ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณมีมดลูก ประจำเดือนก็เป็นเรื่องปกติและเป็นธรรมชาติของชีวิต แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่เรื่อง "สนุก" เลย เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากให้ประจำเดือนมาน้อยวันให้มากที่สุด มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ โดยเฉลี่ยแล้วประจำเดือนจะมา 2-7 วันและไม่ได้เหมือนกันทุกครั้ง บางเดือนก็อาจจะมานานและมามากหน่อย [1] ในบทความนี้เราได้รวบรวมวิธีที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า สามารถลดระยะเวลาการมีประจำเดือนและทำให้ประจำเดือนมาน้อยลงได้จริง

1

รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน. แม้จะไม่ตรงกับความเชื่อทั่วไป แต่คุณสามารถรับประทานยาคุมกำเนิดได้แม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ หลายคนรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อให้ประจำเดือนมาสั้นลงและลดอาการปวด หลังจากตรวจร่างกายแพทย์จะแนะนำยาคุมกำเนิดที่เหมาะกับสุขภาพและเหตุผลในการรับประทานมากที่สุด [2]
    • ยาคุมกำเนิดบางชนิดสามารถทำให้ประจำเดือนหายไปได้เลย ยาคุมกำเนิดหลายชนิดจะมีตัวยาฮอร์โมน 21 เม็ดและเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ประจำเดือนมาเลย คุณก็สามารถเลือกชนิดที่มีแต่ตัวยาฮอร์โมนอย่างเดียวก็ได้ [3]
    • ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นและกังวลว่าพ่อแม่จะไม่เข้าใจเหตุผลที่คุณรับประทานยาคุมกำเนิด ให้ไปพบแพทย์พร้อมพ่อแม่ [4]
    โฆษณา
2

ดื่มชาสมุนไพร 1-2 แก้วเพื่อให้ประจำเดือนมาน้อยลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ชาใบราสป์เบอร์รี ขิง และดอกยาร์โรว์ช่วยลดระยะเวลาในการมีประจำเดือนได้. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ดื่มชาร้อนวันละ 1-2 แก้วทุกวัน โดยเริ่มดื่ม 2-3 วันก่อนมีประจำเดือน ชาเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนและเพิ่มการไหลเวียนเลือด แม้จะยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันแน่ชัดว่าชาเหล่านี้ช่วยให้ประจำเดือนมาน้อยลงได้ แต่ถ้าคุณชอบรสชาติ จะลองดูก็ไม่เสียหาย [5]
3

กดจุดเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนทันที

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกดจุดตรงน่องช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ทันที. ในการหาจุดที่จะกดนั้น ให้เริ่มจากส่วนที่เป็นกระดูกตรงกระดูกข้อเท้าด้านใน ทาบนิ้ว 4 นิ้วเหนือกระดูกข้อเท้าในแนวนอน (ประมาณ 3 นิ้วเหนือกระดูกข้อเท้า) แถวบริเวณนั้นให้หาจุดที่กดแล้วเจ็บตรงด้านหลังของกระดูกข้อเท้า ใช้นิ้ว 1 นิ้วกดลงไปแน่นๆ และออกแรงสม่ำเสมอจนกว่าอาการปวดจะหายไป [7]
    • การกดจุดซานอินเจียว (SP6) ผ่านการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่าสามารถลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้จริง ลองทำวิธีนี้วันละสองครั้งในช่วงที่เป็นประจำเดือน 1-3 วันแรกหรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ปวดท้อง [8]
    โฆษณา
4

ประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วางแผ่นให้ความร้อนหรือขวดน้ำร้อนลงบนท้องเพื่อลดอาการปวด. [9] ความร้อนช่วยสองเรื่องหลักๆ อย่างแรกคือลดความตึงของกล้ามเนื้อหน้าท้องซึ่งช่วยบรรเทาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ อย่างที่สองคือช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดซึ่งทำให้อาการบวม (และปวด) ที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาทหายไป [10]
    • เพื่อให้ได้ประโยชน์จากความร้อนสูงสุด แผ่นให้ความร้อนหรือขวดน้ำร้อนต้องมีอุณหภูมิอยู่ที่ 40-45 องศาเซลเซียส
5

ถึงจุดสุดยอดเพื่อให้ประจำเดือนหมดเร็ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การถึงจุดสุดยอดอาจช่วยให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาเร็วขึ้น. เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการวิจัยมากนัก แต่การถึงจุดสุดยอดจะทำให้มดลูกหดตัว ถ้าคุณถึงจุดสุดยอดระหว่างมีประจำเดือน การหดตัวของมดลูกจะช่วยขับเลือดประจำเดือนและเนื้อเยื่อออกมา [11]
    • แต่ถ้าคุณรู้สึกแหยงกับความเลอะเทอะ ให้มีเซ็กส์หรือช่วยตัวเองใต้ฝักบัวแทน
    • แต่จำไว้อย่างนึงว่าคุณสามารถตั้งครรภ์ในระหว่างมีประจำเดือนได้ (แม้ว่าโอกาสจะน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ ในรอบเดือน) แม้จะไม่ตรงกับความเชื่อทั่วไป แต่ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์แบบที่องคชาตสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด คุณต้องใช้ถุงยางอนามัยหากไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดอยู่แล้ว
    โฆษณา
6

รับประทานน้ำเชื่อมผลเมอร์เทิลเพื่อให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำเชื่อมชนิดนี้เป็นยาพื้นบ้านของชาวอิหร่านสมัยโบราณที่ช่วยให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้น และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เองก็ยืนยันว่าได้ผล วิธีการคือให้รับประทานน้ำเชื่อมปริมาณ 15 มิลลิลิตรวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 7 วันโดยเริ่มจากวันที่ประจำเดือนมาวันแรก [12]
    • งานวิจัยพบว่าการรับประทานน้ำเชื่อมด้วยวิธีนี้สามารถทำให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้นได้อย่างน้อย 2 วัน
    • แม้ว่าการรักษาด้วยวิธีนี้จะมีมาหลายร้อยปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาในเรื่องของผลข้างเคียงหรือความปลอดภัยสำหรับการใช้ในระยะยาว เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังและคอยสังเกตผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิดระหว่างที่รับประทาน
7

เปลี่ยนมาใช้ถ้วยอนามัยเผื่อว่าประจำเดือนจะหมดเร็วขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนอ้างว่าการใช้ถ้วยอนามัยทำให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้น. คุณสามารถหาซื้อถ้วยอนามัยได้ทางออนไลน์หรือร้านขายผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสตรี แค่บีบถ้วยอนามัยและสอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วมันก็จะเด้งออกเพื่อรองรับเลือดประจำเดือน อ่านวิธีใช้ที่มาพร้อมถ้วยอนามัยเพื่อดูว่ามันรองรับได้นานแค่ไหน และดึงออกเหนือชักโครกเพื่อไม่ให้เลอะเทอะมากนัก [13]
    • ยังไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่มายืนยันวิธีนี้มากนัก แต่ถ้าคุณใส่ถ้วยอนามัยได้ไม่มีปัญหา ก็น่าลองอยู่นะ!
    • ถ้าคุณกังวลว่ามันจะหยดออกมา ก็ให้ใส่แผ่นอนามัยหรือ "กางเกงในอนามัย" ไว้ด้วย เพราะมันจะซับเลือดไม่ให้ไหลซึมเสื้อผ้าได้อย่างสะดวก [14]
    โฆษณา
8

รับประทานไอบูโพรเฟนเพื่อให้ประจำเดือนมาน้อยลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไอบูโพรเฟนช่วยบรรเทาอาการปวดและลดปริมาณเลือดที่เสียไป. เริ่มรับประทานไอบูโพรเฟนตามปริมาณที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ในวันแรกที่ประจำเดือนมาและรับประทานต่อไปอีก 2-3 วัน อย่ารับประทานเกินกว่าที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ ยกเว้นว่าคุณจะปรึกษาแพทย์ก่อนและแพทย์สั่งตามนั้น [15]
    • ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปได้แก่ ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว และง่วงซึม ถ้าคุณมีผลข้างเคียงเหล่านี้ คุณก็อาจจะไม่รับประทานต่อ แต่ถึงอย่างนั้นโดยทั่วไปแล้วยาตัวนี้สามารถรับประทานทุกครั้งที่มีประจำเดือนได้อย่างปลอดภัย
    • อย่ารับประทานยาที่มีอะซีติลซาลิไซลิค (เช่น แอสไพริน) เพราะมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและจะทำให้คุณเสียเลือดในช่วงมีประจำเดือนมากขึ้น
9

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ออกกำลังกายวันละ 20-30 นาทีเพื่อให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น. จากการศึกษาพบว่า การออกกำลังกายแบบหนักปานกลางสามารถลดอาการปวดท้องประจำเดือนทั้งก่อนและระหว่างมีประจำเดือนได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยให้ประจำเดือนมาน้อยลงและหมดเร็วขึ้นด้วย แค่ระวังอย่าให้มันหายไปเลย เพราะบางครั้งมันก็อาจเกิดขึ้นได้เวลาที่นักกีฬาฝึกซ้อมอย่างหนัก จริงๆ แล้วการที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอนั้นเป็นสัญญาณของการมีสุขภาพที่ดี เพราะถ้ามันหายไปเลย แสดงว่าร่างกายอาจไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น [16]
    • เลือกกิจกรรมที่คุณชอบเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นภาระ ตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงแทนที่จะไปให้ความสำคัญกับรูปร่าง เพราะระยะเวลาที่ประจำเดือนมานั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวมมากกว่าน้ำหนัก
    โฆษณา
10

ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การดื่มน้ำให้เพียงพอคือยาแก้ปวดตามธรรมชาติของร่างกาย เพราะนอกจากจะลดอาการปวดแล้ว การดื่มน้ำมากๆ ยังอาจช่วยให้ประจำเดือนหมดเร็วขึ้นได้ด้วย [17]
11

รับประทานน้ำตาลให้น้อยลงเพื่อบรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำตาลทำให้เกิดการอักเสบและอาจทำให้กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนแย่ลง. ถ้าคุณมักจะอ่อนเพลียและหงุดหงิดง่ายในช่วงมีประจำเดือน ภาวะอินซูลินในเลือดกระฉูดจากน้ำตาล (ตามด้วยอาการอ่อนเพลีย) อาจยิ่งทำให้อาการเหล่านี้รุนแรงขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงเพราะอาจทำให้สัดส่วนระหว่างเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนในร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็จะทำให้อารมณ์แปรปรวนหรือถึงขั้นนอนไม่หลับ [18]
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลีกเลี่ยงน้ำตาลในมื้อเช้า เพราะการบริโภคน้ำตาลตั้งแต่ช่วงแรกของวันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน
    • รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่วฝักเพื่อให้อิ่มท้องและลดความอยากอาหาร
    โฆษณา
12

นอนหลับพักผ่อนมากๆ เพื่อไม่ให้อารมณ์แปรปรวน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเรื่องปกติที่จะนอนไม่หลับในช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือน. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรวดเร็วก่อนที่ประจำเดือนจะมาอาจทำให้คุณหลับยากขึ้นเพราะสมองเข้าสู่ช่วงการนอนที่ไม่ปกติ แต่โชคดีที่คุณสามารถหลับสบายในช่วงมีประจำเดือนได้ด้วยการปรับเปลี่ยนกิจวัตรเพียงเล็กน้อย [19] งดคาเฟอีนช่วงบ่าย ปิดอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนนอน 1 ชั่วโมง และฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ หรือทำสมาธิ [20]
    • ก่อนประจำเดือนมา : ออกกำลังกายตามปกติ จำกัดการนอนกลางวัน และเขียนระบายเรื่องเครียดๆ ออกมาก่อนนอน
    • ระหว่างมีประจำเดือน : ใช้ผ้าอนามัยสำหรับกลางคืนหรือผ้ารองกันเปื้อนเพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มอาการท็อกซิกช็อกหรือว่าเลือดจะเปื้อนผ้าปูที่นอน [21]
13

ใส่ห่วงคุมกำเนิดเพื่อให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ห่วงอนามัยชนิดเคลือบฮอร์โมนโพรเจสตินช่วยให้เลือดประจำเดือนน้อยลง. แพทย์จะฝังอุปกรณ์นี้เข้าไปในมดลูก ห่วงคุมกำเนิดอยู่ได้นานสูงสุดถึง 5 ปีและในระหว่างนั้นประจำเดือนก็จะมาน้อยลงเรื่อยๆ [22]
    • ถ้าปกติประจำเดือนของคุณก็มาค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เมื่อใส่ห่วงคุมกำเนิดประจำเดือนก็อาจจะหายไปเลย
    • ผลข้างเคียงของห่วงคุมกำเนิดที่พบบ่อยได้แก่ สิว เลือดออกกระปริดกระปรอย อารมณ์แปรปรวน และอาการกดเจ็บที่หน้าอก และบางครั้งอาจทำให้เกิดถุงน้ำชนิดดีในรังไข่ แต่ไม่เป็นอันตรายและมักจะหายไปเองภายใน 1 ปี
    • ปรึกษาแพทย์หากคุณต้องการใส่ห่วงคุมกำเนิด ผลข้างเคียงร้ายแรงหรืออาการแทรกซ้อนนั้นพบได้ยากมาก แต่คุณอาจไม่สามารถใส่ห่วงคุมกำเนิดได้หากคุณเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อุ้งเชิงกรานติดเชื้อ มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งมดลูก [23]
    โฆษณา
14

ฉีดยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโพรเจสตินเพื่อให้ประจำเดือนมาน้อยลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Depo-Provera เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีดที่คุณสามารถฉีดได้ทุก 3 เดือน. ประกอบด้วยฮอร์โมนโพรเจสตินที่ป้องกันไม่ให้มีการปล่อยไข่ออกจากรังไข่ ซึ่งมักช่วยลดอาการปวดท้องและเลือดประจำเดือน และอาจทำให้ประจำเดือนหายไปเลยในบางคน [24]
    • แต่ Depo-Provera ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะอาจลดความหนาแน่นของกระดูกและไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า โรคกระดูกพรุน และอื่นๆ
15

ฝังยาคุมกำเนิด (Nexplanon) เพื่อไม่ให้มีประจำเดือน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แพทย์จะฝังแท่งพลาสติกแท่งเล็กๆ เข้าไปเพื่อปล่อยฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนและป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 3 ปี คนที่ฝังยาคุมกำเนิดบางคนอาจจะประจำเดือนมาไม่ปกติและมีเลือดออกกระปริดกระปรอย แต่บางคนประจำเดือนก็จะหายไปเลย [25]
    • การฝังยาคุมกำเนิดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีและความรู้สึกไม่ต่างจากการฉีดยา
    • คุณสามารถให้แพทย์หรือพยาบาลถอดยาฝังคุมกำเนิดได้ทุกเมื่อ
    โฆษณา

คำเตือน

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 241,244 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา