ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หนูอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารัก แต่มันจะน่ารักน้อยลงทันทีเมื่อมันบุกเข้ามาในบ้านและเข้ามากัดกินอาหารของคุณ บทความนี้จะให้เคล็ดลับและคำแนะนำในการกำจัดหนูออกอย่างเป็นธรรมชาติให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ขัดขวางหนูด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลายๆ ครั้งหนูจะถูกดึงดูดเข้ามายังบ้านเพื่อหาอาหาร ถ้าหากว่าไม่มีอะไรให้กิน หนูก็จะไม่ค่อยอาศัยอยู่เท่าไร ฉะนั้นให้เก็บอาหารเอาไว้ในภาชนะกันอากาศเข้า หรือในที่ที่ปลอดภัยจากการโจมตีของหนู [1]
  2. น้ำมันเปปเปอร์มินต์ถือเป็นตัวช่วยกีดขวางตามธรรมชาติ กลิ่นของมันเข้มข้นเกินไปสำหรับเหล่าสัตว์ฟันแทะ และพวกมันจะพยายามไม่เข้าใกล้เด็ดขาด แถมยังช่วยกลบกลิ่นของอร่อยที่หลงเหลือไว้จากการทำความสะอาดอีกด้วย กลิ่นนี้จะยังช่วยให้บ้านอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมและไม่เป็นพิษ ไม่เหมือนกับพวกสารเคมีสังเคราะห์ คุณสามารถหาซื้อน้ำมันเปปเปอร์มินต์ได้จากร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพทั่วไปและตามร้านขายยาประเภทวัตสัน [2]
    • หยดน้ำมันลงก้อนสำลีสักหยดสองหยด
    • วางก้อนสำลีไว้ใต้หรือใกล้ๆ กับถังขยะที่สามารถกันหนูไว้ไม่ให้เข้าได้
    • วางก้อนสำลีไว้บริเวณที่หนูชอบเข้ามาอยู่ในบ้านคุณ อย่างทางเข้าประตูหรือช่องระบายความร้อน ฯลฯ
    • ต้องเปลี่ยนก้อนสำลีน้ำมันเปปเปอร์มินต์หลังจากผ่านไป 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับว่าหยดน้ำมันใส่ไปมากเท่าไร
    • ลองปลูกต้นเปปเปอร์มินต์เอาไว้ใกล้ๆ ทางเข้า คุณสามารถใช้มินต์ในการประกอบอาหารได้ อีกทั้งยังเอาไว้กันหนูได้อีก
  3. ไปยังศูนย์สัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ หรือร้านขายสัตว์เพื่อขอมูลงู หรือจะหาจากใครสักคนที่เลี้ยงงูก็ได้ โดยวางมูลเอาไว้ในที่ที่หนูน่าจะเข้าไป มันจะช่วยกันหนูออกไปได้ [3]
    • ให้แน่ใจว่าได้วางมูลไว้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  4. มันมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะปล่อยเสียงอัลตราโซนิคที่สัตว์ฟันแทะเกลียดออกมา โดยมีขายที่ร้านอุปกรณ์หรือสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้
  5. หลายๆ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านสวนและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจะผลิตที่กันหนู ซึ่งเป็นมิตรต่อธรรมชาติมากกว่ายาพิษธรรมดาทั่วไป ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่นเปปเปอร์มินต์ ซึ่งรู้กันดีว่าเข้ากันกับหนูไม่ได้ มันจะไม่เป็นการฆ่าหนู แต่เป็นการขัดขวางไม่ให้หนูเข้ามาในบริเวณที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่
    • ผลิตภัณฑ์นี้สามารถหาซื้อได้จากร้านขายของเกี่ยวกับบ้านและสวนใกล้บ้านคุณ ถ้าคุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงเลย ให้ลองหาผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อดูว่ามีขายที่ไหนบ้าง
  6. แมวบ้านสามารถช่วยขจัดปัญหานี้ได้ แมวที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านจะชอบล่าอาหารเองและอาจกำจัดหนูให้ได้ด้วย แต่ขอให้รู้ไว้สักหน่อยว่าไม่ใช่แมวทุกตัวจะมีพลัง ความสนใจ หรือการฝึกมากพอในการจับหนู ลูกแมวมักจะถูกแม่สอนให้เป็นนักจับหนูได้อย่างง่ายดาย ส่วนลูกแมวที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้านให้กินอาหารดีๆ อาจมองหนูเป็นแค่ของเล่น ซึ่งก็จะเบื่อได้ง่ายดาย หลังจากที่ทำให้มันกลัวขวัญหนีดีฝ่อไปได้ครึ่งหนึ่ง
    • องค์กรที่รับบริจาคแมวมักจะไม่รู้ว่าแมวตัวนั้นจับหนูได้เก่งหรือไม่ และปกติก็จะไม่ทดสอบด้วย บางครั้งแมวบางตัวก็มีข้อมูลด้านนี้ แต่ปกติก็จะไม่มี
    • ขณะที่แมวนักจับหนูหลายตัวก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้ทุกตัว "แมวจรจัด"อาจไม่ค่อยสนิทกับมนุษย์เท่าไรนัก แม้ว่าจะเคยล่าหนูเพื่อเป็นอาหารก็เถอะ
    • ถึงคุณจะไม่มีแมว ก็สามารถใช้กระบะทรายแมวในการกันหนูได้เช่นกัน โดยให้วางกระบะทรายที่แมวใช้แล้วไว้แถวๆ ทางเข้า หนูจะได้กลิ่นปัสสาวะของแมวและรีบเผ่นในทันทีเลยล่ะ
    • ถ้าคุณมีหนูอยู่เต็มบ้าน แมวตัวเดียวอาจไม่พอที่จะมาช่วยจำกัดได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณกำจัดการบุกรุกนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว แมวอาจช่วยป้องกันไม่ให้พวกมันกลับมาอาศัยอยู่อีกได้ [5]
  7. หนูจะดมกลิ่นขยะและถูกดึงดูดเข้ามาในบ้านของคุณ ถ้าคุณวางถังเอาไว้นอกบ้าน มันก็จะไม่ค่อยมาอาศัยอยู่ในบ้านคุณ
  8. โดยสร้างกล่องที่อยู่เอาไว้ในสวน เพื่อล่อให้นึกเข้ามาอยู่ มันอาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่ก็คุ้มค่าถ้าคุณได้นักล่าหนูมาอาศัยอยู่ด้วยในสวนน่ะนะ [6]
    • ให้แน่ใจว่ากล่องรังที่ทำไว้ไม่มีตะปูหรืออะไรที่อันตราย
    • ถ้าได้นกแสกมาจะดีที่สุดเลย ครอบครัวนกแสกนั้นกินหนูได้เยอะมากในแต่ละคืนเชียวล่ะ! อย่างไรก็ตาม คุณอาจไปล่อให้นกฮูกหรือนกพันธุ์อื่นที่ล่าเหยื่อมาอยู่ในกล่องรังแทนก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สร้างเกราะป้องกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [7] บางครั้งจุดนั้นจะเป็นจุดที่มีคราบมัน และมักจะมีมูลสัตว์อยู่ตรงทางเข้าเสมอ ซึ่งจะมีกลิ่นเฉพาะตัว
    • ถ้าที่ตรงนั้นดูออกยาก ก็ให้ทำสัญลักษณ์เอาไว้ด้วยยาปิดรู เพื่อที่จะหาเจออีกครั้งได้ง่ายขึ้น
