ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถึงจะระวังแค่ไหน แต่บางทีก็เผลอทำปากกาเคมีเลอะจนปวดหัวได้ เพราะเป็นหนึ่งในคราบปราบเซียน กำจัดออกยากโดยเฉพาะถ้าเลอะเสื้อผ้า โชคดีที่การขจัดคราบปากกาเคมีไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียเสมอไป บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขจัดคราบหมึกปากกาเคมีเลอะผ้าให้คุณเอง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำยาขจัดคราบสำเร็จรูป หรือของใช้ที่มีติดบ้านอยู่แล้ว
ขั้นตอน
-
เอาทิชชู่ซับน้ำมันหนาๆ ประกบคราบหมึกทั้ง 2 ด้าน โดยลงน้ำยาฟอกขาวเล็กน้อย. ก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ผสมแอลกอฮอล์ ให้ใช้ทิชชู่ 2 - 3 แผ่น หรือผ้าขนหนูเก่าซับไว้ใต้คราบ เพื่อไม่ให้หมึกซึมเลอะเทอะระหว่างขจัดคราบ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แบบนี้ถ้าหมึกปากกาเคมีเริ่มซึม ก็จะมีทิชชู่หรือผ้าขนหนูเก่าซับไว้ ไม่เลอะไปถึงผ้าอีกด้าน
- ถ้าทิชชู่ใต้คราบหมึกเริ่มชุ่ม ให้เปลี่ยนแผ่นใหม่ที่สะอาดเข้ามา หมึกจะได้ไม่ซึมไปที่ผ้าอีกด้าน
-
ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลละลายและขจัดคราบหมึก. จุ่มฟองน้ำสะอาดในแอลกอฮอล์ล้างแผลจนชุ่ม แต่ไม่หยด จากนั้นเอาฟองน้ำที่มีแอลกอฮอล์ไปซับรอบๆ คราบก่อน ป้องกันไม่ให้หมึกซึมลามออกไป แล้วค่อยซับที่คราบโดยตรง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ซับคราบหมึกด้วยแอลกอฮอล์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 - 5 นาที จะเอาฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เพิ่มก็ได้
- ย้ำว่าให้ซับที่คราบหมึก อย่าเช็ดถู เพราะจะทำให้เลอะเทอะกินวงกว้างกว่าเดิม หรือทำให้หมึกยิ่งฝังแน่นในเส้นใย
- คุณใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลได้กับแทบทุกเนื้อผ้า แต่ถ้าเป็นผ้าบางๆ อย่างผ้าไหม ระวังแอลกอฮอล์กัดผ้าได้ แนะนำให้ซักแห้งแทน
-
ใช้สเปรย์ฉีดผมสูตรแอลกอฮอล์ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว. ถือขวดสเปรย์ห่างจากคราบประมาณ 2 - 3 นิ้ว (5 - 10 ซม.) โดยเล็งหัวฉีดไปที่คราบ แล้วฉีดพ่นจนคราบหมึกชุ่มสเปรย์ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทิ้งสเปรย์ฉีดผมไว้ให้ชุ่มประมาณ 3 - 5 นาที ค่อยใช้ทิชชู่สะอาดซับหมึกออก ทำซ้ำตามขั้นตอนจนขจัดคราบหมด
- ก็เหมือนแอลกอฮอล์ สเปรย์ฉีดผมสูตรแอลกอฮอล์จะทำให้สารเคมีในปากกาเคมีแตกตัว ขจัดออกง่าย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สเปรย์ฉีดผมเหมาะจะใช้กับผ้าหนาๆ แข็งๆ เช่น ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ พรม และหนัง
-
ลองใช้น้ำยาล้างเล็บสูตรอะซิโตน ถ้าเป็นผ้าหนา. เอาฟองน้ำสะอาดหรือสำลีก้อนชุบน้ำยาล้างเล็บสูตรอะซิโตนจนชุ่ม แต่ไม่หยด แล้วเอาไปซับที่คราบหมึกโดยตรง จะชุบน้ำยาล้างเล็บเพิ่มก็ได้ จนกว่าจะซับคราบออกหมด [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำยาล้างเล็บสูตรอะซิโตนส่วนใหญ่ จะใส่ทั้งแอลกอฮอล์และอะซิโตน ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ช่วยละลายและขจัดคราบหมึกปากกาเคมีจากผ้าได้
- อะซิโตนอาจจะแรงไปสำหรับผ้าเนื้อบาง อย่างผ้าคอตตอนหรือลินิน เพราะงั้นแนะนำให้ใช้ยาล้างเล็บอะซิโตนขจัดคราบหมึกปากกาเคมี เฉพาะกับผ้าเนื้อหนาๆ แข็งๆ เช่น ผ้าขนหนูคอตตอนหนา พรม หรือผ้าบุเฟอร์นิเจอร์
-
ขจัดคราบหมึกด้วยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ. บีบเจลล้างมือใส่คราบ ขนาดเท่าเหรียญ 1 - 5 บาท แล้วแต่ว่าคราบใหญ่แค่ไหน จากนั้นใช้ฟองน้ำสะอาดทาเจลวนเป็นวงให้ทั่วคราบ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้ายังเหลือคราบ ก็ทำซ้ำตามขั้นตอนจนสะอาด [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เจลล้างมือนั้นปกติเอาไว้ใช้กับผิวหนังของเรา เพราะงั้นจะอ่อนโยนต่อเนื้อผ้ากว่าน้ำยาอื่นที่ผสมแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับขจัดคราบหมึกจากผ้าเนื้อบาง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด. พอขจัดคราบด้วยน้ำยาสูตรแอลกอฮอล์แล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด เพื่อขจัดทั้งคราบและน้ำยาออกไปจากผ้า หรือถ้าผ้าชิ้นนั้นซักเครื่องได้ ก็เอาไปซักด้วยน้ำยาซักผ้าสูตรปกติเหมือนทุกวัน หลังขจัดคราบแล้ว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ผสมน้ำส้มสายชูกลั่นขาวกับน้ำยาล้างจาน ใช้ขจัดคราบจากใยสังเคราะห์. ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และน้ำเย็นจัด 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.) เข้าด้วยกันในชาม จากนั้นใช้ฟองน้ำสะอาดชุบน้ำยาไปซับที่คราบ ให้ใช้ทิชชู่สะอาดซับน้ำยาเพิ่มประมาณ 2 - 3 วินาที ทุก 5 - 30 นาที โดยทิ้งไว้สักพักทุกครั้งที่ลงน้ำยา [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จากนั้นราดน้ำเย็นจัดใส่คราบเพื่อล้างน้ำยา สุดท้ายใช้ทิชชู่สะอาดซับที่ผ้าให้แห้ง
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาวผสมน้ำยาล้างจานนั้นใช้ขจัดคราบหมึกปากกาเคมีติดผ้าใยสังเคราะห์ อย่างผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ และพรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ใช้เบคกิ้งโซดาทำน้ำยาขจัดคราบหมึกอเนกประสงค์. คนผสมเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) กับน้ำเย็นจัด 1/3 ถ้วยตวง (80 มล.) เข้าด้วยกันจนเหนียวข้น แล้วใช้ทาที่คราบให้ทั่ว ค่อยๆ ขัดเป็นวงให้ซึมลงในคราบ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ค่อยซักในเครื่องซักผ้าตามปกติ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เบคกิ้งโซดาใช้ขจัดคราบหมึกปากกาเคมีที่ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์และพรม รวมถึงเสื้อผ้าได้ดี
- หรือจะใช้ยาสีฟันที่ผสมเบคกิ้งโซดาแทนก็ได้ ไม่ต้องผสมเอง แต่ระวังยาสีฟันมีส่วนผสมอื่นที่ส่งผลต่อเส้นใยผ้าได้ แนะนำให้ทดลองใช้แค่เล็กน้อยก่อน ตรงจุดที่ไม่เป็นที่สังเกต
- ถ้าผ้าซักเครื่องไม่ได้ ให้โรยเบคกิ้งโซดาใส่คราบจนมิด จากนั้นใช้แปรงสีฟันขัดถูจนคราบละลายออกมาจากผ้า ค่อยใช้น้ำเย็นจัดราด ขจัดเบคกิ้งโซดาออกไป [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แช่ผ้าในนมสดเพื่อขจัดคราบ. เทนมวัวรสธรรมชาติลงในชาม จากนั้นแช่ผ้าส่วนที่เลอะหมึกในนม ย้ำว่าคราบหมึกต้องชุ่มนม โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ค่อยเอาออกจากชามไปซักในเครื่องตามปกติ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นมสดเสียได้ และมีกลิ่นบูด เพราะงั้นแนะนำให้ใช้วิธีนี้เฉพาะคนที่มีเครื่องซักผ้า หรือมั่นใจว่าจะล้างนมออกจากผ้าได้หมดจด หลังขจัดคราบ
โฆษณา
-
ใช้น้ำยาขจัดคราบสูตรที่ใช้กับหมึกปากกาโดยเฉพาะ. มีขายทั้งในห้างสรรพสินค้าทั่วไปและในเน็ต รวมถึงร้านขายยาและร้านเคมีภัณฑ์ ถ้าจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ว่า ต้องอ่านและทำตามคำแนะนำที่ฉลากอย่างเคร่งครัด โดยวิธีใช้จะต่างกันออกไปตามเส้นใยผ้า และระยะเวลาที่เลอะหมึก [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำยาที่ใช้ขจัดคราบหมึกปากกาได้เห็นผลชะงัดก็เช่น Amodex Ink Remover และ The Laundress Stain Solution
-
ถ้าเพิ่งเลอะ ลองใช้น้ำยาขจัดคราบอเนกประสงค์ดู. ยิ่งลงน้ำยาขจัดคราบที่หมึกได้เร็วเท่าไหร่ ตัวน้ำยาอเนกประสงค์ก็น่าจะยังช่วยขจัดคราบได้ทันก่อนเซ็ตตัว หลายยี่ห้ออย่าง Tide และ Shout มีไลน์น้ำยาที่ใช้ง่าย ไม่ต้องผสมให้ยุ่งยาก ถึงจะไม่ได้เน้นขจัดหมึกปากกา แต่ก็น่าจะแทนกันได้ โดยเฉพาะถ้าลงมือทันทีหลังเลอะ
- หลายยี่ห้อมีน้ำยาขจัดคราบขนาดพกพาด้วย เรียกว่าเลอะเมื่อไหร่ ขจัดคราบเมื่อนั้น ไม่ต้องรอให้กลับถึงบ้านซะก่อน
-
ขจัดคราบหมึกด้วยน้ำยาฟอกขาว ถ้าเป็นผ้าขาว. ถ้าหมึกปากกาเคมีเลอะผ้าขาว เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หรือผ้าปูโต๊ะ ก็ขจัดคราบได้โดยซักในน้ำยาฟอกขาว ถ้าผ้าชิ้นนั้นซักเครื่องได้และทนน้ำยาฟอกขาว ก็ให้ใส่น้ำยาฟอกขาวในเครื่องซักผ้า จากนั้นเดินเครื่องซักด้วยน้ำร้อน ถ้าผ้าใช้น้ำยาฟอกขาวได้ แต่ซักเครื่องไม่ได้ ให้แช่ผ้าในน้ำยาฟอกขาว 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเย็นจัด จนไม่ให้เหลือคราบหมึก
- ย้ำว่าต้องอ่านรายละเอียดวิธีซักที่ป้ายของเสื้อผ้าซะก่อน จะได้แน่ใจว่าใช้น้ำยาฟอกขาวได้ ถ้าไม่ดูให้ดี ระวังน้ำยากัดผ้า ถึงจะเป็นผ้าขาวก็เถอะ
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรแอลกอฮอล์
- ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนาๆ
- ฟองน้ำสะอาด
- น้ำเย็นจัด
- เครื่องซักผ้า (ถ้ามี)
- น้ำยาซักผ้า (ถ้ามี)
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- สเปรย์ฉีดผม
- น้ำยาล้างเล็บสูตรอะซิโตน
- เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
ขจัดคราบด้วยของใช้ในบ้าน
- ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนาๆ
- ฟองน้ำสะอาด
- น้ำเย็นจัด
- เครื่องซักผ้า (ถ้ามี)
- น้ำยาซักผ้า (ถ้ามี)
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว
- น้ำยาล้างจาน
- เบคกิ้งโซดา
- นมสด
ใช้น้ำยาขจัดคราบสำเร็จรูป
- ทิชชู่ซับน้ำมันแผ่นหนาๆ
- น้ำยาขจัดคราบหมึก
- น้ำยาขจัดคราบอเนกประสงค์
- น้ำยาฟอกขาว
- เครื่องซักผ้า
- น้ำยาซักผ้า
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a16037/stains-felt-marker-may07/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a16037/stains-felt-marker-may07/
- ↑ https://www.rd.com/home/cleaning-organizing/8-weird-things-that-can-remove-stains/
- ↑ https://www.familyhandyman.com/cleaning/10-clever-ways-to-remove-permanent-marker-from-any-surface/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a16037/stains-felt-marker-may07/
- ↑ http://www.dontlookundertherug.com/blog/2015/11/4/how-to-remove-permanent-marker-from-clothes
- ↑ https://abc13.com/home/got-milk-household-items-that-can-remove-permanent-marker-stains/3588954/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a16037/stains-felt-marker-may07/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a16037/stains-felt-marker-may07/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,199 ครั้ง
โฆษณา