ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทำสีผมหลบในเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณได้ทดลองทำสีผมใหม่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องย้อมให้ทั่วทั้งศีรษะ ทั้งยังได้สนุกไปกับสร้างสรรค์สีผมที่แปลกใหม่ด้วยการจับคู่สีผมที่แตกต่างกัน เช่น ย้อมผมด้านในให้เป็นสีแพลตินัมบลอนด์และคงสีดำธรรมชาติของผมชั้นนอกไว้ตามปกติ หรือจะลองเพิ่มความสดใสด้วยการไล่ระดับสีรุ้งก็ได้เช่นกัน การทำสีผมหลบในมีขั้นตอนที่ไม่แตกต่างจากการทำสีผมทั่วทั้งศีรษะนัก ต่างกันเพียงว่าคุณจะต้องแบ่งผมส่วนที่ต้องการทำสีแยกออกจากผมชั้นนอกให้เรียบร้อยเสียก่อน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เตรียมเส้นผมและพื้นที่ให้พร้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยปกติแล้วคุณควรหลีกเลี่ยงการสระผมก่อนทำสีโดยทันที เนื่องจากน้ำมันตามธรรมชาติบนหนังศีรษะจะทำหน้าที่ปกป้องหนังศีรษะของคุณจากการถูกทำร้ายโดยสารเคมีในสีย้อมผม และการสระผม 1 คืนก่อนทำสีผมเป็นการทิ้งระยะเวลาให้น้ำมันตามธรรมชาติถูกผลิตออกมาอีกครั้ง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมโดยทั่วไปยังแนะนำให้ชโลมน้ำยาบนเส้นผมที่แห้ง [1]
    • อย่างไรก็ตาม น้ำยาทำสีผมชนิดกึ่งถาวรบางชนิดอาจทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบนเส้นผมที่สะอาดหรือแม้กระทั่งต้องการให้คุณเริ่มทำสีผมโดยทันทีหลังสระผมเสร็จ ดังนั้นคุณจึงควรอ่านคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจทุกครั้งก่อนเริ่มต้นทำสีผม
    • หากเส้นผมของคุณค่อนข้างสกปรกเป็นพิเศษ น้ำยาทำสีผมอาจไม่สามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้เสมอกันทั่วทั้งเส้น ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการทำสีผมหากคุณไม่ได้สระผมมานานกว่า 2-3 วัน
  2. น้ำยาทำสีผมอาจหยดเลอะเทอะได้แม้คุณจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม และเนื่องจากคุณต้องการทำสีผมที่บริเวณด้านหลังของศีรษะ การหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำยาหยดเลอะเทอะจึงเป็นเรื่องยากมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณเกิดความเสียหาย ให้คุณเลือกสวมเสื้อและกางเกงขาสั้นหรือขายาวตัวเก่าที่คุณไม่ต้องรู้สึกกังวลแม้ว่าน้ำยาทำสีผมจะหยดลงบนเสื้อผ้าของคุณ [2]
    • คุณยังสามารถหาซื้อผ้าคลุมสำหรับตัดผมสำหรับสวมทับเพื่อป้องกันเสื้อผ้าของคุณได้เช่นกัน

    เคล็ดลับ: หากเป็นไปได้ให้เลือกสวมเสื้อเชิ้ตแบบติดกระดุมเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องถอดเสื้อออกมาทางศีรษะเมื่อได้เวลาล้างน้ำยาออกจากเส้นผม