  2. เริ่มตั้งแต่กำแพงภายใน ซึ่งปล่อยเอาไว้สักรูเพื่อให้หนูมีทางออกไป มันอาจออกไปจากบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ของคุณเพื่อหาที่ที่ง่ายกว่า [8]
    • ใช้ผงอุดรอยรั่วหรือยาแนวในการปิดรูที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าคุณมีรูใหญ่ๆ นั่นไม่สามารถแก้ได้ด้วยยาแนวหรือผงอุด คุณต้องใช้ปูนปลาสเตอร์หรือ Drywall ที่ช่วยให้ผนังเรียบแล้วล่ะ มันเป็นงานใหญ่แต่ก็สำคัญ เพราะหนูสามารถเข้ามาในรูใหญ่ๆ ได้อย่างแน่นอน
    • ขอให้มั่นใจว่าบัวเชิงผนังไม่มีช่องว่างใดๆ เพื่อที่หนูจะได้ไม่สามารถเบียดตัวมาจากด้านหลังได้
    • ถ้าหนูถูกขังไว้ในกำแพง มันจะกัดสร้างรูใหม่ขึ้นมา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมการปล่อยให้หนูออกไปก่อนที่จะผนึกผนังนอกบ้านจึงสำคัญ
  3. ปกติแล้วจะแนะนำให้ใช้ฝอยขัดหม้อปิดกัน น่าเสียดายที่ฝอยขัดหม้อขึ้นสนิมได้ จึงไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะทนทานถาวร ฉะนั้นจึงควรใช้ฟองน้ำล้างจานด้านสีเขียวตัดให้ได้ขนาด หรือใช้ฝอยขัดหม้อทองแดงแทน โดยวัสดุที่ยัดไว้จะต้องแน่นในทั้งสองด้านของรู ไม่เช่นนั้นหนูอาจดึงออกได้ในที่สุด สำหรับรูใหญ่ๆ ก็ต้องทำการซ่อมแซมซะ [9]
    • เมื่อคุณมั่นใจว่ากำแพงภายในปลอดภัยดีแล้ว ค่อยออกมาทำข้างนอก คุณอาจใช้ฟองน้ำล้างจานพลาสติกก็ได้ แต่ในบางกรณีก็ต้องอุดรูหรือซ่อมด้วยวิธีอื่นแทน
  4. เมื่อเวลาผ่านไปสักสองสามวัน ให้มองหาหลักฐานว่าหนูยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติหรือไม่ ถ้ายังมีอยู่ก็ให้ตรวจสอบรูที่ปิดไว้ และลองหารูเพิ่ม จากนั้นให้อุดรูถ้าจำเป็น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

วางกับดักหนู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีกับดักอยู่มากมายที่คุณอาจอยากลองใช้ ซึ่งกับดักทั้งหมดนี้จะให้คุณได้โอกาสปล่อยให้หนูเป็นอิสระได้ กับดักที่ธรรมดาที่สุดคือการจับใส่กรงที่มันจะเข้าไปได้แต่ออกไม่ได้ ซึ่งเป็นการจับหนูอย่างมีมนุษยธรรม [11]
    • เมื่อคุณจับหนูได้แล้ว ก็จำเป็นต้องปล่อยออกไปให้ห่างจากบ้านอย่างน้อย 1.6 กม. หรือจะพาไปปล่อยยังบริเวณป่ารกๆ เพื่อให้มันมีที่ไปก็ได้
    • การฆ่าหรือกำจัดสัตว์ฟันแทะแค่ตัวเดียวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีแต่อย่างใด ไม่ได้ทำให้หนูจากไปนานนัก เมื่อสัตว์ถูกฆ่าหรือกำจัดไปแล้ว ตัวอื่นก็จะย้ายเข้ามาอยู่แทนในที่ที่อยู่ได้ ในความเป็นจริงแล้ว การฆ่าหรือกำจัดหนูจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเสบียงอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุให้หนูตัวอื่นสืบพันธุ์กันต่อไปได้ แต่อย่างไรการลดจำนวนประชากรมันก็ยังดีกว่าการยอมแพ้อยู่ดี
