วิธีการ ทำครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออก

ร่วมเขียน โดย Arthur Sebastian

ครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออก (leave-in conditioner) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ให้ผมนุ่มสลวย เงางาม ปกติให้ใช้ครีมนวดแบบนี้ตอนผมยังเปียกๆ หรือเปียกหมาด แต่จะใช้กับผมแห้งก็ไม่ว่ากัน ครีมนวด leave-in ที่ขายกันส่วนใหญ่ราคาแพง ส่วนครีมนวดธรรมดา ถ้าล้างออกไม่หมด ระวังผมด้าน เปราะง่าย โชคดีที่คุณผสมครีมนวด leave-in ใช้เองได้ง่ายๆ ทั้งแบบครีมปกติ และแบบสเปรย์

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ครีมนวดเป็นเบส

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทำสเปรย์ครีมนวดจากครีมนวดผสมน้ำ. หาขวดสำหรับฉีดพ่น เติมน้ำกลั่นลงไป 1¼ ถ้วยตวง (300 มิลลิลิตร) ผสมครีมนวดธรรมดา 3 ช้อนโต๊ะ (45 มิลลิลิตร) จากนั้นปิดฝา แล้วเขย่าให้เข้ากัน ^{[1]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าอยากให้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์กว่านี้ ก็ต้องผสมครีมนวดกับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากัน ^{[2]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าส่วนผสมข้นไป ฉีดไม่ออก ให้เติมน้ำเพิ่มเล็กน้อย
2
ทำครีมนวดสูตรบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้น โดยผสมน้ำกับน้ำมัน. ให้ผสมวัตถุดิบต่อไปนี้เข้าด้วยกันในขวดสำหรับฉีดพ่น ถ้าจะใส่น้ำมันหอมระเหย ต้องใช้ขวดแก้วเท่านั้น เสร็จแล้วปิดฝา เขย่าให้เข้ากัน ใช้ฉีดพ่นผมแห้งหรือผมเปียกหมาดก็ได้ ผมจะนุ่ม ไม่พันกัน ^{[3]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ^{[4]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำกลั่น 4 ออนซ์ (120 มิลลิลิตร)
- ครีมนวดแบบไม่มีซิลิโคน 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)
- น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Fractionated) โจโจ้บาออยล์ หรือน้ำมันมะกอก (แล้วแต่สะดวก) 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)
3
เพิ่มวุ้นว่านหางจระเข้กับน้ำมันมะพร้าว ถ้าอยากเพิ่มความชุ่มชื้น. ผสมวัตถุดิบต่อไปนี้ในขวดสำหรับฉีดพ่น ปิดฝาแล้วเขย่าจนครีมนวดกับวุ้นว่านหางจระเข้เข้ากัน ใช้ฉีดพ่นผมเปียกหมาด ให้ผมนุ่มชุ่มชื้น และเงางาม ถ้าปกติผมหยิกหรือหยักศก ใช้แล้วลอนจะชัดขึ้น ^{[5]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ครีมนวดสูตรไม่เข้มข้นมาก 8 ออนซ์ (250 มิลลิลิตร)
- น้ำกลั่น 5 ออนซ์ (150 มิลลิลิตร)
- น้ำว่านหางจระเข้ หรือวุ้นว่านหางจระเข้ 3 ออนซ์ (90 มิลลิลิตร)
- น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 - 2 ออนซ์ (30 - 60 มิลลิลิตร)
4
ทำครีมนวดสูตรเข้มข้น โดยใช้น้ำมันและกลีเซอรีน. ผสมทุกอย่างด้านล่างในขวดสำหรับฉีดพ่น ถ้าใช้น้ำมันหอมระเหย ให้ใช้ขวดแก้วเท่านั้น พอปิดฝาก็เขย่าให้เข้ากันได้เลย
- ครีมนวดสูตรไม่เข้มข้นมาก 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร)
- น้ำกลั่น 1½ ออนซ์ (45 มิลลิลิตร)
- น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก 1 ออนซ์ (30 มิลลิลิตร)
- กลีเซอรีนจากผัก ½ ออนซ์ (15 มิลลิลิตร)
- ผงโปรตีนไหม (silk peptide powder) 1 ช้อนชา (ถ้ามี)
- น้ำมันหอมระเหย 2 - 3 หยด (ถ้ามี)
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ผสมสเปรย์ครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออก

ดาวน์โหลดบทความ

1
บำรุงผมแห้ง ขาดง่าย ด้วยน้ำมันมะพร้าว. ผสมวุ้นว่านหางจระเข้กับน้ำในขวดสำหรับฉีดพ่น จากนั้นเขย่าให้เข้ากัน เตรียมภาชนะแยก แล้วผสมน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันอะโวคาโด สุดท้ายกรอกใส่ขวดสำหรับฉีดพ่น เขย่าให้เข้ากันอีกรอบ ใช้ฉีดพ่นผมที่เปียกหมาดได้เลย ^{[6]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันมะพร้าว 1 ออนซ์ (30 กรัม)
- น้ำมันอะโวคาโด 1 ช้อนชา
- วุ้นว่านหางจระเข้ 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร)
- น้ำกลั่น ⅓ ถ้วยตวง (80 มิลลิลิตร)
2
คืนความชุ่มชื้น ป้องกันรังแค ด้วยว่านหางจระเข้และโจโจ้บาออยล์. ผสมวัตถุดิบต่อไปนี้ในขวดสำหรับฉีดพ่น (ให้ใช้ขวดแก้ว) จากนั้นปิดฝา เขย่าให้เข้ากัน แล้วใช้ฉีดผมเปียกหมาด โดยเขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้งาน ^{[7]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำว่านหางจระเข้ 1½ ถ้วยตวง (350 มิลลิลิตร)
- น้ำมะพร้าว 2 ถ้วยตวง (475 มิลลิลิตร)
- โจโจ้บาออยล์ 2 ช้อนชา
3
กักเก็บความชุ่มชื้นด้วยโจโจ้บาออยล์และน้ำมันลาเวนเดอร์. ให้ละลายเชียบัตเตอร์ก่อน แล้วคนผสมกับกะทิ จากนั้นผสมโจโจ้บาออยล์กับน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ลงไป เสร็จแล้วกรอกใส่ขวดแก้วสำหรับฉีดพ่น โดยวอร์มส่วนผสมก่อนฉีดผม สูตรนี้ช่วยกระตุ้นให้ผมยาวเร็ว และบรรเทาอาการระคายเคืองที่หนังศีรษะได้ด้วย ^{[8]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- กะทิ ½ ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร)
- เชียบัตเตอร์ 3 ช้อนชา
- โจโจ้บาออยล์ 2 ช้อนชา
- น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 5 หยด
4
ทำครีมนวดสูตรผมไม่พันกัน โดยใช้ว่านหางจระเข้ กลีเซอรีน และน้ำมันหอมระเหย. ผสมทุกอย่างต่อไปนี้เข้าด้วยกันในขวดแก้วสำหรับฉีดพ่น ต้องเขย่าให้วุ้นว่านหางจระเข้ละลายหมด จากนั้นใช้ฉีดผมเปียกหมาด รอ 1 นาที แล้วใช้หวีซี่ห่างหวีผม เริ่มจากสางปมที่ปลายผม แล้วค่อยหวีไล่ไปรากผม ^{[9]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} สูตรนี้ปกติช่วยเรื่องรังแคและผมแห้งได้ด้วย
- น้ำกลั่น 5 ช้อนโต๊ะ (75 มิลลิลิตร)
- วุ้นว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- กลีเซอรีนจากผัก ½ - 1 ช้อนโต๊ะ (7.5 - 15 มิลลิลิตร)
- น้ำมันโรสแมรี่ หรือน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 10 หยด
5
ควบคุมความมันส่วนเกิน ขจัดสิ่งสกปรก และบำรุงให้ผมนุ่ม ด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล. เทน้ำกลั่นใส่ขวดแก้วสำหรับฉีดพ่น ขนาด 8 ออนซ์ (240 มิลลิลิตร) จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล กับน้ำมันหอมระเหยเลมอน (เพื่อลดกลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชู) เสร็จแล้วปิดฝา เขย่าขวดให้ส่วนผสมเข้ากัน ใช้ฉีดผมเปียกหมาด ช่วยให้ผมไม่พันกัน ขจัดสิ่งสกปรกสะสม ทำให้ผมเงางาม ^{[10]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำกลั่น ⅔ ถ้วยตวง (160 มิลลิลิตร)
- น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 2 ช้อนชา
- น้ำมันหอมระเหยเลมอน 7 หยด
6
บำรุงให้ผมนุ่ม ไม่ชี้ฟู และป้องกันผมแตกปลาย ด้วยน้ำมันกระดังงา. ผสมว่านหางจระเข้กับน้ำมะพร้าวให้เข้ากันในขวดแก้วสำหรับฉีดพ่น จากนั้นเติมน้ำกลั่นกับน้ำผึ้ง ละลายน้ำมันมะพร้าวในขวดแยก จากนั้นผสมน้ำมันกระดังงา กับน้ำมันหอมระเหยลงไป สุดท้ายเอาไปคนผสมกับว่านหางจระเข้ที่ผสมไว้ก่อนหน้า ^{[11]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำหรือวุ้นว่านหางจระเข้ 2 ช้อนชา
- น้ำมะพร้าว 2 ช้อนชา
- น้ำกลั่น 4 ออนซ์ (120 มิลลิลิตร)
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
- น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา
- น้ำมันกระดังงา (ylang-ylang) 2 ช้อนชา
- น้ำมันหอมระเหย 6 หยด
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ผสมครีมนวดสูตรเข้มข้นแบบไม่ต้องล้างออก

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทำครีมนวดเข้มข้นแบบง่ายๆ ด้วยน้ำมันมะพร้าว. ใช้เครื่องผสมอาหาร ตีผสมทุกอย่างต่อไปนี้ให้เข้ากัน จากนั้นกรอกใส่ขวดแก้ว ใช้บำรุงผมได้ทั้งเปียก หมาด และแห้ง ส่วนผสมสูตรนี้ให้เก็บในที่แห้งและเย็น ^{[12]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- วุ้นว่านหางจระเข้ 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร)
- น้ำมันมะพร้าวที่อ่อนตัวแล้ว 1 ออนซ์ (30 กรัม)
- น้ำมันอะโวคาโด 1 ช้อนชา
2
ใช้น้ำผึ้งกับเชียบัตเตอร์ทำครีมนวดสำหรับผมขาดน้ำ. ละลายเชียบัตเตอร์กับน้ำมันมะพร้าวแบบ double-boiler (ซ้อนชามน้ำร้อนไว้ล่างชามใส่ส่วนผสม) หรืออุ่นในไมโครเวฟ จากนั้นใส่น้ำผึ้งกับน้ำมันหอมระเหยแล้วคนผสม ได้ที่แล้วให้กรอกใส่ขวดแก้วเล็กๆ รอจนส่วนผสมแข็งตัวค่อยใส่ผม ^{[13]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เชียบัตเตอร์ 1 ออนซ์ (30 กรัม)
- น้ำมันมะพร้าว 1 ออนซ์ (30 กรัม)
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
- น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 2 - 3 หยด
3
บำรุงหนังศีรษะ แก้โรคผิวหนัง เช่น สะเก็ดเงิน ด้วยทีทรีออยล์. ละลายเชียบัตเตอร์ แล้วผสมกะทิ ว่านหางจระเข้ โจโจ้บาออยล์ และทีทรีออยล์ลงไป จากนั้นกรอกใส่ขวดแก้วเล็กๆ รอจนแข็งตัว แล้วใช้บำรุงผมตามต้องการ ^{[14]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เชียบัตเตอร์ 4 ออนซ์ (115 กรัม)
- กะทิ 4 ออนซ์ (120 มิลลิลิตร)
- วุ้นว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
- โจโจ้บาออยล์ 2 ช้อนชา
- ทีทรีออยล์ 2 ช้อนชา
4
แก้รังแคและผมชี้ฟู ด้วยผงดอกชบา. ละลายเชียบัตเตอร์ก่อน จากนั้นผสมกับน้ำกลั่นและวุ้นว่านหางจระเข้ เติมน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์กับสารสกัดจากเมล็ดเกรปฟรุต ผสมผงดอกชบา สุดท้ายกรอกใส่ขวดแก้ว รอจนแข็งตัวแล้วใช้ได้เลย ^{[15]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เชียบัตเตอร์ 4 ออนซ์ (115 กรัม)
- น้ำกลั่น 8 ออนซ์ (240 มิลลิลิตร)
- วุ้นว่านหางจระเข้ 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร)
- น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 1 ช้อนชา
- สารสกัดจากเมล็ดเกรปฟรุต 1 ช้อนชา
- ผงดอกชบา 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
5
ดูแลหนังศีรษะและกระตุ้นให้ผมยาวเร็ว ด้วยน้ำมันอะโวคาโด. ละลายเชียบัตเตอร์ จากนั้นผสมน้ำมันอะโวคาโดกับน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ คนให้เข้ากัน กรอกใส่ขวดแก้ว แล้วแช่ตู้เย็นจนแข็งตัว ใช้บำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้น หรือนวดที่หนังศีรษะให้สุขภาพดี ^{[16]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เชียบัตเตอร์ 4 ออนซ์ (115 กรัม)
- น้ำมันอะโวคาโด 2 ช้อนชา
- น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ 6 หยด
โฆษณา

เคล็ดลับ

น้ำมันมะพร้าวแบบ Fractionated ก็คือน้ำมันมะพร้าวที่ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ให้ละลายจนเหลวนั่นเอง
ครีมนวดสูตรต่างๆ ในบทความวิกิฮาวนี้ ทิ้งไว้นานๆ อาจจะแยกชั้นได้ ให้เขย่าจนเข้ากันก่อนใช้งาน
ครีมนวดสูตรน้ำมันหอมระเหย ต้องเก็บในขวดแก้ว หรือขวดแก้วสำหรับฉีดพ่นเท่านั้น เพราะน้ำมันหอมระเหยทำให้พลาสติกเสื่อมสลายไปตามเวลาได้ ถ้าหาขวดแก้วหรือขวดแก้วสำหรับฉีดพ่นไม่ได้ ให้เลือกที่เป็นแก้วเนื้อดี
แสงแดดก็ทำให้น้ำมันหอมระเหยเสื่อมสภาพ เสียคุณประโยชน์ได้ เพราะงั้นให้เก็บในตู้ทึบแสง
ครีมนวดสูตรน้ำมันมะพร้าว ถ้าจะใช้ฉีดพ่น ต้องวอร์มก่อนเล็กน้อย
ถ้าไม่มีน้ำกลั่น ให้ใช้น้ำกรองหรือน้ำดื่มแทน จะใช้น้ำต้มสุกก็ได้ โดยทิ้งไว้ให้เย็นก่อน
อาจจะต้องละลายน้ำมันมะพร้าวก่อนนำไปผสมตามสูตร
อากาศร้อนแบบบ้านเรา แนะนำให้เก็บครีมนวดสูตรเข้มข้นในตู้เย็น จะได้ไม่เหลวไปเวลาใช้งาน

โฆษณา

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]

[7]

[8]

[9]

[10]

[11]

[12]

[13]

[14]

[15]

[16]

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ ทำครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออก

ขั้นตอน

ใช้ครีมนวดเป็นเบส

ผสมสเปรย์ครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออก

ผสมครีมนวดสูตรเข้มข้นแบบไม่ต้องล้างออก

เคล็ดลับ

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาวทูที่ติดเทรนด์

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

Explore Categories