ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยการเกิดสปาร์คปิ๊งรักคงน่าตื่นเต้นไม่น้อย แต่อาการเช่นนี้อาจไม่คงทนถาวรเสมอไป คุณสังเกตเห็นถึงวิธีการคุยโต้ตอบทางข้อความที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายหรือไม่? หากคนที่คุณแอบชอบ คนที่คุณกำลังคุย คนที่คุณคบหาดูใจ หรือคนพิเศษของคุณกำลังหมดความสนใจในตัวคุณ สิ่งหนึ่งที่คุณควรจำไว้คือนั่นไม่ใช่ความผิดของคุณเลยสักนิด ความสัมพันธ์ของคนสองคนอาจจบลงเพราะทั้งสองฝ่ายมีนิสัยที่เข้ากันไม่ได้อย่างที่คิดไว้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เราได้รวบรวมตัวอย่างสัญญาณที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายอาจเริ่มหมดใจจากการคุยผ่านตัวอักษรกับเขาหรือเธอ เพียงจำไว้ว่าคุณควรมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลางที่สุด และลองดูว่าสัญญาณเตือนที่เรายกตัวอย่างมาเหล่านี้ตรงกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณหรือไม่

1

เขาหรือเธอไม่ส่งข้อความหาคุณเยอะเหมือนแต่ก่อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ประเมินว่าเขาหรือเธอให้ความสำคัญกับคุณมากน้อยเพียงใดจากความถี่ในการแชท. ลองย้อนดูประวัติการแชทระหว่างคุณกับอีกฝ่ายและดูว่าบทสนทนาในช่วงแรกๆ และในปัจจุบันมีความแตกต่างกันหรือไม่ หากในช่วงเริ่มแรกคุณทั้งสองคนส่งข้อความหากันวันละหลายๆ ครั้ง แต่ในตอนนี้แค่อีกฝ่ายส่งข้อความหาคุณทุกๆ 2-3 วันก็ถือว่ามากพอแล้ว เขาหรือเธออาจยังไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณ หรือนั่นอาจเป็นเพราะเขาหรือเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งข้อความหาคุณอีกต่อไป [1]
    • หากอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับคุณ เขาหรือเธอจะอยากพูดคุยและส่งข้อความหาคุณทุกครั้งที่รู้สึกคิดถึงคุณ ในขณะที่คนที่พยายามทำตัวห่างเหินจะทิ้งระยะในการตอบนานขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าคุณทั้งสองคนจะแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย
    • การส่งข้อความไปหาเขาหรือเธอก่อนไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากคุณเป็นฝ่ายที่ต้องทักไปก่อน ตลอด นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจคุณมากเท่าที่คุณให้ความสำคัญกับเขาหรือเธอ
    โฆษณา
2

เขาหรือเธอทิ้งระยะในการตอบนานหลายชั่วโมง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การส่งข้อความตอบกลับช้าแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้สำคัญต่อเขาหรือเธอมากนัก. ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครสามารถตอบกลับข้อความได้ทันทีตลอดเวลา และหลายสาเหตุก็ดูจะสมเหตุสมผล แต่หากเขาหรือเธอเคยตอบกลับข้อความส่วนใหญ่จากคุณอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามตีตัวออกห่างจากคุณ [2]
    • ในกรณีนี้ พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ส่งข้อความหาเขาหรือเธอเพิ่มเติม คุณอาจคิดว่าหากคุณทักไปหาเขาหรือเธออีกรอบหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นข้อความก่อนหน้านี้ เขาหรือเธออาจตอบกลับข้อความของคุณ แต่บ่อยครั้งที่การทำเช่นนี้ไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ [3]
    • พยายามอย่าหมกมุ่นกับระยะเวลาที่เขาหรือเธอส่งข้อความตอบกลับหาคุณ เพราะนั่นจะทำให้คุณคิดมากเปล่าๆ
3

เขาหรือเธอตอบกลับมาห้วนๆ และคลุมเครือ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขาหรือเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณ จึงไม่กระตือรือร้นที่จะตอบกลับข้อความจากคุณ. การตอบกลับสั้นๆ อาจเพียงพอในบางที แต่ไม่ใช่กับทุกข้อความที่คุณส่งหาเขาหรือเธอแน่นอน ข้อความตอบกลับที่ห้วนและไม่ชัดเจนแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคุณมากนัก และน่าเศร้าที่เขาหรือเธอกำลังหมดความสนใจในตัวคุณ [4] ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็เช่น:
    • เมื่อคุณส่งข้อความถามสารทุกข์สุขดิบกับอีกฝ่าย หรือเล่าเรื่องราวในระหว่างวันของคุณให้เขาหรือเธอฟัง และสิ่งที่เขาหรือเธอตอบกลับมามีเพียง “ก็ดีนะ” หรือ “เยี่ยมเลย”
    • เมื่อคุณส่งข้อความไปว่า “คืนนี้เราสองคนออกไปดูหนังกันมั้ย” แล้วอีกฝ่ายตอบกลับมาว่า “ไม่แน่ใจเลย แล้วจะบอกอีกทีนะ”
    โฆษณา
4

เขาหรือเธอไม่ถามอะไรคุณเลยซักคำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่กำลังหมดใจจะหมดความสนใจใคร่รู้ในตัวอีกฝ่ายไปซะเฉยๆ. ในแต่ละวันอีกฝ่ายเอ่ยถามคุณหรือไม่ว่าชีวิตระหว่างวันของคุณเป็นอย่างไรหรือคุณมีแพลนจะทำอะไรบ้าง หรือไถ่ถามอย่างสงสัยถึงเรื่องสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ในชีวิตคุณบ้างหรือไม่ คำถามเหล่านี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความใกล้ชิดผูกพันและความสนใจใคร่รู้ในตัวคุณ ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายหยุดถามสารทุกข์สุขดิบกับคุณ นั่นหมายความว่าเขาหรือเธอไม่สนใจที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของคุณอีกต่อไป [5]
5

เขาหรือเธอยุ่งอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การตอบกลับว่า “ไม่ว่างเลย” ซ้ำๆ แสดงให้เห็นว่าเขาหรือเธอพยายามตีตัวออกห่างจากคุณ. แม้ว่าคนเราจะยุ่งจนไม่มีเวลาบ้างในบางที แต่คงออกจะผิดแปลกไปสักนิดหากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน บทสนทนาระหว่างคนสองคนที่ราบรื่น (และความพยายามที่จะต่อบทสนทนาของทั้งสองฝ่าย) แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าจะมีเรื่องยุ่งวุ่นวายเกิดขึ้น แต่ทั้งสองฝ่ายก็พยายามจะทักทายหากันทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ดังนั้นหากอีกฝ่ายไม่แสดงถึงความพยายามที่จะหาโอกาสทักทายหาคุณ นั่นเป็นเพราะว่าเขาหรือเธอไม่ปรารถนาจะทำเช่นนั้น [6]
    • ไม่มีปัญหาหากคุณหรืออีกฝ่ายจะยุ่งจนไม่มีเวลาสักช่วงหนึ่ง ตราบใดที่คุณทั้งสองคนยังคอยบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าไม่ค่อยมีเวลาว่างและจะพยายามจัดตารางเวลาให้เหมาะสมขึ้น [7]
    โฆษณา
6

เขาหรือเธอไม่เรียกคุณด้วยคำเรียกน่ารักๆ อีกต่อไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำเรียกน่ารักๆ แทนชื่อเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเขาหรือเธอรู้สึกอย่างไรกับคุณ. คำเรียกน่ารักๆ เป็นสิ่งที่คู่รักใช้เรียกแทนชื่อระหว่างกันและกันเพื่อแสดงความรักใคร่เอ็นดูในอีกฝ่าย และเป็นที่พิสูจน์แล้วว่าคนที่ถูกเรียกด้วยคำเรียกน่ารักๆ เป็นคนที่อีกฝ่ายกำลังหลงรักหัวปักหัวปำ! [8] หากคนพิเศษของคุณเรียกคุณว่า “ที่รัก” ในทุกๆ ประโยคมาก่อน แต่ในตอนนี้กลับเรียกเพียงชื่อเท่านั้น (หรือไม่เรียกชื่อเลย) แสดงว่าความรู้สึกของเขาหรือเธอที่มีต่อคุณอาจกำลังเปลี่ยนไป
    • การหยุดเรียกด้วยคำเรียกน่ารักๆ เป็นสัญญาณที่บอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกกับคุณเหมือนเดิมอีกต่อไป และคิดกับคุณเป็นแค่เพื่อนหรือคนรู้จักเท่านั้น
7

เขาหรือเธอไม่กล่าวชื่นชมคุณแม้แต่น้อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกล่าวชื่นชมแสดงให้เห็นว่าเขาหรือเธอให้ความสำคัญกับเรื่องราวในชีวิตของคุณ. เมื่อคนเรามีความรู้สึกดีๆ ให้กับอีกฝ่าย คำพูดชื่นชมต่างๆ จะพรั่งพรูออกมามากมายผ่านข้อความที่พูดคุยกัน ไม่มีมาตรฐานตายตัวว่าคู่ที่คบหาดูใจกันจะต้องกล่าวชื่นชมอีกฝ่ายมากน้อยเพียงใด แต่อย่างไรก็ควรมีอยู่เรื่อยๆ เมื่อมองลึกลงไป การกล่าวชื่นชมเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายให้ความสนใจในตัวคุณหรือไม่ ดังนั้นหากไม่มีคำพูดชื่นชมในข้อความจากเขาหรือเธออีกต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าเขาหรือเธอกำลังตกอยู่ในห้วงความสงสัยในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน [9]
    โฆษณา
8

เขาหรือเธอยกเลิกนัดซ้ำๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคนเราให้ความสำคัญกับใครคนหนึ่ง เขาหรือเธอจะมาตามนัดหรือหาเวลานัดเจอกันใหม่หากมาไม่ได้. ลองนึกย้อนกลับไปถึงครั้งหลังๆ ที่คุณเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายไปเที่ยวด้วยกัน หากคุณได้รับข้อความยกเลิกนัดในนาทีสุดท้ายค่อนข้างบ่อย นั่นแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายอาจไม่ได้จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้อีกต่อไป ซึ่งมันคงจะดีกว่าหากคุณอุทิศเวลาและพลังให้กับคนใหม่ที่ใส่ใจคุณมากกว่านี้ [10]
    • เมื่อคุณทั้งสองคนเพิ่งเริ่มคุยกันใหม่ๆ ทั้งคุณและอีกฝ่ายควรพยายามหลีกเลี่ยงการยกเลิกนัดในช่วงเดือนแรกๆ หากอีกฝ่ายยกเลิกนัดมากกว่า 1 ครั้ง นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขาหรือเธอกำลังพยายามตีตัวออกห่างจากคุณ
    • หากอีกฝ่ายเสนอวันและเวลานัดเจอกันใหม่ทันทีที่เขาหรือเธอยกเลิกนัด นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่หากอีกฝ่ายยกเลิกนัดโดยไม่เอ่ยถึงการนัดเจอกันครั้งหน้า นั่นบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาหรือเธอกำลังหมดความสนใจในตัวคุณ
    • ไม่เป็นไรถ้าคุณจะพูดกับอีกฝ่ายตรงๆ เกี่ยวกับการที่เขาหรือเธอยกเลิกนัดซ้ำๆ คุณอาจส่งข้อความทำนองว่า “นี่เราเองนะ ช่วงนี้เรารู้สึกว่าเธอกำลังพยายามตีตัวออกห่างจากเรา เราไม่มีปัญหาอะไรหากเธอจะไม่ให้ความสำคัญกับเราอีก แค่หวังว่าเธอจะพูดออกมาตรงๆ ก็เท่านั้นเอง”
9

เขาหรือเธอมีแผนสนุกๆ แต่ไม่ได้ชวนคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การวางแผนสนุกๆ โดยไม่มีคุณร่วมด้วยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เขาหรือเธอใช้เพื่อตีตัวออกห่างจากคุณ. การถูกมองข้ามไปเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนที่ปฏิบัติแบบนั้นกับคุณเป็นคนที่คุณแคร์ หากคุณได้รับข้อความเขาหรือเธอบอกทำนองว่าคืนนี้เขา/เธอกำลังอยู่กับเพื่อนและยังไม่สะดวกคุยกับคุณตอนนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายอาจกำลังหมดความสนใจในตัวคุณและอยากกลับไปใช้ชีวิต “โสด” อีกครั้ง ข้อนี้จะเห็นได้แน่ชัดขึ้นไปอีกหากคุณทั้งสองคนเคยพบปะกับเพื่อนของแต่ละฝ่ายมาก่อนแต่ในตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น [11]
    • เมื่อคนเราจริงจังกับความสัมพันธ์ พวกเขาจะอยากให้คนสำคัญและเพื่อนๆ ได้พบปะและทำความรู้จักกัน ดังนั้นหากอีกฝ่ายวางแผนไปไหนหรือทำอะไรโดยไม่ได้ชวนคุณ แสดงว่าเขาหรือเธอกำลังพยายามแยกคุณออกจากแวดวงเพื่อนๆ เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่แต่ละฝ่ายจะต้องรู้จักมักคุ้นกัน [12]
    โฆษณา
10

เขาหรือเธอไม่ส่งข้อความหยอดสั้นๆ ให้คุณเลย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ข้อความหวานๆ สักเล็กน้อยที่ส่งหาคุณระหว่างวันเป็นสิ่งที่บอกว่าอีกฝ่ายนึกถึงคุณเสมอ. เมื่ออีกฝ่ายคิดถึงคุณเสมอ เขาหรือเธอจะส่งข้อความสั้นๆ ที่แฝงความหมายดีๆ เพื่อบอกความรู้สึกให้คุณได้รับรู้ อย่าง “เป็นไงบ้าง” หรือ “อรุณสวัสดิ์” ข้อความเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องนำไปสู่บทสนทนายืดยาว เพราะนี่เป็นเพียงการทักทายคนพิเศษอย่างคุณและบอกให้คุณรู้ว่าคุณอยู่ในความคิดของเขาหรือเธอเช่นเดียวกับที่เขาหรือเธออยู่ในใจของคุณ อย่างไรก็ตาม หากอีกฝ่ายเริ่มหมดความสนใจในตัวคุณ คุณจะเห็นได้ว่าข้อความเหล่านี้เริ่มห่างหายไป [13]
11

เขาหรือเธอส่งข้อความแทนการโทรกลับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณโทรหาอีกฝ่ายและฝากข้อความไว้ เขาหรือเธอควรโทรกลับหาคุณในภายหลัง. ไม่ปฏิเสธว่าการส่งข้อความสะดวกกว่าการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ในหลายๆ กรณี แต่หากคุณมีความสำคัญมากพอ อีกฝ่ายจะเต็มใจที่จะโทรกลับหาคุณ หากสิ่งที่คุณได้รับทุกครั้งหลังสายที่ไม่ได้รับคือข้อความตัวอักษรตอบกลับจากอีกฝ่าย แสดงว่าเขาหรือเธอกำลังเพิกเฉยต่อการพูดคุยสนทนากับคุณ และการทำแบบนี้คงไม่โอเคเท่าไหร่ [14] และจำไว้ว่าแม้แต่คนที่บอกว่าพวกเขาชอบการพูดคุยทางข้อความมากกว่าก็ยังต้องโทรหาผู้อื่นบ้างในบางที
    • ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายกำลังหมดความสนใจในตัวคุณ แต่นั่นอาจบ่งบอกได้เช่นกันว่าความต้องการของคุณไม่ได้รับการตอบสนองซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในความสัมพันธ์
    • หากสัญญาณที่กล่าวมานี้ กำลัง เกิดขึ้นกับคุณ คุณสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน หรือตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ หยุดทรมานใจตัวเองและทนอยู่กับคนที่กำลังจะหมดใจ ถึงเวลามูฟออนและมองหาคนที่คู่ควรกับคุณมากกว่านี้!
    โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 538 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา