ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เสียงครางคือเสียงที่บอกคู่นอนว่าคุณมีอารมณ์หรือรู้สึกพอใจ ในทางทฤษฎีการครางเป็นสิ่งที่เซ็กซี่ เป็นเสียงที่ไม่เต็มใจ คุณครางในห้วงเวลาที่เร่าร้อนเพราะคุณถูกอารมณ์ครอบงำ ไม่ใช่ทุกคนที่ครางอย่างเป็นธรรมชาติ แต่การฝึกครางอาจเป็นวิธีที่ดีที่ทำให้คู่นอนเห็นว่าคุณกำลังสุขสม อ่านเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อให้รู้ว่าจะครางอย่างไรและครางเมื่อไหร่ดี

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เข้าใจการคราง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รู้ว่าในทางทฤษฎีแล้วการครางคือสิ่งที่ไม่เต็มใจ. การครางคือเสียงแห่งราคะที่หลุดรอดออกมาจากตัวคุณเวลาที่คุณถูกความสุขสมหรือความเร่าร้อนเข้าครอบงำ โดยมากมักจะเป็นในบริบทของการมีเพศสัมพันธ์ มันเป็นวิธีเปล่งเสียงบอกว่าคุณรู้สึกดีแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ "เสียงดัง" ได้และหลายคนก็ไม่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกทางเพศออกมาให้คนอื่นรับรู้ได้ แต่ด้วยการฝีกฝน ความมั่นใจ และคู่นอนที่คอยช่วยเหลือคุณ คุณก็อาจจะได้เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยเสียงครางออกมาและทำให้มันฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
    • จากการวิจัยแนะนำว่าการครางนั้นมีสติควบคุมอยู่บางส่วน โดยเฉพาะในผู้หญิง [1] ดังนั้นถ้ารู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวล! ยังมีทางเป็นไปได้ที่คุณจะหัดครางออกมา
  2. ดูวิดีโอหรือฟังคลิปเสียงคนกำลังมอบความสุขให้กันและกันและครางออกมาด้วย ดูวิดีโอ Youtube เรื่องวิธีการคราง [2] วิธีฝึกครางที่ดีที่สุดก็คือการเลียนเสียงคนที่ครางเก่งๆ ถ้าคุณได้ยินใครทำเสียงครางแบบเซ็กซี่ๆ ให้รอจนถึงตอนที่อยู่คนเดียวแล้วพยายามเลียนแบบเสียงนั้น
  3. แต่ละคนมีวิธีตอบสนองความสุขสมที่รุนแรงไม่เหมือนกัน และคุณก็ไม่ต้องฝืนให้ตัวเองครางด้วยถ้ามันไม่ได้ออกมาจากธรรมชาติของคุณ แน่ล่ะว่าบางคนก็ครางเสียงดังตามธรรมชาติเวลาอยู่บนเตียง แต่เสียงครางที่คุณได้ยินในหนังหรือหนังโป๊มันคือการดัดแปลงความเป็นจริงอย่างจงใจ ถ้าคู่นอนเขาชอบนอนกับคุณจริงๆ เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณจะครางหรือไม่คราง [3]
    • คุณอาจจะพบว่าคู่นอนของคุณ (ไม่ว่าจะเป็นคู่นอนที่เป็นคนรักหรือคู่นอนชั่วคราว) ไม่ได้สนใจเรื่องเสียงครางเลย อย่าทึกทักไปว่าทุกคนจะหลงใหลในเสียงครางแค่เพราะว่ามันมีความหลงใหลทางวัฒนธรรมที่มีต่อเสียงครางเกิดขึ้น
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รู้ว่าควรครางเมื่อไหร่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่คราง มันควรเป็นการแสดงออกอย่างรุนแรงถึงสิ่งที่คุณรู้สึกอยู่แล้ว ถ้าคุณแกล้งรู้สึกดีทั้งที่คุณไม่ได้รู้สึกแบบนั้น คู่นอนของคุณเขาก็อาจจะสังเกตได้ [4] ลองนึกถึงช่วงเวลาที่คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณกำลังรู้สึกแต่คุณไม่ได้แสดงมันออกมาสิ โดยแก่นแท้แล้วการครางก็คือการแสดงความสุขสมนั้นออกมา มันเป็นวิธีการบอกเล่าความสุขสมออกมาแบบหนึ่ง
    • ในบางกรณีคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นจะต้องคราง อาจจะเพราะว่าคุณอยากทำให้คู่นอนรู้สึกว่าคุณได้รับความสุขจากเขาแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้นจริงๆ ก็ตาม คุณอาจจะแค่คิดว่าคู่นอนอาจจะรู้สึกว่ามันเร่าร้อนหากคุณเพิ่มระดับเสียง ฝึกล่วงหน้าเพื่อที่ตอนที่คุณทำมันจริงๆ เสียงแกล้งครางของคุณจะได้ดูเนียนมากขึ้น
  2. เสียงครางเบาๆ เป็นวิธีที่ดีในการส่งสัญญาณว่าคุณกำลังมีอารมณ์กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและคุณก็อยากให้มันเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ปล่อยเสียงหอบหรือเสียง "อืมมม" ต่ำๆ ตอนที่คู่นอนกำลังสัมผัสคุณในแบบที่ทำให้คุณรู้สึกดี แต่อย่าทำมากเกินไป เพราะมันอาจจะดูเหมือนแกล้งทำได้
  3. การครางอย่างหนักหน่วงสามารถทำให้ช่วงเวลาดุเดือดร้อนแรงขึ้นไปอีกระดับ [5] ปล่อยเสียงครางยาวๆ ปลดปล่อยความอัดอั้นและอย่ากลัวที่จะเสียการควบคุม ยิ่งคุณปลดปล่อยมันออกมาเท่าไหร่ มันยิ่งฟังดูจริงมากเท่านั้น และเสียงของคุณก็จะยิ่งกระตุ้นอารมณ์คู่นอนมากขึ้นไปอีก
    • ระวังเรื่องสถานที่ด้วย ถ้าคุณมีเหตุผลที่จะต้องเงียบเสียง ก็พยายามอย่าอินกับการครางมากเกินไป เพราะบางทีผนังอาจจะบาง หรือคุณมีรูมเมต หรือพ่อแม่นั่งอยู่ห้องถัดไป เก็บการครางเสียงดังๆ เอาไว้ตอนที่คุณสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้จริงๆ ดีกว่า
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ฝึกคราง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เสียง "คราง" ที่เรียบง่ายที่สุดก็คือเสียงถอนหายใจเบาๆ ที่แสดงถึงความสุข คุณอาจจะปล่อยเสียงนี้ออกมาตอนไหนก็ได้ที่คุณคิดว่าเหมาะ ถอนหายใจเมื่อโดนสัมผัสครั้งแรก ระหว่างเล้าโลม หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่จังหวะเริ่มช้าลง แต่โดยทั่วไปมันคือเสียงที่บอกว่า "เครื่องเริ่มติด" มากกว่า
  2. ขณะที่สถานการณ์เริ่มเข้มข้นขึ้น หายใจให้เร็วขึ้นและพยายามหายใจให้เขาได้ยินเหมือนกับว่าคุณกำลังออกแรงอย่างหนัก พอมันเริ่มเร่าร้อนและดุเดือดขึ้น คุณอาจจะพบว่าตัวเองหายใจถี่ขึ้นเพื่อรับกับความเร่าร้อนของช่วงเวลานั้นๆ อย่ากลัวที่จะหายใจเหนื่อยหอบและล่องลอยไปขณะที่คุณกำลังปลดปล่อยตัวเองไปตามความรู้สึก
  3. ขณะที่กำลังหายใจแรงขึ้น ให้เพิ่มเสียงและน้ำเสียงเข้าไปขณะหายใจด้วย. ทุกครั้งที่หายใจเข้า ให้ใช้เส้นเสียงทำเสียง "อู้" ถ้าเป็นผู้หญิงคุณก็อาจจะเปลี่ยนเสียงให้สูงกว่าปกติ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายก็ให้ปรับเสียงให้ต่ำลง อย่ารู้สึกว่าตัวเองจะต้องครางตาม "ขนบ" และปล่อยให้ตัวเองครางอย่างเป็นอิสระในแบบที่คุณรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมากที่สุด [6]
    • หรือคุณจะใช้เส้นเสียงเวลาคุณหายใจออกก็ได้ เพราะการปรับระดับเสียงครางให้ฟังดูลึกขึ้นอาจจะทำได้ง่ายตอนหายใจออกมากกว่าหายใจเข้า จะวิธีไหนก็แล้วแต่การใช้กล้ามเนื้อเสียงก็ให้ผลเหมือนกัน
  4. ใช้การเปลี่ยนเสียงสูงต่ำที่แสดงออกชัดเจนว่าคุณกำลังสนุกกับมัน อย่า "อืมมมม" แบบเรียบๆ ใช้โทนเสียงเซ็กซี่เย้ายวนใจ คิดว่าตัวเองเป็นแมวที่กำลังครางอย่างมีความสุข คุณบอกได้ว่าแมวมันมีความสุขตอนที่มันครางออกมาแม้ว่ามันจะแค่คำรามในโทนเสียงเฉพาะของมันก็ตาม
  5. ประสบการณ์จริงเป็นวิธีสร้างความมั่นใจและฝึกครางที่ดีที่สุด ลองทำเลยแม้ว่าคุณจะไม่มั่นใจก็ตาม เพราะยิ่งคุณฝึกครางมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น และมันก็จะง่ายขึ้นด้วย [7]
    • ถ้าคุณมีความสัมพันธ์กับคนๆ นี้มาสักพักหนึ่งแล้ว ก็อาจจะเริ่มจากครางเล็กๆ น้อยๆ ก่อนก็ได้ ส่งเสียงถอนหายใจ "อืมมมม" และครางเสียงต่ำๆ ก่อน อย่าเพิ่งกระโดดไปครางเสียงดังเพราะเขาอาจจะผงะได้
    • ถ้าคุณอยู่กับคู่นอนคนใหม่ คุณก็ไม่มีความคาดหวังอะไรมากดดัน คุณอาจจะพยายามปลดปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปกับช่วงเวลานั้นและสำรวจด้านใหม่ในตัวเองที่เป็นอิสระเลยก็ได้
  6. สิ่งสำคัญคือคุณสนุกกับอีกคนที่ก็สนุกด้วยเหมือนกัน ปล่อยให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องของความสนุกสนาน และเรื่องของความสวยงาม

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 237,228 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม