ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
โปรแกรม Microsoft Word เวอร์ชั่นใหม่ๆ จะมีสัญลักษณ์และโครงสร้างต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ให้ได้เลือกใช้กัน จะพิมพ์ด้วยคีย์ลัดหรือเลือกจากในเมนู Equation ก็ตามสะดวก ถ้าใช้ Mac ขั้นตอนก็จะต่างออกไปนิดหน่อย รวมถึงคนใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่าด้วย ถ้าเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆ จะใช้วิธี "Insert Object" เหมือนใน Word 2003 ไม่ได้แล้ว แต่คุณซื้อ MathType add-in เพิ่มเติมได้ถ้าอยากใช้งานแบบเก่า
ขั้นตอน
-
กด Alt และ "=". เพื่อใส่สมการในตำแหน่งที่คลิกเคอร์เซอร์ไว้ แล้วเปิด editor ขึ้นมา
-
พิมพ์ตัวอักษร. คุณใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนตัวแปรต่างๆ ได้ แค่พิมพ์ลงไปเลย
-
ใส่สัญลักษณ์โดยพิมพ์ \symbolname. ถ้ารู้ชื่อสัญลักษณ์นั้น ก็ให้พิมพ์ \ ตามด้วยชื่อสัญลักษณ์ เช่น ถ้าจะพิมพ์ตัวอักษรกรีก theta ให้พิมพ์ \theta แล้วกด Space เพื่อแปลงเป็นสัญลักษณ์
-
กด Space เพื่อแปลงข้อความเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ในสมการ. ในขั้นตอนที่แล้วเราต้องกด Spacebar ก่อน ถึงจะได้สัญลักษณ์ที่พิมพ์ออกมา คุณแก้ไขสมการได้ด้วยวิธีนี้
-
ใส่เศษส่วนโดยพิมพ์ /. เช่น ถ้าพิมพ์ a/b (แล้วกด Space) a จะอยู่ข้างบน ส่วน b ก็อยู่ข้างล่าง
-
รวมนิพจน์ต่างๆ โดยพิมพ์วงเล็บ (). วงเล็บ "()" นั้นใช้จับกลุ่มส่วนต่างๆ ของสมการใน editor ได้ เช่น (a+b)/c นิพจน์ a+b จะไปอยู่ด้านบนของเศษส่วน โดยเวลาแสดงผลไม่มีวงเล็บติดไปด้วย
-
ใส่ตัวห้อยและตัวยกได้ โดยพิมพ์ _ กับ ^. เช่น พิมพ์ a_b แล้ว b จะเป็นตัวห้อยของ a แต่ถ้าพิมพ์ a^b ตัว b จะเป็นเลขยกกำลังของ a ตัวห้อย (subscripts) และตัวยก (superscripts) นี้คุณใช้ได้เรื่อยๆ เป็นวิธีที่ equation editor กำหนดลิมิตให้ปริพันธ์ เช่น พิมพ์ \int_a^b แล้วกด Space จะได้ปริพันธ์จาก a ไป b
-
ใส่ฟังก์ชั่นโดยกด Space หลังพิมพ์ชื่อฟังก์ชั่น. คุณใส่ฟังก์ชั่นตรีโกณมิติอย่าง sin และ arctan ได้ รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่าง log กับ exp แต่ต้องกด Space หลังพิมพ์ชื่อฟังก์ชั่นนั้น editor ถึงจะแสดงฟังก์ชั่นนั้นได้
-
เปลี่ยนฟอนต์. คุณเปลี่ยนฟอนต์ได้ระหว่างพิมพ์สมการ โดยเลือกตัวหนา (bold) หรือตัวเอียง (italic) ด้วยคีย์ลัดอย่าง Ctrl + B และ Ctrl + I ถ้าอยากพิมพ์ฟอนต์ 'ธรรมดา' ในสมการ ให้ล้อมหน้า-หลังด้วยเครื่องหมายคำถาม แต่ถ้าอยากพิมพ์เป็นตัวเขียน ให้พิมพ์ \script เช่น \scriptF จะได้ F ที่เป็นตัวเขียนออกมา
-
ใช้คีย์ลัดอื่นๆ. พิมพ์สมการเองจะเร็วกว่ามานั่งเลือกสัญลักษณ์และโครงสร้างต่างๆ จากในเมนู แต่คุณก็ต้องพอรู้บ้างว่าต้องใช้คีย์ลัดอะไร ลองศึกษาขั้นตอนที่เราว่ามาดู ก็น่าจะพอเดาต่อได้ ว่าจะพิมพ์คีย์ลัดอื่นๆ ยังไง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เลือก tab Insert ในแถบ ribbon. แถบ ribbon จะเป็นเมนูแนวนอน อยู่ระหว่างชื่อเอกสารกับเนื้อหาของเอกสาร ให้หา tab Insert ในแถวบนสุดของเมนู แล้วคลิกเลย
-
หาปุ่ม Equation ทางขวาสุด. เมนู Insert จะมีหลายตัวเลือก แต่ตอนนี้เราจะใช้ Equations ที่อยู่ขวาสุด โดยมีไอคอนเป็นสัญลักษณ์ π (pi) ใหญ่ๆ อยู่ในกลุ่มเมนู "Symbols"
-
คลิกไอคอนเพื่อใส่สมการ. จะมีกล่องโผล่มาตรงที่คลิกเคอร์เซอร์ไว้ คุณก็พิมพ์สมการลงไปในกล่องได้เลย หรือใช้ตัวเลือกอื่นในขั้นตอนถัดไป
-
ใส่ฟอร์แมตพิเศษ. พอคลิกไอคอน Equations แล้ว ตัวเลือกในเมนู ribbon จะเปลี่ยนไป ให้สำรวจหาตัวเลือกที่ต้องการ แล้วพิมพ์สมการจนเสร็จสิ้นตามขั้นตอนข้างล่าง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คลิกไอคอน Script เพื่อขยายเมนูลงมา จากนั้นเลือกเคอร์เซอร์มาที่แต่ละปุ่ม จะมี tooltip โผล่มาอธิบายว่าตัวเลือกนี้ใช้ทำอะไร
- เลือก basic subscript แล้วจะมีสี่เหลี่ยม 2 อันโผล่มาในสมการ อันหนึ่งอยู่ล่างอีกอัน □ □
- คลิกที่สี่เหลี่ยมแรก แล้วพิมพ์ค่าที่จะแสดงลงไป 5 □
- คลิกสี่เหลี่ยมที่ 2 แล้วพิมพ์ตัวห้อย 5 3
-
พิมพ์สมการต่อไปจนเสร็จ. ถ้าไม่ต้องใช้ฟอร์แมตพิเศษ ก็พิมพ์สมการต่อไป Word จะใส่ช่องว่างกับตัวแปรที่เป็นตัวเอียงให้อัตโนมัติ
-
ย้ายสมการในหน้ากระดาษ. คลิกเลือกทั้งกล่องสมการ แล้วจะเห็น tab ที่มีลูกศรทางขวา ให้คลิกลูกศรนี้เพื่อดูตัวเลือกการแสดงผลที่ต้องการ เช่น ตรงกลาง ชิดซ้าย หรือชิดขวา
- พอคลุมข้อความในสมการแล้ว ก็เปลี่ยนฟอนต์หรือเพิ่ม-ลดขนาดฟอนต์ได้ตามปกติ
-
เขียนสมการด้วยลายมือ (เฉพาะเวอร์ชั่น 2016). ถ้าคุณใช้ Word 2016 ก็เขียน "สมการ" ด้วยลายมือโดยใช้เมาส์หรือเมาส์ปากกาได้ ให้เลือก Ink Equation จากในเมนู Equations ที่ขยายลงมา แล้วเริ่มเขียนได้เลย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เลือก tab Document Elements. tab นี้จะอยู่ในแถบ ribbon ถัดลงมาจากแถวบนสุดของไอคอนต่างๆ
-
เลือก Equations ทางขวาสุด. ถ้าเลือก Document Elements ไว้ Equation จะเป็นตัวเลือกขวาสุด ไอคอนเป็นสัญลักษณ์ π จะมี 3 ตัวเลือกด้วยกัน
- คลิกลูกศรข้างไอคอน Equations จะมีตัวเลือกสมการที่ใช้บ่อยขยายลงมา
- คลิกลูกศร แล้วคลิก Insert New Equation เพื่อพิมพ์สมการเอง
- คลิกไอคอนเพื่อเปิดเมนูสมการเพิ่มเติมในแถบ ribbon
-
ใช้เมนูด้านบนแทน. ถ้าอยากใช้เมนูด้านบนสุด ให้เลือก "Insert" แล้วเลื่อนลงไปที่ "Equation" ในเมนูที่ขยายลงมา
- เคอร์เซอร์ของคุณต้องอยู่ตรงที่ว่างของเอกสาร ถึงจะใช้คำสั่งนี้ได้ (เช่น ถ้าเลือกวัตถุไหนไว้อยู่ ตัวเลือกนี้จะจางๆ เลือกไม่ได้)
-
เลือกวิธีแสดงผล. คลิกลูกศรชี้ลงทางขวาของกล่องสมการ เมนูจะขยายลงมา คุณจะเห็นตัวเลือกสำหรับเปลี่ยนการแสดงผลสมการ
- เช่น "save as new equation" สะดวกมากถ้าต้องใช้สมการนี้บ่อยๆ พอคลิกลูกศรข้างไอคอน Equations แล้วจะเป็นการเพิ่มสมการที่เลือก ลงในเมนูที่ขยายลงมา
โฆษณา
-
ยอมรับข้อจำกัด. สมการที่สร้างใน Word 2003 หรือเก่ากว่า จะเอาไปแก้ไขใน Word เวอร์ชั่นใหม่ๆ ไม่ได้ ถ้าคุณต้องใช้ไฟล์เอกสารนั้นร่วมกันกับผู้ใช้ Word คนอื่นๆ ควรอัพเกรดไปใช้โปรแกรมเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใส่สมการ. ในเมนูบนสุด ให้เลือก Insert → Object → Create New ถ้ามี "Microsoft Equation 3.0" หรือ "Math Type" ใน Objects list ให้เลือกเลยเพื่อใส่สมการ แต่ถ้าไม่มีก็ไปขั้นตอนต่อไป [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พอใส่สมการแล้ว จะมีหน้าต่างเล็กๆ โผล่ขึ้นมาพร้อมสัญลักษณ์ต่างๆ คุณคลิกปุ่มพวกนี้แล้วเลือกสัญลักษณ์ที่อยากใส่ในสมการได้เลย
- ตัวเลือกฟอร์แมตของ Word 2003 จะต่างออกไปจากของเวอร์ชั่นใหม่ๆ บางสมการอาจดูไม่เนี้ยบเท่าที่ควร
-
ติดตั้ง add-in ถ้าจำเป็น. ถ้า Word 2003 ของคุณไม่มี add-in ที่บอกไปข้างบน ก็ต้องติดตั้งเอง ถ้าหาเพิ่มเติมอาจจะยาก ยังไงลองเช็คดูในคอมก่อน อาจจะมีแพ็คเกจพร้อมติดตั้ง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปิดโปรแกรม Microsoft Office ทั้งหมด
- ไปที่ Start → Control Panel → Add or Remove Programs
- เลือก Microsoft Office → Change → Add or Remove Features → Next
- คลิกสัญลักษณ์ + ข้าง Office Tools
- เลือก Equation Editor แล้วคลิก Run จากนั้นคลิก Update
- ทำตามขั้นตอนที่ขึ้น บางคนก็วุ่นวายหน่อยเพราะต้องใช้แผ่น CD ติดตั้ง Word 2003 ด้วย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอยากพิมพ์สมการบรรทัดที่ 2 ให้กด Shift + Enter [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Enter ใช้ออกจากสมการ หรือเริ่มสมการในย่อหน้าใหม่ อันนี้แล้วแต่ Word เวอร์ชั่นที่คุณใช้
- ถ้าสมัครใช้ Office 365 จะได้ Word เวอร์ชั่นล่าสุดแถมมาด้วย ก็ทำไปตามขั้นตอนเพื่อเลือกเวอร์ชั่นล่าสุดที่ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการของคุณ
- ถ้าใช้ Word 2007 หรือใหม่กว่า แล้วอยากแก้ไขเอกสารที่สร้างใน Word 2003 หรือเก่ากว่า ให้ใช้คำสั่ง File → Convert เพื่อให้แก้ไขสมการและใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าเซฟไฟล์เป็น .docx คนที่ใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่าจะแก้ไขสมการในเอกสารไม่ได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://unicode.org/notes/tn28/UTN28-PlainTextMath-v2.pdf
- ↑ http://www.iun.edu/~mathiho/useful/Equation%20Editor%20Shortcut%20Commands.pdf
- ↑ http://unicode.org/notes/tn28/UTN28-PlainTextMath-v2.pdf
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=SRGaW3maK38
- ↑ https://support.office.com/en-us/article/What-s-new-in-Word-2016-4219dfb5-23fc-4853-95aa-b13a674a6670
- ↑ https://support.office.com/en-us/article/Write-insert-or-change-an-equation-1d01cabc-ceb1-458d-bc70-7f9737722702
- ↑ http://its.uiowa.edu/support/article/1610
- ↑ http://its.uiowa.edu/support/article/1610
- ↑ https://support.office.com/en-us/article/Write-insert-or-change-an-equation-1d01cabc-ceb1-458d-bc70-7f9737722702
โฆษณา