ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณอยากให้ผู้ชายคนนั้นคลั่งคุณเหมือนที่คุณคลั่งเขาหรือเปล่า? ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถบังคับฝืนใจใครได้ แต่คุณสามารถทำตัวเองให้ดูดีที่สุดและทำให้เขาหวั่นไหวได้ บทความนี้จะสอนเคล็ดลับให้คุณโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชาย โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเองเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ใส่ใจตัวคุณเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องแสดงให้หนุ่มคนนี้เห็นว่าคุณน่ะวิเศษขนาดไหน แต่ก่อนอื่นเลย คุณต้อง รู้ตัว ก่อนว่าคุณวิเศษขนาดไหน ถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง ก็ต้องสร้างความมั่นใจนั้นขึ้นมา นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องโหวกเหวกเสียงดัง เย่อหยิ่ง พูดมาก หรือพูดอะไรตรงๆ แต่หมายความว่าคุณควรหาจุดที่คุณรู้สึกสบายใจกับตัวเอง
    • คุณสามารถเป็นคนที่มั่นใจ นิสัยน่ารัก และถ่อมตน พร้อมกันในเวลาเดียวกันได้ แต่คุณต้องพร้อมที่จะออกมาพบปะผู้คนบ้าง ผู้ชายน่ะชอบผู้หญิงที่น่าสนใจ มีความมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเอง
    • ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองคือพวกที่ก็ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเหมือนกันและต้องการบงการชีวิตคนอื่น ใครจะอยากคบกับผู้ชายที่ต้องการให้ผู้หญิงรู้สึกแย่กับตัวเองและต้องการบงการคุณตลอดเวลาล่ะ?​ นั่นไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพจิตหรอกนะ คุณสมควรที่จะเจอคนที่ดีกว่านี้เยอะ
  2. พยายามทำตัวเองให้ดูดีที่สุดแบบไม่เฟคเมื่ออยู่ใกล้หนุ่มที่คุณชอบ ประสาทสัมผัสที่เด่นที่สุดสำหรับผู้ชายคือการมองเห็น ฉะนั้นการที่คุณทำตัวเองให้ดูดีที่สุดจะทำให้เขาหันมาสนใจคุณได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อคุณดูดีที่สุดแล้ว คุณจะ รู้สึก ดีที่สุดไปด้วย ซึ่งจะทำให้คุณมีความมั่นใจกล้าแสดงความร่าเริ่งของคุณออกมา
    • การแต่งหน้าช่วยได้เยอะ คุณไม่จำเป็นต้องถึงกับลงสีอะไรมากมายบนหน้าของคุณหรอก แต่งหน้าแบบไม่มีสีก็ได้ มาสคาร่าใสจะทำให้ตาของคุณดูโตขึ้น ลิปมันไม่มีสีจะทำให้รอยยิ้มของคุณต้องตาต้องใจมากขึ้น และการใช้แหนบถอนขนคิ้วจะช่วยทำให้คิ้วไม่รกรุงรัง
    • ใส่เสื้อผ้าที่สวมแล้วรู้สึกสบาย อย่ายัดตัวเองเข้าไปในกระโปรงรัดรูปถ้ามันไม่ใช่สไตล์ของคุณ ใส่กางเกงยีนส์เข้ารูปและเสื้อสีสวยๆ ก็สวยได้แล้ว
    • ยิ้มเยอะๆ งานวิจัยได้พบว่าคนเราดูดีขึ้นในสายตาคนอื่นเมื่อเรายิ้ม ฉะนั้นก็จงยิ้มโชว์ฟันขาวๆ ของคุณให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณจะได้ดูสวยขึ้น ดูเป็นมิตรมากขึ้น และดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
  3. ผู้ชายจะชอบคุณได้อย่างไรถ้าเขาไม่รู้ว่าคุณมีตัวตนอยู่? ถ้าคุณยังไม่อยู่ในสายตาเขา ก็จงทำให้เขาสังเกตเห็นคุณ อย่าลืมแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสนใจและแอบใบ้ว่าคุณชอบเขาด้วยนะ
    • ผู้ชายส่วนมากไม่กล้าขอคุณออกเดทเพราะพวกเขากลัวว่าคุณจะปฏิเสธ คุณเองก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป กล่าวทักทาย กล่าวบอกลา โบกมือให้เขาสักหน่อย เมื่อเขาตอบกลับ คุณจะรู้เองว่าเขาสนใจคุณเข้าแล้ว
    • แนะนำตัวเองและคุยกับเขา แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนคนหนึ่งจะชอบคุณโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับคุณก่อน เว้นแต่ว่าเขาจะ "ชอบ" คุณเพราะเหตุผลที่ผิดๆ น่ะ
  4. การมีอารมณ์ขันที่ดีทำให้ทุกอย่างดีขึ้น นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรหัวเราะคิกคักกับทุกอย่างที่เห็นจนดูไร้สติ แต่คุณควรพยายามไม่ซีเรียสกับตัวเองจนเกินไปและควรพร้อมที่จะหัวเราะเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคนที่คุณชอบอยู่ใกล้ๆ
    • ถ้าคุณเป็นคนจริงจังเกินไปหรือหน้าตายตลอดเวลา เขาอาจคิดว่าคุณน่ากลัวและไม่เป็นมิตร ซึ่งคุณไม่ต้องการให้เขาคิดแบบนั้นเลย
    • แสดงอารมณ์ขันของคุณออกมาในแบบของคุณเอง บางคนพูดจาเฉลียวฉลาดและชอบเสียดสี บางคนชอบเล่าเรื่องตลก และหลายคนก็แค่ทำอะไรติงต๊องๆ และล้อตัวเอง
    • ไม่ว่าคุณจะมีอารมณ์ขันแบบไหน ก็รู้ไว้ว่าคนเรามักชอบคนที่หัวเราะเก่ง ถ้าคุณกับเขาหาเรื่องที่จะหัวเราะด้วยกันไม่ได้ คุณอาจพบว่าคุณไม่ได้ชอบเขาจริงๆ ก็ได้!
  5. ผู้ชายจะไม่เข้ามาจีบคุณหรอกถ้าเขาคิดว่าคุณมีแฟนแล้ว ฉะนั้นก็เป็นหน้าที่คุณแล้วล่ะที่จะแสดงให้ชัดเจนว่าคุณยังโสดและจีบได้
    • ถ้าคุณมีบัญชีเฟสบุ๊คแต่ยังไม่มีเขาอยู่ในรายชื่อเพื่อน ก็ส่งคำร้องขอเป็นเพื่อนไปให้เขาเลย และดูให้แน่ใจด้วยว่าสถานภาพของคุณนั้นตั้งว่าโสด! หรือสวมใส่ริสแบนด์ที่เขียนว่า "โสด" ก็ได้ นอกจากจะสวยแล้ว ยังเตะตาอีกด้วย และยังบอกอีกว่าคุณพร้อมที่จะเริ่มความสัมพันธ์
    • ถ้าคุณไม่อยากแสดงออกด้วยริสแบนด์ และถ้าคุณเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คแล้ว ก็แสดงออกให้ชัดเจนด้วยวิธีอื่นอย่างแนบเนียน เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อนสาวในที่ที่คุณรู้ว่าเขาจะไป หรือพูดใบ้กับเขาว่าคุณจะไปงานงานหนึ่งแต่ไม่รู้จะไปกับใคร ฯลฯ
    • บอกเพื่อนๆ ของคุณว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน เพื่อนของคุณสามารถช่วยวางแผนให้คุณสองคนได้อยู่ด้วยกัน และยังช่วยไม่ให้สถานการณ์กระอักกระอ่วนได้ พวกเขาจะรู้ด้วยว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเขาและจะได้หักห้ามใจไม่ตกหลุมรักเขาเสียเอง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำความรู้จักกันและกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเป็นเพื่อนกับผู้ชายก่อนมีข้อดีสองประการใหญ่ๆ: เขาสามารถทำความรู้จักคุณ​และคุณสามารถทำความรู้จักเขา โดยความสัมพันธ์ฉันมิตรนี้จะไม่มีความกระอักกระอ่วนเหมือนความสัมพันธ์จริงจัง ปฏิบัติกับเขาเหมือนที่คุณปฏิบัติกับเพื่อนทุกคนของคุณ นั่นก็คือทำตัวสบายๆเมื่ออยู่กับเขา
    • ผู้ชายจะเปิดใจกับผู้ชายกันเองมากกว่ากับผู้หญิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถไปถึงจุดที่สนิทสนมกับเขาได้ ซึ่งจุดนั้นเป็นจุดที่สิ่งวิเศษเช่นความรักอาจเกิดขึ้นได้
    • ระวังหน่อยก็แล้วกันนะ ถ้าคุณสนิทกันแบบฉันมิตรมากเกินไป เขาอาจไม่คิดกับคุณในเชิงชู้สาว และเมื่อคุณได้ถูกตีตราว่าเป็นแค่เพื่อนแล้ว การทำให้ประกายไฟแห่งรักนั้นกลับมาถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
    • ถ้านั่นเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ของคุณอาจยุ่งยากเกินไป และคุณอาจรู้สึกอยากยอมแพ้ แต่การเกี้ยวพาราสีนิดๆ หน่อยๆ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ราบลื่นเลยล่ะ
  2. นี่อาจฟังดูเป็นคำแนะนำที่ชัดเจนจนไม่ต้องพูดก็ได้ แต่ขอย้ำว่าการเข้าไปคุยกับผู้ชายที่คุณชอบ (แทนที่แค่แอบชอบเขาอยู่ห่างๆ) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำให้เขาชอบคุณ
    • ถามคำถามที่น่าสนใจและชวนให้คิด หาข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของเขา ครอบครัวของเขา และเพื่อนของเขา เล่าเรื่องตลกให้เขาฟัง ทำอะไรก็ได้ที่จะเปิดการสนทนาระหว่างคุณสองคนได้
    • ถ้าคุณสามารถทำให้เขาพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เขารักได้ ไม่ว่าจะเป็นทีมกีฬา วงดนตรี หรือนักเขียนคนโปรด คุณก็กำลังก้าวเข้าสู่ชัยชนะแล้วล่ะ เมื่อเขาคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เขารัก เขาจะรู้สึกดี และเมื่อเขาคุยเรื่องนั้นกับคุณ เขาก็จะเชื่อมโยงความรู้สึกดีๆ นั้นเข้ากับคุณ!
  3. ถึงแม้ว่านี่จะฟังดูน่าประหลาดใจ แต่ผู้ชายน่ะชอบได้ยินคำชมมากพอๆ กับผู้หญิงนั่นแหละ ฉะนั้นก็อย่ากลัวที่จะชมเขาบ้างเป็นครั้งคราว แน่นอนว่าการชมเขามากมายอย่างไม่จริงใจนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะคุณจะดูเป็นคนไม่จริงใจเลย
    • ชมเขาเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม เช่นลักยิ้มน่ารักๆ หรือผมทรงใหม่ของเขา แต่อย่าชมเยอะเกินไปล่ะ ผู้ชายน่ะขี้อายเรื่องพรรคนี้ แค่ชมว่า "ฉันชอบตาคุณมากๆเลย" ก็เกินพอแล้ว
    • อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าคำชมต้องเกี่ยวกับเสื้อผ้าหน้าผมเท่านั้น ถ้าเขากำลังพูดถึงสิ่งที่เขารัก คุณก็ควรบอกเขาว่าคุณชื่นชมความรักของเขาที่มีต่อสิ่งนั้น คุณอาจชมเขาด้วยก็ได้ว่าฟอร์มเล่นกีฬาเขาดี หรือบอกเขาว่าเขาทำโครงงานในห้องเรียนได้ดีมาก
  4. การหากิจกรรมที่คุณสองคนสามารถทำด้วยกันได้จะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างคุณได้จริงๆ และยังเปิดโอกาสให้เขาตระหนักได้ว่าคุณเป็นคนน่าสนใจและอยู่ด้วยแล้วสนุกอีกด้วย เมื่อเขาเห็นว่าคุณเป็นคนที่เขาสามารถแบ่งปันสิ่งที่รักและสิ่งที่สนใจด้วยได้ เขาอาจเริ่มมองคุณในฐานะคนที่ควรค่ากับการเป็นแฟนเขา
    • ถ้าเค้าคิดว่าตัวเองเก่งระดับจะเป็นนักฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ คุณก็ควรไปที่สนามฝึกซ้อมและเชียร์เขาถ้าเขาชวนคุณไป ถ้าเขาชอบปีนหน้าผา ก็ขอให้เขาสอนคุณปีนบ้าง และลองปีนดูอย่างจริงจังเพื่อจะได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงชอบมันนัก
    • คุณอาจชวนเขามาเข้าร่วมกิจกรรมที่ คุณ สนใจก็ด้วยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจพาเขามาเข้าคลาสเรียนเต้นกับคุณ หรือชวนเขาไปทานอาหารต้นตำรับของประเทศอื่นๆ ที่คุณไม่เคยทานมาก่อน การที่เขาได้ค้นพบว่าคุณเป็นคนที่สามารถเปิดโลกให้เขาได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น จะทำให้เขารู้สึกว่าคุณน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีก
  5. ไปสืบมาว่ามีอะไรที่คุณสองคนชอบเหมือนกันบ้าง แล้วก็ใช้สิ่งนั้นเพื่อตีสนิทใกล้ชิดเขา! การที่คนสองคนมีสิ่งที่ชอบและสนใจร่วมกันนั้นเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ที่จะประสบความสำเร็จต่อไป ฉะนั้นขั้นตอนนี้ไม่ควรข้ามเลยล่ะ
    • ไม่สำคัญเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร อาจเป็นอะไรง่ายๆ เช่น การที่คุณทั้งสองคนสามารถท่องบทพูดในซีรี่ส์เรื่อง Family Guy ได้ หรืออาจเป็นอะไรยากๆ เช่น ความหลงไหลในฟิสิกส์ดาราศาสตร์​ สิ่งที่คุณสนใจอาจเป็นอะไรก็ได้ ตราบใดที่เป็นสิ่งที่จะทำให้เขาเห็นคุณว่าเป็นคนที่เขาถูกชะตาด้วย
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทั้งสองชอบเพลงแนวหนึ่ง ก็เสนอว่าจะเปิดซีดีเพลงให้ฟังแล้วถามเขาว่าเคยฟังเพลงของศิลปินคนนี้ไหม หรือถ้าวงดนตรีที่คุณทั้งสองคนชอบจะมีการแสดงสดในจังหวัดของคุณ​ ก็ชวนเขาไปดูกับคุณด้วย
  6. ผู้ชายน่ะรักเพื่อน ฉะนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนเขาต้องเข้ากับเพื่อนเข้าได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ การใช้เวลาเพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ของเขาและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณน่ะเป็น "สาวสุดเจ๋ง" จึงถือว่าคุ้มค่ามากๆ นี่จะทำให้ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าคุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาได้อย่างง่ายดายเพียงใด ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย และไม่มีดราม่าด้วย
    • ถ้าคุณสามารถทำให้เพื่อนๆ ของเขาเป็นเพื่อนคุณได้ จะเป็นเรื่องดีมากๆ เลยล่ะ พวกเขาจะเชียร์ให้คุณคบกันและพูดถึงคุณเมื่ออยู่กับเขา ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยก็ตาม นี่จะการันตีได้ว่าคุณจะอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา
    • แต่ระวังหน่อยนะ คุณไม่ควรทำเหมือน จีบ เพื่อนของเขา มันจะส่งสัญญาณว่าคุณชอบเพื่อนเขา ซึ่งขัดกับสัญญาณแรกที่ว่าคุณชอบเขา และนี่จะทำให้คุณดูเหมือนผู้หญิงขี้อ่อยด้วย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เดินหน้าต่อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณสองคนรู้จักกันและไปเที่ยวด้วยกันบ่อยแล้ว คุณอาจเดินหน้าต่ออีกสักหน่อย จีบเขาเลย เพื่อแสดงให้ผู้ชายของคุณเห็นว่าคุณอยากจะเป็นมากกว่าเพื่อน นี่อาจเป็นสัญญาณที่เขารอมาตลอดเพื่อที่จะได้กล้าชวนคุณออกเดทก็ได้
    • ยิ้ม จงยิ้มเมื่อไรก็ตามที่คุณเห็นเขา นี่จะบอกเขาว่าคุณดีใจที่ได้เจอเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมากับกลุ่มคนอื่นๆ ก็ยิ้มแบบกว้างที่สุดให้เขาแล้วกัน
    • มองตา การมองตาเป็นเทคนิคการจีบที่สำคัญมาก เคล็ดลับหนึ่งก็คือให้มองเขาจากอีกฟากหนึ่งของห้อง และเมื่อเขาสบตาคุณ คุณก็มองตาเขาต่อไปอีกสักนิด ก่อนที่จะยิ้มและหลบตาเขา รับรองว่าเขาจะติดใจ
    • แตะเนื้อต้องตัว การแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายในแบบที่มากกว่าเพื่อนทำกันก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่ง เมื่อคุณกำลังพูด ก็สัมผัสแขนเขาเบาๆ เมื่อคุณทักทายเขา ก็กอดเขา หรือเมื่อคุณกำลังเล่นกับเขา ก็ขยี้ผมเขาอย่างอ่อนโยน นี่จะทำให้เขารู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าคุณสนใจเขา
  2. ถ้าคุณมีเบอร์โทรศัพท์เขา (ถ้าไม่มี ก็ควรขอนะ) คุณอาจส่งข้อความหาเขาระหว่างวันเพื่อบอกให้เขารู้ว่าคุณคิดถึงเขา คุณอาจส่งข้อความตลกๆ หรือข้อความแนวจีบ และถ้าเขาตอบกลับมาในแบบเดียวกันนั้น คุณก็จะรู้ได้ว่าคุณมาถูกทางแล้ว
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขามีแข่งกีฬาหรือมีสอบเร็วๆ นี้ คุณอาจส่งข้อความเพื่อขอให้เขาโชคดี ถ้าเป็นไปตามคาด เขาจะเห็นว่าสิ่งที่คุณทำนั้นน่ารักและจะซาบซึ้งที่คุณจำได้
    • อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรส่งข้อความเยอะเกินไปนะ จำกฎไว้: ถ้าคุณส่งข้อความไปแล้วสองข้อความติดกันโดยที่เขายังไม่ตอบกลับ คุณควรหยุดส่ง คุณควรรอให้เขาตอบก่อน
  3. ถ้าจนถึงตอนนี้ คุณสองคนเคยแต่ไปเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่มหรืออยู่ด้วยกันในสถานการณ์ที่เป็นการเป็นงาน (เช่น ที่โรงเรียน หรือที่ทำงาน) อาจถึงเวลาแล้วที่จะชวนเขาไปเที่ยวกันสักที่แบบสองต่อสอง แต่ไม่ถึงกับต้องไปทานมื้อเย็นในร้านอาหารหรูๆ นะ คุณอาจชวนเขาไปที่ง่ายๆ เช่น ร้านกาแฟ หรือห้างก็ได้
    • ถ้าเขาตอบตกลง นั่นก็แสดงชัดเจนว่าเขาสนใจคุณเหมือนกัน หรืออย่างน้อยก็แสดงว่าเขาชอบที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับคุณ นับว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีและก็มีความสุขไปกับมันเถอะ แต่พยายามอย่าให้ความสัมพันธ์กระอักกระอ่วนล่ะ คุณสองคนเป็นแค่เพื่อนที่ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ถูกไหม?
    • ถ้าเขาปฏิเสธ ก็อย่าตื่นตระหนกไป เขาอาจมีธุระจริงๆ หรือเขาอาจแค่เขินอายเวลาอยู่กับคุณจนไม่กล้าอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ให้เวลาเขาหน่อยแล้วกัน แล้วค่อยลองชวนอีกครั้ง ถ้าเขายังปฏิเสธอีก คุณอาจต้องยอมรับความจริงว่าเขาไม่ได้สนใจคุณ
  4. ท้ายที่สุดแล้ว คุณไม่อาจรอเขาและหวังว่าเขาจะชอบคุณไปได้ตลอดหรอกนะ บางที โอกาสที่ดีที่สุดของคุณอาจเป็นการบอกเขาไปตรงๆ ว่าคุณชอบเขาและถามเขาว่าเขาชอบคุณเหมือนกันไหม ก็ได้ ไม่ว่าเขาจะตอบอย่างไร อย่างน้อยคุณก็ได้เปิดเผยความในใจของคุณแล้ว และความสัมพันธ์นี้อาจได้เดินหน้าต่อ หรือคุณอาจต้องเดินจากไปและหาคนใหม่
    • อย่าเชื่อเรื่องที่ว่าผู้ชายต้องเป็นฝายชวนผู้หญิงออกเดท ในความเป็นจริง ผู้ชายน่ะ หลงรัก ผู้หญิงที่เข้มแข็งและมีความมั่นใจที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และเอาเข้าจริงๆ การที่คุณกล้าชวนเขาก่อนนั้นก็อาจทำให้เขาประทับใจคุณมากพอที่จะตอบตกลงเลยล่ะ
    • อย่าให้คนอื่นชวนเขาออกเดทให้คุณเด็ดขาด มันทำให้คุณดูไม่รู้จักโตและจะทำให้โอกาสที่เขาจะปฏิเสธเพิ่มสูงขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะอายเกินกว่าที่จะชวนเขาต่อหน้า การที่คุณชวนผ่านข้อความหรือเขียนกระดาษโน้ตไปให้เขายังจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการ "ให้เพื่อนชวนให้" นะ
  5. ของอย่างนี้ต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถฝืนใจใครให้มาชอบคุณได้ และการพยายามเดินหน้าเร็วเกินไปอาจทำลายความสัมพันธ์ไปเลยก็ได้ ให้ระยะห่างกับเขาและพยายามไม่หมกมุ่นเรื่องเขา ปล่อยให้อะไรๆ เดินหน้าหรือค่อยๆ หายไปตามธรรมชาติเถอะ
    • ท้ายที่สุดแล้ว เขาจะบอกคุณเองไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งว่าเขาชอบคุณตอบหรือไม่ และถ้าเขาไม่ชอบคุณตอบ ก็อย่าไปอยู่ให้เกะกะเขาเลย บางทีคุณอาจเข้ากันไม่ได้ในเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อนก็ได้ และบางทีผู้ชายก็แค่ไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์ระยะยาวน่ะ
    • ถ้าเขาไม่ชอบคุณตอบ ก็อย่าเสียเวลาเลย เดินหน้าต่อดีกว่า! อย่าคิดมากเรื่องการถูกปฏิเสธเลย ใครๆ ก็ต้องเคยถูกปฏิเสธมาแล้วทั้งนั้น
    • โลกนี้มีผู้ชายอีกเยอะ และตราบใดที่คุณยังมีความมั่นใจในตนเอง คุณก็จะรู้ว่าคุณน่ะเป็นสาวฮอทจะตาย และคนที่ใช่สำหรับคุณนั้นยังรอคุณอยู่สักแห่งบนโลกนี้
  6. ท้ายที่สุดแล้ว จงคำนึงไว้ว่าคุณไม่สามารถควบคุมความรู้สึกนึกคิดของใครได้ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญนะ เขาอาจเป็นคนที่คุณหมายปอง แต่นั่นไม่ได้สร้างข้อผูกมัดว่าเขาจะต้องเห็นคุณเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมในโลกของเขาด้วย
    • คิดในทางกลับกันดูสิ ถ้ามีใครไม่รู้มาสนใจคุณ เขาสามารถทำอะไรที่จะ ทำ ให้คุณชอบเขาได้ไหมล่ะ? ก็คงไม่
    • ความเป็นจริงก็คือคุณอาจจะชอบเขาแบบนั้น หรือไม่ก็ไม่ชอบเลย คุณจะคิดว่าเขาน่าดึงดูด หรือไม่ก็ไม่คิดเลย เขาก็ทำได้เพียงพยายามเป็นคนที่ดีที่สุดที่เขาจะเป็นได้ และหวังว่าคุณจะเห็นเช่นนั้นด้วย
    • ในทางกลับกันก็ยังถูกอีก คุณควรเป็นคนที่ดีที่สุดที่คุณจะเป็นได้ และก็ปล่อยให้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อคุณเพิ่มพูน หรือไม่ก็ไม่เพิ่มเลย จากตรงนั้นเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผู้ชายชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกเป็นของตัวเอง ฉะนั้นก็จงเป็นตัวของตัวเอง! พยายามไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อผู้ชาย และพยายามทำให้เขาชอบคุณเพราะคุณเป็นคุณ ไม่ใช่เพราะเขาได้เปลี่ยนคุณเป็นคนที่ไม่ใช่คุณคนเดิมเลย
  • อย่าลืมยิ้ม! การยิ้มเป็นวิธีเก่าแก่แต่ได้ผล ใช้เชิญชวนผู้ชายให้เข้ามาคุยด้วย การยิ้มนั้นไม่ต้องเสียเงินสักบาทและยังทำให้ใบหน้าของคุณดูราศีจับอย่างทันตาเห็นอีกด้วย! (แล้วก็อย่าลืมแปรงฟันบ่อยๆ ฟันจะได้ไม่เหลือง!)
  • ถึงแม้ว่าทุกคนจะพูดเสมอว่าให้ "เป็นตัวของตัวเอง" แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงใจร้าย หยาบคาย และไม่มีเพื่อนมากนัก ก็เปลี่ยนตัวเองหน่อยเถอะ พยายามทำตัวน่ารักกับคนอื่น แคร์ความรู้สึกคนอื่นบ้าง แล้วอะไรๆ ก็จะดีเอง แต่อย่าทำตัวเป็นคนดีเกินไปล่ะ เพราะคนจะเริ่มคิดว่าคุณสร้างภาพ
  • ถ้าไม่มีสัญญาณใดๆ เลยที่แสดงว่าเขาสนใจคุณ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจนะ เขาอาจแค่อาย หรือกลัวนิดหน่อย โดยเฉพาะถ้าเขาไม่ได้ไปออกเดทกับใครมานานแล้ว หรือไม่เคยออกเดทกับใครเลย คุณควรอดทนหน่อยและไม่ทำให้เขารำคาญใจ แค่บอกเขาว่าคุณยังเปิดประตูรออยู่ถ้าเขารู้สึกกล้าพอที่จะแวะมาหาคุณ
  • ดูให้แน่ใจว่าเขาโสดจริงๆ ถ้าคุณรู้ตัวว่ากำลังพยายามดึงดูดความสนใจของผู้ชายที่มีแฟนแล้ว ก็จะถือว่าคุณเป็นมือที่สาม และนั่นไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรมเลย คุณควรจีบเขาก็ต่อเมื่อคุณรู้แล้วเท่านั้นว่าเขาโสดจริงๆ เพราะถ้ากลายเป็นว่าเขาใจโลเลและเปลี่ยนใจง่าย คุณก็คงไม่อยากให้เกิดแบบเดียวกันขึ้นตอนที่คุณคบกับเขาหรอก ผู้ชายแบบนี้มักจะใช้ชีวิตแบบผ่านผู้หญิงมามากหน้าหลายตา ซึ่งผู้หญิงเหล่านี้ทั้งรักเขาและเหนื่อยหน่ายกับเขาในเวลาเดียวกัน ผู้ชายแบบนี้เราเรียกกันว่า 'คนเจ้าชู้' แต่สำหรับแฟนเก่าของพวกเขา พวกเขาคือ 'คนชั่ว' เราให้คำแนะนำคุณได้แค่เพียงให้หลีกเลี่ยงผู้ชายแบบนี้
  • อย่าแสดงออกอย่างชัดเจนเกินไปว่าคุณชอบเขา นั่นเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดที่ผู้หญิงทำเลยล่ะ เพราะถ้าคุณชัดเจนแบบนั้นแล้ว ผู้ชายที่ "แสนดี" ก็สามารถเอาเปรียบคุณได้
  • บางคนชอบที่จะเริ่มด้วยการเป็นเพื่อนกันก่อนมากกว่า แต่บางคนก็ชอบที่จะหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็น "แค่เพื่อน" สถานการณ์ในอุดมคติก็คือ คุณสามารถเป็นทั้งสองแบบในเวลาเดียวกันได้ คือเป็นทั้งเพื่อน และ คนที่เขาชอบ
  • เมื่อคุณคุยกับผู้ชายที่คุณสนใจ อย่าพูดถึงผู้ชายคนอื่นที่คุณคิดว่าอาจเป็นแฟนคุณได้ในอนาคต คุณอาจคิดว่านี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะบอกให้เขารู้ว่าคุณน่ะ "เป็นที่ต้องการ" ขนาดไหน แต่ว่ามันบอกเป็นนัยว่าคุณเป็นคนตื้นเขินและชักนำไปในทางที่ผิดได้ง่าย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนที่ต้องการมีความสัมพันธ์ระยะยาวจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีได้ พูดตรงๆ นะ คุณจะดูไม่ดี และคุณจะทำให้เขาหนีคุณ
  • ตระหนักไว้ว่าผู้ชายบางคนอาจเติบโตเป็นผู้ใหญ่ช้ากว่าคนอื่นๆ (เหมือนตัวเอกในเทพนิยายเรื่อง "Peter Pan") ในกรณีนั้น คุณเลิกรอเขา แล้วหาผู้ชายคนใหม่ที่ตัดสินใจทำตัวเป็นผู้ใหญ่แล้วจะดีกว่า คุณไม่ควรต้องมีหน้าที่เป็นเหมือนแม่ของใคร
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าเพื่อนคุณมีนิสัยเด็กๆ ไม่บอกพวกเขาเรื่องผู้ชายที่คุณชอบจะดีกว่า เพราะเพื่อนคุณจะเริ่มจ้องมองเขาในทันทีและหัวเราะคิกคักเมื่อเขาอยู่ใกล้ๆ และเพื่อนคุณอาจเริ่มคุยกันเรื่องเขาด้วย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรกับเพื่อนคุณ เพื่อนคุณก็จะหันไปมองเขา สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือเพื่อนคุณแอบไปกวนใจผู้ชายคนนั้นด้วยคำถามมากมาย เช่น 'นายรู้สึกยังไงเกี่ยวกับเมย์หรอ?' ได้ยินแค่นี้เขาก็อยากจะเผ่นแล้วล่ะ
  • อย่าอยู่ดีๆ ก็โพล่งไปว่าคุณชอบเขา เพราะเขาจะไม่คิดว่าคุณพูดจริง ใช้เวลาทำความรู้จักกับเขาให้ดีก่อนจะดีกว่า
  • การพยายาม "ทำ" ให้ใครชอบคุณมากเกินไปนั้นนับเป็นการบงการคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเห็นว่าเป็นเรื่องดีหรือต้องการเป็นคนถูกกระทำเลย เปิดใจกว้างๆ หน่อย ถ้าคนที่คุณชอบในตอนนี้ดูไม่มีท่าทีจะชอบคุณกลับ รุ่นน้องหน้าตาน่ารักคนนั้นที่ชอบยิ้มให้คุณในห้องเรียนอาจเป็นคนที่ใช่ก็ได้ มายา แองเจลโล นักเขียนและกวีชาวอเมริกัน ได้กล่าวถึงคนที่ใช่ไว้ว่า "...หวังถึงสิ่งที่ดีที่สุด เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่แย่ที่สุด และยอมรับอะไรก็ตามที่จะเกิด" คุณจะพบคนที่ใช่ และเมื่อคุณพบเขาแล้ว ก็อย่าคาดหวังว่าเขาจะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวล่ะ จงคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนขับรถสิบล้อ เขาจะไม่มีวันเป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่เขาจะเป็นคนดีเหมาะสมกับคุณ เราสัญญา
  • อย่าคิดว่าที่เขาทำดีกับคุณเป็นเพราะเขาชอบคุณ บางทีสองอย่างนี้อาจแยกกันไม่ค่อยออก แต่ถ้าคุณใส่ใจในรายละเอียด คุณจะเห็นเองว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าคุณเพิ่งจบความสัมพันธ์ที่แย่ๆ ไป อาจมีผู้ชายบางคน โดยเฉพาะคนที่แก่กว่าคุณ เข้ามาเล่นบทบาท 'พี่ชาย' ให้คุณ​ พวกเขาอาจเห็นความสัมพันธ์นี้เป็นแบบพี่น้อง ซึ่งหมายความว่าต่อจากนี้ไป ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่อาจเกิดขึ้นระหว่างพวกเขากับคุณจะเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงมาก
  • พยายามไม่โจ่งแจ้งเกินไป อย่าเอาแต่พูดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเองเวลาคุยกับเขา อย่าอายที่จะถามคำถามเขาบ้าง และจะพูดอะไรกับเขาก็ต้องระวังด้วย เพราะการพูดสิ่งที่ไม่เข้าหูอาจทำให้สถานการณ์กระอักกระอ่วนได้
  • อย่าเล่นสงครามประสาทหรือส่งสัญญาณผสมเป็นอันขาด นี่จะทำให้เขาสับสน และอาจนำไปสู่ความอึดอัดใจอีกด้วย มันไม่ได้เป็นสัญญาณของความฉลาดหลักแหลมหรอก แต่เป็นสัญญาณของความไม่มั่นใจใจตนเองและความขี้ขลาดต่างหาก
  • ถ้าคุณบอกเพื่อนของคุณเรื่องเขา แล้วเพื่อนของคุณไปรบกวนเขาด้วยคำถามมากมาย จงพูดกับเพื่อนของคุณอย่างหนักแน่นว่าพวกเขาต้องหยุด และถ้าไม่หยุด ก็เพิกเฉยพวกเขาตอนที่พวกเขาพูดถึงผู้ชายของคุณ เมื่อเรื่องของเขาถูกหยิบยกขึ้นมาพูด คุณควรทำเหมือนกับว่าเพื่อนของคุณนั้นไม่รู้จักโต และคุณโตกว่าเป็นไหนๆ ถ้าเขาเห็น เขาจะชอบที่คุณไม่ทำตัวเหมือนเด็กแปดขวบที่เอาแต่หัวเราะคิกคักอย่างเพื่อนของคุณ
  • ถ้าขั้นตอนเหล่านี้ได้ผล เกิน คาด แล้วเขารุกหนักเกินไป ก็บอกให้เขาเพลาๆ ลงหน่อย และอย่าทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกอึดอัดล่ะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 262,265 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา