ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความรักมีหลากหลายรูปแบบ และมีหลายวิธีที่จะรู้ว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หรือไม่ หรือคุณแค่หลงใหลในตัวคนคนนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณสังเกตว่าคุณรู้สึกและทำตัวอย่างไรเวลาอยู่ใกล้คนพิเศษของคุณ คุณน่าจะคิดออกว่าคุณกำลังรักอีกฝ่ายหรือไม่ ถ้าคุณต้องการวิธีพิสูจน์ความรู้สึกของคุณ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดู

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตความคิดของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถนึกถึงภาพในอนาคตโดยปราศจากคนที่คุณรักได้หรือไม่. ถ้าคุณกำลังตกหลุมรักอยู่จริงๆ ล่ะก็ คุณก็คงไม่สามารถวาดภาพอนาคตของคุณโดยปราศจากคนคนนั้นได้ ไม่ว่าจะในตอนเช้า ค่ำ หรือตอนอยู่กับเพื่อนฝูง ความจริงที่ว่าคุณหยุดนึกถึงอนาคตที่จะมีร่วมกับคนคนนั้นไม่ได้ นั่นแปลว่า คุณกำลังตกหลุมรัก และ”อาจ”ได้เจอกับ”คนที่ใช่”แล้ว ไม่ว่าจะคุณกำลังคิดเรื่องย้ายไปอยู่ที่อื่น มีลูก ใช้เวลาสักหนึ่งปีในต่างประเทศ หรือกำลังก้าวไปสู่เป้าหมายในอนาคต คุณควรจะนึกภาพว่ากำลังทำสิ่งเหล่านี้โดยมีคนสำคัญของคุณคอยอยู่เคียงข้าง ถ้าคุณไม่สามารถจินตนาการว่าจะใช้ชีวิตโดยไม่มีคนที่สำคัญต่อคุณไปได้อย่างไรโดยไม่ใช่นึกถึงแค่ฤดูร้อนที่จะมาถึงหรือในปีถัดไป ถ้างั้นคุณอาจจะรักอีกฝ่ายเข้าจริงๆ และข้อต่อไปนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังรักอีกฝ่าย:
    • ถ้าคุณนึกภาพไม่ออกว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคุณอย่างไร ไม่ว่าจะทำงานใหม่ หรือย้ายไปอยู่ที่ใหม่ โดยไม่มีคนรักของคุณคอยอยู่ข้างๆ
    • ถ้าคุณคิดเรื่องจะมีลูก และนึกถึงแต่การมีลูกกับคนที่คุณรัก และไม่สามารถนึกว่าจะมีลูกกับคนอื่นได้
    • ถ้าคุณไม่สามารถจินตนาการในตอนแก่ตัวลงโดยไม่มีคนรักของคุณคอยอยู่เคียงข้าง
  2. คุณไม่สามารถใช้เวลาผ่านไปสองสามชั่วโมงโดยไม่นึกถึงคนที่คุณรักได้หรือไม่. การมีความรัก คุณไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดถึงแต่คนรักของคุณ อันที่จริง มันค่อนข้างจะตรงกันข้ามกันเลยล่ะ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์รักใคร่กันดี คุณก็ควรจะใช้เวลานอกเหนือจากอยู่กับคนที่คุณรักโดยไม่คอยนึกทุกๆ ห้าวินาทีว่าว่าเขาหรือเธอกำลังทำอะไร [1] อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์ หรือทั้งเดือน โดยไม่ได้นึกถึงคนรักของคุณเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็แปลว่าคุณอาจชอบเขามากแต่ยังไม่ถึงขั้นรักเขา ลองดูว่าคุณมีสัญญาณอื่นๆ ไหมที่แสดงว่าคุณกำลังมีความรักจริงๆ :
    • ถ้าคุณอ่านหนังสือหรือไปดูหนังโดยไม่มีคนรักคุณอยู่ด้วย คุณอาจสงสัยว่าเขาหรือเธอจะคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้
    • ถ้าคุณลองเสื้อผ้าโดยไม่มีคนพิเศษของคุณอยู่ที่นั่น คุณอาจคิดว่าเขาหรือเธอจะชอบลุคใหม่ของคุณหรือไม่
    • ถ้าคุณโทรศัพท์หรือส่งข้อความหาคนรักของคุณเพียงเพราะคุณต้องการทักทาย หรืออยากได้ยินเสียงของอีกฝ่าย คุณก็อาจกำลังตกหลุมรักเข้าล่ะ
  3. คุณให้ความสำคัญกับความเห็นจากคนรักคุณจริงๆ หรือไม่. ถ้าคุณกำลังตกหลุมรักอยู่ล่ะก็ คุณจะไม่คิดแค่ว่าคนรักของคุณเป็นสิ่งของสมบูรณ์แบบที่ควรค่าแก่การสักการะ แต่จะนึกถึงอีกฝ่ายในมนุษย์เดินดินและเป็นคนมีแนวคิดน่าสนใจและมีความเห็นเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริงล่ะก็ คุณควรให้ความสำคัญกับความเห็นของเขาหรือเธอและควรใส่ใจว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ หรือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ถึงแม้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องสนใจว่าสิ่งที่เขาหรือเธอคิดเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคุณไม่ให้ความสำคัญกับความเห็นคนรักคุณล่ะก็คุณย่อมไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง สัญญาณบ่งบอกว่าคุณเจอคนที่ใช่ดูได้ดังต่อไปนี้:
    • ถ้าคุณไตร่ตรองความเห็นของคนรักคุณเวลาคุณตัดสินใจเรื่องใหญ่ นั่นหมายถึงคุณจริงจังกับคู่รักคุณและรักอีกฝ่ายจริง
    • ถ้าคุณอยู่ในสภาวะทางสังคมที่ลำบาก และให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนพิเศษของคุณในสิ่งที่คุณควรทำ คุณอาจกำลังมีความรัก
    • ถ้าคุณสนใจว่าคนรักของคุณมีความเห็นต่อเรื่องข่าว การเมือง บันเทิง หรือเรื่องไหนๆ ก็ตามที่มีความสำคัญกับคุณล่ะก็ คุณก็อาจรักอีกฝ่ายแล้วจริงๆ
  4. คนรักคุณทำให้คุณอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิมหรือไม่. ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริงล่ะก็ ไม่ใช่แค่รู้สึกสบายใจกับสถานะความสัมพันธ์คุณ ถึงแม้ว่าคุณจะพึงพอใจคนรักคุณมากก็ตาม แม้ว่าการมีความสุขที่จะคบกันและความเป็นตัวของตัวเองล้วนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การอยู่กับคนรักควรจะทำให้คุณพัฒนาชีวิตตัวเองไปอีกขั้นหนึ่งและเป็นคนดีที่สุดเท่าที่ควรจะเป็นได้ในท้ายที่สุด ลองดูว่าคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้เพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าใช่ก็แปลว่าคุณกำลังรักอีกฝ่ายเข้าจริง:
    • ถ้าคุณอยากอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น รู้เยอะขึ้น ใส่ใจมากขึ้น และแค่เป็นคนที่อยู่ใกล้แล้วรู้สึกดีไม่ใช่แค่กับคนรักของคุณ แต่เพราะเขาหรือเธอกระตุ้นให้คุณต้องการที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณในทางที่ดี นี่แปลว่าคุณกำลังมีความรัก
    • ถ้าคุณอยากเอ่ยถึงข้อบกพร่องที่มีและปรับปรุงตัวคุณให้ดีขึ้นหลังจากอยู่ใกล้กับคนรักของคุณ คุณตกหลุมรักแล้ว
  5. คุณรู้สึกว่านี่เป็นตัวตนที่ดีที่สุดของคุณเวลาอยู่กับคนที่คุณรักใช่หรือไม่. ถ้าคุณรักเขา คนที่คุณรักควรจะดึงสิ่งดีๆ ของคุณออกมา เพราะถึงอย่างไรถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณจะต้องการอยู่กับคนที่คุณรักไปตลอดชีวิต ดังนั้นคนนั้นควรทำให้คุณรู้สึกคุณเป็นตัวของตัวเองในแบบดีที่สุด ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ [2] หรือคุณยังบกพร่องอยู่บางอย่างเมื่อคุณอยู่ใกล้กับคนรัก นั่นหมายความว่าคุณอาจไม่ได้รักอีกฝ่าย ลองสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณรักคนรักคุณจริงๆ :
    • ถ้าคุณรู้สึกเป็นคนหล่อหรือสวยที่สุดเวลาอยู่กับคนรักคุณ แม้ว่าคุณจะแต่งตัวดูธรรมดาก็ตาม
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณดูฉลาดและดูดีที่สุดตอนที่คุยกับคนรักของคุณ
    • ถ้าคุณรู้สึกมั่นใจตัวเองสุดเวลาอยู่ใกล้คนที่คุณรัก และไม่ต้องกังวลว่าคุณดูไม่ฉลาดตอนที่จะเอ่ยปากพูดเรื่องอะไรก็ตาม
  6. คุณรับรู้ถึงข้อบกพร่องของคนรักคุณและรับได้หรือไม่. ถ้าคุณรักเขาหรือเธอจริง คุณจะเห็นคนสำคัญของคุณในฐานะมนุษย์ปุถุชนที่มีข้อเสียเหมือนอย่างคนทั่วๆ ไป ไม่ใช่เทพเจ้าหรือเทพธิดา ถ้าคุณยืนยันว่าคนรักของคุณเพอร์เฟค ก็แปลว่าคุณกำลังมีปัญหาแล้วล่ะ แต่ถ้าคุณสบายใจในการยอมรับว่าคนรักคุณอาจเป็นคนเห็นแก่ตัวบ้าง หรือไม่ใช่ผู้ฟังที่ดีที่สุดในโลก นั่นหมายถึงคุณมองความสัมพันธ์ของคุณได้ตามความเป็นจริง และมีแนวโน้มสูงขึ้นว่าคุณกำลังรักอีกฝ่ายจริง
    • รับรู้ถึงข้อเสียของคนรักไม่ได้แปลว่าคุณไม่ควรช่วยให้เขาหรือเธอรับรู้เช่นกัน ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ควรทำ
    • ถ้าคุณนึกเรื่องสองถึงสามอย่างที่ทำให้คนพิเศษของคุณดูเพอร์เฟคน้อยลงไม่ได้ล่ะก็ คุณไม่ได้มองเห็นอีกฝ่ายในแบบที่เป็นอยู่จริงๆ
    • ถ้าคุณและคนรักทำตัวตามสบายเวลาอยู่ด้วยกันมากพอจนหัวเราะเรื่องข้อบกพร่องของกันและกันได้ นั่นแปลว่าคุณมีแนวโน้มสูงที่จะรักอีกฝ่ายจริงๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สังเกตสิ่งที่คุณทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณมีความสุขเวลาได้ช่วยเหลือคนรักคุณหรือไม่. ความรักคือการรับและการให้ ถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณก็คงจะสนุกกับการให้มากเท่าๆ กับการรับ คุณควรมีความสุขเวลาได้ทำอาหารกลางวันให้คนที่คุณรัก ขับรถพาคนรักของคุณไปส่ง หรือแม้กระทั่งซักรีดเสื้อผ้าให้เขาหรือเธอเวลาที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาทำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้คุณไม่ควรจะเอาเปรียบคนรักคุณ แต่คุณควรจะสนุกกับการได้ให้ความช่วยเหลือคนรักในยามที่เขาหรือเธอต้องการ และพร้อมที่จะรับความช่วยเหลือกลับจากอีกฝ่ายเช่นกัน ลองสังเกตว่ามีสัญญาณไหนบ่งชี้ว่าคุณกำลังมีความรัก:
    • ถ้าคุณรู้สึกดีเวลารินกาแฟให้คนรักคุณ หรือทำให้คนรักคุณประหลาดใจด้วยของหวานจากร้านเบเกอรี่เจ้าโปรดโดยที่คุณไม่รู้สึกว่ากำลังเสียเวลาอันมีค่าไปกับการทำเรื่องเหล่านี้
    • ถ้าคุณชื่นชอบที่จะสอนคนรักของคุณทำอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเบอร์เกอร์สุดเพอร์เฟค หรือแก้ปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์สุดหิน
  2. ความรักไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคุณสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการจ้องนัยน์ตาของคนที่คุณรักอย่างโหยหา แต่นั่นก็อาจทำชีวิตรักน่าเบื่อไปบ้าง ถ้าคุณกำลังมีความรักอยู่จริงล่ะก็ คุณจะทำเรื่องไร้สาระและหัวเราะไปพร้อมกับคนรัก และรู้สึกสนุกกับอารมณ์ขันของอีกฝ่าย ถึงคุณสองคนไม่จำเป็นต้องมีอาชีพนักแสดงตลกเพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราวก็มีส่วนช่วยได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความสบายใจของคุณที่มีพอ (และมีความสุขพอ) ในการอยู่ด้วยกันอย่างคนรัก
    • ถ้าคนพิเศษของคุณมีความสามารถทำให้คุณรู้สึกตลกแม้ในตอนที่คุณรู้สึกแย่ที่สุดล่ะก็ คุณตกหลุมรักอีกฝ่ายแล้วล่ะ
  3. คุณสนุกกับการได้ทำบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ กับคนรักคุณหรือไม่. รักแท้ไม่ใช่ตอนหนึ่งจากเรียลลิตี้โชว์ “The Bachelor” ถึงแม้ว่าการขึ้นเครื่องเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับคนรักคุณ หรือมีปิกนิกหวานแหววในไร่องุ่นจะเป็นประสบการณ์สุดเหลือเชื่อและสุดแสนจะโรแมนติก รักแท้หมายถึง การทำกิจกรรมพื้นๆ ไปพร้อมกับคนรักของคุณได้อย่างมีความสุข ตั้งแต่การดื่มเบียร์หนึ่งถึงสองกระป๋องในบาร์แถวบ้านคุณ ไปจนถึงการซื้อถังขยะลายคิตตี้และแวะซื้อไอศกรีมระหว่างทางกลับบ้าน ลองสังเกตดูว่าคุณมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าคุณรู้สึกปลาบปลื้มกับเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่รัก:
    • ถ้าคุณชอบแค่นั่งอยู่ใกล้ๆ และดูรายการทีวีที่ชื่นชอบพร้อมกับคนรักของคุณ
    • ถ้าคุณอยากออกไปซื้อไอศกรีมกินกับคนรักมากพอๆ กับที่ชอบไปรับประทานอาหารชุดหรูอลังการด้วยกัน
    • ถ้าคุณเพลิดเพลินกับค่ำคืนที่อยู่กับคนที่คุณรักมากเท่ากับเวลาออกเดทแบบอู้ฟู่ในโอกาสพิเศษ
  4. คุณประคองชีวิตรักของคุณผ่านช่วงเวลาที่ลำบากได้หรือไม่. ความรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาย ถึงแม้ว่าคุณจะรักอีกฝ่ายจริง วันเวลาดีๆ ควรจะมีมากกว่าวันที่แย่ๆ และคุณควรจะรู้สึกสบายใจกับสถานะของคุณแม้ในช่วงที่ดูไม่สมบูรณ์แบบ จากการเสียหน้าที่การงานไปจนถึงการจากไปของคนที่คุณรัก สถานการณ์ที่ยากลำบากจะทดสอบความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์คุณ และถ้าคุณไม่เคยต้องข้ามฝ่ายอุปสรรคครั้งสำคัญพร้อมกับคนรัก คุณอาจไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะรู้ว่าคุณรักอีกฝ่ายหรือยัง [3]
    • ถ้าคุณเคยแก้ไขปัญหายากๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นพยายามทำให้คู่ของคุณไปด้วยกันได้ท่ามกลางตารางที่อัดแน่นยุ่งเหยิงของคุณ หรือรับมือกับความผิดหวังของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากเหตุการณ์สำคัญในชีวิต นั่นแปลว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองจะเข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านั้น
    • ถ้าคุณยังเข้มแข็งได้แม้ว่าคนที่คุณรักจะจากไปแล้วก็ตาม นั่นแปลว่า คุณมีแนวโน้มที่จะพบกับรักแท้แล้ว
  5. คุณเต็มใจที่จะทำในสิ่งที่คุณไม่คุ้นเคยเพื่อคนที่คุณรักหรือไม่. คุณคงจะเต็มใจลองทำสิ่งแปลกใหม่สำหรับคนที่คุณรัก ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริง ถึงแม้ว่าการทำสิ่งเหล่านั้นทำให้คุณรู้สึกกลัวหรือท้องไส้ปั่นป่วนบ้าง นี่ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเดินข้ามถ่านหินร้อนๆ หรือทำให้ตัวเองอับอายเพียงเพื่อเอาชนะใจคนที่คุณรัก แต่นี่หมายถึงการที่คุณพร้อมที่จะเดินทางไกลเพื่อไปพบญาติห่างๆ ของคนรักคุณในประเทศกัวเตมาลา หรือไปปีนเขากับคนรักถ้าเขาชื่นชอบการปีนเขา [4]
    • ถ้าคุณเต็มใจทำบางอย่างที่คุณคิดว่าคุณจะไม่มีวันทำ เช่น เรียนภาษาใหม่ หรือเรียนว่ายน้ำ เพราะนี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรักของคุณล่ะก็ มีแนวโน้มสูงว่าคุณกำลังมีความรัก
    • ถ้าคุณรู้สึกสบายใจมากขึ้นในสิ่งที่คุณไม่สบายใจในขณะที่คนรักอยู่หรือไม่อยู่กับคุณ นั่นแปลว่าคุณกำลังมีความรัก
  6. ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริงๆ คุณควรจะรู้ว่าคุณไม่สามารถได้ทุกอย่างดั่งใจนึก ถ้าคนรักคอยทำตามใจคุณเพราะคุณหัวดื้อมากล่ะก็ คุณไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง การรักหมายถึง คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการบ้างเป็นบางเวลา และให้คนรักของคุณได้ในสิ่งที่ต้องการบ้าง หรือให้ดีไปกว่านั้น หาทางออกที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุข
    • ถ้าคุณรักอีกฝ่าย คุณไม่ควรแค่เจรจากับคนรักของคุณ แต่คุณควรรู้สึกดีที่ได้ตัดสินใจร่วมกัน แทนที่จะรู้สึกว่าคุณไม่ได้ในสิ่งที่คุณต้องการ
    • คุณทั้งสองคนสามารถเจรจาต่อรองกันโดยที่ไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งทำตามใจอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ก็แปลว่าคุณกำลังมีความรักจริง
  7. คุณรู้สึกผ่อนคลายในการรักษาความเป็นตัวของตัวเองได้หรือไม่. ถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณไม่ควรพยายามเป็นเหมือนคนรักของคุณเพิ่มมาอีกคน โดยการเลียนแบบความชอบและงานอดิเรกของคนรักคุณ พร้อมกับทิ้งทุกอย่างที่ทำให้คุณมีความสุขก่อนจะคบกับคนรักของคุณ แทนที่จะทำแบบนั้น คุณควรจะสามารถรักษาความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้ในขณะที่เติบโตไปพร้อมกับคนที่คุณรัก [5] ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริง คุณควรจะทำสิ่งเหล่านี้:
    • รู้สึกสบายใจที่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงคุณโดยไม่มีคนพิเศษของคุณไปด้วย และปล่อยให้อีกฝ่ายทำแบบเดียวกันได้
    • พอใจที่จะคงความชอบส่วนตัวของคุณ เช่น โยคะ หรือฟุตบอล ถึงแม้ว่าคนรักของคุณจะไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นก็ตาม
    • มีความสุขกับการอยู่คนเดียวบ้าง แทนที่จะคอยออกไปเที่ยวกับคนพิเศษของคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สังเกตสิ่งที่คุณพูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถพูดในสิ่งที่คิดต่อหน้าคนที่คุณรักได้หรือไม่. ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริง คุณไม่ควรเก็บคำพูดเอาไว้เวลาคุยกับอีกฝ่าย นี่ไม่ได้แปลว่า คุณจะบอกเขาหรือเธอในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปเสียทุกเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด หรือบ่นเขาหรือเธอเพราะคุณรู้สึกว่าคุณกำลังเป็นคนพูดความจริง แต่นี่แปลว่า คุณควรจะรู้สึกสบายใจพอกับความสัมพันธ์ของคุณจนสามารถพูดเรื่องที่กวนใจคุณ หรือแบ่งปันความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ โดยไม่รู้สึกว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเพราะคนรักคุณอาจรู้สึกเบื่อ โกรธ หรือแค่ไม่สนใจ [6]
    • ถ้าคุณบอกแฟนคุณในสิ่งที่คุณรู้สึกได้ตามตรงเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง โดยไม่ต้องกังวลว่าคุณจะฟังดูไม่เป็นผู้ใหญ่ หรือโง่ นั่นก็แปลว่าคุณอาจจะรักอีกฝ่ายแล้ว
    • ถ้าคุณพอใจเวลาปล่อยมุกตลก ที่ไม่ว่าจะซ้ำซากแค่ไหนก็ตาม ถ้างั้นคุณกับคนรักก็มาในทิศทางเดียวกันล่ะ
  2. คุณมีความสุขที่ได้ใช้เวลาพูดคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องกับคนรักของคุณหรือไม่. ถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณกับคนรักไม่จำเป็นต้องพูดถกความหมายของชีวิต หรือสถานะทางความสัมพันธ์ของคุณอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งความรักเกิดจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และบทสนทนาของคุณส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องโลกแตกหรือฟ้าถล่ม และนั่นก็สมบูรณ์แบบแล้ว
    • ถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณจะรู้สึกมีความสุขที่ได้พูดวิเคราะห์การเลิกราแย่ๆ ครั้งล่าสุด หรือแค่พูดคุยเรื่องทั่วไปกับคนรักคุณในระหว่างดูกีฬาอย่างเบสบอล และรู้สึกว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
    • ถ้าคุณเพิ่งวางสายจากคนรักหลังจากที่ได้หัวเราะอยู่ตลอดและนึกขึ้นมาว่า “เมื่อกี้เพิ่งคุยอะไรกันไปนะ” นั่นก็แปลว่า คุณกำลังมีความรัก
  3. คุณรู้สึกสบายใจที่ได้เปิดเผยจุดอ่อนของคุณให้คนที่คุณรักรู้หรือไม่. ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริง คุณควรรู้สึกสบายใจพอที่จะให้คนที่คุณรักเห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ ถึงแม้ว่านั่นหมายถึงการเปิดเผยด้านที่น่าดึงดูดน้อยลง ถ้าทุกสิ่งที่คุณพูดปรุงแต่งขึ้นเพื่อให้คนสำคัญของคุณชอบคุณหรือต้องการจะอยู่กับคุณมากยิ่งขึ้น นั่นแปลว่า คุณไม่รู้สึกสบายใจกับเขาพอที่จะตกหลุมรัก
    • ถ้าคุณเต็มใจที่จะเปิดใจและพูดคุยถึงข้อผิดพลาดหรือเรื่องเศร้าในอดีตของคุณ นั่นมีแนวโน้มว่าคุณกำลังมีความรัก
    • คุณไม่จำเป็นต้องบอกคนที่คุณรักในทุกๆ เรื่องที่ทำให้คุณเจ็บปวด แต่คุณจะสามารถรู้สึกดีขึ้นได้ภายหลังจากได้พูดถึงมัน ถ้าคุณกำลังตกหลุมรัก คุณจะยอมรับทั้งข้อเสียและเรื่องอื่นๆ ของกันและกันได้
  4. คุณคอยหาทางชื่นชมคู่รักของคุณด้วยคำชมใหม่ๆ อยู่เสมอหรือไม่. ถ้าคุณรักอีกฝ่ายจริง คุณจะรู้สึกอยากชื่นชมคู่รักของคุณ คุณจะคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ถ้าทั้งหมดที่คุณคิดได้คือ “คุณร้อนแรงจัง” หรือ “คุณตลกจัง” นั่นหมายถึงคุณต้องคิดให้ลึกกว่านี้ว่า ทำไมคุณถึงรู้สึกรักคนนี้ที่คุณอยู่ด้วย คุณควรจะสามารถชื่นชมข้อเด่นของอีกฝ่ายทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกได้
    • ถ้าคุณพบว่าคุณสมบัติที่ดีของคนรักคุณซึ่งเหมือนจะมีอยู่ไม่สิ้นสุดคอยทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจและพึงพอใจ นั่นก็แปลว่า คุณกำลังมีความรัก
    • ถ้าคุณคอยบอกคนพิเศษของคุณว่าสิ่งที่คุณรักในตัวเขาหรือเธอคืออะไร และคุณหมายความตามนั้นจริง นี่อาจหมายถึง คุณกำลังมีความรัก
  5. ถ้าคุณกำลังมีความรัก คุณจะสังเกตเห็นพวกเขาที่ความสวยจากภายใน ไม่ใช่ (เพียง) ความสวยภายนอกของพวกเขา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเวลาที่คุณมองเห็นอีกฝ่ายและทำให้คุณมีรอยยิ้มบนใบหน้าและรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมกัน นั่นก็แปลว่า คุณอาจจะรักพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแค่การคิดถึงพวกเขาทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น
  • เมื่อคุณฟังเพลงรักและคิดถึง “คนพิเศษคนนั้น” นี่อาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังมีความรัก
  • เวลาคุณตกหลุมรัก พอคุณเห็นเขาหรือเธอ คุณอาจรู้สึกหัวใจกระตุกและเต้นเร็วขึ้น
  • ถ้าคุณชอบพวกเขา คุณจะแก้มแดงและรู้สึกเคอะเขินเวลาอยู่ใกล้อีกฝ่าย ถ้าคุณชอบหรือรักเขาจริงๆ คุณจะรู้สึกถึงตัวเองแต่ก็ยังรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ใกล้เขา
  • หัวใจคุณอาจเต้นเร็วมาก คุณอาจแก้มแดงหรือตื่นเต้นหรือประหม่า จำไว้ว่าจงอดทนในความรัก เวลาที่เหมาะสมคือทุกสิ่ง
  • พวกเขาทำให้คุณรู้สึกมีความสุขสุดขีดหรือตื่นเต้นสุดขั้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาให้แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณเป็นตัวคุณเองในแบบที่ "ดีที่สุด” ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตอบรับความรักของคุณก็ตาม
  • เมื่อคุณมีความรัก คุณมักคอยมองหาเขาหรือเธอคนนั้น หรือตามหาอีกฝ่าย
  • อย่าใจร้อนเรื่องความรัก! หาคนที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ ไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ “รัก” ใคร เพียงเพราะพวกเขาเป็นคนป๊อปปูล่า หรือคุณคิดว่าคุณควรรัก
  • ถ้าคุณไม่สามารถเอ่ยชื่อพวกเขาโดยไม่หุบยิ้มได้ คุณอาจกำลังมีความรัก
  • ถ้าคุณจะเต็มใจรอใครบางคน หรืออยู่ในที่ที่หนึ่งเป็นระยะเวลานานได้ นั่นอาจเกิดจากความรัก
  • เวลาคุณมีความรัก คุณอาจไม่สามารถนอนหลับได้เพราะคุณหยุดคิดถึงพวกเขาไม่ได้
  • ทำในสิ่งที่จำเป็นและดีที่สุดสำหรับคนคนนี้ ถึงแม้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ
  • ถ้าคุณรู้สึกตัวเบาหวิวเวลาคิดถึงพวกเขา นั่นหมายถึงคุณอาจรักอีกฝ่ายแล้ว
  • ถ้าคุณรู้สึกประหม่าเวลาอยู่ใกล้คนคนนั้นและหัวใจคุณ”เต้นผิดจังหวะ”เวลาที่คนคนนั้นคุยกับคุณ คุณอาจรักคนนั้น
  • ถ้าคุณรู้สึกเหมือนคุณกำลังรักใครบางคน คุณจะนิยามอีกฝ่ายหนึ่งโดยอัตโนมัติและจะคอยเคียงข้างเขาเมื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น
  • คุณอาจทำตัวเหมือนคุณไม่ได้ชอบพวกเขาเวลาอยู่กับคนอื่นๆ แต่คุณรับรู้ว่าคุณชอบอยู่ในใจคุณ
  • คุณพบว่าตัวเองทำอะไรก็ตามที่ต้องทำ
  • ถ้าคุณต้องการไปที่ไหนก็ตามที่พวกเขากำลังจะไป นั่นอาจเป็นความรักหรือความหลง
  • ถ้าคุณกำลังออกเดทหลังจากที่ไม่ได้ไปเดทมานาน อย่าเพิ่งคาดเดาว่าคุณรักพวกเขา และจะรักเขาตลอดไป การตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างแต่งงาน หรือเสียความบริสุทธิ์อาจดูเหมือนเป็นความคิดที่ดีในตอนนั้น แต่คุณจะตระหนักภายหลังว่าคุณไม่ได้รักอีกฝ่ายและคุณทำผิดพลาดไป ใช้เวลาของคุณ แต่อย่ามองโลกในแง่ร้ายมิเช่นนั้นคุณอาจสูญเสียความรักที่มีอยู่จริงไป
  • อย่าพูดว่าคุณกำลังมีความรักถ้าคุณยังไม่แน่ใจ
  • คุณอาจต้องการคุยกับคนคนนั้นแต่แค่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
  • คุณจำเป็นต้องรู้ว่าเขาหรือเธอแค่สนใจแรงดึงดูดทางเพศของคุณหรือเปล่า
  • คุณรู้สึกเคอะเขินและทำตัวไม่ถูกเวลาคุณอยู่ใกล้พวกเขา นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังมีความรัก
  • ถ้าคุณรู้สึกเหมือนทั้งหมดที่คุณต้องการจากอีกฝ่ายคือร่างกาย นั่นแปลว่าคุณรู้สึกรุ่มร้อนไม่ใช่รัก
  • ถ้าคุณไว้ใจและให้ความใส่ใจใครบางคนหมดใจ แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องความปรารถนาทางเพศ คุณอาจแค่รู้สึกห่วงใยพวกเขาในฐานะเพื่อนสนิทมากแค่นั้น
  • ถ้าคุณรักใครบางคนจริง บอกเขาหรือเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • เวลาคุณรู้สึกเหมือนคุณพร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่คุณรัก นั่นอาจเป็นสัญญาณของความรัก
  • ถ้าคุณรู้สึกหึงหวงเวลาพวกเขาไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น แปลว่าคุณชอบอีกฝ่าย แต่ถ้าคุณรู้สึกรับได้กับทางเลือกในชีวิตของเขา และต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา นั่นหมายถึงคุณรักอีกฝ่ายจริง
โฆษณา

คำเตือน

  • หลายคนสับสนระหว่างการชอบคนบางคน กับการรักคนบางคน ลองอ่านเคล็ดลับข้างบนดู
  • สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นความรัก อาจเป็นแค่ความหลงใหลหรือลุ่มหลง
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/neuronarrative/201402/what-neuroscience-tells-us-about-being-in-love
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/moral-landscapes/201410/ten-signs-love
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/in-flux/201612/the-7-signs-youve-found-yourself-loving-relationship
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/meet-catch-and-keep/201706/6-certain-signs-being-in-love
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/in-flux/201612/the-7-signs-youve-found-yourself-loving-relationship
  • https://www.psychologytoday.com/us/blog/rediscovering-love/201705/10-signs-relationship-is-truly-loving
  • โฆษณา

    บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

    เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

    มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,425 ครั้ง

    บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

    โฆษณา