ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนเราส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการคนที่เรารัก และคนที่รักเรา ถ้าคุณรู้สึกรักและเป็นห่วงผู้หญิงสักคนจริงๆ และอยากที่จะได้รับความรู้สึกเช่นเดียวกันตอบกลับมา คุณสามารถเริ่มได้โดยการดูว่าเธอมีความสนใจในตัวคุณหรือไม่ แสดงให้เธอเห็นว่าคุณควรค่ากับความรักของเธอ พัดเปลวไฟเสน่ห์ดึงดูด คอยช่วยเหลือเธอ และสร้างการสื่อสารที่ชัดเจนกับเธอจะช่วยให้เธอตกหลุม (และคงความ) รักคุณได้ ในชีวิตจริงแล้ว ไม่มีใครรับประกันเรื่องความรักได้หรอก แต่ตัวช่วยต่างๆ ต่อไปนี้อาจจะช่วยให้ไอเดียบางอย่างกับคุณในการที่จะเอาชนะหัวใจเธอได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เข้าใจเสน่ห์ความดึงดูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่ากังวลไป นี่ไม่ได้มีการสอบใดๆ ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ความดึงดูด “ล้วน” มีความเกี่ยวข้องกับเคมีทั้งนั้น และโดยเฉพาะกลุ่มของเคมีที่เรียกว่า “โมโนเอมีนส์ (monoamines)” เคมีเหล่านี้จะส่งข้อความสื่อสารระหว่างสมองและร่างกายของคุณ และนี่ล่ะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ความรักถึงสามารถทำให้คุณรู้สึกซาบซ่าน หรือทำให้คุณลืมชื่อตัวเองเวลาที่อยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงในฝันของคุณ
    • โดปามีน (Dopamine) (ที่เราได้คำว่า “โดป (dope)” มา) เป็นสารส่งผ่าน “ความรู้สึกดีๆ” ผ่านประสาทที่ทำหน้าที่ในการตอบแทน กระตุ้น ระหว่างสิ่งอื่นๆ เวลาที่คุณอยู่ใกล้กับคนที่คุณหลงใหล จะมีสารโดปามีนนี้หลั่งออกมาสู่สมองของคุณ และทำให้คุณรู้สึกสนุกในช่วงเวลาที่คุณอยู่ด้วยกันกับเธอ และทำให้คุณต้องการมากขึ้น [1]
    • นอร์อีปิเนฟริน (Norepinephrine) หรือที่รู้จักกันในชื่อ นอร์อะดรีนาลีน (noradrenaline) (แต่ไม่ใช่อันเดียวกับอะดรีนาลีน) [2] เป็นตัวที่ทำหน้าที่ในการส่งข้อความสื่อสารกับระบบประสาทกลาง มันจะช่วยตัดสินว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรให้ความสนใจในทุกช่วงที่ได้มา เมื่อคุณเริ่มลืมเวลา และจบด้วยการใช้เวลาไป 5 ชั่วโมงในการออกเดทกับสักคนที่คุณชอบ นอร์อีปิเนฟรินจะทำการตัดสินว่าผู้หญิงที่คุณรักนั้นมีความสำคัญมากกว่าข้อมูลอื่นใดรอบตัวคุณ. [3]
    • เซอโรโทนิน (Serotonin) ควบคุมกลุ่มการทำงานฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงอารมณ์ การนอน อุณหภูมิร่างกาย และความต้องการทางเพศ [4] เมื่อผิวหนังของคุณเริ่มรู้สึกเสียวซาบซ่านเวลาที่คุณอยู่ใกล้ใครสักคนที่พิเศษ นั่นเป็นเพราะเซอโรโทนินได้ไปลดอุณหภูมิในร่างกายของคุณ ทำให้ผิวหนังของคุณเป็นสื่อในการนำไฟฟ้าได้มากขึ้น ค่อนข้างจะดูเป็นเวทมนตร์นะ
    • คนหลายคนยังหลั่งฟีโรโมน (pheromones) เช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะไม่มั่นใจนักว่ามันทำงานเหมือนกันหรือไม่ คุณไม่สามารถที่จะได้กลิ่นของฟีโรโมนได้จริงๆ แต่ร่างกายของคุณจะรับรู้ฟีโรโมนของคนอื่นได้เอง และตัดสินว่าอะไรที่น่าดึงดูด และอะไรที่ไม่ [5] [6]
  2. เพราะหลายๆ อย่างมันก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาตอบสนองของเคมีในร่างกายของแต่ละคนด้วย อย่าคิดว่าที่ผู้หญิงไม่ได้ชอบคุณกลับนั้นเป็นเพราะตัวคุณเอง จริงๆ แล้วมันอาจไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเลยก็ได้ ในฐานะคนๆ หนึ่ง ผลการวิจัยเผยให้เห็นว่าสมองของคุณตัดสินว่าอะไรที่น่าดึงดูดในเวลาที่น้อยประมาณ “หนึ่งวินาที” ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่คุณสามารถไปควบคุมมันได้ [7]
    • ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า การทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนยังสามารถเปลี่ยน “สเปค” ของผู้หญิงได้บางครั้งในระหว่างเดือน [8] ชีวเคมี: เป็นเรื่องที่ประหลาดเรื่องหนึ่ง
  3. นี่ไม่ได้หมายถึงการหยอดคำพูดหวานๆ ที่คุณพูดกันระหว่างที่คุยกัน นี่เป็นเรื่องของการสื่อสารข้อความที่ภาษากายส่งออกไปเวลาที่เราหลงใหลในตัวบางคน มันมีข้อความพื้นฐานนิดหน่อยที่คุณสามารถใช้ภาษากายในการสื่อสารได้ว่าคุณสนใจในตัวของเขาอยู่: [9]
    • ฉันโสด
    • ฉันสามารถเข้าหาได้ง่าย และเปิดกว้าง
    • ฉันรู้สึกสนใจ
    • ฉันรวย
  4. สมมติว่าคุณเดินเจอกับผู้หญิงที่คุณสนใจที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง คุณไม่รู้หรอกว่าเธอสนใจคุณด้วยหรือเปล่า ให้ลองสำรวจท่าทางของเธอดูเพื่อเป็นตัวช่วยบอกใบ้ [10] [11]
    • “เปิดกว้าง” ดูจากการวางแขน ขาที่ดูสบายๆ ไม่ได้กอดอก หรือมองไปด้านบนเป็นครั้งคราว “ปิดกั้น” เช่น การกอดอก หรือไขว้ขา ร่างกายดูตึง และให้ความสนใจกับบางอย่าง เช่นโทรศัพท์
    • ทิศทางของเท้าเธอก็อาจบอกอะไรบางอย่างได้เช่นกัน ถ้ามันชี้มาหาคุณแสดงว่าเธอมีโอกาสที่จะตอบสนองคุณได้
    • ถ้าเธอถืออะไรบางอย่างกั้นระหว่างคุณ เช่น กระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าหนังสือ นั่นอาจเป็นสัญญาณของระยะทาง ถ้าเธอเอากระเป๋าหนังสือหลบออกจากเก้าอี้ตรงข้ามเธอ เพื่อให้เห็นตา รอยยิ้มของคุณ นั่นแหละ คือสัญญาณที่ดีว่าเธอกำลังบอกว่า “เธอว่างอยู่นะ” [12]
  5. ตาก็เหมือนเป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณด้านในตัว มันเป็นตัวที่บอกใบ้ได้ดีมากว่าคนๆ นั้นสนใจในตัวคุณหรือไม่ การสบตากันช่วยสื่อสารข้อความต่างๆ ได้มากมาย รวมไปถึงบางอย่างที่คุณอาจคิดไม่ถึงด้วย [13]
    • มองตาเธอ และค้างไว้ประมาณ 4-5 วินาที ยิ้มให้ ถ้าเธอมองกลับและยิ้มกลับ นั่นแสดงว่าคุณอาจจะโชคดี [14]
    • การสบตากันขณะที่คุณกำลังพูดกับอีกคน เป็นสัญญาณบอกถึงความสนใจและการตั้งใจกับบางอย่าง ถ้าเธอมองคุณประมาณ 70 % ของเวลาที่คุณพูดด้วย และอีก 50 % ของเวลาที่เธอพูด นั่นคือสัญญาณที่ดีที่บอกว่าเธอสนใจในการพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับคุณ (คุณสามารส่งสัญญาณความสนใจของคุณได้ด้วยอัตราส่วนเช่นเดียวกัน) [15]
    • เมื่อเราถูกกระตุ้น (ผ่านความเครียด, ความต้องการทางเพศ, อะไรที่คุณมี) ตาดำจะขยายขึ้น ถ้าตาดำของเธอดูโตขึ้น แสดงว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นที่เจอคุณ [16]
  6. ถ้าเธอยิ้มตอบ นั่นแสดงว่าเธอชอบปฏิกิริยาของคุณ อย่างไรก็ตาม บางคนก็ยิ้มเวลาที่พวกเขารู้สึกอึดอัดหรือกระสับกระส่ายเช่นกัน ดูกล้ามเนื้อว่าส่วนไหนที่ขยับบ้างเวลาที่เธอยิ้ม [17]
    • รอยยิ้มของแท้ หรือ รอยยิ้ม “จริงใจ” จะใช้กล้ามเนื้อรอบๆ ดวงตา และรอบปากด้วย [18] รอยยิ้มปลอมจะใช้เพียงแค่กล้ามเนื้อรอบๆ ปาก (แม้ว่าบางคนจะแสร้งได้เก่งมาก) ถ้าเธอไม่ได้ยิ้มด้วยตาของเธอ แสดงว่าเธออาจรู้สึกอึดอัด หรือเพียงแค่พยายามจะปลอบใจคุณ
  7. มนุษย์เราสามารถที่จะเห็นได้ถึงการตอบสนองทางร่างกายเวลาที่พวกเขาชอบใครสักคน [19] อย่างไรก็ตามนี่อาจไม่ได้เป็นเหมือนกันทั้งหมด มันเป็นแค่ตัวช่วยที่บอกคุณว่าเธอแค่สุภาพหรือเธอสนใจคุณอย่างที่คุณสนใจเธอ [20]
    • แก้มแดง หรือหน้าแดง เมื่อเราถูกกระตุ้น เลือดจะสูบฉีดไปที่แก้มของเรา (นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึงทาแก้ม) แต่คนก็อาจจะหน้าแดงได้เช่นกันเมื่อพวกเขารู้สึกเขินอาย หรือตื่นเต้น อย่างไรก็ตามอย่าเชื่อแค่คำบอกใบ้เพียงอย่างเดียว
    • ปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อมากขึ้น เลือดไม่ได้เพียงแต่สูบฉีดไปที่แก้มเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งไปที่ริมฝีปากด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ดูปากอวบอิ่ม และแดงมากขึ้น เมื่อมีเลือดไปเติม (ดังนั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมผู้หญิงถึงทาลิปสติก) การเลียริมฝีปากก็เป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าอีกฝ่ายก็สนใจคุณเช่นกัน [21]
  8. อย่าเข้าไปก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของใครก็ตาม แต่ถ้าเธอลุกไปหยิบครีมใส่กาแฟ คุณก็สามารถที่จะลุก และไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าบ้าง นี่จะเป็นโอกาสที่คุณจะทำให้เธอได้สัมผัสกับฟีโรโมนของคุณ (จำไว้ว่าเคมีเหล่านั้นเป็นตัวที่ส่งสัญญาณไปบอกสมองของอีกฝ่ายว่า “เฮ้ ฉันเป็นหนุ่มฮอทนะ!”) [22]
    • ถ้าคุณได้เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงในฝันของคุณแล้ว ให้โน้มตัวใกล้ขึ้น หรือเอียงหัวไปหา สัญญาณพวกนี้ไม่เพียงแต่บอกว่าคุณสนใจในการมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่าย แต่ยังสามารถส่งข้อความบอกรักทางเคมีไปหาเธอได้ด้วย [23]
  9. หรือที่รู้จักกันว่าเป็น “มุขจีบสาว” หรือ “การละลายพฤติกรรม” แบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ดูน่ากลัวหรือดูหยิ่งยโสเปิดบทสนทนาที่ได้ผล นักวิทยาศาสตร์บอกว่ามีคนที่เปิดบทสนทนาอยู่สามประเภท ซึ่งพวกเขามีความแตกต่างกันไปในเรื่องของประสิทธิภาพ: [24]
    • ตรง : ผู้เปิดประเด็นประเภทนี้จะเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่เล่นไร้สาระ และมุ่งตรงไปที่ประเด็นเลย เช่น “สวัสดีครับ คุณน่ารักจัง ขอผมเลี้ยงคุณสักแก้วนะครับ?” หรือ “ผมค่อนข้างขี้อาย แต่ก็อยากจะรู้จักกับคุณนะ” โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายมักจะอยากได้สิ่งเหล่านี้จากคู่ที่โรแมนติก
    • ใสซื่อ : คนประเภทนี้จะเริ่มเปิดบทสนทนา แต่จะไม่พุ่งตรงไปที่เป้าหมายเลย ตัวอย่างเช่น “คุณแนะนำกาแฟอะไรดีหรอ?” หรือ “ยังมีที่ว่างที่โต๊ะผมอยู่ คุณอยากจะนั่งนี่ไหม?” โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะอยากได้อะไรแบบนี้จากคู่ที่โรแมนติก
    • น่ารัก/ทะเล้น : นี่จะเกี่ยวข้องกับอารมณ์ขัน นี่อาจรวมไปถึงพวกมุขตลกถูกๆ หรือพวกมุขทะลึ่ง ตลกร้าย นี่เป็นพวก “มุขจีบสาวเสี่ยวๆ” ทั่วไป เช่น “เจ็บมั้ย ตอนที่คุณตกลงมาจากสวรรค์?” หรือ “คุณรู้มั้ยว่าอะไรที่จะดูดีมากถ้าอยู่บนตัวคุณ? ผมไงล่ะ” โดยปกติแล้ว ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะเก็บตัวเลือกนี้ไว้ท้ายสุดสำหรับการหาคู่ที่โรแมนติก
    • กลยุทธ์ของความสัมพันธ์ของคุณจะมีบทบาทในการเลือกว่าจะเปิดบทสนทนาแบบใด ผลการวิจัยเผยว่า คนที่มองหาความสัมพันธ์ระยะยาวมักจะบทสนทนาเปิดที่ตรงไปตรงมา จริงใจ และให้ความช่วยเหลือมากกว่า ส่วนคนที่มองหาความสัมพันธ์เพียงระยะสั้นๆ มักจะใช้วิธีที่ไม่ซื่อตรง โยกย้ายไปมามากกว่า ถ้าหากนี่เป็นความรักที่คุณตามหาอยู่ละก็ ให้ใช้วิธีที่ซื่อสัตย์ จริงใจ และช่วยเหลือทุกครั้ง [25]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เริ่มต้นทำการจีบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำอะไรสักอย่างที่จะทำให้เธอสังเกตคุณ แต่อย่าพยายามทำในสิ่งที่ไม่ใช่คุณ การเป็นตัวของตัวเอง (อาจจะเป็นในแบบที่ดีที่สุดของคุณ) เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรับรองได้ว่าถ้าเธอสนใจคุณ นั่นคือเธอสนใจในตัว “คุณ” จริงๆ ไม่ใช่คนที่คุณพยายามจะเป็นเพื่อให้เธอสังเกตเห็น
    • ดูแลตัวเองดีๆ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย แต่งตัวในแบบที่เป็นคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นพวกนายแบบแฟชั่น หรือนักกีฬาชื่อดัง แต่ทำตัวเองให้ดูดี สะอาด เรียบร้อยที่จะแสดงให้เห็นถึงสุขภาพร่างกายที่ดีของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเราค่อยๆ พัฒนาและพบว่ามันเป็นสิ่งน่าหลงใหลภายในตัวเรา [26]
    • ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงให้ค่ากับลักษณะทางสังคม เช่น ความเห็นอกเห็นใจ และความเป็นมิตร มากพอๆ กับ (หรือมากกว่า) ความดึงดูดทางรูปร่างภายนอก [27] ให้ทำอะไรที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นห่วงคนอื่นๆ อาสาสมัครช่วยแจกอาหารให้กับชาวบ้าน บริจาคเลือด ช่วยเพื่อนออกมาจากสถานการณ์ที่ดูแย่ จัดการประมูลการกุศล ทำให้เธอเห็นว่าคุณมีอะไรมากกว่าแค่ที่ตามองเห็น เธอจะรู้สึกประทับใจที่เห็นคุณเป็นผู้ให้ และอยากรู้ว่าคุณยังมีอะไรอีกบ้าง
    • แสดงให้เธอเห็นถึงด้านตลกของคุณ ผลการวิจัยเผยว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็รู้สึกว่าอารมณ์ขันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าดึงดูดที่สุดในตัวคนที่จะคบเป็นแฟนด้วย [28] หยอกล้อเล่นด้วย และทำให้อีกฝ่ายหัวเราะ – แต่อย่าดูถูก หรือใช้มุขตลกร้าย หรือตลกฝืด เพราะแน่นอนว่านั่นคงจะทำลายอารมณ์ไปหมดสิ้นทันที [29] การหยอกล้อเล่นนิดหน่อยยังส่งผลดีกับคุณด้วย [30]
    • ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญในสิ่งที่คุณถนัด โดยเฉพาะอะไรในบริษัทของเธอ อะไรที่คุณทำได้ดี อาจเป็นอะไรก็ได้ เช่น เทนนิส ปีนผา ฟุตบอล ไปจนถึงการเล่นมุขต่างๆ เลข หรือโต้วาที ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ทำให้เกิดความชำนาญในด้านนั้น
    • ส่งสัญญาณด้วยท่าทางของคุณ ผู้หญิงมักมีความสามารถในการตีความภาษาท่าได้ดีกว่าผู้ชาย ซึ่งอาจจะดีสำหรับคุณถ้าคุณรู้จะใช้มัน [31] เช่นการทำให้ตัวคุณดูใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ยืดไหล่ตรง เวลาที่คุณยืน และเล่นกับเพื่อนผู้ชายของคุณ เช่น เอาตัวชน หรือเอาศอกไปสะกิดเพื่อนของคุณเวลาที่คุณเที่ยวกับเธอ จะช่วยส่งสัญญาณว่าคุณกำลังพยายามทำให้เธอสนใจอยู่ [32] [33]
    • ผลักดันตัวเองออกไป จำไว้ว่า: โชคชะตาจะตอบแทนความกล้า ถ้าหากคุณมัวแต่หลบอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของคุณ คุณคงไม่ได้ใช้เวลาไปทำอะไรที่ดีที่สุดแน่นอน และถ้าคุณไม่ทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สักอย่าง คุณจะไม่มีทางได้เห็นผลมันเลย
  2. ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงต่างก็ถูกดึงดูดโดยคนที่มีความมั่นใจ อย่างไรก็ตามความหยิ่งมักจะให้ผลตรงข้าม ดูให้แน่ใจว่าความมั่นใจของคุณไม่ได้ดูว่าเป็นความหยิ่งไป [34]
    • ความมั่นใจที่แท้จริงมาจากข้างใน มันคือการรู้ว่าคุณคือใคร ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็น และมั่นใจว่าการเป็นตัวคุณนั้นคือสิ่งที่ดีมากแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาบอกคุณเพื่อทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง เมื่อคุณมั่นใจในตัวเอง คุณก็จะทำให้คนอื่นรู้สึกเช่นเดียวกับคุณด้วย [35]
    • ความหยิ่งยโสเกิดขึ้นได้เมื่อคุณนำเอาศักดิ์ศรีของตนเองมาจากแหล่งภายนอก เช่น คำชม หรือความสำเร็จต่างๆ มันมักจะมาจากความรู้สึกที่ไม่มั่นคง คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณต้องกดคนอื่นให้ต่ำกว่าตัวเองเพื่อให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง หรือการที่คุณถือเอาทุกเรื่องเป็นการแข่งขันระหว่างคุณกับทุกคนบนโลก [36]
    • เป็นเรื่องปกติถ้าคุณจะยอมรับคำชม สรรเสริญบ้าง โดยเฉพาะถ้าคุณสามารถยอมรับในบทบาทที่คนอื่นเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้น อย่างเช่น ถ้าหากคุณเป็นนักกีฬาดาวรุ่ง คุณอาจจะมีเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังคุณ เมื่อคุณชนะการแข่งขันใหญ่ ยอมรับคำชื่นชมสำหรับการเล่นของคุณ แต่จำไว้ว่าให้ส่งต่อคำชื่นชมนั้นไปยังเพื่อนร่วมทีมของคุณด้วย พฤติกรรมเช่นนี้จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเองที่แท้จริง ไม่ใช่ความหยิ่งยโส
  3. คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนมันออกมา และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างตาราง ox ไรนั่นด้วย แค่สร้างกลยุทธ์สิ่งที่คุณจะทำ และคุณจะสร้างโอกาสในการเอาชนะหัวใจสาวได้มากขึ้น การทำตัวเป็นพวกมือสมัครเล่น จะลดโอกาสของคุณ
    • ถ้าหากคุณหลงรักผู้หญิงสักคน มันโอเคที่คุณจะมุ่งมั่นในการเอาชนะใจเธอ เมื่อรักถาโถมเข้ามา มันก็เหมือนกับมีอิฐเป็นพันก้อนหล่นทับ และทำให้เรารู้สึกทำอะไรเองไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องธรรมดา
    • อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากจะพบรัก ทั่วไป ให้ลองเข้าสังคมกับผู้หญิงหลายๆ แบบดู คุณจะเพิ่มโอกาสในการพบใครสักคนที่คุณรู้สึกผูกพันด้วยจริงๆ และปฏิเสธใครสักคนก็จะไม่ดูแย่มากถ้าหากคุณมีคนที่คุณคิดว่าใช่กำลังรออยู่แล้ว มันมีประโยชน์หลายๆ อย่างในกลยุทธ์แบบนี้:
      • คุณจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าคุณต้องการอะไร บ่อยครั้งที่เราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่จนกระทั่งเราได้พบกับมัน ส่งตัวเองออกไปข้างนอก และโอกาสที่คุณจะได้พบกับผู้หญิงที่คุณสามารถเข้ากันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แทนที่จะไปพยายามเข้าหาบางคนที่คุณคิดว่าคุณรู้จัก
      • การเข้าสังคมกับผู้หญิงหลายๆ แบบไม่เหมือนกับการเป็นพวก เจ้าชู้ ถ้าคุณต้องการที่จะหารัก การออกเดท แต่ให้ทำตัวโรแมนติกกับผู้หญิงเพียงแค่หนึ่งคนในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น อย่าตกลงในความสัมพันธ์กับใครเพียงเพื่อหวังจะเอาเปรียบหรือบังคับใดๆ
  4. ค้นหาว่าเธอเป็นใคร ทำอะไร มาจากไหน เธอจะรู้สึกปลาบปลื้มที่คุณสนใจในสิ่งที่เธอชอบ ถามคำถามที่เปิดกว้าง ตั้งใจฟัง และให้ความสนใจกับคำตอบของเธอ และอย่าคิดไปเอง หรือด่วนสรุปอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ [37]
    • คนเราชอบที่จะพูดถึงเรื่องของตัวเอง มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่าลืมที่จะให้ความสนใจกับบทสนทนา และบอกเล่าเรื่องราวของคุณให้เธอฟังด้วย แต่ทำให้เธอรู้สึกสนใจในสิ่งที่เธอชอบพูดคุย และคุณจะพบว่ามันสามารถไหลลื่นไปได้อย่างง่ายๆ เลย
    • วิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือ ถามคำถามที่สร้างสรรค์ ถามถึงความชอบของเธอ (“คุณชอบทำอะไรหรอ?”) แรงบันดาลใจ (“อะไรที่ผลักดันคุณ?”) และเป้าหมายของเธอ (“คุณอยากทำอะไรให้สำเร็จ?”) นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น คำถามที่คุณถามเธอเกี่ยวกับอนาคตของเธอนั้นอาจช่วยให้เธอเห็นภาพของคุณรวมอยู่ในนั้นด้วยก็ได้ คำถามที่ถามเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำ หรือเป็นอยู่ในปัจจุบันมักจะเป็นเพียงแค่การพูดคุยกันแบบผิวเผินเท่านั้น [38]
    • นักจิตวิทยาสังคม อาเธอร์ เอรอน (Arthur Aron) มีรายการคำถามเปิดกว้างและสร้างสรรค์อยู่ 36 คำถาม ที่คุณสามารถถามเพื่อที่จะทำความรู้จักบุคคลหนึ่งให้มากขึ้นได้ทันที [39]
    • ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมานั่งด่าทอแฟนเก่าของคุณ หรือบ่นหัวหน้าของคุณให้เธอฟัง การพูดถึงเรื่องไม่ดีอาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกอึดอัดได้ ถ้าหากคุณพูดสิ่งแย่ๆ เกี่ยวกับคนอื่นกับเธอ เธอก็คงจะสงสัยเช่นกันว่าคุณอาจพูดไม่ดีเกี่ยวกับเธอให้คนอื่นฟังเช่นเดียวกัน ให้พยายามพูดถึงแต่สิ่งที่ดี
  5. สิ่งเหล่านี้ใช้เวลา อย่าคาดหวังที่จะชนะใจเธอภายในเวลาไม่กี่วัน ช้าๆ แต่มั่นคงจะชนะการแข่งขันได้ ตั้งวามคาดหวังที่เป็นไปได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ผิดหวังหากเธอไม่ได้ตกหลุมรักคุณในทันที
    • ถ้าหากเธอให้เบอร์กับคุณ ก็เยี่ยมเลย แต่อย่าเป็นฝ่ายขอจากเธอ โทรหาเธอเมื่อคุณได้เบอร์ของเธอ แต่อย่าบ่อยเกินไป บางวันอาจจะเปิดโอกาสให้เธอเป็นฝ่ายโทรหาคุณบ้าง! [40]
    • อย่าเล่าเรื่องตัวเองทั้งหมดในทีเดียว ถ้าคุณชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ มันจะเป็นการล่อใจในการพยายามที่จะ”ขายอย่างหนัก”ว่า ทำไมคุณถึงจะเป็นผู้ชายที่เหมาะกับเธอ ค่อยๆ ไปอย่างช้าๆ ปล่อยให้บางเรื่องของคุณเป็นปริศนาลึกลับ เพื่อให้เธอถามคุณกลับบ้าง และไม่ทำให้คุณดูหดหู่สิ้นหวัง หรือร้ายกว่านั้น เหมือนกับว่าคุณไม่เข้าใจขอบเขตใดๆ [41]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

สร้างสายสัมพันธ์ของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอยชื่นชมในตัวเธออย่างแท้จริงเพื่อผลที่ดีที่สุด และมีเหตุผล คุณควรชมเธอเพียงแค่ให้เธอพอรู้ว่าคุณชอบเธอมากกว่าเพื่อนคนหนึ่ง แต่อย่าให้มันมากจนกระทั่งเธอคิดว่าคุณหดหู่ หรือพยายามที่จะให้เธอชมคุณกลับบ้าง ผลการวิจัยเผยว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่แสดงความสนใจของพวกเขาออกมาบ้าง แต่ต้องไม่มากจนเกินไป [42]
    • ชื่นชมทักษะ และความสามารถของเธอก่อนซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เธอเกิดมาพร้อมกับหน้าตาของเธอ แต่เธอ “ทำงาน” เพื่อให้ได้มาซึ่งความฉลาด และพรสวรรค์ของเธอ ชมเธอเวลาที่ความสามารถ หรือบุคลิกที่เลอเลิศของเธอเปล่งประกาย
    • ถ้าคุณอยากจะชมรูปร่างหน้าตาเธอ ให้พยายามชมเป็นส่วนเฉพาะเจาะจงมากกว่าชมทั่วๆ ไป เช่น “โห ตาคุณสวยจังเลย” คุณอาจจะพูดว่า “ตาคุณนี่ดูสีฟ้าสวยแปลกไม่เหมือนใครเลยนะ พ่อแม่คุณก็ตาสีฟ้าเหมือนกันหรอ?” จำไว้ว่าการที่คุณเอาใจใส่เธอก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน “คุณตัดผมมาหรอ? ผมสั้นก็ดูน่ารักเหมาะกับคุณดีนะ”
    • ลองชมเธอเกี่ยวกับอะไรที่คุณคิดว่าดูแปลกไม่เหมือนใคร และน่าสนใจดูสิ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเคยได้ยิน “คุณยิ้มสวยจัง” มาเป็นร้อยครั้ง ให้ลองหาอะไรที่แสดงให้เห็นว่าคุณสนใจในตัวเธอจริงๆ อย่างเช่น:
      • “เวลาคุยกับคุณรู้สึกสบายใจดีจัง ผมรู้สึกว่าผมคงสามารถคุยกับคุณได้ทั้งวันเลย”
      • “ผมชอบวิธีคิดคุณนะ”
      • “มันต้องใช้ความกล้ามากเลยนะสำหรับคุณที่จะกล้าพูดออกไปเช่นนั้น”
  2. หาวิธีที่จะค่อยๆ เริ่มจีบเธอ มันอาจจะยากช่วงแรกเพราะว่าคุณชอบเธอมากๆๆ แต่มันจะค่อยๆ ง่ายขึ้นเมื่อคุณได้เริ่มสร้างมันให้เป็นกิจวัตรและรู้จักกับเธอมากขึ้น [43] [44]
    • ยิ้มและคอยสบตาเป็นระยะๆ ผู้หญิงสามารถบอกได้มากมายว่าคุณน่าสนใจมากแค่ไหนเพียงแค่การมองเข้าไปในตาของคุณ เช่นเดียวกัน รอยยิ้มก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ยิ้มเพื่อที่คุณจะได้ส่งความสุขออกไป และการสบตากันจะช่วยบอกถึงความมั่นใจ
    • เลียนแบบท่าทางของเธอ คุณไม่ต้องพยายามเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวเธอ เพียงแต่ถ้าหากเธอมีท่าทางสบายๆ และเปิดรับ ก็ให้วางตัวเช่นเดียวกับเธอ ถ้าหากเธอมีการใช้มือค่อนข้างเยอะเวลาเธอพูด ให้คุณนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาของคุณด้วยเช่นกัน
    • พัฒนาตลกที่รู้กันเอง หรือเรียนรู้ที่จะหยอกล้อแบบเล่นๆ มุขตลกที่รู้กันเองในกลุ่มเป็นวิธีที่ดีมากในการจีบและสร้างสัมพันธ์ในเวลาเดียวกัน เพราะมันแสดงถึงอะไรที่คุณรู้กันสองคน ซึ่งหมายความว่าคุณทั้งคู่รู้สึกถึงอะไรเหมือนๆ กัน และนั่นเป็นแค่กับคุณ สร้างมุขตลกจากอะไรก็ตามที่คุณทั้งคู่ได้พบเจอด้วยกันมา [45]
      • เมื่อคุณหยอกล้อเล่น ทำให้แน่ใจ ว่าเธอรู้ว่าคุณเพียงแค่แหย่เธอเล่นเท่านั้น ขยิบตาให้กับเธอเพื่อบอกให้เธอรู้ว่าคุณกำลังประชด หรือบอกให้เธอรู้ว่าคุณล้อเล่น โดยเฉพาะ ให้แกล้งหยอกเธอเล่นเกี่ยวกับอะไรที่เธอสามารถทำได้ดีมากเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องสงสัยว่าคุณหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่ล้อเล่น
  3. โดยปกติแล้วเพื่อนเพศตรงข้ามจะไม่แตะตัวกันมากขนาดนั้น พวกเขาอาจจะมีกอดกัน แต่โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ทำอะไรเช่น การเดินจับมือกัน หรือแตะผิวของอีกฝ่าย เอื้อมไปจับมือเธอนานๆ ครั้ง ค่อยๆแตะแขนของเธอเวลาที่คุณพูดอะไรบางอย่าง หรือการเอาผมทัดหูของเธอ ก็เป็นการบอกว่า “ผมสนใจคุณจริงๆ นะ” [46] [47]
    • คุณควรจะเริ่มแตะตัวเธอเมื่อแน่ใจว่าเธอสนุกกับการใช้เวลาอยู่กับคุณแล้วเท่านั้น อย่าแตะตัวผู้หญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณพบเธอ และหลีกเลี่ยงการแตะต้องบริเวณที่เป็นส่วนตัวยกเว้นแต่ว่าเธอจะอนุญาตให้คุณแตะได้จริงๆ
    • ถ้าเธอไม่ได้ดูมีอารมณ์ร่วม หรือตอบสนองดีๆ เวลาที่คุณแตะตัวเธอให้อย่าทำอีก ให้ความเคารพในขอบเขตของเธอตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะไม่เข้าใจขอบเขตเหล่านั้นก็ตาม
  4. เมื่อคุณพร้อมที่จะผลักดันครั้งสุดท้ายแล้ว ให้ชวนเธอไปเดท การเดทกันจะเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณทั้งคู่ที่จะเรียนรู้อีกฝ่ายให้มากกว่าเดิม และไม่แน่คุณอาจจะได้ขโมยจูบเธอด้วยก็ได้ [48]
    • เมื่อคุณชวนเธอ ให้ทำตัวสบายๆ แต่อย่าให้ดูกำกวม เพราะสุดท้ายแล้วคุณอาจจะลงเอยด้วยการเป็น “แค่เพื่อน” ซึ่งมันมักจะเป็นเรื่องยากที่จะขยับจากการเป็นเพื่อนมาเป็นความโรแมนติก ทางที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้คือ การพูดตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ คุณไม่จำเป็นต้องอัดความรู้สึกมากมายไปที่เธอโดยการประกาศความรักของคุณ ณ ตอนนั้นเลย (อันที่จริง อย่าทำเลยจะดีกว่า) แต่ให้พูดอะไรทั่วๆ ไป เช่น “ผมชอบไปไหนมาไหนกับคุณมาก คุณจะว่าไงถ้าผมจะชวนคุณไปเดทกันแบบ “จริงๆ”? ผมเลี้ยงเอง!” นี่จะช่วยให้เธอรู้ว่าคุณสนใจในตัวเธอ และอยากที่จะเป็นมากกว่าเพื่อนโดยไม่ฟังดูเหมือนว่าคุณกำลังขอเธอแต่งงานอยู่ [49]
    • ทำอะไรที่น่าตื่นเต้น เดทที่ตื่นเต้น – อย่างเช่น บ้านผีสิง สวนสนุกที่มีรถไฟเหาะ หรือกิจกรรมกีฬา – จะช่วยให้หลั่งฮอร์โมนมากมาย (เรียกว่า ออกซิโทซิน) ที่มีผลต่อความรู้สึกความผูกพัน และการอยู่ร่วมกัน [50]
    • ถ้ามีจังหวะเหมาะ ให้จูบเธอ ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณมีความลังเลเล็กน้อย ทางที่ดีที่สุดให้เก็บไว้รอจูบเธอในเดทที่สอง หรือสาม จูบแค่สั้นๆ หวานๆ และไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม อย่าพยายามดันลิ้นของคุณลงไปในคอเธอ
  5. ทักษะการสื่อสารที่ดีจะช่วยให้คุณเอาชนะใจผู้หญิงในฝันของคุณได้ การคอยรับฟังเธอเสมอๆ จะแสดงให้เห็นว่าคุณสนใจ และเอาใจใส่กับสิ่งที่เธอคิด และความรู้สึกของเธอจริงๆ และนั่นแหละคือเสน่ห์ดึงดูด ให้ลองเทคนิคต่อไปนี้ดู: [51]
    • พูดทวนซ้ำ และอธิบายให้กระจ่าง อย่าคิดไปเองว่าคุณเข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไร แต่ให้ถามถึงคำอธิบายเมื่อคุณรู้สึกไม่เข้าใจ: “ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจคุณถูกหรือเปล่า ผมได้ยินว่า ______ นั่นคือที่คุณหมายถึงหรือเปล่า?” จากนั้นให้โอกาสเธออธิบายให้กระจ่าง
    • ให้กำลังใจเธอ ถามคำถามเล็กๆ น้อยๆ เช่น “แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?” หรือ “คุณตอบไปว่ายังไง?” “การให้กำลังใจเล็กๆ” อย่างเช่นกันพยักหน้าและพูด “อาฮะ” และ “เล่าต่อ” ก็ช่วยได้แล้ว
    • สรุปสาระสำคัญ ถ้าคุณกำลังสนทนากันและมีข้อมูลที่เล่าให้กันฟังเยอะๆ ให้สรุปออกมา นี่จะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจ และให้โอกาสเธอในการอธิบายบางเรื่อง อย่างเช่น: “โอเค สรุปคือ พรุ่งนี้จะเป็นวันที่แย่สำหรับคุณ และคุณก็ไม่อยากจะต้องเครียด ดังนั้นคุณอยากจะให้ผมช่วยรับคุณจากที่ทำงานไปดูหนังแอคชั่นโง่ๆ ด้วยกันสักเรื่อง ใช่มั้ยครับ?”
  6. การฟังเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของการสื่อสาร แต่คุณจะต้องรู้วิธีการพูดด้วยเช่นกัน เรียนรู้ที่จะถามคำถาม หลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ และสื่อสารแบบตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ มันจะช่วยทำให้โลกแตกต่างออกไป และอาจจะทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวกับคุณและทักษะการสื่อสารที่เลอเลิศของคุณ [52] [53]
    • ถามคำถาม นี่จะช่วยคุณได้มาก ถ้าหากคุณไม่มั่นใจกับสถานการณ์สักเท่าไหร่ อย่างเช่น เธออาจจะบอกว่าเธออยากได้คำแนะนำแต่จริงๆ แล้วเธออาจต้องการเพียงแค่หูที่คอยรับฟังเธอ ถามเธอว่า: “คุณอยากให้ผมช่วยหาวิธีแก้ให้คุณไหม หรือคุณต้องการเพียงแค่ใครสักคนที่คุณสามารถระบายด้วยได้? ผมยินดีช่วยทั้งสองอย่างนะ”
    • เวลาพูดให้พูดโดยใช้ “ผม” แทน “คุณ” ในประโยคที่จะสื่อ การใช้ “คุณ” อาจจะฟังดูเหมือนกล่าวโทษ และมันจะทำให้คนปิดกั้นตัวเอง และรู้สึกต้องปกป้องตัวเอง ตัวอย่างเช่น การพูดว่า “คุณทำให้พวกเราสายตลอดเลย ผมล่ะไม่ชอบเลยจริงๆ” นี่สื่อสารความรู้สึกของคุณได้ออกมาอย่างชัดเจน แต่มันก็เป็นการทำร้ายเธอ และทำให้เธอหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับคุณเช่นกัน ให้พยายามใช้ “ผม” ลงในประโยคแทน: “ผมรู้นะว่าคุณต้องการใช้เวลามากกว่านี้อีกนิดในการเตรียมพร้อม แต่ผมจะรู้สึกเครียดมากเวลาที่ผมไปสาย ผมจะช่วยคุณจัดสรรเวลาที่คุณต้องการยังไงได้บ้าง? เราจะได้ไปทันมื้ออาหารเย็นพอดี”
    • พูดตรงไปตรงมา และจริงใจ อย่าพูดอ้อมค้อม และอย่าทำตัวดื้อเงียบ ให้พูดออกมาตรงๆ ว่าคุณหมายถึงอะไร และทำในสิ่งที่คุณพูด รวมถึงมีน้ำใจ และให้ความเคารพตลอดเวลา [54]
  7. ผู้หญิงชอบผู้ชายที่ดูมีความลึกลับผูกพันอยู่ในความเป็นส่วนตัว ไม่อยากเลยกับการจะทำเช่นนั้น – อย่าแบ่งปันทุกรายละเอียดทุกเรื่องราว อย่าคุยโวเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ ทำให้คนอื่นชอบ (และรับรอง) คุณ – แต่มันก็ยากหน่อยถ้าจะทำให้ถูกต้อง ในขณะเดียวกันก็ทำตัวให้ว่างสำหรับเธอด้วย ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการพยายามทำงานอยากหนักเพียงเพื่อที่จะปล่อยเธอเอาไว้ เพราะคุณไม่ว่างมาหาเธอได้ [55]
    • วิธีที่ดีในการคิดถึงเรื่องนี้คือ การอยู่โดยไม่ต้องขึ้นกับใคร ความสัมพันธ์ที่มั่นคงดีจะต้องทำให้คนทั้งคู่สามารถใช้ชีวิตของพวกเขา และยังสามารถไล่ตามความสนใจของตัวเองได้อยู่ รวมถึงการใช้เวลาร่วมกัน ถ้าคุณไม่อุทิศเวลาทั้งหมดของคุณไปกับการคิดถึงเธอ และไล่ตามเธอ คุณจะสามารถแสดงให้เธอเห็นได้ว่าคุณสามารถยืนหยัดได้ตามลำพังและมีความมั่นใจ ซึ่งมันจะทั้งดูน่าดึงดูดมาก และดูมีคุณภาพมากด้วย [56]
    • ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมานั่งเล่นเกมวัดใจกัน ถ้าคุณอยากจะโทรหาเธอ ก็โทร ถ้าเธอโทรมาเวลาที่คุณยุ่งจริงๆ บอกเธอว่าคุณจะโทรกลับเธอภายหลัง คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ห่างกันกี่นาทีในแต่ละข้อความ หรือรอให้ผ่านไปกี่วันระหว่างการโทรศัพท์แต่ละครั้ง แค่ใช้ชีวิตของคุณ และทำให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สวยงาม
  8. 8
    ลองเปิดเผยเรื่องของตนเองแค่ 3 อย่างในการเดทครั้งแรก. เวลาที่เธอขอร้องอยากฟังเพิ่ม ให้แสร้งเล่นเป็นมุกแบบ "คุณต้องมาออกเดทครั้งที่สองแล้วล่ะถ้าอยากจะรู้"
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ผูกความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณไม่จำเป็นต้องไปทำตัวเป็นเพื่อนแสนดีของเธอ แต่แสดงให้เธอเห็นว่าทำไมเธอถึงควรเชื่อใจคุณ คอยอยู่ข้างๆ เธอเวลาที่เธอต้องการ ถ้าเธอขอให้คุณช่วยเก็บความลับ ก็ทำซะ ถ้าคุณพูดว่าคุณจะทำอะไรให้ทำตามนั้น ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวที่ใกล้ชิด และมันก็สามารถที่จะทลายลงได้เพียงแค่ใจเต้น [57]
    • อย่าทำเพียงเพื่อหวังจะมีอะไรกับเธอ นี่จะทำให้คุณดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือมากๆ สำหรับเธอ อย่ากดดันเธอให้ทำในสิ่งที่เธอไม่สบายใจ – มันจะเป็นการไล่เธอให้ไกลออกไป
    • ถ้าคุณต้องผิดคำพูดกับบางเรื่อง ให้อธิบายให้เธอเข้าใจอย่างตรงไปตรงมา เธอจะรู้สึกผิดหวังน้อยกว่าถ้าคุณบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นและบอกให้เธอรู้ว่าคุณรู้สึกเสียใจมากเช่นกันที่ต้องผิดคำพูด และอย่าทำให้มันเป็นนิสัย
  2. ผู้คนมักจะไม่แสดงออก หรือตีความหมายของคำว่ารักไปในทางเดียวกันทั้งหมด บางคนก็ชอบที่จะได้รับของขวัญ บางคนก็มีความสุขแล้วเพียงแค่คุณล้างจานให้ตอนเย็น นักจิตวิทยา แกรี่ แชปแมน (Gary Chapman) กล่าวไว้ว่า คนเราต่างมี “ภาษารัก” ที่พวกเขาใช้เพื่อใช้แสดงความรัก และเข้าใจในการแสดงออกของความรักจากคนอื่นๆ การรู้จักภาษารักของเธอจะช่วยให้คุณสามารถแสดงความห่วงใยในทางที่เธอเข้าใจได้ [58]
    • ภาษารัก 5 อย่าง ได้แก่ “คำพูดยืนยัน”, “การช่วยเหลือบริการ”, “การได้รับของขวัญ”, “เวลาที่มีค่า” และ “การสัมผัสกาย”
      • “คำพูดยืนยัน” รวมถึง คำชม การให้กำลังใจ หรือการแสดงออกถึงความรู้สึกของคุณ
      • “การช่วยเหลือบริการ” รวมถึงการกระทำ เช่น การช่วยทำงานบ้าน หรือทำธุระแทนคนอื่นเพื่อแสดงว่าคุณห่วงใยเขา
      • “การได้รับของขวัญ” เป็นอะไรที่ค่อนข้างชัดเจน: ของขวัญ บัตรต่างๆ และการแสดงออกถึงความรักที่สามารถสัมผัสได้
      • “เวลาที่มีค่า” คือ ช่วงเวลากับคนรักของคุณโดยที่ไม่ถูกใครรบกวน
      • “การสัมผัสกาย” รวมถึงการแสดงออกใดๆ ที่แสดงถึงความรักทางกาย รวมถึงการกอด จูบ หรือเพศสัมพันธ์
    • เว็บไซต์ของแชปแมนมีคำถามสั้นๆ ให้คุณไปลองทำดูได้ คุณสามารถถามให้เพื่อนของเธอทำด้วย และสังเกตการตอบสนองเพื่อดูว่าภาษารักที่เธอให้ความสำคัญอันดับแรกคืออะไร (หรือคุณอาจจะบอกให้เธอลองตอบคำถามด้วยเลยก็ได้ แต่คุณอาจจะยังไม่พร้อมที่จะไปพูดคำว่า “รัก”) [59]
    • ดูสิ่งที่เธอปฏิบัติกับคุณ คนเรามักจะใช้ภาษารักที่พวกเขาเป็นกับคนอื่นๆ โดยอัตโนมัติ ดังนั้นถ้าภาษารักอันดับแรกของเธอ คือการ “ได้รับของขวัญ” เธออาจจะเซอร์ไพรส์คุณด้วยของเล็กๆ น้อยๆ ตามโอกาส เช่น ของขวัญเล็กๆ หรือบัตรสักอย่าง สังเกตว่าเธอดูเน้นอะไรในการแสดงออกของเธอ และตอบกลับด้วยวิธีเดียวกัน
  3. ครอบครัวและเพื่อนของเธออาจมีความสำคัญกับเธอมาก คนเหล่านี้มักจะมีอิทธิพลกับสิ่งที่คนเราคิดและประพฤติตนค่อนข้างมาก [60] เอาชนะใจพวกเขาให้ได้ และคุณจะเข้าใกล้การเอาชนะใจเธอได้เช่นกัน นอกจากนั้นคุณยังแสดงให้เธอเห็นด้วยว่าคุณพร้อมที่จะอยู่กับเธอไปอีกนาน
    • แต่งตัวให้ดูดี แสดงกิริยามารยาทที่ดี และให้ความเคารพกับเพื่อนๆ และครอบครัวของเธอ
    • ทำตัวเป็นตัวเองเวลาที่อยู่กับพวกเขา มันอาจจะยากโดยเฉพาะเวลาที่มีความกดดันกับครั้งแรกที่คุณได้เจอพ่อแม่ของเธอ แต่มันก็สำคัญที่คุณจะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ซื่อสัตย์ ตัวตนที่แท้จริงของคุณเอง เธอจะสัมผัสได้ถ้าหากคุณเปลี่ยนไปเวลาอยู่กับคนที่เธอรัก กับเวลาที่คุณอยู่กับเธอ และครอบครัวมักจะมีชื่อเสียงทางด้านการตรวจจับหาพฤติกรรมที่ไม่จริงใจอยู่แล้ว
    • ทำตัวง่ายๆ สบายๆ น่าสนใจ และมีเมตตา ถ้าเพื่อนของเธอแกล้งคุณ หรือล้อคุณเล่นเบาๆ ให้ยอมรับมันในแบบผู้ชายและขำเล็กน้อย เมื่อมีโอกาส ให้ถามเพื่อนๆ ของเธอเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาบ้าง และแสดงให้เห็นถึงความสนใจในตัวพวกเขาอย่างแท้จริง ทำสิ่งที่ดีๆ กับเพื่อนของเธอ เช่น การนัดเพื่อนของเธอกับเพื่อนผู้ชายให้ หรือการช่วยสร้างความมั่นใจให้พวกเขา
  4. ในความสัมพันธ์ และการออกเดทแน่นอนว่าคุณต้องมีการทำพลาดบ้าง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้นอย่างไรที่จะช่วยระบุความเป็นคุณ และให้โอกาสผู้หญิงได้มีโอกาสที่จะรักคุณจริงๆ [61]
    • อย่ากลัวที่จะพูดขอโทษและยอมรับความผิด เมื่อคุณทำพลาด ยอมรับโดยไม่จำเป็นต้องไปโทษใครสำหรับการกระทำของคุณ หรือความรู้สึกของคุณ อย่างเช่น “ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ผมทำร้ายความรู้สึกของคุณ ผมรู้ว่าคุณไม่พอใจเมื่อผมลืมนัดของเรา ผมใส่ใจคุณจริงๆ นะ แต่ผมก็ความจำแย่มากๆ เช่นกัน คราวหน้าผมจะจดไว้ในการเตือนในปฏิทินของผมแล้วเพื่อที่ผมจะได้ไม่พลาดที่จะใช้เวลากับคุณอีก”
  5. ในช่วงสองสามสัปดาห์แรกหรือสองสามเดือนแรกที่คบกันทุกอย่างจะดูดีไปหมด คุณจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ของกันและกัน และเคมีในร่างกายคุณก็จะเริ่มวุ่นวายไปหมดกับเสน่ห์โรแมนติกของคุณ เมื่อคุณเริ่มก้าวสู่ความสัมพันธ์ที่มั่นคงมากขึ้น พวกความสุขสดใสในตอนแรกอาจจะเริ่มน้อยลง (อย่างไรก็ตามมันมักจะวนกลับมาได้บ่อยๆ เช่นกัน) [62] ทุ่มเทความพยายามอย่างมีสติในการสร้างความสัมพันธ์ และมิตรภาพของคุณ [63] [64] [65]
    • หาเวลาให้กันและกัน คุณอาจจะยุ่ง หรือมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามให้พยายามหาเวลาให้กันแม้ว่าคุณจะเหนื่อย หรือรู้สึกเจ็บอยู่ก็ตาม อย่าให้อะไรมาทำให้คุณตกไปอยู่ในระดับที่ใช้คำหยาบคาย ไม่พอใจ หรือดูถูกเหยียดหยาม
    • เลือกหางานอดิเรก หรือกิจกรรมที่สามารถทำด้วยกันได้ การพยายามทำอะไรที่มีเป้าหมายเดียวกันจะช่วยให้คุณรู้สึกเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้นและผูกพันกันมากขึ้น
    • ปิดเครื่องมือเทคโนโลยี หาเวลาอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องมีโทรศัพท์ ทีวี หรือคอมพิวเตอร์ แค่คุณสองคน มันอาจจะไปจบลงด้วยการใช้เวลาอยู่ในห้องเดียวกันได้อย่างง่ายๆ โดยที่คุณไม่รู้สึกเหมือนว่าคุณได้ใช้เวลา “ร่วมกัน” จริงๆ [66]
  6. ท้ายที่สุดแล้วคุณอาจจะแสดงให้เธอเห็นว่าตัวตนคุณที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ที่ลึกลงไปในใจคุณจริงๆ เพื่อให้โอกาสเธอได้รักคุณ ถ้าหากคุณแสร้งทำตัวเป็นคนอื่น เธอก็จะรักแต่คนที่คุณสร้างภาพขึ้นมาว่าเป็นคุณเท่านั้น ดังนั้น อย่าไปกลัวที่จะล้มกำแพงของคุณ ให้มีความเปราะบางเล็กน้อย และแสดงให้เธอเห็นว่าคุณเป็นใครจริงๆ โอกาสเป็นไปได้ว่าเธอจะรักคุณอย่างที่คุณเป็น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไม่พูดถึงสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับเพื่อนของเธอ แม้ว่าเธออาจจะมีพูดบ้าง แค่คอยเป็นหูรับฟังเวลาที่เธอต้องการก็พอ
  • การทำเรื่องเซอร์ไพรส์ไม่จำเป็นต้องมีมูลค่าสูงเสมอไป
  • อย่าล้อในเรื่องที่เธอเชื่อ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เชื่ออย่างเดียวกับเธอก็ตาม ให้ความเคารพส่วนบุคคลกับเธอ
  • หาเวลาเจอเธอบ่อยๆ แม้ว่าเธอจะอยู่ไกลออกไป ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เตรียมพร้อมที่จะทำงานเพิ่ม
โฆษณา

คำเตือน

  • พยายามอย่าไปร่วมถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระ


โฆษณา
  1. http://www.huffingtonpost.com/vanessa-van-edwards/the-body-language-of-attraction_b_3673055.html
  2. http://www.scienceofpeople.com/the-psychology-of-attraction/
  3. http://www.scienceofpeople.com/the-psychology-of-attraction/
  4. http://msue.anr.msu.edu/news/eye_contact_an_introduction_to_its_role_in_communication
  5. http://msue.anr.msu.edu/news/eye_contact_dont_make_these_mistakes
  6. http://msue.anr.msu.edu/news/eye_contact_dont_make_these_mistakes
  7. http://www.professional-counselling.com/understand-body-language.html#.VMfYvP7F-V4
  8. http://www.professional-counselling.com/understand-body-language.html#.VMfYvP7F-V4
  9. https://www.psychologicalscience.org/index.php/publications/observer/2010/december-10/the-psychological-study-of-smiling.html
  10. http://psycnet.apa.org/index.cfm?fa=buy.optionToBuy&id=1997-38342-007
  11. http://www.huffingtonpost.com/vanessa-van-edwards/the-body-language-of-attraction_b_3673055.html
  12. http://www.professional-counselling.com/understand-body-language.html#.VMfYvP7F-V4
  13. http://www.smithsonianmag.com/science-nature/the-truth-about-pheromones-100363955/?no-ist
  14. http://www.huffingtonpost.com/vanessa-van-edwards/the-body-language-of-attraction_b_3673055.html
  15. https://www.psychologytoday.com/blog/beautiful-minds/201208/the-cognitive-psychology-pick-lines-0
  16. http://books.google.com/books?hl=en&lr=&id=UND7Ps1ZZkEC&oi=fnd&pg=PP1&dq=Prelude+to+a+kiss:+Nonverbal+flirting,+opening+gambits,+and+other+communication+dynamics+in+the+initiation+of+romantic+relationships.&ots=VP465r2rIY&sig=mORHT6QO0NuQZCMeHd12orDUYAg#v=onepage&q=Prelude%20to%20a%20kiss%3A%20Nonverbal%20flirting%2C%20opening%20gambits%2C%20and%20other%20communication%20dynamics%20in%20the%20initiation%20of%20romantic%20relationships.&f=false
  17. http://www.wwnorton.com/college/psych/socialpsych/reviews/ch03.asp
  18. http://www.theatlantic.com/health/archive/2013/12/a-psychologists-guide-to-online-dating/282225
  19. https://www.psychologytoday.com/blog/humor-sapiens/201106/are-women-more-attracted-men-who-court-them-humor
  20. Wilbur, C. J., & Campbell, L. (2011). Humor in romantic contexts: Do men participate and women evaluate? Personality and Social Psychology Bulletin, 37, 918-929.
  21. http://www.telegraph.co.uk/science/science-news/9453842/Playful-people-more-attractive.html
  22. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3111255/
  23. http://www.huffingtonpost.com/vanessa-van-edwards/how-to-read-a-mans-body-l_b_4674615.html
  24. http://theweek.com/articles/448643/flirt-according-science
  25. https://www.psychologytoday.com/blog/maybe-its-just-me/201310/does-everyone-find-confidence-attractive
  26. http://psychcentral.com/blog/archives/2012/12/26/the-fine-line-between-self-confidence-cockiness/
  27. http://psychcentral.com/blog/archives/2012/12/26/the-fine-line-between-self-confidence-cockiness/
  28. http://www3.uakron.edu/witt/flsp/note5.htm
  29. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201105/dating-conversation-long-term-plans-or-one-night-stands
  30. https://www.psychologytoday.com/blog/open-gently/201310/36-questions-bring-you-closer-together
  31. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201204/does-playing-hard-get-make-you-fall-in-love
  32. http://www.freep.com/story/life/advice/2015/05/19/gross-habits-relationiships/27578467/
  33. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201204/does-playing-hard-get-make-you-fall-in-love
  34. https://www.psychologytoday.com/blog/valley-girl-brain/201203/how-flirt-without-it-seeming-youre-flirting
  35. https://www.psychologytoday.com/blog/meet-catch-and-keep/201408/how-spot-flirt
  36. http://www.helpguide.org/articles/relationships/fixing-relationship-problems-with-humor.htm
  37. http://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201203/how-start-or-restart-your-sex-life-touch
  38. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201302/avoiding-the-friend-zone-becoming-girlfriend-or-boyfriend
  39. https://www.psychologytoday.com/blog/how-do-life/201410/so-you-met-someone-you-might-want-date-now-what
  40. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201302/avoiding-the-friend-zone-becoming-girlfriend-or-boyfriend
  41. https://www.psychologytoday.com/blog/between-you-and-me/201406/is-it-love-or-just-scary-movie
  42. http://psychcentral.com/lib/become-a-better-listener-active-listening/
  43. http://psychcentral.com/lib/become-a-better-listener-active-listening/
  44. https://www.psychologytoday.com/blog/the-new-you/201312/how-do-i-improve-my-relationship-three-helpful-tips
  45. https://www.psychologytoday.com/blog/fulfillment-any-age/201401/the-9-most-common-relationship-mistakes
  46. https://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201204/does-playing-hard-get-make-you-fall-in-love
  47. http://www.helpguide.org/articles/relationships/relationship-help.htm
  48. http://psychcentral.com/lib/trust-and-vulnerability-in-relationships/
  49. http://www.5lovelanguages.com/
  50. http://www.5lovelanguages.com/
  51. https://www.psychologytoday.com/blog/fulfillment-any-age/201303/fifteen-reasons-we-need-friends
  52. http://psychcentral.com/blog/archives/2010/09/20/8-ways-to-ruin-your-relationship/
  53. http://www.scientificamerican.com/article/what-physiological-changes-can-explain-honeymoon-phase-relationship/
  54. https://www.psychologytoday.com/blog/ambigamy/201409/making-relationships-last-past-the-honeymoon-period
  55. http://psychcentral.com/blog/archives/2010/09/20/8-ways-to-ruin-your-relationship/
  56. http://www.cnn.com/COMMUNITY/transcripts/2001/06/10/gottman/
  57. http://techland.time.com/2012/08/16/we-never-talk-anymore-the-problem-with-text-messaging/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,899 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา