PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

โปรแกรม Microsoft Word เวอร์ชั่นใหม่ๆ จะมีสัญลักษณ์และโครงสร้างต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ให้ได้เลือกใช้กัน จะพิมพ์ด้วยคีย์ลัดหรือเลือกจากในเมนู Equation ก็ตามสะดวก ถ้าใช้ Mac ขั้นตอนก็จะต่างออกไปนิดหน่อย รวมถึงคนใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่าด้วย ถ้าเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆ จะใช้วิธี "Insert Object" เหมือนใน Word 2003 ไม่ได้แล้ว แต่คุณซื้อ MathType add-in เพิ่มเติมได้ถ้าอยากใช้งานแบบเก่า

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

พิมพ์ด้วยคีย์บอร์ด (Microsoft Word 2007 หรือใหม่กว่า)

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อใส่สมการในตำแหน่งที่คลิกเคอร์เซอร์ไว้ แล้วเปิด editor ขึ้นมา
  2. คุณใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนตัวแปรต่างๆ ได้ แค่พิมพ์ลงไปเลย
  3. ถ้ารู้ชื่อสัญลักษณ์นั้น ก็ให้พิมพ์ \ ตามด้วยชื่อสัญลักษณ์ เช่น ถ้าจะพิมพ์ตัวอักษรกรีก theta ให้พิมพ์ \theta แล้วกด Space เพื่อแปลงเป็นสัญลักษณ์
  4. กด Space เพื่อแปลงข้อความเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ในสมการ. ในขั้นตอนที่แล้วเราต้องกด Spacebar ก่อน ถึงจะได้สัญลักษณ์ที่พิมพ์ออกมา คุณแก้ไขสมการได้ด้วยวิธีนี้
  5. เช่น ถ้าพิมพ์ a/b (แล้วกด Space) a จะอยู่ข้างบน ส่วน b ก็อยู่ข้างล่าง
  6. วงเล็บ "()" นั้นใช้จับกลุ่มส่วนต่างๆ ของสมการใน editor ได้ เช่น (a+b)/c นิพจน์ a+b จะไปอยู่ด้านบนของเศษส่วน โดยเวลาแสดงผลไม่มีวงเล็บติดไปด้วย
  7. เช่น พิมพ์ a_b แล้ว b จะเป็นตัวห้อยของ a แต่ถ้าพิมพ์ a^b ตัว b จะเป็นเลขยกกำลังของ a ตัวห้อย (subscripts) และตัวยก (superscripts) นี้คุณใช้ได้เรื่อยๆ เป็นวิธีที่ equation editor กำหนดลิมิตให้ปริพันธ์ เช่น พิมพ์ \int_a^b แล้วกด Space จะได้ปริพันธ์จาก a ไป b
  8. คุณใส่ฟังก์ชั่นตรีโกณมิติอย่าง sin และ arctan ได้ รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่าง log กับ exp แต่ต้องกด Space หลังพิมพ์ชื่อฟังก์ชั่นนั้น editor ถึงจะแสดงฟังก์ชั่นนั้นได้
  9. คุณเปลี่ยนฟอนต์ได้ระหว่างพิมพ์สมการ โดยเลือกตัวหนา (bold) หรือตัวเอียง (italic) ด้วยคีย์ลัดอย่าง Ctrl + B และ Ctrl + I ถ้าอยากพิมพ์ฟอนต์ 'ธรรมดา' ในสมการ ให้ล้อมหน้า-หลังด้วยเครื่องหมายคำถาม แต่ถ้าอยากพิมพ์เป็นตัวเขียน ให้พิมพ์ \script เช่น \scriptF จะได้ F ที่เป็นตัวเขียนออกมา
  10. พิมพ์สมการเองจะเร็วกว่ามานั่งเลือกสัญลักษณ์และโครงสร้างต่างๆ จากในเมนู แต่คุณก็ต้องพอรู้บ้างว่าต้องใช้คีย์ลัดอะไร ลองศึกษาขั้นตอนที่เราว่ามาดู ก็น่าจะพอเดาต่อได้ ว่าจะพิมพ์คีย์ลัดอื่นๆ ยังไง [1] [2] [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

Microsoft Word 2016, 2013, 2010 และ 2007

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แถบ ribbon จะเป็นเมนูแนวนอน อยู่ระหว่างชื่อเอกสารกับเนื้อหาของเอกสาร ให้หา tab Insert ในแถวบนสุดของเมนู แล้วคลิกเลย
  2. เมนู Insert จะมีหลายตัวเลือก แต่ตอนนี้เราจะใช้ Equations ที่อยู่ขวาสุด โดยมีไอคอนเป็นสัญลักษณ์ π (pi) ใหญ่ๆ อยู่ในกลุ่มเมนู "Symbols"
  3. จะมีกล่องโผล่มาตรงที่คลิกเคอร์เซอร์ไว้ คุณก็พิมพ์สมการลงไปในกล่องได้เลย หรือใช้ตัวเลือกอื่นในขั้นตอนถัดไป
  4. พอคลิกไอคอน Equations แล้ว ตัวเลือกในเมนู ribbon จะเปลี่ยนไป ให้สำรวจหาตัวเลือกที่ต้องการ แล้วพิมพ์สมการจนเสร็จสิ้นตามขั้นตอนข้างล่าง [4]
    • คลิกไอคอน Script เพื่อขยายเมนูลงมา จากนั้นเลือกเคอร์เซอร์มาที่แต่ละปุ่ม จะมี tooltip โผล่มาอธิบายว่าตัวเลือกนี้ใช้ทำอะไร
    • เลือก basic subscript แล้วจะมีสี่เหลี่ยม 2 อันโผล่มาในสมการ อันหนึ่งอยู่ล่างอีกอัน □
    • คลิกที่สี่เหลี่ยมแรก แล้วพิมพ์ค่าที่จะแสดงลงไป 5
    • คลิกสี่เหลี่ยมที่ 2 แล้วพิมพ์ตัวห้อย 5 3
  5. ถ้าไม่ต้องใช้ฟอร์แมตพิเศษ ก็พิมพ์สมการต่อไป Word จะใส่ช่องว่างกับตัวแปรที่เป็นตัวเอียงให้อัตโนมัติ
  6. คลิกเลือกทั้งกล่องสมการ แล้วจะเห็น tab ที่มีลูกศรทางขวา ให้คลิกลูกศรนี้เพื่อดูตัวเลือกการแสดงผลที่ต้องการ เช่น ตรงกลาง ชิดซ้าย หรือชิดขวา
    • พอคลุมข้อความในสมการแล้ว ก็เปลี่ยนฟอนต์หรือเพิ่ม-ลดขนาดฟอนต์ได้ตามปกติ
  7. ถ้าคุณใช้ Word 2016 ก็เขียน "สมการ" ด้วยลายมือโดยใช้เมาส์หรือเมาส์ปากกาได้ ให้เลือก Ink Equation จากในเมนู Equations ที่ขยายลงมา แล้วเริ่มเขียนได้เลย [5]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

Office for Mac 2016 และ 2011

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. tab นี้จะอยู่ในแถบ ribbon ถัดลงมาจากแถวบนสุดของไอคอนต่างๆ
  2. ถ้าเลือก Document Elements ไว้ Equation จะเป็นตัวเลือกขวาสุด ไอคอนเป็นสัญลักษณ์ π จะมี 3 ตัวเลือกด้วยกัน
    • คลิกลูกศรข้างไอคอน Equations จะมีตัวเลือกสมการที่ใช้บ่อยขยายลงมา
    • คลิกลูกศร แล้วคลิก Insert New Equation เพื่อพิมพ์สมการเอง
    • คลิกไอคอนเพื่อเปิดเมนูสมการเพิ่มเติมในแถบ ribbon
  3. ถ้าอยากใช้เมนูด้านบนสุด ให้เลือก "Insert" แล้วเลื่อนลงไปที่ "Equation" ในเมนูที่ขยายลงมา
    • เคอร์เซอร์ของคุณต้องอยู่ตรงที่ว่างของเอกสาร ถึงจะใช้คำสั่งนี้ได้ (เช่น ถ้าเลือกวัตถุไหนไว้อยู่ ตัวเลือกนี้จะจางๆ เลือกไม่ได้)
  4. คลิกลูกศรชี้ลงทางขวาของกล่องสมการ เมนูจะขยายลงมา คุณจะเห็นตัวเลือกสำหรับเปลี่ยนการแสดงผลสมการ
    • เช่น "save as new equation" สะดวกมากถ้าต้องใช้สมการนี้บ่อยๆ พอคลิกลูกศรข้างไอคอน Equations แล้วจะเป็นการเพิ่มสมการที่เลือก ลงในเมนูที่ขยายลงมา
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

Microsoft Word 2003

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สมการที่สร้างใน Word 2003 หรือเก่ากว่า จะเอาไปแก้ไขใน Word เวอร์ชั่นใหม่ๆ ไม่ได้ ถ้าคุณต้องใช้ไฟล์เอกสารนั้นร่วมกันกับผู้ใช้ Word คนอื่นๆ ควรอัพเกรดไปใช้โปรแกรมเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า [6]
  2. ในเมนูบนสุด ให้เลือก Insert Object Create New ถ้ามี "Microsoft Equation 3.0" หรือ "Math Type" ใน Objects list ให้เลือกเลยเพื่อใส่สมการ แต่ถ้าไม่มีก็ไปขั้นตอนต่อไป [7]
    • พอใส่สมการแล้ว จะมีหน้าต่างเล็กๆ โผล่ขึ้นมาพร้อมสัญลักษณ์ต่างๆ คุณคลิกปุ่มพวกนี้แล้วเลือกสัญลักษณ์ที่อยากใส่ในสมการได้เลย
    • ตัวเลือกฟอร์แมตของ Word 2003 จะต่างออกไปจากของเวอร์ชั่นใหม่ๆ บางสมการอาจดูไม่เนี้ยบเท่าที่ควร
  3. ถ้า Word 2003 ของคุณไม่มี add-in ที่บอกไปข้างบน ก็ต้องติดตั้งเอง ถ้าหาเพิ่มเติมอาจจะยาก ยังไงลองเช็คดูในคอมก่อน อาจจะมีแพ็คเกจพร้อมติดตั้ง [8]
    • ปิดโปรแกรม Microsoft Office ทั้งหมด
    • ไปที่ Start Control Panel Add or Remove Programs
    • เลือก Microsoft Office Change Add or Remove Features Next
    • คลิกสัญลักษณ์ + ข้าง Office Tools
    • เลือก Equation Editor แล้วคลิก Run จากนั้นคลิก Update
    • ทำตามขั้นตอนที่ขึ้น บางคนก็วุ่นวายหน่อยเพราะต้องใช้แผ่น CD ติดตั้ง Word 2003 ด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากพิมพ์สมการบรรทัดที่ 2 ให้กด Shift + Enter [9] Enter ใช้ออกจากสมการ หรือเริ่มสมการในย่อหน้าใหม่ อันนี้แล้วแต่ Word เวอร์ชั่นที่คุณใช้
  • ถ้าสมัครใช้ Office 365 จะได้ Word เวอร์ชั่นล่าสุดแถมมาด้วย ก็ทำไปตามขั้นตอนเพื่อเลือกเวอร์ชั่นล่าสุดที่ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการของคุณ
  • ถ้าใช้ Word 2007 หรือใหม่กว่า แล้วอยากแก้ไขเอกสารที่สร้างใน Word 2003 หรือเก่ากว่า ให้ใช้คำสั่ง File Convert เพื่อให้แก้ไขสมการและใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ได้ [10]
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าเซฟไฟล์เป็น .docx คนที่ใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่าจะแก้ไขสมการในเอกสารไม่ได้ [11]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 31,156 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา