ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอยากเปลี่ยนลุคใหม่ไปเลย มาลองกัดสีผมให้อ่อนลงกัน ถ้าสีผมจริงค่อนข้างอ่อน อย่างบลอนด์ทองหรือน้ำตาลอ่อน ใช้ส่วนผสมธรรมชาติ อย่าง hydrogen peroxide น้ำมะนาว น้ำผึ้ง หรือชาคาโมไมล์ ก็เพียงพอจะเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงแบบถนอมผม แต่ถ้าผมจริงสีเข้ม ต้องใช้น้ำยากัดสีผมแทน ไม่ว่าจะกัดสีผมด้วยสารเคมีหรือส่วนผสมธรรมชาติ ผมก็เสี่ยงแห้งเสียได้ แต่ถ้าเป็นน้ำยากัดสีผมจะแรงสุด แนะนำให้ไปกัดสีผมที่ร้านจะปลอดภัยกว่า

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ใช้น้ำมะนาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มะนาวเหลืองนี่ล่ะสารช่วยกัดสีผมตามธรรมชาติที่คนนิยมใช้กัน แต่ถึงจะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่ก็ทำผมคุณแห้งเสียได้ เลยต้องเจือจางซะก่อน ให้ผสมน้ำมะนาว 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน เพื่อลดความเป็นกรด จากนั้นกรอกใส่ขวดสำหรับฉีดพ่น [1]
    • จะเห็นผลที่สุด ถ้าใช้น้ำมะนาวคั้นเองสดๆ เพราะถึงน้ำมะนาวสำเร็จรูปแบบขวดจะใช้ได้ แต่ต้องเลือกที่เป็นน้ำมะนาวแท้ 100% ไม่มีอะไรผสม แนะนำให้ซื้อมะนาวมาเป็นลูกๆ หั่นครึ่ง แล้วคั้นน้ำเอง
    • น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด เลยทำให้ผมแห้งเสียได้ ถ้าใครผมแห้งเสียอยู่แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนจากผสมน้ำเปล่า ไปผสมน้ำมันมะพร้าวหรือครีมนวดแทน จะช่วยถนอมผมได้
    • ถ้ากลัวผมแห้งเสียจริงๆ ก็ให้เพิ่มสัดส่วนของน้ำเปล่าที่ใช้เจือจางน้ำมะนาวเข้าไปอีก
  2. พอผสมน้ำยาจากน้ำมะนาวแล้ว ก็เลือกว่าจะกัดสีผมตรงส่วนไหน ทั้งหัว แค่ปลายผม หรือทำไฮไลท์ สุดท้ายก็ฉีดพ่นน้ำยาใส่ตามจุดที่ต้องการได้เลย [2]
    • ใช้นิ้วหรือหวีซี่ห่างสางผมก่อน น้ำยาจะได้ทั่วถึงเวลากัดสีผม
  3. พอฉีดพ่นน้ำยาเคลือบผมไว้แล้ว ก็ถึงเวลาไปนั่งตากแดด ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยให้กรดซิตริกในมะนาว กัดสีผมให้อ่อนลงได้ ให้นั่งตากแดดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผมเกือบแห้งสนิท [3]
    • อย่านั่งตากแดดนานเกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะทำผมเสียได้เลย
    • ถ้ากลัวเรื่องผมเสีย ให้ล้างผมด้วยน้ำยาจากน้ำมะนาวก่อนอาบน้ำก็ได้ พออาบน้ำเสร็จ ก็ให้ล้างออก แล้วตามด้วยครีมนวด ทำซ้ำตามขั้นตอนเป็นประจำ ก็จะทำให้ผมสีอ่อนลงได้
  4. พอผมใกล้แห้งสนิท ให้อาบน้ำ สระผมด้วยแชมพูตามปกติ เพื่อล้างน้ำมะนาวออก สุดท้ายลงครีมนวด เพื่อให้ผมนุ่มชุ่มชื้น แล้วผึ่งลมจนแห้ง [4]
    • ถ้าอยากกัดสีผมให้อ่อนลงเยอะๆ ก็ฉีดพ่นน้ำมะนาวสูตรนี้ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย เช้าวันต่อมาค่อยสระผม
    • ถ้าอยากบำรุงผมแบบล้ำลึก ให้นั่งอบผมด้วยลมร้อน โดยลงครีมนวดก่อน แล้วสวมหมวกอาบน้ำพลาสติกทับอีกที
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ใช้น้ำผึ้งดิบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำผึ้งดิบนั้นมี hydrogen peroxide อ่อนๆ ใช้กัดสีผมแบบไม่รุนแรงได้ สูตรน้ำยากัดสีผมตามธรรมชาติคือให้ผสมน้ำผึ้งดิบ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ (20 - 45 กรัม) กับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง (240 มล.) จนเข้ากัน [5]
    • ถ้าอยากกัดสีผมโดยที่บำรุงถนอมผมไม่ให้แห้งเสีย ลองเปลี่ยนจากผสมน้ำเปล่า เป็นผสมน้ำมันมะกอกแทน เพราะน้ำมันมะกอกเป็นมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นตามธรรมชาติ โดยที่ยังช่วยกัดสีผมให้อ่อนลงร่วมกับน้ำผึ้งได้
  2. พอผสมน้ำผึ้งกับน้ำจนเข้ากันดีแล้ว ให้ใช้มือสะอาดชะโลมแล้วนวดเบาๆ ให้ทั่วผม ใช้สูตรนี้ได้ทั้งหัว หรือจะเจาะกัดสีเฉพาะจุดที่อยากไฮไลท์ก็ได้ [6]
    • สางผมให้น้ำผึ้งเคลือบทั่วถึงกัน
    • ถ้าผมหนาเป็นพิเศษ ให้แบ่งผมออกเป็น 4 ช่อ คือด้านล่าง 2 ช่อ ด้านบน 2 ช่อ เพื่อให้ลงน้ำผึ้งง่ายขึ้นและทั่วถึง
  3. พอลงน้ำผึ้งที่ผสมแล้วจนเคลือบผมครบถ้วน ก็หมักทิ้งไว้แบบนี้ 30 - 60 นาทีด้วยกัน เพื่อให้เวลาส่วนผสมได้ออกฤทธิ์กัดสีผมของคุณ หรือจะใช้หมวกอาบน้ำคลุมผมไว้ แล้วหมักน้ำผึ้งข้ามคืนก็ได้ จะยิ่งเห็นผลกว่าเดิม [7]
    • การหมักผมด้วยน้ำผึ้งข้ามคืน จะเหมือนการบำรุงผมแบบล้ำลึก ให้ผมนุ่มชุ่มชื้น รับรองตื่นเช้ามาผมจะนุ่มสลวยอย่าบอกใคร!
    • ถ้ากลัวว่าใช้หมวกอาบน้ำคลุมผมไว้ข้ามคืนแล้วหมวกจะเลื่อนหลุดได้ ก็ให้พันผ้าขนหนูหรือผ้าพันคอไหมโพกหัวไว้อีกที หลังสวมหมวกอาบน้ำแล้ว
  4. พอพร้อมจะล้างน้ำผึ้งออกจากผมแล้ว ให้สระผมด้วยแชมพูตามปกติ ตามด้วยครีมนวดเข้มข้น สุดท้ายตากลมจนผมแห้งสนิท [8]
    • ถ้ารู้สึกว่าผมเหนียวหลังล้างน้ำผึ้งออกแล้ว ให้สระด้วยแชมพู จากนั้นลงครีมนวดตามอีกที
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ล้างผมด้วยชาคาโมไมล์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาจะชงชาคาโมไมล์เข้มๆ ให้ต้มน้ำในกา ใส่ถุงชาคาโมไมล์ลงไปในถ้วยชา จากนั้นเทน้ำลงไปจนมิด ชงชาทิ้งไว้ 10 - 15 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าชาจะเข้มแน่นอน
    • ถ้าผมคุณยาวหรือหนามาก อาจจะต้องชงชา 2 ถ้วยขึ้นไป โดยเพิ่มถุงชาในน้ำทุกถ้วยที่เพิ่มเข้ามา
  2. พอชงชาทิ้งไว้นานพอแล้ว ให้เอาถุงชาออก ทิ้งไปได้เลย จากนั้นวางถ้วยชาไว้ที่เคาน์เตอร์ต่อจนเย็นเท่าอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนลวกผมลวกมือ
    • ปกติทิ้งชาไว้สัก 20 - 30 นาทีก็เย็นพอแล้ว
  3. ฉีดพ่นหรือเทส่วนผสมราดหัวตอนกำลังจะอาบน้ำ จากนั้นทิ้งไว้แล้วอาบน้ำไปตามปกติ
    • ราดน้ำคาโมไมล์แล้วทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงก็ได้ แบบนี้ต้องราดหัวก่อนเข้าไปอาบน้ำ
    • หรือเทชาเย็นๆ ใส่ขวดสำหรับฉีดพ่น จากนั้นฉีดใส่ผม แล้วนั่งตากแดดสักครึ่งชั่วโมง
    • จะใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลแบบเดียวกันก็ได้ ให้เจือจางน้ำส้มสายชูก่อน โดยผสมน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.) กับน้ำ 1 ถ้วยตวง (240 มล.) ใช้ราดผมได้แบบชาคาโมไมล์เลย
  4. พออาบน้ำเสร็จ ก็สระผมด้วยแชมพูตามปกติ เพื่อล้างชาออก สุดท้ายบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้นด้วยครีมนวดเข้มข้น ผึ่งลมจนผมแห้ง
    • ราดผมด้วยน้ำชาแล้วผมจะไม่แห้งเท่าใช้ส่วนผสมอื่น อย่าง hydrogen peroxide หรือน้ำยากัดสีผม แต่ก็ยังต้องสระผมแล้วลงครีมนวดเข้มข้นอยู่ดี
    • หรือจะสระผมด้วยไม่ใช้แชมพูก็ได้ โดยเฉพาะถ้าใช้น้ำยาสูตรน้ำส้มสายชู เพราะชาจะไม่ทิ้งคราบ ส่วนน้ำส้มสายชูก็เป็นเหมือนแชมพู ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งตกค้าง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้ Hydrogen Peroxide

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำกับ hydrogen peroxide ในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยใช้ขวดสำหรับฉีดพ่น. ถ้าอยากกัดสีผมให้เห็นผลที่สุด ให้ใช้ hydrogen peroxide 3% หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป จากนั้นผสม hydrogen peroxide 1 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน ในขวดสำหรับฉีดพ่น สุดท้ายเขย่าให้เข้ากัน [9]
    • ถ้าใช้ hydrogen peroxide เข้มข้นกว่านั้น ผมจะเสียได้
  2. ก่อนจะลง hydrogen peroxide ที่ผสมแล้ว ให้สางผมให้ไม่พันกัน ด้วยหวีหรือแปรงซะก่อน ต่อไปก็แบ่งผมออกเป็นช่อๆ ติดกิ๊บไว้ จะได้แน่ใจว่าน้ำยาทั่วถึง [10]
    • ให้แบ่งผมเป็น 4 ช่อ คือด้านล่าง 2 ช่อ และด้านบน 2 ช่อ
    • ให้แบ่งผมครึ่งหัวในแนวนอน ที่ท้ายทอย ประมาณระดับใบหู เหมือนเวลามัดครึ่ง จากนั้นค่อยมัดแยกกันแนวตั้ง เหมือนผมแกละ (บน 2 แกละ ล่าง 2 แกละ)
  3. พอแบ่งผมเป็นช่อๆ แล้ว ให้พ่นน้ำยาทั่วผม อย่าให้พลาดส่วนไหน จะได้สีอ่อนลงเสมอกัน หรือถ้าอยากไฮไลท์ผมแค่บางส่วน ให้ใช้สำลีก้อนหรือสำลีแผ่นชุบ hydrogen peroxide แล้วถูไปตามผมส่วนที่อยากให้สีอ่อนลง [11]
    • ถ้าอยากทำสีเหลือบ (ombre) ให้เน้นน้ำยาหนักๆ ที่ปลายผม
    • พอกัดสีผมเสร็จช่อหนึ่งแล้ว ก็ค่อยปล่อยผมช่อถัดไป แล้วลงน้ำยาตามขั้นตอน
  4. พอลง hydrogen peroxide จนพอใจแล้ว ให้ทิ้งไว้แบบนั้น แล้วแต่ว่าอยากให้ผมสีอ่อนลงแค่ไหน ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็เพียงพอแล้ว ถ้าทิ้งไว้นานกว่านั้น ผมอาจจะแห้งเสียได้ [12]
    • ถ้าอยากกัดสีผมแบบเร็วทันใจ ให้ฉีดพ่น hydrogen peroxide ที่ผม แล้วไปนั่งตากแดด พอผมเริ่มแห้ง ก็ล้างน้ำยาออกได้เลย
  5. พอผมสีจางลงเท่าที่ต้องการแล้ว ให้ล้าง hydrogen peroxide ออกด้วยน้ำเย็นจัด จากนั้นลงครีมนวดที่ชอบเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้ผม ล้างออกอีกรอบด้วยน้ำเย็นจัด สุดท้ายตากลมจนผมแห้งสนิท [13]
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกครีมนวดสูตรเติมน้ำหรือความชุ่มชื้นให้ผม เพราะ hydrogen peroxide มักทำให้ผมแห้ง ถ้าใช้ครีมนวดเข้มข้นหน่อย จะช่วยฟื้นคืนสภาพผมให้นุ่มชุ่มชื้น
    • ที่ต้องผึ่งลมจนผมแห้งเอง เพราะถ้าใช้ไดร์เป่า ความร้อนจะทำให้ผมยิ่งแห้งเสีย
    • ถ้านั่งตากลมลำบาก ก็อนุโลมให้ใช้ไดร์เป่าจนผมแห้งประมาณ 75 - 90% ได้ โดยใช้ลมเย็นหรือความร้อนต่ำๆ สุดท้ายผึ่งลมต่อจนแห้งสนิท
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

กัดสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกัดสีผมนั้นรุนแรงต่อเส้นผมมาก และทำให้ผมขาดน้ำมาก ถ้าหมั่นบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้นไว้ก่อนกัดสีผมจะปลอดภัยที่สุด แนะนำว่าก่อนกัดสีผมประมาณ 2 อาทิตย์ ให้เริ่มบำรุงผมโดยหมักครีมนวดเข้มข้นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผมจะไม่ขาดน้ำ [14]
    • ถ้าผมแห้งเสียเป็นพิเศษ ให้บำรุงผมแบบล้ำลึกอาทิตย์ละ 3 ครั้งเลย ก่อนจะถึงเวลากัดสีผมจริง
  2. ผสมน้ำยากัดสีผมกับน้ำยาโกรกเข้าด้วยกัน ตามวิธีในฉลากหรือคู่มือ. คุณหาซื้อผงกัดสีผมได้ตามร้านขายเครื่องสำอางหรืออุปกรณ์เสริมความงาม แต่ก็ต้องนำมาผสมกับน้ำยาโกรก (developer) ก่อนจะใช้ได้ ส่วนต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ ก็แล้วแต่คำแนะนำที่ฉลากหรือใบที่ให้มา ให้ผสมผงกัดสีผมกับน้ำโกรกเข้าด้วยกันในชามที่ไม่ใช่โลหะ [15]
    • น้ำยาโกรกมีด้วยกันหลายความเข้มข้น ถ้าจะกัดสีผมโดยที่ผมไม่เสียมากนัก ให้เลือกเบอร์ 30 ถ้าหนังหัวแพ้ง่าย ต้องลดเหลือเบอร์ 20
    • ถ้าไม่เคยใช้ผงกัดสีผมมาก่อน ให้เริ่มจากเบอร์ 10 - 20 เพื่อกัดสีผมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ข้อเสียคืออาจจะยังไม่ได้สีผมที่ต้องการในทันที
    • จริงๆ จะกัดสีผมได้เห็นผลที่สุดถ้าผมไม่เคยทำสี แต่จะกัดสีผมที่ทำสีมาแล้วก็ได้ ไม่ว่ากัน
    • ยิ่งผมสีเข้ม ก็ยิ่งเสียง่ายเวลากัดสีผม
  3. จะกัดสีผมได้ครอบคลุมที่สุด ถ้าใช้แปรงย้อมผมทาน้ำยากัดสีผมตามจุดที่ต้องการ ให้ใช้ปลายแหลมของแปรง แสกผม เพื่อลงน้ำยาใกล้รากผมมากที่สุด ค่อยๆ ทาส่วนผสมแล้วแปรงไปจนถึงปลายผม [16]
    • ให้สวมถุงมือยางก่อนลงน้ำยากัดสีผมเสมอ
    • ถ้าโอเคกับการที่รากผมยังคงสีผมตามธรรมชาติไว้ ก็ไม่ต้องกัดสีผมถึงหนังหัว แบบนี้ช่วยลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือแสบร้อนที่หนังหัวได้ด้วย
  4. พอลงน้ำยากัดสีผมทั่วถึงแล้ว ให้ทิ้งไว้ประมาณ 30 - 45 นาที โดยคอยเช็คสีผมทุก 15 นาที หรือจนกว่าจะได้สีที่ต้องการ ไม่ว่าจะทองอ่อน เหลือง หรือน้ำตาลก็ตาม [17]
    • อ่านวิธีใช้งานผงกัดสีผมให้ดีก่อนใช้จริง เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีขั้นตอนและระยะเวลาในการกัดสีผมแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าคุณอยากได้ผมสีไหน
    • ผมของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ผมคุณอาจจะซีดจางลงช้าหรือเร็วกว่าพี่น้องหรือเพื่อนฝูงก็ได้ ก็ต้องพิจารณาเป็นคนๆ กันไป
    • ห้ามกัดสีผมทิ้งไว้นานเกิน 45 นาที ถ้าสีผมออกมาไม่อ่อนพอ ค่อยกัดสีใหม่วันอื่นจะปลอดภัยกว่า
  5. พอครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ล้างส่วนผสมจากผมด้วยน้ำเย็น ต่อมาสระด้วยแชมพูสูตรที่ชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าสะอาดหมดจด [18]
    • ล้างน้ำให้สะอาด โดยไม่ต้องลงครีมนวด เพราะจะไปรบกวนการทำงานของโทนเนอร์ได้
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน มอยส์เจอไรเซอร์ หรือเติมน้ำให้ผม เพราะผมจะแห้งหลังกัดสี แชมพูสูตรที่ว่าจะช่วยให้ผมนุ่มชุ่มชื้นขึ้นได้
  6. พอกัดสีผมเสร็จแล้ว ปกติผมจะสีออกเหลืองๆ แบบทองเหลือง ไม่ได้เป็นผมขาวเท่ๆ แบบการ์ตูนหรือนักร้องเกาหลีอย่างที่คิด แต่เราทำให้สีผมอ่อนลงได้ โดยลงโทนเนอร์บนผมเปียกหมาด โทนเนอร์นี้จะเป็นตัวปรับสีเหลืองให้ขาวขึ้น ลงโทนเนอร์แล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 20 - 30 นาที [19]
    • คุณหาซื้อโทนเนอร์ปรับสีผม ได้ตามร้านขายยาและเครื่องสำอาง หรืออุปกรณ์เสริมความงาม
    • หรือใช้แชมพูสีม่วงแบบเดียวกันก็ได้ แชมพูสีม่วงจะช่วยปรับสีเหลืองกระด้าง ให้ขาวขึ้นได้สมใจ โดยที่ไม่ต้องทิ้งไว้นานเท่าตอนใช้โทนเนอร์
  7. พอลงโทนเนอร์ครบตามระยะเวลาที่กำหนด ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วหมักผมด้วยครีมเข้มข้น สุดท้ายล้างออกตามคำแนะนำที่ฉลาก [20]
    • ถ้าผมเข้มดำเป็นพิเศษ อย่างผมคนไทยแบบเราๆ ก็อาจจะต้องกัดสีผม 2 - 3 รอบด้วยกัน กว่าจะซีดจางเป็นสีทอง ซึ่งก็ต้องพักการกัดสีเป็นระยะ เพื่อฟื้นฟูสภาพผม แนะนำให้พักผมสัก 2 อาทิตย์ แล้วค่อยกัดสีผมใหม่
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คำนึงถึงสุขภาพผมตัวเองเป็นหลัก ถ้ากัดสีผมไม่ว่าวิธีไหนไปรอบหนึ่ง แล้วรู้สึกว่าผมแห้งเสีย ให้รอจนผมกลับมาแข็งแรงสุขภาพดี ค่อยทำซ้ำ
  • กว่าสีผมจะอ่อนลงได้ ไม่ว่าวิธีไหน ต้องใช้เวลา แนะนำให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำไปตามขั้นตอน ผมจะได้ไม่เสีย หรือสีเพี้ยนไปเป็นอย่างอื่น อาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้งกว่าผมจะอ่อนลงเป็นสีที่ต้องการ
  • ถ้ากัดสีผมด้วยวิธีธรรมชาติ แน่นอนว่าจะไม่สีอ่อนลงชัดเจนเหมือนใช้สารเคมี เพราะเป็นการค่อยๆ ลอกสีผม ใครผมสีน้ำตาล แค่ทำครั้งเดียวใช่ว่าจะกลายเป็นสีบลอนด์ทองทันที
  • อาจจะลองใช้ส่วนผสมที่บำรุงผมมากขึ้น เช่น ถ้าครั้งแรกใช้น้ำมะนาวผสมน้ำ ให้ลองเปลี่ยนไปใช้น้ำผึ้งกับน้ำมันมะกอกแทน เพราะจะถนอมผมกว่า
  • ถึงจะกัดสีผมด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ก็ต้องทดสอบย้อมดูแค่ปอยเล็กๆ ก่อนใช้จริงทั้งหัว โดยลงส่วนผสมที่ผมปอยเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตา ถ้าโอเคกับผลลัพธ์ที่ได้ ก็ลงมือกัดสีผมทั้งหัวได้เลย
  • แนะนำให้กัดสีผมตอนยังไม่ได้สระผม จะเห็นผลที่สุด เพราะน้ำมันตามธรรมชาติของผมจะเคลือบอยู่ ช่วยป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสียหลังกัดสี ถ้างดสระผมสัก 24 - 72 ชั่วโมงก่อนกัดสีผมได้ยิ่งดี
  • ถ้าปกติผมสีอ่อนอยู่แล้ว เช่น บลอนด์ทอง น้ำตาลอ่อน จะกัดสีผมด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น ใช้น้ำมะนาว น้ำผึ้ง ชาคาโมไมล์ หรือ hydrogen peroxide ได้เห็นผลกว่า ส่วนคนที่ผมเข้ม ต้องกัดสีผมด้วยน้ำยา สีถึงจะลอกไป
  • ยิ่งสีผมตอนแรกอ่อนแค่ไหน ก็ยิ่งใช้วิธีธรรมชาติได้เห็นผลขึ้นเท่านั้น
  • ก่อนจะกัดสีผมด้วยวิธีไหนในบทความนี้ ต้องสวมเสื้อผ้าชุดเก่าซะก่อน เพราะส่วนผสมที่กัดสีผมคุณ จะกัดสีผ้าได้ด้วย จะปูพื้นด้วยผ้าเช็ดตัวเก่าหรือถุงดำไว้ด้วยก็ได้ เผื่อน้ำยาหยดระหว่างขั้นตอน
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามเอาไปใช้ย้อมคิ้วหรือขนตา เพราะอันตรายต่อดวงตา อาจจะแสบหรือถึงขั้นตาบอดได้เลย
  • เวลากัดสีผมทิ้งไว้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหน ห้ามทิ้งไว้นานเกินระยะเวลาที่กำหนด เพราะจะทำให้ผมเสียได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

สูตรน้ำมะนาว

  • น้ำมะนาว 1 ส่วน
  • น้ำ 1 ส่วน
  • ขวดสำหรับฉีดพ่น
  • แชมพู
  • ครีมนวด

สูตรน้ำผึ้ง

  • น้ำผึ้งดิบ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ (20 - 45 กรัม)
  • น้ำ 1 ถ้วยตวง (240 มล.)
  • แชมพู
  • ครีมนวด

สูตรชาคาโมไมล์

  • ชาคาโมไมล์แบบถุง
  • น้ำเดือด
  • แชมพู
  • ครีมนวด

สูตร Hydrogen Peroxide

  • น้ำยา hydrogen peroxide 3% 1 ส่วน
  • น้ำ 1 ส่วน
  • ขวดสำหรับฉีดพ่น
  • สำลีก้อน (ถ้ามี)
  • หวี
  • กิ๊บติดผม
  • ครีมนวด

สูตรกัดสีผม

  • ครีมนวดสูตรล้ำลึก
  • ผงกัดสีผม
  • น้ำยาโกรกผม
  • แปรงย้อมผม
  • แชมพู
  • โทนเนอร์
  • ครีมนวดหมักผม

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,813 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา