ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หากพรมของคุณมีกลิ่นแปลกๆ จากเศษอาหารที่หกใส่ กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นจากการเดินย่ำไปมานับปีๆ เบกกิ้งโซดาอาจเป็นทางออกที่ได้ผล การใช้สารเคมีรุนแรงขจัดคราบและกลิ่นนั้นไม่ดีต่อสภาพแวดล้อม และอาจทำให้ดวงตากับระบบการหายใจเกิดระคายเคืองขึ้นได้ เบกกิ้งโซดานั้นมีราคาถูก ใช้ง่าย และยังปลอดภัยต่อทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยงด้วย
ขั้นตอน
-
ดูดฝุ่นพรมของคุณก่อน. (ถ้าเบกกิ้งโซดาผสมฝุ่นสกปรกจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ) คุณต้องให้พรมสะอาดเท่าที่จะเป็นไปได้ การดูดฝุ่นพรมจะดูดอนุภาคสิ่งสกปรกชิ้นใหญ่หรือเศษใยพรมที่หลุดออกมา พื้นรองเท้านั้นมักมีน้ำมันกับคราบสกปรกติดอยู่และการเหยียบย่ำบนผืนพรมเป็นประจำก็เหมือนการบดพื้นพรมให้ฝุ่นสกปรกยิ่งติดลึกลงไปในผืนพรม
-
พอพรมสะอาดพอแล้ว บอกทุกคนในครอบครัวให้ทราบว่าคุณกำลังจะทำความสะอาดพรมและห้ามไม่ให้พวกเขาเหยียบบนพรมในระหว่างการฟื้นฟูสภาพพรมด้วยเบกกิ้งโซดา -
หากพรมวางอยู่ในบริเวณที่มีการเดินผ่านเข้าออกบ่อย คุณอาจต้องฟื้นฟูสภาพพรมทีละส่วน
-
โรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วบริเวณที่คุณอยากฟื้นฟูสภาพได้ตามใจชอบ. วางแผนที่จะใช้เบกกิ้งโซดาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองกล่อง คุณต้องการจะโรยมันให้ทั่วทั้งผืนพรมจนบอกไม่ได้ว่าพรมสีอะไร เนื่องจากเบกกิ้งโซดานั้นไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง จึงโรยได้ชนิดไม่ต้องเกรงใจ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เนื่องจากเบกกิ้งโซดามักจะชอบจับเป็นก้อน ถ้าย้ายมันไปใส่ในถังที่เขย่าได้ก่อนใช้อาจจะช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น. มันช่วยให้คุณโรยเบกกิ้งโซดาได้สม่ำเสมอทั่วพื้นที่
-
ใช้เบกกิ้งโซดาใหม่แทนที่จะเป็นของเก่าที่เปิดคาไว้แล้วแช่อยู่ในตู้เย็น. ของใหม่แกะกล่องจะช่วยดูดซับกลิ่นด้วย
-
ถูมันกับพรม. ใช้แปรงหรือฟองน้ำแห้งถูเบกกิ้งโซดาให้แทรกลึกลงไปในเส้นใยของผืนพรม จนมันลงไปถึงก้นพรม นี่ยิ่งจำเป็นหากพรมของคุณเป็นแบบขนยาว ต้องมั่นใจว่าทุกส่วนนั้นถูกปกคลุมด้วยเบกกิ้งโซดา
-
หากคุณกังวลว่ามันจะทำให้ผิวหน้าของพรมเสียหาย ใช้ถุงเท้าหรือเสื้อยืดเก่าๆ มาใช้ถูพรมแทนที่แปรงก็ได้
-
ถึงจุดนี้ ทางที่ดีอย่าเดินบนพรมจนกว่าจะเสร็จงาน.
-
ทิ้งให้เบกกิ้งโซดาได้ซึมลงไปสักหลายชั่วโมงหรือข้ามคืน. ถ้าสามารถปล่อยไว้นานถึง 24 ชั่วโมงได้ยิ่งดี ยิ่งทิ้งมันไว้นานผลที่ได้ยิ่งดี เบกกิ้งโซดาจะดูดซับกลิ่นให้หายไปโดยธรรมชาติมากกว่าจะกลบกลิ่นนั้น
-
ระหว่างช่วงเวลานี้ พยายามเลี่ยงการเหยียบพรม เพื่อที่เบกกิ้งโซดาจะไม่ติดรองเท้ากระจายไปทั่วบ้าน.
-
หากคุณเห็นจุดที่พรมไม่มีเบกกิ้งโซดา ให้เติมมันลงไป. มันจะไม่ได้ผลจนกว่ามันจะโดนบริเวณที่พรมมีกลิ่น
-
ดูดฝุ่นเบกกิ้งโซดาออก. ค่อยๆ ทำ เพราะการใช้เบกกิ้งโซดามากขนาดนั้นก็ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะกำจัดได้หมด คุณต้องทำไปทีละส่วนหลายๆ ครั้งจนกว่าจะเสร็จ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ตราบเท่าที่มันไม่เปียก เบกกิ้งโซดาก็ควรจะถูกดูดขึ้นมาโดยง่ายโฆษณา
-
ลองดมพรมดูหลังจากฟื้นฟูด้วยเบกกิ้งโซดายกแรก. กลิ่นเหม็นนั้นจางลงหรือยัง การฟื้นสภาพรอบเดียวก็น่าจะกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ส่วนมากได้หมดแล้ว แต่ถ้ามันมีกลิ่นแรงมาก คุณอาจต้องทำซ้ำ จำไว้ว่ายิ่งปล่อยเบกกิ้งโซดาบนพรมนานขึ้นมันก็จะได้ผลดีขึ้น
-
ลองพิจารณาการลงแชมพูซักพรมก่อนฟื้นฟูสภาพ. ถ้าพรมนั้นสกปรกมาก เบกกิ้งโซดาอย่างเดียวอาจไม่พอกำจัดกลิ่น คุณอาจต้องทำความสะอาดให้ล้ำลึกขึ้นและใช้แชมพูซักพรมเตรียมไว้ให้เบกกิ้งโซดาก่อน นี่จะช่วยเพิ่มโอกาสที่การฟื้นฟูสภาพจะได้ผล
-
แทนที่จะใช้แชมพูซักพรมทั่วไป ลองใช้น้ำส้มสายชูกลั่นกับน้ำผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กัน.
-
ถ้าคุณจะซักพรม รอจนมันแห้งสนิทถึงค่อยใช้เบกกิ้งโซดา.
-
ลองพิจารณาการแต่งกลิ่นเบกกิ้งโซดาเพื่อช่วยกลบกลิ่นพรม. สำหรับพรมที่กลิ่นเหม็นที่สุด คุณอาจต้องเติมกลิ่นสดชื่นมาช่วยกลบกลิ่นเก่า ในการแต่งกลิ่นเบกกิ้งโซดานั้น ให้เทมันลงในถ้วยใบใหญ่ เติมน้ำมันสกัดสักห้าถึงสิบหยด ใช้ไม้ตีไข่คนกลิ่นให้กลืนไปกับเบกกิ้งโซดา ใช้ช้อนตักเบกกิ้งโซดาลงไปในขวดเขย่า แล้วฟื้นสภาพพรมโดยตรง กลิ่นสดชื่นต่อไปนี้จะช่วยกลบกลิ่นเหม็นได้ดี:
- กลิ่นเลมอนหรือกลิ่นตะไคร้
- ลาเวนเดอร์
- ยูคาลิปตัส
- ซีดาร์
-
ข้อควรระวัง: หากคุณมีสัตว์เลี้ยง ตรวจให้แน่ใจว่าน้ำมันสกัดที่คุณเลือกไม่เป็นอันตรายต่อหมาและแมว. [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำทั้งหมดซ้ำทุกๆ สองหรือสามสัปดาห์. ถ้าคุณปล่อยพรมไว้เหมือนเดิมนานๆ กลิ่นมันจะรวมตัวกันขึ้นมาใหม่ ให้ใช้เบกกิ้งโซดาฟื้นสภาพพรมทุกสองสามสัปดาห์หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง เบกกิ้งโซดาน่าจะสามารถกำจัดกลิ่นที่ไม่ได้สะสมมานานนับเดือนหรือปีได้อย่างเด็ดขาดโฆษณา
เคล็ดลับ
- เติมน้ำมะนาวเลมอนสักสองสามหยดลงไปในเบกกิ้งโซดาแล้วผสมให้เข้ากันก่อนใช้ มันจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นเหนือผลการดูดกลิ่นให้จางลงของเบกกิ้งโซดาอีกชั้นหนึ่งด้วย
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เบกกิ้งโซดา (หรือรู้จักกันว่าโซดาไบคาร์บอเนต)
- เครื่องดูดฝุ่น
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2012/08/10/how-to-deodorize-your-carpet_n_1765894.html
- ↑ http://www.realsimple.com/home-organizing/cleaning/8-surprising-household-deodorizers/deodorize-your-carpet
- ↑ http://healthypets.mercola.com/sites/healthypets/archive/2012/05/14/dr-shelton-on-pets-essential-oils.aspx
โฆษณา
