น้ำกุหลาบอาจมีราคาแพงและหายาก อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำได้เองง่ายๆ น้ำกุหลาบใช้เพิ่มรสชาติให้กับพวกขนมอบและเค้กต่างๆ ได้ หรือคุณจะใช้มันเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ทำเองก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโทนเนอร์และใช้เพิ่มความสดชื่นให้ผ้าปูที่นอนได้ด้วย บทความนี้จะสอนวิธีทำน้ำกุหลาบด้วยตัวเองสี่วิธี
ส่วนประกอบ
ส่วนประกอบในการทำน้ำกุหลาบจากน้ำมันหอมระเหย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำมันหอมระเหยจากดอกกุหลาบ 12 หยด
- น้ำกลั่น 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร)
ส่วนประกอบในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบแห้ง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โหลแก้ว (โหลขนาดใหญ่ ปากกว้าง)
- กลีบดอกกุหลาบแห้ง ¼ ถ้วย
- น้ำกลั่นร้อน 1 ¼ ถ้วย (300 มิลลิลิตร)
ส่วนประกอบในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบสด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กลีบดอกกุหลาบ 1 ถ้วย (ใช้ประมาณ 2 ดอก)
- น้ำกลั่น 2 ถ้วย (475 มิลลิลิตร)
- วอดก้า 1 ช้อนชา (ใช้หรือไม่ก็ได้)
ส่วนประกอบในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบบด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Reader's Digest, <i>Back to Basics</i>, p. 342, (2003), ISBN 0-86449-028-3
- กลีบดอกกุหลาบ 16-20 ถ้วย (500 กรัม)
- น้ำกลั่น (ตามต้องการ)
ขั้นตอน
-
เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์. นอกจากน้ำมันหอมระเหยดอกกุหลาบและน้ำกลั่นแล้ว คุณยังต้องใช้โหลแก้วด้วย แต่ถ้าคุณจะใช้น้ำกุหลาบนี้เป็นสเปรย์ฉีด ก็ให้เตรียมขวดสเปรย์ไว้ด้วย เลือกขวดที่ทำจากแก้วหรือพลาสติกคุณภาพดี อย่าใช้แบบที่ทำจากโลหะหรือพลาสติกคุณภาพต่ำ
-
ใส่น้ำลงในโหล. ใช้น้ำกลั่นแทนน้ำประปา เพราะน้ำประปามักจะมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ถ้าคุณหาน้ำกลั่นไม่ได้ ให้ใช้น้ำกรองต้มจนเดือดทิ้งไว้ให้เย็นเท่าอุณหภูมิห้อง
-
เติมน้ำมันหอมระเหยจากดอกกุหลาบ 12 หยด. คุณต้องเจือจางน้ำมันด้วยวอดก้าสักสองช้อนชาก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะลอยเหนือผิวน้ำ ต้องใช้น้ำมันหอมระเหยสกัดบริสุทธิ์แท้ๆ ที่ไม่ใช่แค่น้ำมันหอมแต่งกลิ่นเฉยๆ น้ำมันหอมจะให้แค่กลิ่น แต่ไม่ให้คุณประโยชน์ที่มีในดอกกุหลาบและน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์เลย
-
ปิดโหลให้สนิทและเขย่า. เขย่าสักพักเพื่อให้น้ำกับน้ำมันผสมเข้ากัน
-
ถ่ายน้ำกุหลาบใส่ภาชนะอื่น. คุณจะใส่น้ำกุหลาบไว้ในโหลอย่างเดิม หรือจะเทผ่านกรวยใส่ขวดสเปรย์และใช้ฉีดเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ผ้าหรือใบหน้าก็ได้โฆษณา
-
เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์. นอกจากกลีบดอกกุหลาบแห้งและน้ำร้อนแล้ว คุณยังต้องใช้โหลแก้วสองใบและกระชอนด้วย
-
ใส่กลีบกุหลาบแห้งลงในโหลใบหนึ่ง. ถ้าคุณจะใช้น้ำกุหลาบในการปรุงอาหาร ให้เลือกใช้กลีบดอกไม้แห้งจากกุหลาบพันธุ์ที่กินได้ เช่น Rosa damascena, Rosa Centifolia และ Rosa Gallica [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พวกนี้จะรสชาติดีสุด
-
เทน้ำร้อน (แต่ไม่ต้องเดือด) ลงไปบนกลีบกุหลาบ. อย่าลืมว่าให้ใช้น้ำกลั่นซึ่งปราศจากเชื้อโรค ถ้าหาน้ำกลั่นไม่ได้ก็ให้ใช้น้ำกรองแทน
-
ปิดฝาทิ้งไว้ให้น้ำเย็นลง. ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้อง
-
นำกระชอนมาวางบนโหลเปล่าอีกใบ. คุณจะต้องถ่ายน้ำกุหลาบลงในโหลนี้ กระชอนจะช่วยกรองกลีบกุหลาบ
-
เทน้ำกุหลาบลงในโหลเปล่า. ค่อยๆ เทผ่านกระชอน ให้น้ำลงโหลและให้กลีบกุหลาบลงไปในกระชอน พอเทน้ำเสร็จแล้วก็ทิ้งกลีบดอกไม้ได้เลย
-
ปิดฝาโหลแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น. น้ำกุหลาบนี้ต้องใช้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ไม่อย่างนั้นจะหมดอายุโฆษณา
-
เลือกดอกกุหลาบสดที่มีกลิ่นหอมแล้วนำมาล้าง. ถ้าดอกกุหลาบยิ่งสดก็ยิ่งจะได้น้ำกุหลาบที่ดี [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เลือกใช้ดอกกุหลาบที่ปลูกแบบออร์แกนิก ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แม้จะต้องนำมาล้างอยู่แล้ว แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าคุณจะล้างสารเคมีต่างๆ ออกได้หมด และพยายามเลือกใช้ดอกกุหลาบแค่สายพันธุ์เดียว เพราะแต่ละพันธุ์จะมีกลิ่นที่เฉพาะตัว และถ้าใช้หลายพันธุ์ปนกันอาจจะได้กลิ่นออกมาไม่ดีนัก อย่าลืมล้างดอกกุหลาบให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก แมลง และยาฆ่าแมลง
- ถ้าคุณจะใช้น้ำกุหลาบในการปรุงอาหาร ให้เลือกใช้ดอกกุหลาบพันธุ์ที่กินได้ เช่น Rosa damascena, Rosa Centifolia และ Rosa Gallica [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เด็ดกลีบกุหลาบออกแล้วทิ้งส่วนที่เหลือ. คุณต้องใช้กลีบดอกกุหลาบหนึ่งถ้วย ซึ่งจะใช้ประมาณสองดอก ขึ้นอยู่กับขนาดของดอก
-
ใส่กลีบกุหลาบลงในหม้อแล้วเทน้ำลงไปให้ท่วม. ดูให้กลีบดอกโดนน้ำอย่างทั่วถึง และอย่าให้ระดับน้ำสูงเกินกลีบดอกไม้มากไป ถ้าใส่น้ำเยอะเกิน น้ำกุหลาบก็จะมีกลิ่นหอมน้อยลง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองเติมวอดก้าลงไปสักหนึ่งช้อนชา มันจะไม่กระทบต่อกลิ่น แต่จะช่วยคงคุณภาพของน้ำกุหลาบไว้ ทำให้เก็บได้นานขึ้น [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปิดฝาหม้อและใช้ไฟต่ำ. อย่าปล่อยให้น้ำเดือดหรือเกือบเดือด การใช้ความร้อนสูงเกินไปจะทำลายสีและ สิ่งของ อื่นๆ หลังผ่านไปประมาณ 20 นาที จะเห็นว่ากลีบกุหลาบจะสีซีดลง และสีของน้ำจะเปลี่ยนไปเป็นสีดอกกุหลาบ
-
นำกระชอนมาวางบนโหลแก้วขนาดใหญ่. ต้องใช้ขวดโหลที่สะอาดจริงๆ และใหญ่พอจะใส่น้ำได้ 2 ถ้วย (475 มิลลิลิตร) ขั้นตอนนี้ต้องใช้กระชอนเพื่อกรองกลีบดอกไม้
-
เทน้ำกุหลาบลงในโหล. ใช้สองมือ ถือหม้อเหนือโหลแล้วค่อยๆ เอียง เทช้าๆ ให้น้ำและกลีบดอกผ่านกระชอนลงไป น้ำจะไหลผ่านได้ ส่วนกลีบจะถูกกรองออก
- ลองแบ่งน้ำกุหลาบบางส่วนใส่ขวดเล็กๆ มันจะใช้ง่ายกว่าใส่โหลแก้วใหญ่ๆ พอใช้หมดแล้วค่อยเอาจากในโหลไปเติม
-
เก็บใส่ตู้เย็นไว้. น้ำกุหลาบจะอยู่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ถ้าแช่ตู้เย็น [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าเติมวอดก้าลงไปมันก็จะอยู่ได้นานกว่านั้นอีกหน่อยโฆษณา
-
แบ่งกลีบกุหลาบออกเป็นสองส่วน. ส่วนแรกจะเอาไปบดก่อน อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ทีหลัง
-
บดกลีบกุหลาบส่วนแรกด้วยครกและสาก. ขณะที่บดกลีบมันจะมีน้ำออกมา ซึ่งเราต้องใช้น้ำนี่ในการทำน้ำกุหลาบ คุณจะบดกลีบกุหลาบกับกระชอนก็ได้ แค่วางกระชอนไว้บนโหลแก้ว แล้วใช้หลังช้อนบดกลีบกุหลาบไปกับตะแกรง
-
นำน้ำกุหลาบที่ได้กับกลีบที่บดแล้วใส่ถ้วยเซรามิก. จะใช้โหลแก้วหรือถ้วยแก้วก็ได้เช่นกัน ทิ้งน้ำกุหลาบบดและกลีบมันไว้ในถ้วยสักสองสามชั่วโมง แบบนี้จะทำให้น้ำชุ่มขึ้น
-
ใส่กลีบกุหลาบส่วนที่เหลือลงไปแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง. คลุกกลีบสดให้เข้ากับกลีบที่บดแล้ว ปิดฝาถ้วยและปล่อยทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง
-
เทน้ำกุหลาบบดและกลีบใส่หม้อแก้วหรือหม้อเซรามิก. อย่าใช้หม้อโลหะ เพราะมันจะไปทำปฏิกิริยากับน้ำมัน
-
ต้มน้ำและกลีบกุหลาบนั้นด้วยไฟต่ำ. เอาหม้อตั้งเตา ใช้ไฟต่ำ ต้มให้กลีบกุหลาบนั้นกรุ่นๆ พอฟองเริ่มขึ้นก็ยกหม้อลงจากเตาได้เลย
-
เทน้ำกุหลาบใส่โหลโดยผ่านกระชอน. คุณจะใช้กระดาษกรองหรือผ้าขาวบางก็ได้เช่นกัน กรองไปจนกว่าจะไม่เหลือเศษกลีบอยู่ในน้ำกุหลาบ
- ถ้าคุณจะใช้น้ำกุหลาบเป็นโทนเนอร์ ให้เจือจางด้วยน้ำกลั่นจนกว่าจะได้ความเข้มข้นตามที่ต้องการ
-
ปิดโหลแล้วทิ้งไว้ในที่ที่มีแดดสักสองสามชั่วโมง. ความร้อนจากแดดจะช่วยดึงเอาน้ำมันจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ออกมา
-
เก็บน้ำกุหลาบไว้ในตู้เย็น. ต้องใช้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ไม่อย่างนั้นจะหมดอายุโฆษณา
เคล็ดลับ
- ยิ่งคุณใช้ดอกกุหลาบที่มีกลิ่นหอม น้ำกุหลาบของคุณก็จะยิ่งหอมมากขึ้น
- ดอกกุหลาบมีหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ก็มีกลิ่นเฉพาะตัว ควรเลือกแค่พันธุ์เดียวเพื่อไม่ให้กลิ่นตีกัน
- น้ำกุหลาบเหมาะจะเป็นของขวัญชั้นยอด ลองทำตะกร้าของขวัญที่มีน้ำกุหลาบที่ทำเอง น้ำมันนวดกลิ่นกุหลาบ สบู่ และเทียนหอมดูสิ
- ใช้น้ำกุหลาบที่คุณทำเป็นโทนเนอร์หรือน้ำหอม คุณจะใช้ฉีดตามผ้าเพื่อให้มันหอมขึ้นก็ได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้น้ำกุหลาบเป็นเครื่องประทินผิวที่ทำเอง [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่งรสให้เค้ก ลูกกวาด ขนมอบ และชาต่างๆ ด้วยน้ำกุหลาบ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำกุหลาบมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์มากมาย ทั้งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย และยังสามารถใช้เป็นโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของผิวให้สมดุลได้ด้วย [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณใช้ขวดสเปรย์ ให้เลือกขวดที่ทำจากแก้วหรือพลาสติกคุณภาพดี
- น้ำกุหลาบผสมกับสตรอว์เบอร์รีบดช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าใช้น้ำประปาเพราะมักจะมีเชื้อโรคปนเปื้อน ให้ใช้น้ำกลั่นหรือน้ำกรองต้มสุกเท่านั้น [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามเก็บน้ำกุหลาบใส่ภาชนะที่ทำจากโลหะหรือพลาสติกคุณภาพต่ำ ขวดโลหะอาจทำปฏิกิริยากับน้ำมันจากธรรมชาติในน้ำกุหลาบ ส่วนสารเคมีจากขวดพลาสติกคุณภาพต่ำอาจรั่วซึมสู่น้ำกุหลาบ ทำให้เสื่อมคุณภาพได้ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
สิ่งของที่ใช้ในการทำน้ำกุหลาบจากน้ำมันหอมระเหย [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โหลแก้ว
- ขวดสเปรย์
สิ่งของที่ใช้ในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบแห้ง
- โหลแก้วทนความร้อน 2 โหล
- กระชอน
สิ่งของที่ใช้ในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบสด [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กระชอน
- โหลแก้วฆ่าเชื้อ ขนาด 16 ออนซ์ (475 มิลลิลิตร)
- ขวดขนาดเล็ก (ใช้หรือไม่ก็ได้)
สิ่งของที่ใช้ในการทำน้ำกุหลาบจากกลีบดอกกุหลาบบด
- สากและครก
- ถ้วยเซรามิก
- หม้อเซรามิกหรือหม้อแก้ว
- กระชอน ผ้าขาวบาง หรือกระดาษกรองกาแฟ
- โหลแก้ว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ One Good Thing by Jillee, DIY Coconut Oil Body Wash
- ↑ A Delightful Home, How to Make Rosewater
- ↑ She Knows, DIY Rosewater Toner
- ↑ Reader's Digest, Back to Basics , p. 342, (2003), ISBN 0-86449-028-3
- ↑ The Beauty Gypsy, How to Make Rosewater
- ↑ Free People, DIY: How to Make Rosewater
- ↑ The Beauty Gypsy, How to Make Rosewater
- ↑ She Knows, DIY Rosewater Toner
- ↑ Soap Deli News, Homemade Rosewater Recipe
- ↑ She Knows, DIY Rosewater Toner
- ↑ HGTV Gardens, How to Make Rose Oil and Rose Water
- ↑ HGTV Gardens, How to Make Rose Oil and Rose Water
- ↑ HGTV Gardens, How to Make Rose Oil and Rose Water
- ↑ One Good Thing by Jillee, Make Your Own Rose Water Spray
- ↑ Crunchy Betty, DIY 101 – Working with Water
- ↑ Whole New Mom, Homemade Rosewater Spray Recipe
- ↑ One Good Thing by Jillee, DIY Coconut Oil Body Wash
- ↑ She Knows, DIY Rosewater Toner
โฆษณา