  3. เตรียมผ้าขนหนู กิ๊บติดผม นาฬิกาจับเวลา และหวีให้พร้อม. หลังจากที่มือของคุณ (หรือถุงมือที่สวมอยู่) เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำยาทำสีผม คุณอาจเดินออกไปหยิบของเพิ่มเติมได้ไม่สะดวกนัก ดังนั้นคุณจึงควรจัดเตรียมอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ วางไว้ในบริเวณสำหรับการทำสีผมให้ครบถ้วน รวมทั้งใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ปูทับบนพื้นและโต๊ะเคาน์เตอร์ให้ทั่วและเตรียมผ้าขนหนูไว้ใกล้มือสำหรับเช็ดทำความสะอาดน้ำยาที่อาจหกล้นหรือกระเด็นออกมา [3]
    • หากในชุดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมไม่มีถุงมือมาให้ คุณอาจจำเป็นต้องเตรียมถุงมือมาด้วย
    • ขั้นตอนการทำสีผมของคุณจะง่ายยิ่งขึ้นหากคุณเลือกลงมือทำสีผมในห้องน้ำพร้อมใช้กระจก 2 บาน เช่น กระจกติดผนังและกระจกพกพา สำหรับส่องบริเวณด้านหลังของศีรษะ ซึ่งคุณอาจเลือกใช้พื้นที่อ่างล้างมือเป็นบริเวณสำหรับการทำสีผมของคุณ
  4. หวีผมให้ทั่วศีรษะเพื่อคลายเส้นผมไม่ให้พันกัน. เส้นผมที่พันกันเป็นปมและยุ่งเหยิงอาจส่งผลให้น้ำยาทำสีผมกระจายไปได้ไม่ทั่วถึง ดังนั้นอย่าลืมหวีผมสักเล็กน้อยก่อนเริ่มต้นลงมือทำสีผม [4]
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถสางผมให้เรียบตรงได้ยากยิ่งขึ้นหากปล่อยให้เส้นผมของคุณพันกันมากจนเกินไป
  5. ใช้หวีแสกผมในแนวนอนจากด้านหลังของใบหูแต่ละฝั่ง. เพื่อแบ่งผมด้านในที่ต้องการทำสีออกจากเส้นผมส่วนที่เหลือ ให้คุณแสกผมตรงบริเวณต้นคอโดยเริ่มจากด้านหลังของใบหูข้างหนึ่งไล่มาทางศีรษะด้านหลังไปยังด้านหลังของใบหูอีกข้างหนึ่ง คุณสามารถใช้กระจก 2 บานเพื่อให้สามารถส่องดูบริเวณศีรษะด้านหลังได้สะดวกยิ่งขึ้น [5]
    • หากต้องการทำสีผมเป็นบริเวณกว้างขึ้น ให้คุณขยับแนวผมสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เช่น ตรงกับปลายด้านบนของใบหู หรือหากต้องการทำสีผมในบริเวณที่แคบลง ให้คุณขยับแนวผมลงมาแทน
    • คุณยังสามารถแบ่งผมเป็นลักษณะวงกลมกลางกระหม่อมหากต้องการทำสีผมหลบในตรงบริเวณผมหน้าม้าด้วย
  6. ใช้กิ๊บหนีบผมหรือยางมัดผมรวบผมชั้นนอกขึ้นไปไว้ด้านบนให้เรียบร้อย โดยพยายามรวบผมขึ้นไปให้ตึงพอเพื่อให้คุณมองเห็นแนวผมที่แบ่งไว้ได้อย่างชัดเจน แต่จะต้องไม่แน่นเกินไปจนทำให้รู้สึกเจ็บ [6]
    • คุณยังสามารถใช้วิธีเก็บผมชั้นนอกขึ้นไปด้วยผ้าพันคอได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องแน่ใจว่าผ้าพันคอที่เลือกใช้สามารถเปรอะเปื้อนได้โดยที่คุณไม่รู้สึกเสียดาย
    • หากคุณมีไรผมเส้นเล็กๆ ตามขอบผม ให้คุณใช้กิ๊บดำติดขึ้นไปเพื่อไม่ให้ตกลงมาเกะกะได้
  7. ทาปิโตรเลียมเจลลี่ตามขอบผมเพื่อไม่ให้น้ำยาเปื้อนผิว. ใช้นิ้วมือตักปิโตรเลียมเจลลี่ขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะก่อนป้ายลงไปตามขอบผมตรงบริเวณหลังคอจนทั่วทั้งแนว ปิโตรเลียมเจลลี่จะทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันไม่ให้ผิวหนังเปื้อนสีย้อมจากการสัมผัสถูกน้ำยาทำสีผมได้ [7]
    • คุณยังสามารถทาปิโตรเลียมเจลลี่บนเส้นผมที่เหนือขึ้นมาจากส่วนที่แบ่งไว้เล็กน้อยได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม อย่าทาปิโตรเลียมเจลลี่บนเส้นผมส่วนที่ต้องการทำสีโดยเด็ดขาด
  8. ฟอกสีผมเป็นอันดับแรกหากคุณต้องการย้อมสีสว่างหรือสีพาสเทล. หากเส้นผมของคุณไม่ได้มีสีที่อ่อนมากตามธรรมชาติ คุณจะต้องทำการฟอกสีผมเป็นอันดับแรกหากคุณต้องการย้อมสีสว่างหรือสีพาสเทล เช่น สีทีล สีชมพู หรือสีไวโอเลต แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะแนะนำให้คุณเข้ารับบริการฟอกสีผมที่ร้านทำผม แต่คุณก็สามารถเลือกทำการฟอกสีผมด้วยตัวเองได้โดยหาซื้อชุดผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกสีผมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุในคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
    • คุณควรปรึกษาช่างทำผมก่อนเริ่มลงมือฟอกสีเส้นผมที่เคยผ่านการทำสีมาก่อน เนื่องจากน้ำยาฟอกสีอาจทำปฏิกิริยากับสีย้อมจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อเส้นผมได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ลงมือทำสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำยาทำสีผมตามคำแนะนำที่ระบุไว้ข้างกล่อง. ชุดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแบบถาวรโดยส่วนใหญ่จะประกอบด้วยดีเวลลอปเปอร์และครีมเปลี่ยนสีผมอย่างละ 1 ขวด และเมื่อต้องการใช้งานจึงผสมสารทั้งสองชนิดนี้เข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมอ่านคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจแม้ว่าคุณจะเคยลงมือทำสีผมด้วยตัวเองมาก่อน เนื่องจากขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อหรือแม้กระทั่งไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้ยี่ห้อเดียวกัน [8]
    • หากคุณต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีแบบกึ่งถาวรซึ่งมักมีเฉดสีรุ้งหรือพาสเทลให้เลือกมากมายหลายเฉดสี ตัวผลิตภัณฑ์อาจเป็นชนิดพร้อมใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องผสมเอง
  2. น้ำยาทำสีผมอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ไม่มีฤทธิ์รุนแรงมากนัก แต่มือของคุณอาจยังคงเปรอะเปื้อนได้หากไม่สวมถุงมือ [9]
    • โดยส่วนใหญ่แล้วในชุดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่วางขายตามท้องตลาดมักมีถุงมือเตรียมมาให้ด้วย แต่หากภายในกล่องไม่มีถุงมือให้มา คุณก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยหรือร้านขายยาทั่วไป ซึ่งที่จริงแล้วแม้ว่าภายในกล่องจะมีถุงมือมาให้ แต่คุณควรซื้อถุงมือเพิ่มเติมเผื่อไว้ในกรณีที่ถุงมือคู่แรกเกิดการฉีกขาด
  3. ผสมน้ำยาทำสีผมในขวดบีบหรือถ้วยผสมพร้อมแปรง. หากในชุดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่คุณเลือกใช้มาพร้อมกับขวดบีบ คุณสามารถผสมดีเวลลอปเปอร์และครีมเปลี่ยนสีผมในขวดให้เข้ากันก่อนชโลมน้ำยาลงบนเส้นผมได้เลย อย่างไรก็ตาม การผสมดีเวลลอปเปอร์และครีมเปลี่ยนสีผมในถ้วยผสมให้เรียบร้อยก่อนใช้แปรงป้ายน้ำยาลงบนเส้นผมจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางการชโลมน้ำยาได้ง่ายยิ่งขึ้น [10]
    • คุณสามารถหาซื้อแปรงสำหรับย้อมสีผมได้ตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไป หรือจะเลือกใช้แปรงฟองน้ำที่วางขายตามร้านขายอุปกรณ์งานฝีมือก็ได้เช่นกัน
  4. หลังจากที่ผสมน้ำยาทำสีผมและสวมถุงมือเตรียมไว้แล้ว คุณก็สามารถเริ่มต้นชโลมน้ำยาลงบนเส้นผมได้เลย! เริ่มจากชโลมน้ำยาทำสีผมให้ชุ่มจนทั่วบริเวณโคนผมซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้ระยะเวลานานที่สุดกว่าที่สีผมจะเริ่มเปลี่ยน จากนั้นจึงแบ่งผมออกเป็นช่อๆ และป้ายน้ำยาลงบนเส้นผมแต่ละช่อจากโคนผมลงมาจนถึงปลายผม คุณสามารถใช้นิ้วมือสางผมเพื่อน้ำยากระจายตัวทั่วเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ [11]
    • ควรแน่ใจว่าชโลมน้ำยาทำสีผมจนทั่วทั้งเส้นตั้งแต่โคนจรดปลาย
    • หากผมของคุณไม่ได้ยาวมากนัก คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำสีผมทั้งกล่องเพราะว่าคุณต้องการจะทำสีเฉพาะผมด้านในเท่านั้น

    เคล็ดลับ: หากคุณต้องการทำสีผม 2 สีหรือย้อมปลายผมเป็นอีกสีหนึ่ง ให้คุณลงน้ำยาสีเข้มตรงบริเวณปลายผมเป็นอันดับแรกก่อนใช้น้ำยาสีอ่อนป้ายลงบนเส้นผมส่วนที่เหลือไล่ขึ้นไปจนถึงโคนผม พยายามเกลี่ยสีตรงบริเวณจุดตัดของสีทั้งสองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแบ่งของสีที่ดูชัดเจนจนเกินไป

  5. เมื่อชโลมน้ำยาทำสีผมลงบนเส้นผมของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณใช้ผ้าขนหนูวางพาดบนไหล่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของคุณเปื้อนสีย้อม ลองดูระยะเวลาการทิ้งน้ำยาบนเส้นผมที่เหมาะสมที่ระบุไว้บนฉลากกล่องก่อนตั้งเวลาและรอจนครบกำหนด [12]
    • อย่าใช้กิ๊บติดผมรวบเส้นผมบริเวณที่ชโลมน้ำยาทำสีผมขึ้นไปรวมกับผมชั้นนอก ไม่เช่นนั้นสีย้อมอาจติดไปกับเส้นผมส่วนที่เหลือได้
    • อย่าทิ้งน้ำยาทำสีผมผมไว้นานกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลากกล่องโดยเด็ดขาด
    • ในระหว่างรอ คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอางเช็ดทำความสะอาดสีที่เปื้อนบนผิวหนังไปพลางๆ ได้
  6. ล้างน้ำยาทำสีผมผมด้วยน้ำเย็นจนกระทั่งน้ำใส. หลังพักทิ้งไว้จนครบระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ให้คุณเปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านเส้นผมเพื่อชำระล้างน้ำยาทำสีผมผมออกให้สะอาดพร้อมใช้นิ้วมือคอยสางผมเพื่อให้แน่ใจว่าเส้นผมโดนน้ำอย่างทั่วถึง ล้างต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำที่ไหลลงมากลายเป็นน้ำใสและไม่มีน้ำยาเหลือตกค้างอีก
    • ไม่ต้องสระผมด้วยแชมพูและหลีกเลี่ยงการล้างด้วยน้ำร้อนเพื่อไม่ให้เกล็ดผมเปิดออกจนสีย้อมถูกชะล้างออกไป
  7. หากในชุดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่คุณเลือกใช้มาพร้อมกับครีมนวดผมสูตรเข้มข้น ให้คุณชโลมครีมนวดผมลงบนเส้นผมและทิ้งไว้จนครบระระยะเวลาที่กำหนด แต่หากภายในกล่องไม่มีครีมนวดผมมาให้ คุณสามารถเลือกใช้ครีมนวดผมตัวโปรดของคุณแทนและทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนล้างออกให้สะอาด
    • ครีมนวดผมสามารถฟื้นฟูเส้นผมที่เสียจากสารเคมีให้กลับมานุ่มสลวยยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมเพื่อให้สีผมติดทนนานยิ่งขึ้น [13]
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำยาทำสีผม
  • เสื้อผ้าตัวเก่า
  • หวี
  • กระจก 2 บาน
  • กิ๊บติดผมหรือยางมัดผม
  • ปิโตรเลียมเจลลี่
  • ถ้วยผสมพร้อมแปรงหรือขวดบีบ
  • ผ้าขนหนู
  • นาฬิกาจับเวลา
  • ถุงมือ
  • ฝักบัว
  • ครีมนวดผมสูตรเข้มข้น

เคล็ดลับ

  • การทำสีผมหลบในจะออกมาดูดีที่สุดกับผมซอยไล่ระดับ แต่คุณยังคงสามารถใช้เทคนิคการทำสีผมนี้กับทรงผมอื่นๆ ได้ตามที่คุณต้องการ
โฆษณา

คำเตือน

  • ลองทดสอบน้ำยาทำสีผมบนผมช่อเล็กๆ ก่อนเริ่มต้นลงมือทำสีผมเพื่อดูว่าน้ำยาทำสีผมทำปฏิกิริยากับเส้นผมของคุณอย่างไร
  • หากน้ำยาทำสีผมเข้าตา ให้คุณรีบล้างด้วยน้ำเย็นทันที
  • อย่าปล่อยน้ำยาทำสีผมทิ้งไว้บนเส้นผมนานเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,085 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา