูดฝุ่นวันรุ่งขึ้น ถ้าใช้เกลือ ให้รอ 24 - 48 ชั่วโมงแล้วค่อยดูดฝุ่น ระหว่างนั้นอย่าให้หมาแมวเข้ามา จนกว่าจะดูดฝุ่นเอาเกลือหรือผงบอแรกซ์ออกไปหมด [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าใช้ผงบอแรกซ์ ต้องกันสัตว์เลี้ยงกับเด็กเล็กให้พ้นจากบริเวณ
- ถ้าใช้เกลือ ต้องเลือกที่เม็ดละเอียดที่สุด
-
ลองใช้สเปรย์สูตรน้ำส้มสายชู. ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วนแล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นปิดฝาให้แน่นแล้วเขย่าจนเข้ากัน จะใช้น้ำส้มสายชูกลั่นขาวหรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลก็ได้ เอาไปผสมน้ำแล้วฉีดพ่นพรม เน้นหนักบริเวณที่สัตว์เลี้ยงนั่งๆ นอนๆ บ่อยๆ รวมถึงบัวเชิงผนัง ทางเข้าบ้าน และใต้เฟอร์นิเจอร์ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หมัดขยาดกลิ่นน้ำส้มสายชู ถ้าใช้กำจัดหมัดโตเต็มวัยก็ได้ผล
-
ใช้สเปรย์เลมอน. ฝานเลมอน 1 - 3 ลูกเป็นชิ้นบางๆ แล้วเทน้ำ 2 ถ้วยตวง (ประมาณ 474 มล.) ใส่หม้อ ใส่เลมอนฝานในน้ำแล้วต้ม พอน้ำเริ่มเดือด ให้ยกหม้อลงแล้วปิดเตา แช่เลมอนไว้ข้ามคืน วันต่อมาให้เอาชิ้นเลมอนฝานออก เทน้ำเลมอนใส่ขวดสเปรย์แล้วใช้ฉีดพ่นที่พรม เน้นหนักบริเวณที่สัตว์เลี้ยงนั่งๆ นอนๆ บ่อยๆ รวมถึงบัวเชิงผนัง ทางเข้าบ้าน และใต้เฟอร์นิเจอร์
- หมัดเกลียดกลิ่นน้ำส้มสายชู ถ้าเอาน้ำผสมเลมอนที่ว่าไปฉีดพรมก็น่าจะเห็นผลอยู่ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำกับดักหมัด. ถ้าไม่แน่ใจว่าหมัดหลบอยู่ตรงไหนของพรม ก็ให้ต้อนไปรวมกันที่กับดักหมัด โดยเติมน้ำในชามหรือถ้วยเล็กๆ แล้วหยดน้ำยาล้างจานไป 2 - 3 หยด จากนั้นคนให้เข้ากัน เอาชามที่ว่าไปวางที่พื้นแถวๆ ผนัง ข้างโคมไฟ ตกกลางคืนก็เปิดโคมไฟซะ หมัดจะโดดมาหาไฟแล้วตกไปในชามน้ำแทน น้ำยาล้างจานในน้ำจะทำให้หมัดโดดกลับออกไปไม่ได้ เช้าวันต่อมาคุณก็แค่ปิดโคมไฟ แล้วเทน้ำทิ้ง ก็เรียบร้อย [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าสัตว์เลี้ยงอยู่แถวนั้นต้องพาไปไว้ห้องอื่น แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องหาอะไรมาครอบแทน โดยเหลือช่องไว้พอให้หมัดกระโดดเข้าไป
- จะใช้ไฟ LED แบบ nightlight ที่แสงจ้าๆ แทนก็ได้
-
ปล่อยเป็นหน้าที่บริษัทรับกำจัดแมลง. บริษัทพวกนี้จะกำจัดหมัดได้หมดจด มืออาชีพและเห็นผลกว่ากำจัดเองแน่นอนโฆษณา
-
ซื้อดินเบา (diatomaceous earth) แบบ food grade. ต้องเป็น food grade (สัมผัสกับอาหารได้) ไม่ใช้แบบที่เอาไปปั้นหรือใช้กับสระว่ายน้ำ ถ้าเป็น food grade สัตว์เลี้ยงเผลอกินเข้าไปก็ไม่อันตราย
-
ดูดฝุ่นพรม. ให้เสียบหัวดูดเล็กลง แล้วดูดฝุ่นทั่วทั้งพรม โดยเฉพาะบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบไปขลุกอยู่ รวมถึงทางเข้าออกประตู และบัวเชิงผนัง
-
โรยดินเบาทั่วพรม. เน้นหนักบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบไปขลุกอยู่ รวมถึงแถวบัวเชิงผนัง แถวประตู และใต้เฟอร์นิเจอร์ ดินเบาทำจากฟอสซิลพืชทะเลเล็กๆ เลยไปบาดตัวหมัด
-
ลองโรยดินเบาบนเบาะนอนของสัตว์เลี้ยง. ถ้าอยากกำจัดหมัดบนพรม ก็ต้องกำจัดหมัดที่อื่นด้วย โดยเฉพาะเบาะนอนของสัตว์เลี้ยง ให้โรยดินเบาบนเบาะนอนแล้วทิ้งไว้ 2 - 3 วัน ระหว่างนั้นต้องเก็บให้พ้นสัตว์เลี้ยง พอครบ 2 - 3 วันก็ให้ดูดฝุ่นเบาะ หรือดีกว่านั้นคือซักเครื่องแบบใช้น้ำร้อน
-
อาบน้ำสัตว์เลี้ยง. ถ้าโรยดินเบาไปแถวบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบไปขลุกอยู่ ฝุ่นดินเบาบางส่วนอาจจะติดตามขนได้ ต้องอาบน้ำให้สะอาด แต่แน่นอนว่าใครเลี้ยงแมวก็ต้องทำใจ เพราะอาบยากกว่าหมาเยอะ
- ลองใช้แชมพูแบบ soap-free (ไม่ผสมสบู่) หรือแบบมีมอยซ์เจอไรเซอร์ เพราะดินเบาจะทำสัตว์เลี้ยงผิวแห้งเป็นพิเศษ ถ้าใช้แชมพูแบบที่ว่าจะช่วยได้ อย่าลืมสางขนด้วยหวีซี่ถี่สำหรับกำจัดไข่ ตัวอ่อน และหมัดโตเต็มวัย [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูดฝุ่นพรม. พอผ่านไปได้ 4 - 5 วันให้ดูดฝุ่นพรม เน้นหนักบริเวณที่หมาแมวชอบไปอยู่ รวมถึงบัวเชิงผนัง ทางเข้าประตู และใต้เฟอร์นิเจอร์
-
ทิ้งถุงเก็บฝุ่นไปเลย. แต่ห้ามทิ้งในบ้าน ต้องเอาถุงออกจากเครื่องดูดฝุ่น ซ้อนในถุงพลาสติกอีกที มัดปากให้แน่น แล้วเอาไปทิ้งถังขยะนอกบ้าน จะได้แน่ใจว่าหมัดจะไม่กลับมาในบ้านและตามพรมอีก
- ถ้าเครื่องดูดฝุ่นเป็นแบบ canister คือเป็นกระบอก ไม่มีถุงเก็บฝุ่น ก็ต้องเอาออกมาเทฝุ่นใส่ถุงพลาสติก มัดให้แน่น แล้วเอาไปทิ้งถังขยะนอกบ้าน
โฆษณา
-
สำรวจสัตว์เลี้ยงหาหมัด. ที่หมัดเดินตามพรมก็เพราะร่วงมาจากตัวสัตว์เลี้ยงนี่แหละ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดเลยเป็นการสำรวจตามตัวสัตว์เลี้ยง ว่ามีหมัดหรือเปล่า ถ้าหมาแมวเกาตัวเท้าเป็นระวิง ก็เป็นไปได้มากว่ามีหมัด
-
หมั่นแปรงขน. ให้ซื้อหวีซี่ถี่สำหรับสางหาหมัดโดยเฉพาะ มีขายตามร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงและตามคลินิกรักษาสัตว์ หวีสางหมัดนี้ซี่เล็กถี่มาก เลยสางหมัดจากขนสัตว์ได้ละเอียด แถมช่วยกำจัดขนที่ร่วงไม่ให้ฟุ้งกระจาย
- หาถ้วยใส่น้ำแล้วหยดน้ำยาล้างจานไป 2 - 3 หยด สางแล้วก็เอาหวีจุ่มน้ำให้หมัดจมน้ำตาย เป็นวิธีกำจัดหมัดที่สะดวกเวลาสางขนสัตว์เลี้ยง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง. หมัดจะจมน้ำตาย ส่วนน้ำยาล้างจานก็ฆ่าตัวอ่อนได้ ถ้าใช้สบู่สำหรับกำจัดหมัดโดยเฉพาะได้ยิ่งดี แต่วิธีนี้ใช้กับแมวไม่ค่อยได้ เพราะรู้กันอยู่ว่าแมวส่วนใหญ่เกลียดน้ำ ถูกจับอาบน้ำทีไรได้แผลทุกที แต่ถ้าจะอาบให้จริงๆ ก็ต้องใส่ถุงมือหนาๆ และเสื้อแขนยาว จะได้เจ็บน้อยหน่อย
-
ใช้ยากิน. พาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ เพื่อปรึกษาเรื่องใช้ยากินกำจัดหมัด คุณหมอจะจ่ายยา โดยแนะนำตัวยา (ของหมาหรือแมว) และปริมาณที่เหมาะสมให้ แต่ถ้าอยากซื้อให้หมาแมวกินเอง ก็ต้องอ่านฉลากให้ละเอียด ว่าสำหรับหมาหรือแมว อายุเท่าไหร่ และน้ำหนักเท่าไหร่ ห้ามละเลยเพราะสัตว์เลี้ยงอาจกินยาเกินขนาด อันตรายมาก
- อันนี้แล้วแต่ชนิดยา เพราะยากำจัดหมัดมีทั้งแบบกินและใช้ภายนอก ถ้าเป็นยาใช้ภายนอก ปกติจะหยดที่หลังคอสัตว์เลี้ยง ตรงกลางระหว่างกระดูกสะบัก ต้องอ่านวิธีใช้ที่ฉลากให้ละเอียด จะได้รู้ว่าควรให้ยาปริมาณเท่าไหร่
- สังเกตว่าใช้ยาแล้วสัตว์ไม่สบายตัวหรือเกิดอาการแพ้หรือเปล่า บางทีหมาหรือแมวก็แพ้ยากำจัดหมัดได้เหมือนกัน
- ห้ามใช้ยากำจัดหมัดสลับกันระหว่างหมากับแมว และต้องใช้ตามปริมาณที่แนะนำ ห้ามให้ยาเกินขนาด
-
ลองใช้ปลอกคอไล่หมัด. flea collar จะมีสารเคมีไว้ไล่หมัด เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบเปิด ปล่อยไปเดินเล่นนอกบ้าน เพราะถ้าหมัดไม่มาเกาะแต่แรก ก็จะไม่ตามเข้าบ้านมาจนลงหลักปักฐานที่พรม ลองใส่ปลอกคอให้หมาดู แล้วรัดกระชับโดยที่ยังสอดนิ้วเข้าไปได้ สุดท้ายตัดปลายส่วนเกินออก
-
อย่าใช้กระเทียมหรือยีสต์แบบ brewer's yeast. หลายคนชอบใส่กระเทียมหรือ brewer's yeast นิดหน่อยในอาหารหมา เพราะเชื่อว่าใช้ไล่หมัดได้ (ไม่มาป้วนเปี้ยนแถวพรม) แต่เขาวิจัยกันมาแล้ว ว่าทำแบบนั้นเสียเวลาเปล่า [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามให้แมวกินกระเทียมเด็ดขาด ใช้ได้เฉพาะกับหมา เพราะกระเทียมอันตรายต่อแมวมาก
-
ควบคุมประชากรหมัดด้วยน้ำมันหอมระเหย. คุณผสมสเปรย์ไล่หมัดเองได้ เอาไว้ฉีดตามพรม แค่เทน้ำใส่ขวดสเปรย์ แล้วหยดน้ำมันหอมระเหยลงไป 2 - 3 หยด จากนั้นเขย่าขวดให้เข้ากัน ฉีดพ่นตามพรมได้เลย เป็นสูตรที่ปลอดภัยทั้งกับหมาและเด็กๆ แต่ไม่ปลอดภัยกับแมวนี่สิ
- น้ำมันหอมระเหยที่ใช้ไล่หมัดได้ และไม่เป็นอันตรายต่อหมาก็เช่น มะกรูด (bergamot), ไม้สนซีดาร์ (cedar wood), ตะไคร้หอม (citronella), ยูคาลิปตัส (eucalyptus), เจอเรเนียม (geranium), ลาเวนเดอร์ (lavender), เลมอน (lemon), ตะไคร้ (lemongrass), เปปเปอร์มินต์ (peppermint), โรสแมรี่ (rosemary), ใบเสจ (sage) และส้มรสหวาน (sweet orange) [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้าม ใช้สเปรย์นี้กับแมว เพราะแมวแพ้น้ำมันหอมระเหยอย่างรุนแรง
-
ใช้สมุนไพร. มีพืชบางชนิดที่หมัดไม่ชอบกลิ่น ใช้ฆ่าหมัดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ป้องกันไม่ให้เข้าบ้าน ลองหาซื้อพืชไล่หมัดพวกนี้มาปลูกดู โดยเฉพาะในบ้าน พืชที่ว่าก็เช่น [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แคทนิป - ตลกดีว่าหมัดเกลียดเข้าไส้ แต่แมวเลิฟเป็นที่สุด!
- คาโมไมล์ - ทั้งสวยและหอมชื่นใจ แถมเอาดอกมาชงชาได้อีก
- ลาเวนเดอร์ - หอมสำหรับคน แต่เหม็นสำหรับหมัดจนไม่กล้าย่างกรายเข้าบ้านคุณ ปลูกแล้วออกดอกสีม่วงอมเทา สวยน่ามอง
- ตะไคร้ - นอกจากไล่หมัดแล้ว ยังใช้ทำอาหารได้อีกต่างหาก
- มินต์ - นอกจากไล่หมัดได้เห็นผลแล้ว ยังใช้ทำอาหารได้! จะแต่งรสอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้ทั้งนั้น
- โรสแมรี่ - เป็นสมุนไพรยอดนิยม นอกจากไล่หมัดแล้ว ยังใช้ปรุงอาหารได้สารพัดอย่าง
- เสจ - เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่ใช้ไล่หมัดและทำอาหารได้ในเวลาเดียวกัน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอยู่ในคอนโดห้องสตูดิโอ กิน นอน นั่งเล่นห้องเดียวจบ แล้วอยากใช้ดินเบา เกลือ ผงบอแรกซ์ หรือยาฆ่าแมลง ก็ต้องทำแค่ครึ่งห้องก่อน แล้ววันต่อมาค่อยจัดการครึ่งห้องที่เหลือ ไม่งั้นทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงจะทำอะไรไม่ได้เลย
โฆษณา
คำเตือน
- ห้ามปล่อยสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กไปเดินหรือนอนบนพรม ภายใน 2 - 3 วันหลังโรยหรือฉีดพ่นยากำจัดหมัด
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ University for California, How to Manage Pests
- ↑ Clemson University, Flea COntrol
- ↑ University for California, How to Manage Pests
- ↑ PetMD, 10 Ways to Stop Fleas from Biting Your Dog
- ↑ Flea Guide, Homemade Flea Killer
- ↑ Flea Guide, Homemade Flea Spray
- ↑ Flea Guide, Homemade Flea Spray
- ↑ Apartment Therapy, A Few Simple and (Mostly) Chemical-Free Tips for Getting Rid of Fleas
- ↑ Diatomaceous Earth.com, Natural Flea Control for Cats
- ↑ Apartment Therapy, A Few Simple and (Mostly) Chemical-Free Tips for Getting Rid of Fleas
- ↑ Vet Street, Will Garlic Keep Fleas Away?
- ↑ The Hippie Homemaker, DIY Natural Flea and Tick Spray
- ↑ Canidae, Garden Plants that Help Fight Fleas Naturally
โฆษณา