ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คราบหมึกเลอะเสื้อผ้าเป็นอะไรที่ขจัดออกยากมาก แต่ก็พอมีทางอยู่! มีของใช้ในบ้านหลายอย่างที่เอามาซับคราบออกได้ ส่วนจะใช้อะไรก็แล้วแต่ว่ามีติดบ้านไหม จุดสำคัญคือเลอะแล้วต้องรีบขจัดคราบทันทีถึงจะเห็นผล ถ้าทำถูกต้องตามวิธีที่บทความวิกิฮาวนี้แนะนำแล้ว รับรองจะกลับไปใส่เสื้อตัวเก่งได้ในไม่นาน!
ขั้นตอน
-
เอาผ้ารองใต้คราบ. ถ้าเป็นคราบใหม่เพิ่งเลอะ ต้องรีบซับหมึกออกให้เยอะที่สุด ก่อนจะซับหมึก ให้หาผ้าขาวหรือผ้าขี้ริ้ว มารองไว้ใต้ส่วนที่เป็นคราบก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คราบซึมไปถึงด้านหลังของผ้าตอนขจัดคราบ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้ผ้าขาวแล้วไม่ต้องกลัวสีตกใส่เสื้อผ้าที่เป็นคราบจนเลอะหนักกว่าเดิม
-
ซับคราบด้วยผ้าขาว. หยิบผ้าขาวมาอีกผืน ใช้ซับที่คราบ ให้ค่อยๆ ซับไปเรื่อยๆ อย่าเช็ดถู เพราะจะทำให้คราบยิ่งฝังแน่นกับเส้นใยผ้า ให้ซับไปแบบนี้จนไม่มีหมึกติดออกมาอีก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซับที่อีกด้านของผ้า. พลิกผ้าที่เป็นคราบ แล้วใช้ผ้าสะอาดรองใต้ส่วนที่เป็นคราบ ซับซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ที่ผ้าอีกด้าน จนไม่มีหมึกติดออกมาอีก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เลือกสเปรย์ฉีดผมสูตรแอลกอฮอล์. อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่สเปรย์ฉีดผมนี่แหละใช้ขจัดคราบหมึกเลอะผ้าได้เป็นอย่างดี ให้หาสเปรย์ฉีดผมสูตรแอลกอฮอล์มา เพราะแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลักของสเปรย์ฉีดผมที่จะช่วยให้คราบแตกตัว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้ายังไม่ทำ ให้ปูผ้ากางออก แล้วซ้อนผ้าสะอาดไว้ข้างใต้ส่วนที่เป็นคราบ เตรียมทำความสะอาด
-
ทดสอบสเปรย์แค่จุดเล็กๆ ก่อน. ก่อนจะใช้สเปรย์ฉีดผมหรือวิธีทำความสะอาดอื่นๆ แนะนำให้ทดสอบน้ำยาแค่จุดเล็กๆ ของผ้าก่อน เพื่อเช็คว่าปลอดภัยต่อเส้นใยของผ้าหรือไม่ ให้ฉีดสเปรย์แค่เล็กน้อย บริเวณที่คนจะไม่สังเกตเห็น รอประมาณ 30 นาที แล้วซับออกไป ถ้าบริเวณที่ฉีดสเปรย์ชื้นๆ แต่ไม่มีอะไรผิดปกติ แสดงว่าปลอดภัย ใช้ขจัดคราบได้ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าสเปรย์ฉีดผมเลอะเป็นคราบหรือทำผ้าสีตก เปลี่ยนสี ก็ห้ามใช้ต่อเด็ดขาด
- สเปรย์ฉีดผมเหมาะสำหรับผ้าที่มีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ผสม ห้ามใช้ขจัดคราบจากหนัง เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ผสมนั้นทำให้หนังเสียหายได้
-
ฉีดสเปรย์ที่คราบ. พอปูผ้าที่เลอะกางออกแล้ว ให้ถือสเปรย์ห่างจากผ้าประมาณ 1 ไม้บรรทัด แล้วฉีดสเปรย์ใส่คราบให้ทั่วถึง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รอสเปรย์เซ็ตตัว. พอฉีดสเปรย์ที่คราบแล้ว ให้ทิ้งไว้ 1 นาที เพื่อให้แอลกอฮอล์ในสเปรย์ไปละลายคราบหมึก แต่ระวังอย่าทิ้งสเปรย์ไว้นานเกินไป ไม่งั้นจะแห้งติดผ้าได้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซับคราบด้วยผ้าสะอาด. พอทิ้งสเปรย์ไว้ประมาณ 1 นาทีจนเซ็ตตัวแล้ว ให้เริ่มซับคราบด้วยผ้าขาวหรือสำลีก้อน จะเห็นคราบหมึกติดมา ก็ซับคราบไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือคราบ หรือจนหมึกไม่ติดผ้ามา [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคราบหายไปแล้ว ก็ซัก/อบตามปกติได้เลย
โฆษณา
-
ซับคราบด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล. เอาผ้าขาวสะอาดหรือฟองน้ำไปชุบแอลกอฮอล์ล้างแผล แล้วใช้ซับคราบหมึก ค่อยๆ ซับไป ถ้าขจัดคราบหมึกได้แล้ว ก็ซักผ้าตามปกติได้เลย [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลกับแอซิเตต ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ และผ้าเรยอน
- แอลกอฮอล์ล้างแผลใช้ขจัดคราบหมึกได้ดีทุกชนิด ไม่ว่าจะปากกาเมจิกหรือปากกาลูกลื่น เหมาะจะใช้เวลาฉีดสเปรย์ฉีดผมแล้วไม่แรงพอจะขจัดคราบ
-
ใช้กลีเซอรีนกับน้ำยาล้างจาน. ให้ผสมกลีเซอรีน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา (5 มล.) ในถ้วย จากนั้นเอาผ้าขาวมาชุบน้ำยาไปซับคราบหมึกด้านใดด้านหนึ่ง พอไม่เหลือคราบแล้ว ก็ให้กลับด้านผ้า แล้วซับคราบหมึกที่ด้านใหม่ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พอซับคราบแล้ว ให้ทิ้งผ้าไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้นิ้วป้ายกลีเซอรีนเพิ่มที่คราบ สุดท้ายเปิดน้ำราดผ้าให้ไหลผ่านคราบ ชะเอากลีเซอรีนและน้ำยาออกไป
- กลีเซอรีนเหมาะจะใช้ขจัดคราบเก่า เพราะทำให้คราบชุ่ม ละลายหมึก น้ำยาล้างจานก็ทำความสะอาดซ้ำอีกที ใช้ได้กับผ้าทุกชนิดเลย
-
ใช้เบคกิ้งโซดากับน้ำ. ถ้าจะขจัดคราบด้วยเบคกิ้งโซดา ให้ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำในสัดส่วน 2 ต่อ 1 ในถ้วย จนได้ paste ไม่หนืดมาก จากนั้นเอาสำลีก้อนป้าย paste นี้ที่คราบหมึก แล้วซับๆ ที่คราบ พอไม่เหลือคราบแล้ว หรือหมึกไม่ติดมาอีกตอนซับ ให้เช็ด paste ออกด้วยผ้าสะอาดหรือทิชชู่ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เบคกิ้งโซดาปลอดภัย ใช้ได้กับทุกวัสดุ
-
ขจัดคราบด้วยน้ำส้มสายชู. ถ้าทำวิธีที่ผ่านๆ มาแล้วยังขจัดคราบไม่ได้ ให้แช่ผ้าในน้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เป็นเวลา 30 นาที ตอนผ้าเปียกชุ่ม ให้ค่อยๆ ซับคราบด้วยฟองน้ำหรือผ้าทุก 10 นาทีขึ้นไป เสร็จแล้วซักผ้าตามปกติ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้คราบแห้งแข็ง
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาวก็ปลอดภัย ใช้ได้กับทุกวัสดุ
-
ซับด้วยน้ำยาซักแห้ง. มีน้ำยาขจัดคราบสำเร็จรูปกับน้ำยาซักแห้งสำหรับใช้ขจัดคราบโดยเฉพาะ หาซื้อได้แล้วให้ใช้งานตามคำแนะนำที่ฉลาก ซับคราบด้วยผ้าสะอาด [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ย้ำว่าต้องอ่านวิธีใช้ให้แน่ใจก่อน ว่าใช้ขจัดคราบบนเส้นใยผ้าชนิดนั้นๆ ได้ ไม่ทำร้ายผ้า
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำยาชนิดนั้นจะมีปฏิกิริยายังไงกับเนื้อผ้าที่จะขจัดคราบ แนะนำให้ทดสอบแค่จุดเล็กๆ ลับตาคนก่อน แล้วค่อยใช้ขจัดคราบจริงๆ
- ให้ซับที่คราบ อย่าเช็ดถู เพราะจะไปทำให้คราบยิ่งฝังแน่น เส้นใยเสียหายได้เลย
- อย่าเพิ่งซักและอบผ้าจนกว่าจะขจัดคราบเสร็จ เพราะความร้อนในเครื่องอบผ้าจะทำให้คราบเซ็ตตัว ขจัดออกไม่ได้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ผ้าขาวสะอาด
- สำลีก้อน
- สเปรย์ฉีดผม
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- เบคกิ้งโซดา
- น้ำยาซักแห้ง หรือน้ำยาขจัดคราบ
- น้ำยาล้างจาน
- กลีเซอรีน
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://housewifehowtos.com/do-laundry/how-to-get-ink-stains-out-of-clothes/
- ↑ http://housewifehowtos.com/do-laundry/how-to-get-ink-stains-out-of-clothes/
- ↑ http://housewifehowtos.com/do-laundry/how-to-get-ink-stains-out-of-clothes/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-ink-stains-from-cotton-fabrics/
- ↑ http://housewifehowtos.com/clean/how-to-remove-hairspray-from-walls/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-ink-stains-from-cotton-fabrics/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-ink-stains-from-cotton-fabrics/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-ink-stains-from-cotton-fabrics/
- ↑ http://housewifehowtos.com/do-laundry/how-to-get-ink-stains-out-of-clothes/
โฆษณา