ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนที่คุณเคยคิดว่า “ใช่” กลับกลายมาเห็นคุณเป็นแค่เพื่อนหรือเปล่า แม้คุณอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่า อาจจะไม่สามารถหาคนที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว แต่ก็ยังพอมีวิธีให้คุณใช้ชีวิตต่อไปได้ ทั้งนี้ การตัดใจจากความรัก มีความหมายเป็นการส่วนตัวสำหรับเราแต่ละคน ไม่แพ้กับการ ‘‘หลง’‘ รักใครสักคนเลย แต่เรามีวิธีที่ดีในการตัดใจจากความรัก มาแนะนำกัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ยอมรับว่าตัวเองเจ็บปวด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การตัดใจจากความรัก เป็นกระบวนการของการโศกเศร้าต่อความสัมพันธ์ที่สูญเสียไป มันเป็นธรรมดาที่คุณจะรู้สึกสูญเสียอย่างสุดซึ้ง หากคุณพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเสแสร้งว่าไม่เจ็บปวด คุณจะมีปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น วิธีที่ดีในการตัดใจจากความรัก ให้เวลาตัวเองในการกลั่นกรองความรู้สึกของการสูญเสียนี้ [1]
    • หากเป็นไปได้ ก็ควรลางานสัก 2-3 วัน และทำอะไรก็ได้เพื่อปลอบใจตัวเอง (ตราบใดที่มันไม่ส่งผลเสีย) ดูหนังเศร้าๆ นอนหลับพักผ่อน หรือกินไอติมก็ได้ หากรู้สึกเหมือนจะรับไม่ไหว ก็จำไว้ว่า สุดท้ายแล้วความเจ็บปวดจะดีขึ้นเอง [2]
  2. การจะตัดใจจากความสัมพันธ์อย่างถูกวิธี คุณจำเป็นต้องยอมรับว่า การคบหากับคนๆ นั้น มีทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่ปะปนกันไป (มันเป็นเรื่องธรรมชาติ) จงซึ้งใจในเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น แต่อย่าลืมเรื่องแย่ๆ ด้วย และคุณควรคิดถึงโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณตอนนี้ด้วย
    • ในช่วงที่เศร้าอย่างสุดซึ้ง มันเป็นไปได้อย่างมาก ที่คุณจะเอาแต่โหยหาอาลัยคนๆ นั้น โดยลืมจุดบกพร่องและจุดอ่อนของพวกเขา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระลึกถึงทั้งสองด้านเสมอ
    • จงนึกขอบคุณความรักครั้งนี้ ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณ และช่วยให้คุณเติบโต แต่จงตระหนักด้วยว่า มันก็อาจมีบางแง่มุมที่ความรักครั้งนี้ขัดขวางความเจริญของคุณ หรือทำให้คุณต้องเป็นคนที่ไม่อยากเป็น บทเรียนเหล่านี้สามารถนำติดตัวไป ในระหว่างที่คุณเรียนรู้และเติบโตขึ้น [3]
  3. อย่ารีบมีแฟนใหม่ หรือเข้าหากิจกรรมและเพื่อนคนใด เพื่อเบี่ยงเบนความเศร้าของตัวเอง คุณจำเป็นต้องกลั่นกรองและรับมือกับความเจ็บปวดที่กำลังเกิดขึ้นเสียก่อน หากคุณต้องการตัดใจจากความรักครั้งนี้ให้ได้โดยสมบูรณ์ พยายามทำให้สมดุลระหว่าง ช่วงเวลาการคิดว่าคุณต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร และไล่ตามความฝันนั้นไป กับช่วงเวลาของการอยู่กับเพื่อนและคนในครอบครัวเพื่อขอกำลังใจ
    • แน่นอนว่า หากคุณรู้สึกต้องการพูดคุยกับใครสักคน การใช้เวลากับเพื่อนสนิทบ้างก็ย่อมไม่เป็นไร แต่ควรหาใครสักคนที่มีความเข้าใจและเปิดโอกาสให้คุณระบายเรื่องราวในความสัมพันธ์ และก็ต้องเป็นคนที่กล้าพูดความจริง เกี่ยวกับมุมมองที่พวกเขาเห็นในความสัมพันธ์ดังกล่าว หากคุณเปิดรับความคิดเห็นหรือข้อแนะนำ คุณก็อาจได้รับข้อแนะนำดีๆ จากเพื่อนของคุณ มาช่วยประเมินความสูญเสียและวางแผนอนาคตของคุณให้ดีขึ้น อย่าใช้เวลาในการจมปลักอยู่กับการเลิกรา หรือหาข้อผิดพลาด หรือว่าคิดแต่ว่าแฟนเก่าจะเป็นอย่างไรบ้าง คุณควรจะโฟกัสมาที่ชีวิตตัวเองและหาหนทางที่จะก้าวต่อไปดีกว่า [4]
  4. องค์ประกอบหลักของกระบวนการเยียวยาจิตใจ ก็คือการระบายความรู้สึกออกมา คุณไม่จำเป็นต้องบอกความรู้สึกเหล่านี้กับใคร ยกเว้นว่าคุณจะต้องการเอง แต่อย่างน้อย การได้ระบายออกมาก็อาจช่วยคุณได้ [5]
    • คุณอาจจะใช้สมุดบันทึก เขียนเป็นบทกวีหรือเรื่องสั้น วาดรูปหรือระบายสี แต่งและเล่นเป็นเพลง หรือจะเอื้อนเอ่ยเป็นบทกลอนออกมาก็ได้ ศิลปะที่สร้างสรรค์เหล่านี้ จะช่วยปลดปล่อยความเจ็บปวดของคุณ ในขณะที่ทำให้คุณเห็นมุมมองที่งดงามเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งนี้ด้วย [6]
    • หากคุณไม่มีแรงบันดาลใจหรือไม่มีอารมณ์ศิลป์ ลองไปเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ลืมไปดูคอนเสิร์ตก็ได้ บางครั้งการได้เห็นหรือได้ยิน การพรรณนาเกี่ยวกับการอกหัก จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องสากล ซึ่งมนุษย์ทุกผู้ทุกนามต่างต้องประสบ และต่อให้เจ็บปวดเพียงใด มันก็ทำให้ชีวิตมีความหมาย มีคุณค่าในการอยู่ต่อไป [7] ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณไม่เคยสูญเสีย ก็จะไม่มีวันได้เรียนรู้ ที่จะรักอย่างแท้จริง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เริ่มต้นชีวิตใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณกำลังพยายามก้าวต่อไปและกลับมาใช้ชีวิตตามเดิม สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ การไม่ใช้อารมณ์มากเกินไปและพยายามกำจัดทุกสิ่งที่ย้ำเตือนคุณเกี่ยวกับตัวแฟนเก่าออกไป คุณควรเก็บรักษาเครื่องระลึกถึงสิ่งที่ดีที่สุด ในช่วงที่คบหากับคนๆ นั้นเอาไว้ เช่น เปลือกหอยที่คุณเก็บเอาไว้ตอนไปเที่ยวชายหาดด้วยกัน หรือภาพคู่ตอนที่คุณไปฉลองปีใหม่กัน เพื่อที่จะรักษามุมมองที่ดีในเชิงบวกเกี่ยวกับความสัมพันธ์นั้นเอาไว้
    • แม้ว่าการเก็บสิ่งของดังกล่าวเอาไว้จะเป็นความคิดที่ดี แต่หากตอนนี้คุณยังไม่พร้อม ก็ควรเก็บของเหล่านั้นรวมไว้ด้วยกันในที่ที่เดียว และกันมันออกไปอย่าให้อยู่ในสายตา และค่อยนำมันออกมาใหม่เมื่อคุณมีความพร้อมทางอารมณ์มากกว่านี้
    • รวมถึงสิ่งของที่เป็นไฟล์ต่างๆ ซึ่งคุณควรจะเก็บและเซฟเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ ไม่ให้สังเกตเห็นได้ง่าย
  2. หลังจากที่คุณได้เลือกสิ่งที่จะเก็บเอาไว้แล้ว คุณจำเป็นต้องกำจัดสิ่งอื่นๆ ที่เหลือทิ้งไป การที่จะตัดเยื่อใยกับใครบางคน คุณต้องหลีกเลี่ยงที่จะคอยเห็นสิ่งของย้ำเตือนเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน
    • หากคุณมีของซึ่งเป็นของคนนั้นอยู่มากมาย ก็ส่งคืนไปซะ รวมถึงกดลบชื่อของคุณในแท็กรูปภาพทาง เฟสบุ๊คออกไปด้วย และลบรูปภาพในหน้าเพจของคุณเอง ที่มีรูปคนๆ นั้นออกไปด้วย ทำเช่นนี้กับพวกไฟล์ดิจิตอลอื่นๆ เช่นกัน (เช่น เสียงที่อัดไว้) มีผลการวิจัยพบว่า การเก็บสิ่งของพวกนี้เอาไว้ จะทำให้อาการโศกเศร้ายืดเยื้อต่อไปและทำใจได้ยากขึ้น [8]
  3. การที่จะลืมใครสักคน คุณต้องตัดบัวอย่าให้เหลือใย อย่างน้อยจนกว่าจะอยู่ในอารมณ์ที่ปลอดภัย และพร้อมจะเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง (ถ้าคุณต้องการแบบนั้น) นอกเหนือไปจากการเป็นเรื่องของอารมณ์แล้ว ความรักยังก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมอง คล้ายกับอาการติดยา ดังนั้น การเห็นภาพแฟนเก่า หรือชุดย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับเขาหรือเธอ มันจะทำให้เกิดความพึงพอใจจากอารมณ์โหยหา ซึ่งก่อให้เกิดอาการคล้ายติดยาได้ [9]
    • อย่าออกไปหาเรื่องนั่งคุยในร้านกาแฟ อย่าโทรหาหรือส่งข้อความ และอย่าถามเพื่อนๆ ว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง หยุดคิดเกี่ยวกับเขาหรือเธอ และเริ่มหันมาคิดเกี่ยวกับตัวเองบ้าง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ตัดขาดการติดต่อจากเขาคนนั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 30 - 90 วัน [10]
    • กดเลิกติดตามและยกเลิกสถานะเพื่อนกับเขาหรือเธอในโซเชียลมีเดียด้วย การคอยติดตามเขาหรือเธอ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องที่ดี และจะทำให้การตัดใจจากคนนั้น ยากขึ้นไปอีก จงตัดเยื่อใยกับเขาหรือเธอทางโซเชียลมีเดีย (อย่างน้อยก็ตอนนี้) เพื่อที่คุณจะได้เอาเวลาไปคิดถึงเรื่องดีๆ เช่น การดูแลตัวเอง
  4. หลีกเลี่ยงคนที่เป็นเพื่อนของคุณทั้งคู่สักพัก. การพบปะสังสรรค์กับคนที่เป็นเพื่อนของคุณทั้งคู่เร็วเกินไป หลังจากเพิ่งเลิกกันมา จะยิ่งทำให้อารมณ์แย่ลงไปอีก
    • อธิบายให้พวกเขาฟังว่า คุณขอเวลาสักพักและจงใช้เวลาออกห่างจากพวกเขา จนกว่าคุณจะมีอารมณ์คงที่มากกว่านี้ เพื่อนที่ดีย่อมเข้าใจ
    • นี่อาจรวมถึงบรรดาเพื่อนบนเฟสบุ๊คด้วย โดยเฉพาะหากคุณมีเพื่อนประเภทที่ชอบโพสต์รูปของแฟนเก่าคุณ การได้เห็นหรือได้ยินสิ่งย้ำเตือนเล็กน้อยเหล่านี้ มีแนวโน้มจะทำให้อาการโศกเศร้ายืดเยื้อออกไป หากคุณไม่สามารถลบเพื่อนที่มีร่วมกันทางเฟสได้ ก็อาจบล็อกพวกเขาไปชั่วคราวจากหน้าเพจกระดานข่าวของคุณ หรือเลิกเล่นโซเชียลมีเดียสักพัก จนกว่าจิตใจจะดีขึ้น [11]
  5. หากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาหรือเธอและจบกันด้วยดี หรือแม้แต่หากคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา อาจจะเป็นความคิดที่ดี ที่ควรจะรอสักพักก่อนที่จะกลับมาคบหาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง การใช้เวลาร่วมกันทันที จะยากมากในการฝีนใจให้ตัดความสัมพันธ์กับเขาหรือเธอ
    • สำหรับหลายๆ คน การตัดใจจากความรักกันดูดดื่ม อาจต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่จะสามารถทำใจเป็นเพื่อนกันได้อีกครั้ง คุณอาจจะพบว่า คุณจำเป็นต้องรอจนกว่าตนเองจะมีแฟนใหม่ และอยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจังเสียก่อน ก่อนที่จะรู้สึกสบายใจกับการเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าอีกครั้ง
    • สำหรับบางคน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า โดยเฉพาะหากการเลิกราไม่ได้เกิดจากการยินยอมของฝ่าย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

โฟกัสที่ตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตอนนี้เมื่อไม่มีความสัมพันธ์มาบดบังการตัดสินใจแล้ว คุณย่อมสามารถจะเห็นตัวตนของตนเองได้ชัดเจนขึ้น ลองค้นหาจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง คุณอาจจะเริ่มอยากทบทวนสิ่งสำคัญและเป้าหมายในชีวิต คุณอาจจะเคยคิดว่าต้องการสิ่งหนึ่ง ในตอนที่คุณคาดว่าจะต้องอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต แต่ตอนนี้คุณอาจต้องการสิ่งอื่น
    • มิตรภาพเป็นสิ่งที่ดี ที่จะเริ่มค้นหาในช่วงเวลานี้ คุณอาจพบว่า ตอนที่คุณกำลังมีแฟน คุณได้ปล่อยให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนอยู่ข้างหลัง ทั้งที่ไม่ได้อยากเสียไป ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ดังกล่าวแล้ว
    • ลองนึกภาพตัวเองก่อนที่จะเจอกับแฟนเก่าดูว่าเป็นอย่างไร และดึงตัวเองคนเดิมคนนั้นกลับมาใหม่ บางทีคุณอาจไม่ได้ดูหนังเลยตอนอยู่กับแฟนเก่า ทั้งที่ตัวเองชอบดู บางทีคุณอาจยอมไว้ผมยาวเพื่อเอาใจเขาหรือเธอ ทั้งที่คุณชอบผมสั้น คุณอาจจะยอมละทิ้งงานอดิเรก เพื่อน หรือสิ่งใดในชีวิตคุณทิ้งไปข้างหลัง ตอนที่คบหากับแฟนเก่า และตอนนี้ที่เป็นโสดแล้ว คุณควรรู้สึกเป็นอิสระที่จะให้เลือกว่าต้องการรักษาสิ่งใดไว้ ในแบบที่คุณเป็นจริงๆ [12]
  2. การตกหลุมรักและคบกับใคร อาจทำให้คุณต้องขึ้นอยู่กับเขาหรือเธอ แต่หากคุณต้องการมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิมในอนาคต คุณจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการยืนหยัดด้วยตัวเอง การที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้จะทำให้คุณมีความมั่นใจและช่วยย้ำเตือนว่า คุณมีความเข้มแข็งและมีความสามารถอยู่กับตัวเอง จงทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเองในตอนนี้ มองตัวเองอย่างมีอิสรภาพ ทำบางสิ่งที่คุณอยากทำมานานแต่ไม่เคยมีเวลา
    • ลองพาตัวเองไปดูหนังหรือกินอาหารค่ำ จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่หากคุณไปกินหรือดูหนังเรื่องอะไร ที่คุณรู้ดีว่า แฟนเก่าคุณต้องไม่ชอบแน่ๆ
  3. การทำสิ่งเหล่านี้ ไม่เพียงจะทำให้คุณมีความสุขจัดการที่ได้ออกไปและมีความสุขเกิดขึ้นกับสิ่งใหม่ๆ แต่มันยังจะช่วยให้คุณลืมแฟนเก่าและรู้จักที่จะมีความสุขด้วยตัวเอง คุณอาจจะเลือกทำงานอดิเรกใหม่ ไปช่วยอาสาสมัคร หรือเรียนทักษะวิชาใหม่ให้ตัวเอง คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คุณอาจจะชอบทำอะไรต่อไปในชีวิต
    • เดินทางให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ การเดินทางเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุด ในการสร้างประสบการณ์และความทรงจำใหม่ๆ ทั้งดีและแย่ การได้จดจ่อไปที่ประสบการณ์ใหม่เช่นนี้ จะช่วยให้คุณลืม (หรืออย่างน้อยก็เบนความสนใจ) จากประสบการณ์และความวุ่นวายในอดีต
    • จำไว้ว่า การเดินทางไม่จำเป็นต้องเป็นแค่การขึ้นเครื่องบินไปปารีสเท่านั้น เดินทางในประเทศก็ทำได้ หัวใจสำคัญคือ การออกไปข้างนอกและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำมาก่อน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ก้าวต่อไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หัวใจสำคัญของการก้าวต่อไป คือการยอมรับว่าความสัมพันธ์ที่จบไปมันไม่ใช่แล้ว คุณต้องเข้าใจว่า หากอีกฝ่ายไม่ได้รักคุณ หรือหากความสัมพันธ์ดังกล่าวทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดขาดความสุข สถานการณ์ก็ไม่มีทางจะดีขึ้น และท้ายที่สุดคุณเองก็จะไม่มีความสุข คุณควรค่ากับความสัมพันธ์ในแบบที่อีกฝ่ายรักคุณมากพอๆ กับที่คุณรักเขาหรือเธอ และเป็นความสัมพันธ์ที่คุณสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ ยังไม่มีใครเหมือน
    • จงนึกขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ เช่น โอกาสที่คุณได้เข้าใจจิตใจตัวเองมากขึ้น และได้รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจากคนรัก จากนั้น เมื่อคุณนึกขอบคุณกับช่วงเวลาที่คุณได้รับเขาหรือเธอแล้ว คุณก็จะสามารถเยียวยาหัวใจตัวเองได้อย่างแท้จริง เพราะคุณจะรู้แล้วว่าความโศกเศร้าที่เกิดขึ้น มันมีจุดประสงค์อย่างไร [13]
  2. เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีความสุขกับการเป็นโสด หากคุณต้องการพบเนื้อคู่ที่ดีกว่า ก็ต้องออกไปข้างนอกบ้าง เรื่องแบบนี้อาจใช้เวลาและคุณไม่ควรเร่งรัด อย่าฝืนในเรื่องใด แค่ออกไปในเวลาที่คุณอยากออก และอย่าทำสิ่งใดที่ตัวเองรู้สึกอึดอัดก็พอ
    • การพบผู้คนหน้าใหม่ อาจทำได้ด้วยการไปเที่ยวผับหรือบาร์ ไปโบสถ์หรือไปกลุ่มอาสาสมัครชุมชน ที่มีความสนใจในแนวทางเดียวกันกับคุณ นอกจากนี้ ลองสอดส่องคนรอบตัวในที่ทํางาน สถานศึกษา หรือชุมชนที่คุณอยู่ ซึ่งคุณอาจเคยมองข้ามไปในอดีต จงเป็นมิตรและเปิดใจกับเพื่อนใหม่เหล่านี้
  3. การตกหลุมรัก หรืออย่างน้อยการตระหนักว่ายังมีคนอื่นให้คุณรัก เป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียนรู้ที่จะทิ้งคนเก่าไว้เบื้องหลัง คุณไม่จำเป็นต้องออกเดทแบบจริงจัง ที่จริงแล้ว การออกเดทแบบเรียบง่ายไปก่อน จะเป็นการดีกว่า คนส่วนใหญ่ต้องการช่วงฟื้นตัวสักพัก และจะดีกว่า หากคุณไม่ไปคบหาใครในเวลาที่ไม่พร้อมจะลงเอยกับเขาหรือเธอ.
    • คุณจะรู้ได้ว่า คุณพร้อมออกเดทอีกครั้งแล้ว ก็ต่อเมื่อสามารถพูดได้เต็มปากว่า คุณรักตัวเอง ความจริงก็คือ เราจะดึงดูดคนที่ปฏิบัติต่อเราเหมือนที่เราปฏิบัติต่อตนเอง เข้ามาในชีวิต หากคุณเต็มไปด้วยความสมเพชตัวเองและความไม่แน่ใจในตัวเอง มันก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงดูดคนที่รักคุณในแบบที่คุณเป็น [14]
  4. แม้ว่าการมีความรักที่ล้มเหลวจะเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณ ‘‘ต้อง’‘ หยุดรักคนๆ นั้น หากมันเป็นรักแท้ คุณอาจจะยังคงรักเขาหรือเธอตลอดไปเลยก็ได้ อย่างไรก็ดี คุณสามารถก้าวข้ามความรักดังกล่าวไป เพื่อใช้ชีวิตให้เต็มที่ โดยไม่ต้องยึดติดกับมัน และสามารถมีความสุขกับรักครั้งใหม่ได้
    • อย่าปล่อยให้หัวใจเต็มไปด้วยความเกลียดชังหรือความรู้สึกด้านลบ ไม่ว่าในกรณีใดๆ คุณก็ไม่ควรพยายามปลูกฝังให้ตัวเองเกลียดชังคนที่คุณเคยรัก หากเขาหรือเธอทำร้ายหรือทำให้คุณเจ็บปวด ก็ยอมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะปล่อยให้ตัวเองโกรธ อย่างไรก็ตาม มันจะดีกว่าหากคุณสามารถให้อภัยอีกฝ่ายได้ ไม่ใช่เพื่อเขาหรือเธอ แต่เพื่อตัวคุณเอง การเก็บความเกลียดชังเอาไว้ในจิตใจจะเป็นพิษร้ายแก่ตัวคุณเอง และอาจทำลายทั้งความสนุกในการใช้ชีวิตและความสามารถในการแสวงหาความสัมพันธ์ที่ดีกว่าในอนาคตด้วย [15]
    • อย่าเอาแต่มองหาความผิดของอีกฝ่าย และจงอย่าเอาแต่ร่ายข้อเสียของเขาหรือเธอ อย่าทำให้ตัวเองเกลียดคนนั้น อย่าบังคับให้ตัวเองคิดว่าดีแล้วที่เลิกรากัน สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้เกิดอารมณ์ในทางลบขึ้นกับคุณ และปิดกั้นประสบการณ์ในทางบวก
  5. การตกหลุมรักอีกครั้ง จะเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายในการเยียวยาหัวใจตัวเอง ความรักครั้งใหม่จะนำศรัทธาของคุณกลับมาอีกครั้ง และแสดงให้คุณเห็นว่าความรักมันน่าอัศจรรย์เพียงใด ที่สำคัญกว่านั้น คุณจะมีโอกาสพบรักกับคนที่ตอบแทนความรู้สึกคุณได้ดีกว่าคนเก่า ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณคู่ควร
    • หากคุณได้พบคนที่รักคุณในแบบที่คุณเป็น และรู้จักคุณดีเข้าแล้ว พยายามอย่ารู้สึกผิดที่ตกหลุมรักคนอื่น มันไม่ได้เป็นการทำร้ายหรือเหยียดหยามความรักในอดีต จากการพบรักใหม่ครั้งนี้ แม้แต่นิยายในฝัน ก็ยังมีเรื่องราวมากมายในตัวเอง หัวใจของคนเราก็เปรียบได้เหมือนหนังสือที่มีหลายบทเช่นกัน
    • อย่างไรก็ตาม หากคุณยังไม่ได้มีแฟนใหม่เลยนับตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะผิดปกติ หัวใจบางดวงอาจใช้เวลาเยียวยานานกว่า ขอแค่มุ่งมั่นทำให้ตัวเองมีความสุขก็พอ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าเปรียบเทียบใครกับคนที่คุณรัก หรือคิดว่าไม่มีใครเทียบเขาหรือเธอได้ อย่าบดบังสายตาตัวเองจากข้อดีของคนอื่น ด้วยการเอาคนๆ นั้นไปเปรียบเทียบกับคนเก่าของคุณ
  • หากคุณจะเริ่มต้นงานอดิเรกใหม่ๆ ควรแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับคนเก่าที่คุณอยากลืม ไม่งั้นแล้วเรื่องนี้จะกลายมาเป็นอุปสรรค
  • จงแน่ใจว่า คุณไม่ได้พบเจอกับคนที่มีความเกี่ยวข้องกับแฟนเก่าของคุณ ซึ่งคุณไม่อยากเจออีกแล้ว
โฆษณา

คำเตือน

  • หากมันเป็นความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายทารุณหรือกักขังหน่วงเหนี่ยวและควบคุมคุณไว้ การมีคำสั่งห้ามเข้าใกล้จากศาล จะช่วยป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามติดต่อกันอีกฝ่ายได้
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,756 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา