ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ลดขนาดไฟล์ JPEG แล้วจัดการรูปเป็นกองๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะส่งทางอีเมลหรืออัพโหลดขึ้นเว็บก็ตาม แต่ลดขนาดไฟล์รูปแล้วอาจทำให้ชัดน้อยลงด้วย แต่ถ้าขยายรูปก็แตกไม่เหลือดี คุณปรับขนาดรูปได้ทั้งในเว็บที่ให้บริการฟรี หรือใช้โปรแกรมแต่งรูปฟรีในคอม ไม่ก็ใช้แอพฟรีในมือถือแทน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ใช้เว็บปรับขนาดรูป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เดี๋ยวนี้มีเว็บเยอะแยะไปหมดที่ให้คุณอัพโหลดแล้วปรับขนาดไฟล์รูปอย่าง JPEG ได้รวดเร็วทันใจ ให้ค้นหาด้วยคำว่า "resize jpeg" ดู แล้วจะโผล่ขึ้นมาหลายเว็บเลย ถ้าจะปรับขนาดไฟล์ด้วยเว็บ ให้ใช้คอมจะสะดวกกว่ามือถือ เว็บดังๆ ที่เราแนะนำคือ
    • picresize.com
    • resizeyourimage.com
    • resizeimage.net
  2. เว็บส่วนใหญ่ให้คุณอัพโหลดไฟล์รูปได้แทบทุกชนิด ให้คลิกปุ่ม "Choose file", "Upload image" หรือ "Browse" เพื่อเลือกไฟล์รูปที่จะปรับขนาดจากในคอม
    • ถ้ารูปที่จะปรับขนาดอยู่ในเว็บอื่น ต้องดาวน์โหลดลงคอมก่อน แล้วค่อยอัพโหลดขึ้นเว็บปรับขนาด
  3. แต่ละเว็บจะมีเมนูแตกต่างกันไป บางทีก็ให้คลิกแล้วลากกล่อง หรือใช้แถบเลื่อนปรับขนาดรูป แต่บางทีก็ให้พิมพ์ขนาดที่ต้องการไปเลย
    • ถ้าปรับให้ไฟล์รูปใหญ่ขึ้น ระวังคุณภาพของรูปจะต่ำลงจนเห็นได้ชัด
  4. บางเว็บให้คุณกำหนดระดับการบีบอัด (compression) ได้ด้วย ยิ่งค่านี้สูงไฟล์ก็ยิ่งเล็ก แต่คุณภาพของรูปก็ลดลงตามตัว ให้สังเกตแถบเลื่อน (quality slider) หรือเมนูที่ขยายลงมา ที่เอาไว้ใช้ปรับคุณภาพไฟล์ปลายทาง แต่บางเว็บก็ไม่มีตัวเลือกนี้
  5. พอเลือกขนาดและระดับคุณภาพแล้ว ก็กดปรับขนาดและดาวน์โหลดรูปได้เลย คลิกปุ่ม "Resize" เพื่อโหลดรูปใหม่ จะมีรูปตัวอย่างให้ดูก่อนดาวน์โหลดไฟล์จริงลงคอม
    • ตอนดาวน์โหลดรูปที่ปรับขนาดแล้ว ระวังอย่าไปเซฟทับไฟล์ต้นฉบับ จะได้กลับไปแก้ไขได้เผื่อมีอะไรผิดพลาด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ใช้โปรแกรม Paint ของ Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะปรับขนาดไฟล์รูปในโปรแกรม Paint ให้ copy ไฟล์จากต้นฉบับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดจะได้กลับมาแก้ไขได้
    • ให้ copy ไฟล์โดยคลิกขวาที่รูปต้นฉบับ แล้วเลือก "Copy" จากนั้นคลิกขวาที่ว่างในโฟลเดอร์เดียวกัน แล้วเลือก "Paste" เพื่อสร้างไฟล์ copy ของรูปต้นฉบับ
  2. Paint เป็นโปรแกรมแต่งรูปฟรีที่มาพร้อม Windows ทุกเวอร์ชั่น ให้คุณคลิกขวาที่ไฟล์รูปแล้วเลือก "Edit" เพื่อเปิดรูปนั้นในโปรแกรม Paint
  3. ถ้าจะปรับขนาดทั้งรูป ให้เลือกทั้งรูปโดยกด Ctrl + A หรือคลิกปุ่ม "Select" ที่ tab Home แล้วเลือก "Select all" จะเห็นเส้นประล้อมกรอบรูปไว้
  4. ที่ tab Home หรือกด Ctrl + W เพื่อเปิดหน้าต่าง "Resize and Skew"
  5. คุณปรับขนาดรูปโดยพิมพ์เปอร์เซ็นต์หรือพิกเซลได้ โดยเลือก "Pixels" แล้วพิมพ์ขนาดใหม่ของรูปตามต้องการ จะพิมพ์เปอร์เซ็นต์มากกว่า "100" ก็ได้ ถ้าอยากให้รูปใหญ่กว่าต้นฉบับ
    • ตามค่า default โปรแกรม Paint จะคง aspect ratio ต้นฉบับไว้ พอพิมพ์ขนาดใหม่เข้าไป ก็จะคงอีกค่าให้สัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ รูปจะได้ไม่ถูกยืดหรือถูกบีบตอนปรับขนาด แต่จะไม่ติ๊กช่อง "Maintain aspect ratio" ก็ได้ ถ้าอยากจะกำหนดขนาดแนวตั้งกับแนวนอนเอง
    • ถ้าปรับให้ไฟล์รูปใหญ่ขึ้น ระวังรูปจะแตก
  6. พอคลิก "OK" รูปจะถูกปรับขนาดตามค่าที่คุณกำหนด แต่จะไม่มีรูปตัวอย่างให้ดู เพราะงั้นต้องกดปรับขนาดเลยถึงจะเห็นรูปจริงที่ได้ออกมา
    • ถ้ามีอะไรผิดพลาด ให้กด Ctrl + Z เพื่อ undo ขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป หรือคลิกปุ่ม "Undo" ที่ด้านบนของหน้าต่าง
  7. ไฟล์รูปจะถูกปรับขนาด แต่กระดาษในจอจะยังมีขนาดเท่าเดิม ให้คลิกแล้วลากกล่องที่ขอบกระดาษเพื่อปรับให้พอดี ไม่มีส่วนเกินสีขาว
  8. พอได้รูปที่ต้องการแล้วให้เซฟไฟล์ ให้เลือก "Save As" ใน tab File แล้วเลือก "JPEG picture" จากนั้นตั้งชื่อไฟล์แล้วเลือกตำแหน่งที่จะเซฟ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ใช้แอพ Preview ของ Mac OS X

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณควร backup ไฟล์รูปต้นฉบับไว้ก่อนปรับขนาด เผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้กลับไปแก้ไข ให้เลือกไฟล์รูปแล้วกด Command + C จากนั้นกด Command + V เพื่อสร้างไฟล์ copy ในตำแหน่งเดียวกัน
  2. ปกติแค่ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ก็จะเปิดขึ้นมาในแอพอยู่แล้ว แต่ถ้ารูปไปเปิดในแอพอื่น ให้คลิกขวาที่ไฟล์แล้วเลือก "Open With" จากนั้นเลือก "Preview"
  3. เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่สำหรับปรับขนาดรูป
  4. คลิกเมนูให้ขยายลงมาแล้วเลือกหน่วยที่จะใช้ปรับขนาด. เช่น "Pixels", "Percentage" และอื่นๆ ถ้าเลือก "Pixels" คุณจะสามารถพิมพ์ขนาดรูปที่ต้องการได้เอง
  5. ทั้ง 2 ช่องจะสัมพันธ์กัน ถ้าเปลี่ยนค่าหนึ่ง อีกค่าจะปรับตามเพื่อคงสัดส่วนที่ถูกต้องเอาไว้ ไม่ให้รูปยืดหรือหด แต่ถ้าอยากปรับตามสบายโดยไม่คำนึงถึงสัดส่วนรูป ก็ไม่ต้องติ๊กช่อง "Scale proportionally"
  6. คุณดูได้ที่ล่างหน้าต่าง ว่าไฟล์ใหม่จะเหลือขนาดเท่าไหร่ แล้วค่อยตกลงปรับขนาดไฟล์ สะดวกเวลาจะปรับขนาดเพื่อส่งอีเมลหรืออัพโหลดเข้าเว็บต่างๆ
  7. รูปจะถูกปรับขนาดตามค่าที่คุณกำหนด ถ้าไม่ชอบใจหรือมีอะไรผิดพลาด ให้กด Command + Z เพื่อ undo ขนาดที่เปลี่ยนแปลงไปกลับเป็นขนาดต้นฉบับ
  8. พอได้รูปที่ต้องการแล้วให้เซฟไฟล์ โดยคลิกเมนู "File" แล้วเลือก "save" เพื่อเซฟขนาดใหม่ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod Touch

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในอุปกรณ์ iOS จะไม่มีแอพตั้งต้นสำหรับปรับขนาดรูปในตัว คุณต้องไปหาโหลดแอพที่ว่ามาใช้ ซึ่งก็มีมากมายหลากหลายด้วยกัน ดาวน์โหลดได้จาก App Store ในอุปกรณ์ iOS ของคุณเลย แอพที่เด่นดังด้านนี้ก็เช่น
    • Resize It
    • Image Resizer+
    • Desqueeze
  2. จากนั้นอนุญาตให้แอพเข้าถึงรูปของคุณได้ก่อน เพราะแอพต้องเข้าไปดึงรูปในเครื่องของคุณ เสร็จแล้วให้เลือกรูปที่จะปรับขนาดโดยแตะเพื่อเปิดรูปในแอพ
  3. แอพส่วนใหญ่มีหลายเครื่องมือให้เลือกใช้ รวมถึงเครื่องมือปรับขนาดรูป ให้คุณแตะปุ่ม "Resize" เพื่อปรับขนาดรูปได้เลย
  4. แต่ละแอพก็จะมีวิธีระบุขนาดรูปแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกได้จากขนาดที่แอพกำหนดมาแล้ว หรือจะกำหนด resolution เองก็ได้ โดยความกว้างกับความสูงของรูปจะสัมพันธ์กัน เพื่อคงสัดส่วนที่ถูกต้องของรูป
    • ถ้าไม่แคร์ว่ารูปจะยืดหรือหด อยากได้ขนาดตามต้องการ ก็แตะที่รูปโซ่ หรือปุ่มตัวเลข เพื่อกำหนดค่าที่ต้องการได้เลย
  5. พอปรับขนาดรูปแล้ว ให้แตะปุ่ม "Save" เพื่อเซฟรูปลง camera roll คุณดูรูปที่ว่าได้ด้วยแอพ Photos เหมือนเวลาจะดูรูปในเครื่องตามปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

ใช้อุปกรณ์ Android

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลำพังเครื่อง Android เองไม่สามารถปรับขนาดรูปได้เอง โชคดีที่มีหลายแอพพร้อมให้บริการคุณ หาโหลดได้เลยจากใน Google Play Store มีแอพฟรีหลายตัวเลย แต่ที่ดังๆ ก็เช่น [2]
    • Photo & Picture Resizer
    • Resize Me!
    • Image Shrink
    • Reduce Photo Size
  2. เปิดแอพที่ดาวน์โหลดมาแล้วอนุญาตให้แอพเข้าถึงรูปของคุณ. ตอนเปิดแอพครั้งแรก ต้องอนุญาตให้แอพเข้าถึงรูปในเครื่องของคุณซะก่อน เพราะแอพต้องโหลดรูปมาปรับขนาด
  3. ใช้แอพเลือกรูปที่จะปรับขนาด แต่ละแอพก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ให้แตะปุ่ม "Select photo" ที่เมนูหลักของแอพ เพื่อเลือกรูปจากในเครื่องได้เลย
  4. พอเปิดรูปที่ต้องการขึ้นมาแล้ว คุณต้องเลือกเครื่องมือ "Resize" ในแอพ ย้ำกันอีกทีว่าแต่ละแอพก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป
  5. คุณจะเห็นขนาดต้นฉบับทั้งแบบพิกเซลและขนาดไฟล์ บางแอพก็ให้เลือกขนาดที่แอพกำหนดมาแล้วได้ หรือจะกำหนดขนาดเองก็ตามสบาย เวลากำหนดขนาดเองก็ใส่แค่ค่าเดียวได้เลย เพราะเดี๋ยวอีกค่าจะปรับตามเอง เพื่อคงสัดส่วนที่ถูกต้องของรูปไว้
  6. บางแอพก็เซฟรูปใหม่ให้อัตโนมัติ แต่บางแอพก็ต้องแตะปุ่ม "Save" เอง แต่รูปต้นฉบับจะยังคงอยู่
  7. แต่ละแอพจะเซฟรูปใหม่ไว้คนละโฟลเดอร์กัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโฟลเดอร์ Pictures จากนั้นเข้าโฟลเดอร์ชื่อเดียวกับแอพ หลังจากนี้คุณก็แชร์รูปได้ตามปกติเลย
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าเป็นการปรับเพื่อขยายรูป ระวังคุณภาพรูปจะต่ำลงเยอะ หรือถึงขั้นรูปแตก เพราะงั้นสงวนวิธีต่างๆ ที่เราบอกมาไว้ใช้ย่อรูปดีกว่า เพราะการขยายรูปจะทำให้พิกเซลของรูปถูกยืดจนรูปเบลอ คุณภาพห่วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 53,127 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา