ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าเห็นว่า หมัด เริ่มโผล่มาตามจุดต่างๆ ของบ้าน แต่ไม่อยากกำจัดด้วยสารเคมี เพราะกลัวอันตรายทั้งต่อสัตว์เลี้ยงและคนในบ้าน บทความวิกิฮาวนี้ก็มีวิธีกำจัดหมัดด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยกว่ามาฝากกัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ทำความสะอาดบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซักที่นอนของสัตว์เลี้ยงด้วย เครื่องซักผ้า . รวมถึงทุกอย่างที่สัตว์เลี้ยงชอบไปนอนเล่นกลิ้งเกลือก ถ้าที่นอนเอาเข้าเครื่องอบผ้าได้ ก็ให้อบด้วยความร้อนสูงๆ ประมาณ 15 - 20 นาที จะฆ่าไข่ ตัวอ่อน และหมัดโตเต็มวัยได้
  2. โดยเฉพาะมุมอับที่ไม่ค่อยโดนแดด (หมัดชอบที่เย็นๆ ชื้นๆ) บริเวณที่พบเลือด ขี้ และซากหมัดแห้งกรัง และตามผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ ก่อนจะดูดฝุ่นพรม ให้โรยเกลือ ผงบอแรกซ์ หรือเบคกิ้งโซดาให้ทั่วๆ เอาไม้กวาดกวาดให้ลงไปถึงก้นพรม แล้วทิ้งไว้ 2 - 3 ชั่วโมง ผงที่ว่าจะทำให้ไข่หมัดที่ซุกซ่อนลึกเข้าไปในพรมแห้งตาย
    • อย่าให้สัตว์เลี้ยงมาเดินบนพรมระหว่างนี้ เพราะจะติดเท้าไป พอเลียทำความสะอาดเท้าตัวเองก็อาจเป็นอันตราย ถ้าคิดว่าเผลอแล้วสัตว์เลี้ยงมาย่ำพรมแน่ ให้โรยเบคกิ้งโซดาให้ลงไปถึงก้นพรมทั่วๆ อย่าให้ติดตามขนพรมด้านบน จะได้ไม่ติดอุ้งตีนของสัตว์เลี้ยงไป
    • พอถุงเก็บฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่นเต็มแล้ว ให้ซ้อนถุงขยะอีกชั้นแล้วมัดปากให้สนิท จากนั้นเอาใส่ถังขยะแบบมีฝาปิดนอกบ้าน ไม่งั้นหมัดจะเล็ดลอด ย้อนกลับมาอีก
  3. ใช้เครื่องดูดความชื้น (dehumidifier) 1 - 2 เครื่องแล้วแต่ความกว้างของห้อง. ถ้าห้องขนาด 4x4 เมตร ก็ต้องใช้เครื่องแบบดูดได้ 10 ลิตร/วัน (คือดูดความชื้นในอากาศได้น้ำ 10 ลิตรต่อวัน) หมัดจะอยู่ได้ต้องมีความชื้นในอากาศ 50% ขึ้นไป ถ้าเราปรับให้ห้องชื้นน้อยกว่านี้เป็นเวลา 2 วัน ตัวอ่อนและหมัดโตเต็มวัยก็จะตายสนิท ไข่หมัดก็จะไม่ฟักเป็นตัวด้วย ทีนี้ก็ดูดฝุ่นเก็บงานได้เลย
  4. ทำความสะอาดรอบๆ บ้านที่สัตว์เลี้ยงอาจไปวิ่งเล่น. ตัดหญ้า ถอนวัชพืช ให้แดดส่องทั่วถึงไม่เหลือมุมอับ (เพราะหมัดจะชอบ) หรือกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปขลุกอยู่แถวนั้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาบน้ำสัตว์เลี้ยง . ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน เริ่มขยี้ที่คอก่อน หมัดจะได้ไม่โดดหนีขึ้นไปบนหัวระหว่างอาบน้ำ ต้องอาบให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม จะเห็นเลยว่ามีหมัดเยอะแยะไต่ออกมาลอยตายในน้ำ ถ้าเป็นลูกแมว จะใช้แชมพูขจัดรังแค Head and Shoulders ก็ได้ เพราะกรดในแชมพูช่วยฆ่าหมัด หรืออย่างน้อยก็ทำให้ช็อค หยิบออกจากตัวสัตว์เลี้ยงได้เลย
  2. ใช้ใบโรสแมรี่สด 2 ถ้วยตวงกับน้ำ 2 ไพนต์ (ประมาณ 950 มล.) แล้วต้ม 30 นาที จากนั้นกรองกากเอาแต่น้ำ ใช้ผสมกับน้ำอุ่น 1 แกลลอน (เกือบๆ 4 ลิตร) แล้วเทราดตัวสัตว์เลี้ยงจนขนชุ่มโชก อย่าเพิ่งรีบล้างออก ให้สัตว์เลี้ยงผึ่งตัวจนแห้งเอง
    • อย่าราดตัวสัตว์เลี้ยงวันที่อากาศเย็น อาจจะหยดน้ำผสมเลมอน (อ่านข้อ 2 ของส่วนที่ 3) ที่ใต้ปลอกคอสัก 2 - 3 หยดด้วย จะช่วยป้องกันหมัดได้
  3. พอตัวแห้งแล้ว ให้ใช้หวีซี่ถี่สำหรับสางหมัดโดยเฉพาะมาสางขนสัตว์เลี้ยง เผื่อจะยังหลงเหลือ สางให้ทั่วตัว ชิดกับผิวหนังเลย
  4. หยดน้ำมันหอมระเหยที่ปลอกคอหรือผ้าเช็ดหน้าที่เอามาพันคอสัตว์เลี้ยง เช่น น้ำมันยูคาลิปตัส, ทีทรีออยล์, น้ำมันตะไคร้หอม, น้ำมันลาเวนเดอร์ หรือน้ำมันเจอเรเนียม โดยหยดซ้ำทุกอาทิตย์
    • หมายเหตุ : ห้ามใช้น้ำมันหอมระเหยกับแมวเด็ดขาด! แมวแพ้น้ำมันยูคาลิปตัสและทีทรีออยล์อย่างรุนแรง รวมถึงร่างกายย่อยน้ำมันหอมระเหยไม่ค่อยได้ ทั้งที่สูดดม กินเข้าไป หรือซึมผ่านผิวหนัง เลยทำให้อาจตกค้างในร่างกายจนเป็นอันตราย
    • ที่ควรระวังเป็นพิเศษเวลาจะใช้กับสัตว์เลี้ยง ก็คือทีทรีออยล์ ต้องใช้ในปริมาณไม่เกิน 1% เท่านั้น เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เซื่องซึม หรืออ่อนแรงได้ ไม่ได้ยิ่งใช้เยอะยิ่งได้ผลเสมอไป
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

กำจัดหมัดด้วยสมุนไพร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [1] เป็นน้ำมันใช้ป้องกันหมัดได้ ให้ปลูกต้นนี้ไว้รอบๆ บ้าน แต่ระวังอย่าให้สัตว์เลี้ยงหรือเด็กกินเข้าไป
  2. ฝานเลมอนให้บางๆ แล้วใส่ในน้ำ 1 ไพนต์ (ประมาณ 480 มล.) จากนั้นต้มจนเดือด ทิ้งไว้ข้ามคืน พอเช้ามาก็ใช้ฉีดพ่นบริเวณที่มีหมัดได้เลย (ระวังเป็นคราบ) หรือฉีดพ่นแล้วขยี้ตามตัวสัตว์เลี้ยง แต่อย่าให้ชุ่ม แค่ให้ขนชื้นๆ ก็พอ ทำซ้ำเดือนละครั้งช่วยป้องกันหมัดได้
    • ครั้งแรกอย่าฉีดเยอะ และเฝ้าระวังด้วยว่าแรงไปสำหรับสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า โดยเฉพาะระบบการย่อย
  3. ให้ผสมน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1/4 กับน้ำ 3/4 แล้วกรอกใส่ขวดสเปรย์ นอกจากนี้จะผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะลงไปด้วยก็ได้เพื่อขจัดสิ่งสกปรก สูตรนี้ใช้ทำความสะอาดเคาน์เตอร์และพื้นผิวต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงกำจัดหมัดตามเสื้อผ้าได้ดี ให้ฉีดพ่น 1 - 2 ครั้งต่ออาทิตย์ตามผ้าต่างๆ เท่านี้ก็ช่วยป้องกันหมัดได้แล้ว
  4. เป็นวิธีกำจัดหมัดในน้องหมาที่ทั้งง่ายและไม่แพง โดยเกลือจะทำให้ไข่หมัดแห้งจนตายในที่สุด [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ] ขั้นแรกก็คือ
    • หาหมัดหรือร่องรอยของหมัดบนตัวน้องหมาน้องแมว เจอ 1 จุดก็ให้ใช้เกลือ 1 หยิบมือ
    • เอาปลายนิ้วจุ่มน้ำพอให้เปียก (จริงๆ น้ำ 1 หยดก็พอ) จากนั้นไปจิ้มเกลือแล้วนวดวนบริเวณที่ว่า
    • ทำซ้ำทุกจุดทุกวันจนหายขาด
    • อย่าใช้เกลือเยอะไป เพราะจะระคายเคืองผิวน้องหมาได้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ติดตามผล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าบริเวณไหนของสวนหรือบ้านมีหมัดระบาด ให้ใช้ถาดพายอลูมิเนียม เทน้ำผสมน้ำยาล้างจานลงไป แล้วตั้งไว้ตามบริเวณที่ว่า (เช่น ใต้โต๊ะ) หมัดจะถูกแรงตึงผิวของน้ำกักตัวไว้ไปไหนไม่รอด ให้เปลี่ยนน้ำทุกวันจนไม่เหลือหมัด ถ้าวางถาดพายนอกบ้าน ก็ต้องเปลี่ยนน้ำทุกวันเช่นกัน ยุงจะได้ไม่ไปวางไข่
  2. ถ้าหลงลืมตรงไหนที่มีหมัดไป ระวังจะแพร่พันธุ์เท่าทวีคูณ
    • ดูดฝุ่นให้ละเอียดวันเว้นวัน เพราะบางทีหมัดก็ปรับตัวต้านยาฆ่าแมลง เพราะงั้นอย่างน้อยการดูดฝุ่นเป็นประจำก็ช่วยควบคุมประชากรหมัดได้
    • ตัดหญ้าในสนามบ่อยๆ
    • ซักที่นอนสัตว์เลี้ยงด้วยน้ำร้อนและน้ำยาล้างจานผสมน้ำ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
  3. ทำกับดักหมัด . เพื่อติดตามผล ถ้าเจอหมัดเยอะ แสดงว่าต้องทำความสะอาดให้ถี่กว่าเดิม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • วางเปลือกกล้วยบริเวณที่มีหมัด โดยหงายด้านในขึ้น อย่าคว่ำลงบนพรมหรือพื้น รับรองภายใน 2 - 3 วัน หมัดจะไม่เหลือซาก
  • การดูดฝุ่นช่วยกำจัดหมัดได้ดีพอๆ กับยากำจัดหมัด โดยเฉพาะบ้านใครใช้พื้นไม้เนื้อแข็งที่มีร่อง ให้ดูดฝุ่นห้องที่มีหมัด 2 ครั้งต่อวันแล้วติดตามผล
  • ย้ำอีกเป็นครั้งที่ร้อย ว่าถึงสูตรที่แนะนำมาจะเป็นสูตร "ธรรมชาติ" ไม่ใช้สารเคมี ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดอันตรายหรือระคายเคืองต่อสัตว์เลี้ยงหรือคนในบ้าน เพราะงั้นให้คอยสังเกตอาการผิดปกติให้ดีๆ
  • ควรปรึกษาสัตวแพทย์ประจำตัวก่อนทดลองใช้สมุนไพรหรือวิธีธรรมชาติต่างๆ กับสัตว์เลี้ยง อย่างน้อยก็เบาใจได้ว่าจะปลอดภัย แถมคุณหมออาจจะแนะนำเคล็ดลับดีๆ ว่าควรกำจัดและป้องกันหมัดยังไง
  • แช่เปลือกเกรปฟรุตในน้ำอาบของสัตว์เลี้ยง (ถ้ามีและไม่มีปัญหากับกลิ่น) เพราะหมัดเกลียดกลิ่นเกรปฟรุตจนกระโดดหนี แต่ให้อาบนอกบ้านนะ
  • ถ้าเพิ่งทำความสะอาด ให้พาสัตว์เลี้ยงไปนอกบ้านหรือกักบริเวณไว้ในห้องน้ำ หมัดจะได้ไม่กระจายไปทั่วบ้าน
  • ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ด้วย น้ำยาล้างจานนี่แหละฆ่าหมัดดีนัก
  • ใช้น้ำยาล้างจานยี่ห้อ Dawn สีฟ้า ผสมน้ำแล้วใช้อาบให้น้องหมา บอกเลยว่าได้ผลกว่าแชมพูกำจัดหมัดแพงๆ ซะอีก แต่ระวังระคายผิวหรือทำให้ผิวแห้ง
  • ใช้เครื่องดูดความชื้น (dehumidifier) ลงทุนหน่อยแต่รับรองกำจัดหมัดได้คุ้มค่า เพราะหมัดอยู่ได้เฉพาะบริเวณที่มีความชื้น 47% - 50% ถ้าดูดความชื้นจนเหลือน้อยกว่า 47% ก็ตายเรียบทั้งตัวอ่อนและหมัดโตเต็มวัย
  • เวลากำจัดหมัด ให้เริ่มจากตัวและคอของสัตว์เลี้ยง ถ้าไปทำความสะอาดตรงอื่นก่อน หมัดอาจกระโดดหนีไปซ่อนที่ตัวและหัว จนเกิดอาการระคายเคือง หรืออันตรายกว่านั้นคือหมัดเข้าหูเข้าตา
  • ลองผสมผงกระเทียมในอาหารของสัตว์เลี้ยงดู เริ่มจากวันละ 1/4 ช้อนชา จนสุดท้ายทั้งหมาและแมวจะเคยชิน แต่ที่ลำบากคือหมัด เพราะหมัดเกลียดกลิ่นจนต้องสละเรือ
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามใช้อะไรก็ตามในบทความนี้เกินพิกัด ถึงจะสูตรธรรมชาติก็เถอะ โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหย เพราะมักเป็นพิษกับสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะแมว ยังไงปรึกษาคุณหมอก่อนเริ่มใช้จะดีที่สุด
  • คนที่นิยมกำจัดหมัดด้วยสมุนไพรส่วนใหญ่ จะแนะนำว่าน้ำมันหอมระเหย "บางชนิด" ใช้กับแมวได้ปลอดภัยดี แต่ย้ำเลยว่าห้ามใช้เยอะเกิน ปกติน้ำมันที่พิสูจน์แล้วว่าใช้กับแมวได้ก็เช่น น้ำมันซีดาร์วู้ด น้ำมันตะไคร้ น้ำมันเปปเปอร์มินต์ และน้ำมันโรสแมรี่ ที่ "ห้าม" เลยคือทีทรีออยล์ และน้ำมันซีตรัสหรือผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ (เช่น เลมอน ส้ม และเกรปฟรุต) ถ้าตะไคร้นี่ใช้ได้เพราะค่อนไปทางสมุนไพรมากกว่าผลไม้รสเปรี้ยว ถ้าอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ให้ค้น "cat safe essential oils" (น้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยต่อแมว) เพิ่มเติมในเน็ตดู พยายามเทียบกันหลายๆ แหล่ง อย่าเชื่อแค่เว็บสองเว็บ
  • กำจัดหมัดแล้วต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติ อย่าใช้หลายวิธีรวมกัน พยายามลองไปทีละอย่าง จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงระคายเคือง
  • ที่ต้องระวังที่สุดคือทีทรีออยล์ อย่าใช้เกิน 1% เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เซื่องซึม และอ่อนแรงได้ บางอย่างใช้เยอะก็ไม่ได้แปลว่าจะได้ผลดีเสมอไป
  • อย่าใช้ brewer's yeast หรือ nutritional yeast (ยีสต์เพิ่มวิตามิน) กับหมา เพราะยีสต์จะรบกวนการทำงานของร่างกาย จนเกิดอาการแพ้หรือโรคผิวหนัง โดย nutritional yeast นั้นต่างกับ brewer's yeast คือเป็นยีสต์ที่ตายแล้ว ไม่เป็นอันตราย แถมมีวิตามินบี มีประโยชน์ต่อทั้งสัตว์และคน
  • Pennyroyal นั้นจริงๆ แล้วเป็นพิษ เพราะงั้นต้องใช้อย่างระวังมาก ถึงขั้นทำให้แท้งลูกได้ ห้ามใช้ทั้งคนท้อง [2] และสัตว์ท้อง [1]
  • โรสแมรี่ถ้าใช้น้อยๆ ก็ปลอดภัยดี เพราะงั้นต้องระวังเรื่องปริมาณ [3]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,064 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา