ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ฟันของคนเรานั้นจะขาวน้อยลงไปตามเวลา เพราะโครงสร้างแร่ธาตุของฟันนั้นเปลี่ยนไป และสารเคลือบฟันที่เริ่มสึกกร่อนด้วยนั่นเอง ฟันนั้นเปลี่ยนสีไปได้หากผ่านควันจากการสูบบุหรี่ การดื่มกาแฟ ไวน์แดง หรือแม้กระทั่งฟลูออไรด์จากน้ำก๊อก ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองในเรื่องฟันแล้วล่ะก็ สามารถเลือกวิธีมากมายตามนี้ ทั้งการใช้ยาสีฟันสูตรทำให้ฟันขาวขึ้น ชุดฟอกสีฟัน แผ่นฟอกฟันขาว และปากกาฟอกฟันขาว ถ้าหากวิธีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ฟันคุณขาวขึ้นเลย ก็สามารถเลือกที่จะไปหาทันตแพทย์ได้เช่นกัน
ขั้นตอน
-
ใช้ยาสีฟันสูตรฟันขาวซะ ถ้าหากคุณไม่มีงบมากพอ. ยาสีฟันสูตรนี้มักมีราคาไม่ถึง 350 บาทอยู่แล้ว และยังหาได้ตามร้านขายยาหรือร้านขายของทั่วไปใกล้บ้าน
-
ตรวจสอบด้วยว่ามีตรารับประกันของสมาคมทันตแพทย์อเมริกัน (ADA) อยู่ด้วยหรือไม่. ตรารับประกันของ ADA นั้นจะรับรองว่ายาสีฟันสูตรฟันขาวนั้นๆ มีอนุภาคที่มีฤทธิ์กัดกร่อนคราบสกปรกบนฟันและยังสามารถเคลือบฟันได้อีกด้วย งานวิจัยนั้นพิสูจน์ได้ว่าสารในยาสีฟันไม่มีฤทธิ์พอที่จะทำลายสารเคลือบฟันได้ไปมากกว่ายาสีฟันสูตรธรรมดาเลย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
มองหาว่ามีส่วนผสมที่เรียกว่าบลูโควารีน (Blue Covarine) อยู่ด้วยหรือไม่. บลูโควารีนนั้นจะเกาะอยู่กับผิวฟันของคุณและทำให้ฟันดูเหลืองน้อยลง
-
แปรงฟันสองครั้งต่อวัน. แล้วคุณจะเห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์หลังจากนั้น ถ้าต้องการผลที่ดีขึ้น ให้ใช้คู่กับน้ำยาบ้วนปากสูตรฟันขาวควบคู่ไปด้วย [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูลโฆษณา
-
เลือกชุดฟอกสีฟันตามเงินในกระเป๋าของคุณ.
- คุณสามารถเลือกซื้อชุดฟอกสีฟันได้ในราคา 700-1800 บาทตามร้านขายยาหรือร้านขายของทั่วไป ซึ่งชุดหนึ่งจะประกอบไปด้วยยางครอบฟันที่สามารถใส่เข้ากับฟันของคุณได้
- สำหรับชุดฟอกสีฟันที่ซื้อมาจากทันตแพทย์อาจมีราคาสูงถึง 10,000 บาท เพราะทันตแพทย์จะหล่อยางครอบฟันใหม่ให้เข้ากับรูปฟันคุณทุกประการ
-
แปรงฟันและขัดฟันให้ดี. และอย่าลืมตรวจสอบดูด้วยว่ายางที่เอาไว้ครอบฟันนั้นไม่มีน้ำเกาะอยู่
-
บีบเจลเปอร์ออกไซด์หยดเท่าน้ำตาลงในยางครอบฟัน. เจลส่วนที่บีบเกินออกมาอาจไหลเข้าปากและสร้างความระคายเคืองให้กับท้องของคุณได้ถ้ากลืนมันลงไป
-
ใส่ยางครอบฟัน. ถ้าเจลไหลเกินออกมาเปื้อนเหงือก ให้ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดออก
-
5ใส่ยางครอบฟันให้เหมาะสมกับเจลที่คุณใช้
- สำหรับเจลคาร์บาไมด์ เปอร์ออกไซด์:
- เจล 10, 15 หรือ 16 เปอร์เซนต์ ให้ใส่ยางครอบฟันประมาณ 2-4 ชั่วโมง 2 ครั้งต่อวัน ถ้าหากไม่รู้สึกระคายเคืองอะไร ใส่ข้ามคืนไปเลยก็ได้
- เจล 20 ถึง 22 เปอร์เซนต์ ให้ใส่ยางครอบฟันประมาณ 30 นาที- 1 ชั่วโมง 2 ครั้งต่อวัน อย่าทิ้งให้เจลคาร์บาไมด์เข้มข้นผ่านข้ามคืนไปเด็ดขาด
- สำหรับเจลไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ใส่ยางครอบฟันประมาณ 30 นาที- 1 ชั่วโมง 2 ครั้งต่อวัน
- สำหรับเจลคาร์บาไมด์ เปอร์ออกไซด์:
-
ถอดยางครอบฟันออกแล้วแปรงฟันอีกครั้ง. ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการเสียวฟันหรือระคายเคือง ให้ใช้ยาสีฟันสูตรที่ลดอาการเสียวฟันหรือใช้เจลที่ไม่เข้มข้นมาก
-
ทำความสะอาดยางครอบฟันด้วยการใช้สำลีซับและล้างน้ำเย็น. เก็บเอาไว้ในที่แขวนยางครอบฟันและปล่อยให้แห้ง แล้วเก็บเจลไว้ในที่แห้งและเย็น
-
รอดูผล. จะเห็นได้ว่าฟันจะขาวขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์โฆษณา
-
แปรงฟันและขัดฟันให้ดี. การขัดฟันจะทำให้บริเวณซอกฟันของคุณขาวสะอาดขึ้น
-
นำแผ่นฟอกฟันขาวออกมาจากห่อ. ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1300 บาท หาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป
- แผ่นฟอกฟันขาวนั้น ทำขึ้นมาจากโพลีเอทิลีน (PE) และเจลเปอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติสามารถติดพลาสติกได้
- จะเห็นได้ว่ามีแผ่นฟอกฟันขาว 2 อัน อันหนึ่งไว้ติดแนวฟันบน อีกอันไว้ติดฟันล่าง
-
ตรวจสอบส่วนผสมอีกครั้ง. พยายามหลีกเลี่ยงแผ่นฟอกฟันขาวที่มีส่วนผสมของคลอรีนไดออกไซด์ เพราะสารเคมีชนิดนี้เอาไว้ใช้ฆ่าเชื้อสำหรับน้ำในสระว่ายน้ำที่จะไปกัดกร่อนสารเคลือบฟันของคุณได้
-
ติดแผ่นฟอกไว้กับฟันของคุณ. ทำตามคำแนะนำในบรรจุภัณฑ์ แผ่นฟอกฟันส่วนใหญ่นั้นจะใช้นาน 30 นาที 2 ครั้งต่อวัน แผ่นฟอกฟันบางชนิดเมื่อโดนน้ำลายก็จะละลายหายไปเอง บางชนิดก็สามารถดึงออกและนำไปทิ้งได้
-
บ้วนปากเพื่อล้างเจลที่ติดอยู่ออก
-
โฆษณา
-
แปรงฟันและขัดฟันของคุณให้สะอาด. อย่าลืมซื้อปากกาฟอกฟันขาวจากร้านขายยามาด้วยล่ะ ราคาก็จะตกอยู่ที่ 700-1000 บาทโดยประมาณ
-
เปิดปลอกปากกาออก. หมุนวนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อให้เจลบางส่วนออกมา
-
ยืนอยู่หน้ากระจกแล้วยิ้มให้กว้างๆ. ใช้ปากกาฟอกฟันขาวระบายเจลไปบนฟันของคุณ
-
อ้าปากค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีให้เจลแข็งตัว. หลังจากนั้นก็อย่าเพิ่งกินหรือดื่มอะไรทั้งสิ้นเป็นเวลา 30-45 นาที
-
ทำซ้ำแบบนี้ 3 ครั้งต่อวัน. แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงใน 2-4 สัปดาห์ แม้ปากกาฟอกฟันขาวจะไม่ให้ผลใดๆ บริเวณระหว่างซอกฟันก็ตาม แต่มันก็ช่วยกำจัดแบคทีเรียในช่องปากและทำให้ลมหายใจคุณสดชื่นได้โฆษณา
-
ฟอกฟันโดยผู้เชี่ยวชาญ. ทันตแพทย์จะใส่ที่ครอบฟันยางให้เพื่อป้องกันไม่ให้เจลเปื้อนโดนเหงือกและเกิดอาการระคายเคือง แล้วทันตแพทย์ก็จะนำเจลเปอร์ออกไซด์หยอดใส่ลงในยางครอบที่หล่อขึ้นมาจากรูปฟันของคุณ ก่อนที่จะใส่ยางครอบฟันให้คุณ
-
ฟันขาวด้วยเลเซอร์. ทันตแพทย์จะใส่ที่ยางครอบเหงือกให้ แล้วป้ายเจลฟอกฟันขาวบนฟันของคุณ ก่อนจะฉายเลเซอร์ฟอกฟันให้ แสงเลเซอร์จะไปทำปฏิกิริยากับเจลทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการฟอกสีฟันธรรมดา
-
กลับไปทำที่บ้าน. ทันตแพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวเองที่บ้าน ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ทุกประการเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด การฟอกฟันให้ขาวนั้นใช้เงินอยู่ไม่น้อย แต่มีผลมากถึง 3 ปีเลยทีเดียว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปลี่ยนแปลงนิสัยการกินและการใช้ชีวิต. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ชาดำ น้ำองุ่น ไวนด์แดง หรือดูดเครื่องดื่มเหล่านี้จากหลอดก็ตาม แกงกะหรี่ก็ทำให้เกิดคราบสกปรกบนฟันได้ ฉะนั้นให้กินอย่างระมัดระวัง
-
แปรงฟันหลังทุกมื้ออาหาร. และแปรงฟันหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่จะทำให้ฟันคุณไม่ขาวด้วยเช่นกัน ด้วยการใช้ยาสีฟันสูตรฟันขาวและน้ำยาบ้วนปากสูตรทำให้ฟันขาวร่วมด้วย
-
ให้ผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดฟันให้ทุกๆ 6 เดือน. การทำความสะอาดด้วยวิธีที่เชี่ยวชาญจะช่วยให้ฟันของคุณคงความขาวเอาไว้ได้ และยังป้องกันการเกิดปัญหาในช่องปากอื่นๆ ได้อีกด้วยโฆษณา
เคล็ดลับ
- ห้ามใช้น้ำเลมอนทำความสะอาดฟันเด็ดขาด เพราะมันจะไปทำลายสารเคลือบฟันของคุณได้
- ใช้เบกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วป้ายลงยาสีฟัน มันจะทำลายแบคทีเรียและคราบสกปรกที่ติดอยู่บนฟันได้
- ต้องอดทนใจเย็น มันอาจต้องใช้เวลา แต่ก็คุ้มค่านะ!
- อย่ากินอาหารที่มีกรดเยอะ เพราะมันจะกัดกร่อนสารเคลือบฟันของคุณได้
- สารฟอกฟันขาวจะไม่เปลี่ยนสีของยางครอบฟันหรือพลาสติกอย่างแน่นอน
- เปอร์ออกไซด์อาจทำให้แผลในปากเปิดหรือทำให้เจ็บได้ แม้มันจะรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ
- ถ้าความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นทำให้คุณรู้สึกกลัว ไม่ต้องไปทำมัน! ถึงฟันจะขาวแต่ก็ไม่คุ้มกับความกังวลที่ได้รับหรอก
- ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนจะทำการใดๆ บางทีส่วนผสมบางประการในการฟอกฟันขาวอาจไปกัดกร่อนสารเคลือบฟันของคุณได้
- หากเก็บเจลเปอร์ออกไซด์ไว้ในชั้นวางของธรรมดา มันจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นก็จะมีอายุนานกว่านั้น
- ตามเว็บไซต์ที่คุณชอบเข้าไปดูบ่อยๆ อาจมีผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวลงขายอยู่ ต้องชั่งน้ำหนักราคาดูว่าระหว่างไปซื้อที่ร้านกับซื้อผ่านออนไลน์ แบบไหนจะดีกว่ากัน
- แปรงฟันอย่างน้อยสองครั้งต่อวัน เลี่ยงการใช้ยาสีฟันมากเกินไป เพราะมันอาจไปลดสารเคลือบฟันของคุณได้ จะใช้กิ่งสะเดาหรือสมุนไพรอื่นๆ ที่ช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นร่วมด้วยก็ได้ ใช้ทุกวันเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ถ้าคุณตั้งใจจะฟอกฟันเองที่บ้าน จำไว้ว่าใช้แค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณของเจลเปอร์ออกไซด์ที่ใช้ด้วย (น้ำมะนาว และอื่นๆ) เข้มข้นจนสามารถทำให้เหงือกและฟันของคุณระคายเคืองได้ถ้าใช้หลายครั้งเกินไป
- ต้องให้แน่ใจว่าใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรทำให้ฟันขาวขึ้นหลังแปรงฟันด้วย แต่ต้องบ้วนก่อนใช้ไหมขัดฟันนะ
- ขณะที่แปรงฟันอยู่ โปรยละอองหยดน้ำเลมอนใส่แปรงสีฟันเล็กน้อยก็ได้
- การกินแอปเปิลก็ช่วยทำให้ฟันของคุณสะอาดได้เช่นกัน
- การแปรงฟันมากเกินไปทำให้เกิดปัญหาพอๆ กับที่แปรงฟันน้อยเกินไป ฉะนั้นอย่าแปรงฟันมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน เพราะอาจเกิดเลือดออกที่เหงือกได้ และจะทำลายสารเคลือบฟันของคุณนั่นเอง ให้แปรงแค่หลังมื้ออาหารทุกมื้อก็พอ
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าเหงือกของคุณบวมหรือรู้สึกเจ็บหลังจากทำการฟอกฟันขาวแล้ว ให้หยุดโดยทันที และถึงแม้จะจำกัดความถี่ในการฟอกฟันเองที่บ้านแล้วก็ยังรู้สึกระคายเคืองอยู่ ให้หยุดใช้และปรึกษาทันตแพทย์ทันที โดยสามารถใช้ปิโตรเลียมเจลทาบนเหงือกเพื่อป้องกันอาการระคายเคืองจากเจลเปอร์ออกไซด์ได้
- ให้ทันตแพทย์ช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาในการฟอกฟันขาวเสมอ และอย่าทำมันมากเกินไป "อาการเสพติดการฟอกฟัน" จะทำให้เนื้อฟันโปร่งและขอบฟันอาจเป็นสีน้ำเงินได้ โดยจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม
- หลายๆ คนเลือกการรักษาฟอกฟันขาวสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟัน โดยแปรงฟันด้วยยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟันหรือใช้การรักษาฟอกฟันขาวให้ถี่น้อยลง และใช้ระยะเวลาให้น้อยลงเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการแปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดา (โซเดียมไบคาร์บอเนต) โดยใช้วิธีเดียวกับการฟอกฟันขาวอย่างเด็ดขาด เบกกิ้งโซดาจะทำลายสารเคลือบฟันและฟันของคุณพอๆ กับที่ทำลายแบคทีเรียเลยล่ะ
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ยาสีฟันสูตรฟันขาว
- น้ำยาบ้วนปากสูตรฟันขาว
- ไหมขัดฟัน
- ยางครอบฟันและเจลเปอร์ออกไซด์
- ยาสีฟันสำหรับผู้มีอาการเสียวฟัน
- แผ่นฟอกฟันขาว
- ปากกาฟอกฟันขาว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.webmd.com/oral-health/guide/weighing-your-toothpaste-options?page=2
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/expert-answers/whitening-toothpaste/faq-20058411
- ↑ http://www.humanaonedental.com/dental-health-articles/whitening-strips.asp
- ↑ http://www.dentalhealth.org/tell-me-about/topic/routine-treatment/tooth-whitening
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,382 ครั้ง
โฆษณา