  2. ใช้ชามแก้วและเหรียญหนึ่งเหรียญ โดยใส่ช็อกโกแลตติดเอาไว้ตรงขอบชามแก้วขนาดใหญ่ แล้ววางเหรียญใหญ่ๆ ตรงให้สมดุลกันที่มุมของชามแก้วอีกด้านหนึ่ง วางทั้งสองอย่างตรงขอบชาม แล้วนำไปวางตรงที่ที่คุณรู้ว่าหนูชอบไปสุมอยู่
    • หนูจะเข้าไปใต้ชามเพื่อเอาช็อกโกแลตมา เมื่อสูญเสียสมดุล ชามจะตกลงมาและขังหนูเอาไว้ใต้นั้น
    • พาหนูไปปล่อยที่อื่นที่ไกลจากบ้าน
  3. ล่อให้หนูเข้าไปในภาชนะที่มันกลับออกมาไม่ได้. คุณจะตั้งตู้ปลา 10 แกลลอนโดยใส่อาหารไว้ด้านในก็ได้ โดยวางตู้ปลาไว้ในที่ที่หนูสามารถมองเห็นได้ แนะนำให้วางกันทางที่หนูใช้ผ่านเป็นประจำ แล้ววางอะไรบางอย่างที่ช่วยให้หนูปีนเข้าไปได้เอาไว้ติดกับตู้ปลา เช่นกองหนังสือ
    • หนูจะพยายามไปหาอาหารและกระโดดลงไปในตู้ปลา เมื่อเข้าไปแล้วก็จะออกมาไม่ได้เพราะความสูงของตู้ปลานั่นเอง
    • กลับมาตรวจสอบกับดักบ่อยๆ
    • ถ้าคุณเห็นว่ามีหนูมาติดกับดักแล้ว ให้ปิดฝา แล้วเอาหนูออกไปปล่อยให้ไกลจากบ้าน
  4. มันจะอยู่ใต้ผ้าขนหนูแค่ระยะเวลาสั้นๆ ฉะนั้นต้องทำให้รวดเร็วล่ะ วางถังตะกร้าครอบผ้าขนหนูเอาไว้ เหน็บผ้าขนหนูบางส่วนที่เลยใต้ตะกร้าออกมา แล้วมันจะติดกับพื้น เลื่อนแผ่นเสียงหรือกระดาษลูกฟูกขนาดใหญ่เข้าไปใต้ตะกร้าและผ้าขนหนู จากค่อยๆ หันตะกร้าที่มีกระดาษลูกฟูกปิดปากตะกร้าแน่นไปทางที่ต้องการ
    • พาของทั้งหมดนั่นออกไปด้านนอกและเดิน (หรือวิ่ง!) เอาตะกร้า หนู และผ้าขนหนูออกไปให้ไกลบ้านที่สุด
    • เมื่อไปไกลบ้านแล้วค่อยปล่อยหนูได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • วิธีที่ดีที่สุดคือการไล่หนูออกไป ดีกว่าสร้างกับดักในบ้านอีก คุณไม่อยากให้มันออกไปจากบ้านตั้งแต่แรก แทนที่จะต้องมาจัดการพวกหนูในบ้านหรอกเหรอ?
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าหากว่าคุณเลี้ยงหมาอยู่ล่ะก็ ให้กำจัดหนูออกไปให้เร็วที่สุด สุนัขมีภูมิคุ้นกันที่ต่างออกไปจากแมว และมันอาจไม่สามารถจัดการกับโรคที่หนูเป็นพาหะนำมาได้
  • มูลของหนูอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้ฉีดส่วนที่มีมูลหนูอยู่ด้วยสารฟอกหรือน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอื่น (เช่น แอลกอฮอล์ล้างแผล) ก่อนที่จะทำความสะอาด และอย่าสัมผัสโดนผิวหนังหรือให้โดนเสื้อผ้าเป็นอันขาด
  • หนูมักจะมาพร้อมกับเห็บหมัดและอาจมีไรปนอยู่ด้วย ถ้าพวกหนูที่มาบุกรุกถูกฆ่าด้วยกับดักหรือยาพิษ ปรสิตที่ติดมาก็จะออกไปหาบ้านใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่มากสำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์หรือมีเด็กเล็กอยู่ในบ้าน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,045 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา