ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผู้หญิงส่วนใหญ่จะต้องประสบปัญหาอาการคันยุบยิบที่อวัยวะเพศในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต สำหรับบางคนมันอาจจะเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ ที่เดี๋ยวก็หายไปเอง แต่สำหรับบางคนอาการคันก็ยังไม่ยอมหายไปสักทีเนื่องจากเป็นโรคหรือมีอาการแพ้ คุณสามารถรักษาอาการคันที่อวัยวะเพศได้เองที่บ้าน หรือจะไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องก็ได้ แล้วแต่สาเหตุของอาการคัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

บรรเทาอาการชั่วคราว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าสาเหตุของอาการคันจะเกิดจากอะไร คุณก็สามารถบรรเทาอาการคันยุบยิบชั่วคราวได้ด้วยการประคบเย็น เช่น เอาผ้าเช็ดตัวประคบตรงแคม
    • ในการประคบเย็นนั้น ให้นำผ้าเช็ดตัวสะอาดๆ จุ่มลงไปในน้ำเย็นจนชุ่ม จากนั้นบิดน้ำออกแล้วนำผ้าไปประคบตรงบริเวณอวัยวะเพศเป็นเวลา 5-10 นาที
    • อย่าลืมซักผ้าเช็ดตัวหลังใช้ ถ้าคุณอยากประคบเย็นอีกครั้ง ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่
    • นอกจากนี้คุณก็สามารถใช้น้ำแข็งเทียมได้ด้วย แค่อย่าลืมใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์สะอาดๆ พันรอบน้ำแข็งเทียมอีกทีก่อน และอย่าประคบลงบนอวัยวะเพศนานกว่าครั้งละ 20 นาที
  2. สารระคายเคืองจากน้ำยาซักผ้า สบู่ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจทำให้อวัยวะเพศคันได้ การเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่ผสมน้ำหอมและไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอาจช่วยบรรเทาอาการคันที่อวัยวะเพศที่เกิดจากอาการแพ้ได้ นอกจากนี้คุณก็อาจจะเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนเพื่อหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองจากเจลอาบน้ำได้เช่นกัน
    • เช่น คุณอาจจะลองใช้สบู่ก้อนของโดฟหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยนของเซตาฟิล
    • อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ทิชชูเปียก แป้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจทำให้อวัยวะเพศระคายเคือง
  3. คุณสามารถหาซื้อครีมที่มีส่วนประกอบของน้ำและขี้ผึ้งอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยบรรเทาอาการคันที่อวัยวะเพศได้ตามร้านขายยาเกือบทุกร้าน อย่าลืมปฏิบัติตามวิธีการใช้ แต่ก็รู้ไว้ด้วยว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ได้รักษาสาเหตุของอาการคันที่ซ่อนอยู่ [1]
  4. การเกาจะยิ่งทำให้ระคายเคืองและทำให้ยิ่งคันเข้าไปอีก และถ้าคุณเกาจนเป็นแผล มันก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เพราะฉะนั้นอย่าเกาเลยจะดีที่สุด [2]
  5. ผู้หญิงบางคนอาจจะมีอาการคันที่อวัยวะเพศเป็นครั้งคราวและไม่ต้องรักษา แต่ถ้าคุณมีอาการคันอย่างรุนแรงหรือไม่หายสักที ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีปัญหาบางอย่างซ่อนอยู่ หากติดเชื้อคุณก็ต้องหาสาเหตุเพื่อที่คุณจะได้รักษาอย่างถูกต้อง หรือเพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแหล่งที่มาของอาการระคายเคือง [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

รักษาอาการคันที่เกิดจากการติดเชื้อรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การติดเชื้อราบางครั้งก็แยกจากการติดเชื้ออื่นๆ ได้ยาก เพราะฉะนั้นให้ไปพบแพทย์หากคุณไม่แน่ใจในการวินิจฉัยของตัวเอง อาการติดเชื้อราทั่วไปได้แก่ การอักเสบ อาการแสบร้อน ปวดที่อวัยวะเพศ และมีของเหลวใสๆ หรือเหนียวขุ่นและไม่มีกลิ่นไหลออกมาจากอวัยวะเพศ [4]
    • ถ้าของเหลวที่ไหลออกจากอวัยวะเพศมีลักษณะเป็นแบบอื่น ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะติดเชื้ออย่างอื่น
    • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ รับประทานยาฆ่าเชื้อ เป็นโรคเบาหวาน หรือระบบภูมิคุ้มกันถูกระงับมักจะมีโอกาสติดเชื้อรามากกว่า
    • ถ้าคุณตั้งครรภ์และสงสัยว่าตัวเองอาจติดเชื้อ ให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินการติดเชื้อ เพราะการติดเชื้ออาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้หากมันไม่ใช่การติดเชื้อรา [5]
  2. ครีมและยาเหน็บอวัยวะเพศต่างๆ ที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อรานั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาเกือบทุกร้าน ยาเหล่านี้เพียงพอต่อการรักษาอาการติดเชื้อราส่วนใหญ่ [6]
    • บางผลิตภัณฑ์จะมีระยะเวลาการใช้ที่ไม่เหมือนตัวอื่น ถ้าคุณมีอาการติดเชื้อราที่เกิดขึ้นซ้ำ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ 7 วัน
    • ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตัวมากๆ ให้มองหายารักษาอาการติดเชื้อราที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดอาการคัน
    • บูโตโคนาโซล โคลไตรมาโซล ไมโคนาโซล และเทอร์โคนาโซลเป็นสารที่มักพบในยาเหล่านี้ และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาอาการติดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ [7]
  3. ถ้ายาที่ขายตามร้านขายยาทั่วไปใช้ไม่ได้ผล หรือถ้าคุณอยากได้อะไรที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ก็มีทางเลือกให้คุณเช่นเดียวกัน [8]
    • ใช้ยาเหน็บที่เป็นกรดบอริก กรดบอริกสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการติดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ คุณสามารถหาซื้อยาเหน็บที่เป็นกรดบอริกได้ตามร้านอาหารสุขภาพ และอย่ารักษาอาการติดเชื้อราด้วยผงกรดบอริกเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งทำให้อาการระคายเคืองแย่ลง และจำไว้ด้วยว่ามันเป็นยาพิษ เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาทำรักด้วยปากตรงอวัยวะเพศขณะที่คุณรักษาด้วยวิธีนี้
    • ใช้น้ำมันทีทรี คุณสามารถรักษาอาการติดเชื้อราได้ด้วยการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดที่จุ่มในน้ำมันทีทรี แต่ก็ให้ระมัดระวังการรักษาด้วยวิธีนี้ด้วย และดึงผ้าอนามัยแบบสอดออกถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตัว เพราะแม้จะเชื่อกันว่าน้ำมันชนิดนี้เป็นสารฆ่าเชื้อรา แต่ก็ยังต้องมีการทดสอบประสิทธิภาพในการรักษาอาการติดเชื้อราเพิ่มเติม
    • รักษาอาการติดเชื้อราด้วยโพรไบโอติก มีหลักฐานที่บ่งบอกว่า คุณสามารถรักษาอาการติดเชื้อราได้ด้วยการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ดีในร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการสอดยาแลคโตบาซิลลัสที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสุขภาพจากธรรมชาติเข้าไปในอวัยวะเพศโดยตรง [9] นอกจากนี้คุณยังสามารถกำจัดเชื้อราได้ด้วยการรับประทานโยเกิร์ตที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกหรือทาลงบนอวัยวะเพศก็ได้ [10] แต่ให้รู้ไว้ด้วยว่าการรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับการรักษาตามแบบแผนและอาจมีราคาแพง
  4. อาการติดเชื้อราส่วนใหญ่สามารถรักษาได้เอง แต่ในบางกรณีคุณก็อาจจะต้องไปพบแพทย์ โดยทั่วไปคุณควรไปพบแพทย์ถ้าคุณไม่เคยติดเชื้อรามาก่อน เพราะคุณอาจจะวินิจฉัยตัวเองผิดก็ได้ นอกจากนี้คุณก็ควรไปพบแพทย์หากอาการติดเชื้อรายังไม่ดีขึ้นหลังจากรักษา
    • ถ้าอาการติดเชื้อราไม่ตอบสนองกับยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แพทย์ก็อาจจะสั่งยาชนิดรับประทานให้
    • อาการติดเชื้อรามักจะมาคู่กับของเหลวขาวข้นที่ไหลออกจากอวัยวะเพศ แต่ถ้าของเหลวที่ว่านี้เป็นสีเทาๆ เหลืองๆ หรือเขียวๆ ให้ไปพบแพทย์ เพราะว่าน่าจะไม่ใช่การติดเชื้อราแล้ว
    • ในประเทศไทยยังไม่มีอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อราในอวัยวะเพศด้วยตัวเอง แต่หากคุณอยู่ต่างประเทศแล้วคุณอยากได้รับการยืนยันว่าคุณติดเชื้อรา แต่ว่าไม่อยากไปพบแพทย์ คุณก็สามารถซื้ออุปกรณ์ตรวจคัดกรองที่บ้านได้ เช่น Vagisil Screening Test เพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วยตนเอง แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาด้วยตนเอง คุณก็ควรไปพบแพทย์อยู่ดี [11]
  5. คุณอาจจะไม่สามารถป้องกันไม่ให้ตัวเองกลับไปติดเชื้อราในอนาคตได้ 100% แต่ก็มีวิธีการต่างๆ มากมายที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดโอกาสในการกลับมาเป็นอีก [12]
    • อย่ารับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น ยาปฏิชีวนะจะไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียในอวัยวะเพศ ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อรา เพราะฉะนั้นคุณควรรับประทานยานี้ก็ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
    • ใส่กางเกงในผ้าฝ้าย
    • อย่าใส่กางเกง ถุงน่องที่ยาวขึ้นมาถึงเอว และกางเกงในที่รัดแน่นจนเกินไป
    • รักษาบริเวณอวัยวะเพศให้เย็นและแห้งให้ได้มากที่สุดด้วยการไม่สวมเสื้อผ้าทันทีโดยที่ตัวยังเปียก และหลีกเลี่ยงการแช่อ่างน้ำร้อนและแช่ตัวในอ่างอาบน้ำร้อน
    • ถ้าคุณรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจนและติดเชื้อราบ่อยๆ ให้เปลี่ยนไปเป็นชนิดที่คุมกำเนิดด้วยโปรเจสตินชนิดเดียวหรือเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เพราะระดับเอสโตรเจนที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อราได้ [13]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

รักษาอาการคันที่เกิดจากภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้แก่ อาการแสบร้อน อักเสบ ของเหลวที่ไหลออกจากอวัยวะเพศเป็นน้ำจางๆ สีขาวออกเทาๆ มีกลิ่นเหม็นคาว ซึ่งคุณอาจจะมีอาการทั้งหมดที่ว่ามานี้ มีแค่บางอาการ หรือไม่มีเลยก็ได้
    • สาเหตุของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่แน่ชัดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ผู้หญิงบางคนก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้มากกว่าคนอื่น ผู้หญิงหลายคนที่เคยมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมาก่อนจะต้องกลับมาเป็นซ้ำอย่างน้อย 1 ครั้งภายใน 1 ปี ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าผู้หญิงบางคนมีแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายในระดับต่ำโดยธรรมชาติ
  2. ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนั้นไม่เหมือนกับการติดเชื้อราตรงที่คุณไม่สามารถรักษาให้หายเองได้ ในการรักษาภาวะติดเชื้อและบรรเทาอาการต่างๆ นั้น คุณจะต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์จ่ายยาให้ โดยแพทย์อาจจะจ่ายยาชนิดรับประทาน เช่น เมโทรนิดาโซลหรือทินิดาโซล หรือถ้าเป็นครีมก็อาจจะจ่ายคลินดามัยซินให้ [14]
    • ในการวินิจฉัยภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนั้น แพทย์จะต้องตรวจภายในและเก็บตัวอย่างจากอวัยวะเพศเพื่อนำเซลล์ไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ นอกจากนี้แพทย์ก็อาจจะใช้ชุดตรวจเพื่อทดสอบค่า pH ในอวัยวะเพศด้วย
    • หากคุณตั้งครรภ์ คุณต้องเข้ารับการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทันที เพราะมันอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้
  3. แม้ว่าคุณจะไม่สามารถป้องกันไม่ให้ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียกลับมาอีกครั้งได้ 100% แต่คุณก็สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้เพื่อลดความเสี่ยงลงได้
    • อย่าสวนล้างช่องคลอด เพราะมันอาจจะไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียในอวัยวะเพศตามธรรมชาติและทำให้เกิดการติดเชื้อ
    • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เช่น สบู่ ผ้าอนามัยแบบสอด และสเปรย์
    • จำกัดจำนวนคู่นอน แม้ว่าจะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน เพิ่งเปลี่ยนคู่นอน หรือมีคู่นอนที่เป็นผู้หญิงด้วยกันมักจะมีโอกาสเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมากกว่า
    • เช็ดอวัยวะเพศให้แห้งหลังอาบน้ำ และอย่าแช่อ่างน้ำร้อน
    • หลังจากเข้าห้องน้ำให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียจากอุจจาระเข้าสู่อวัยวะเพศ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

รักษาอาการคันจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตสัญญาณเตือนของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. อาการคันที่อวัยวะเพศอาจเป็นอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ หรือถ้าคุณมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าคุณอาจได้รับเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ไปพบแพทย์ทันที จำไว้ว่าคุณสามารถติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้แม้ว่าคุณจะไม่แสดงอาการใดๆ เลยก็ตาม [15]
    • พยาธิในช่องคลอดมักจะทำให้เกิดรอยแดง อวัยวะเพศมีกลิ่นแรง และมีของเหลวสีเหลืองเขียวไหลออกมาจากอวัยวะเพศ
    • หนองในเทียมมักจะไม่มีอาการ แต่อาจทำให้เลือดออกแบบผิดปกติ มีของเหลวไหลออกจากอวัยวะเพศ และปวดท้อง
    • หนองในแท้มักจะทำให้มีของเหลวเหนียวขุ่นหรือมีเลือดปนไหลออกจากอวัยวะเพศ มีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศแบบผิดปกติ คันที่รูทวาร และรู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ
    • เริมมักจะทำให้เกิดตุ่มแดง แผลพุพอง หรืออาการเจ็บรอบๆ อวัยวะเพศ
    • เฮชพีวีหรือหูดหงอนไก่มักจะทำให้เกิดหูดเล็กๆ สีเนื้อตรงใกล้ๆ กับอวัยวะเพศ ซึ่งอาจจะขึ้นเป็นกลุ่มก็ได้
  2. ถ้าคุณเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณจะต้องไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องไปพบแพทย์ทันทีและรับประทานยาตามแพทย์สั่ง [16]
    • หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส และพยาธิในช่องคลอดสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งแพทย์อาจจะจ่ายยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานหรือฉีดยาให้คุณก็ได้ แล้วแต่ลักษณะของการติดเชื้อ
    • เฮชพีวีไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่แพทย์อาจจะสามารถทำการรักษาในแบบที่จะช่วยลดการเกิดหูดหงอนไก่ได้
    • เริมสามารถใช้ยาต้านไวรัสกดไว้ได้ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดแผลพุพอง แต่ก็ไม่มีวิธีรักษาและไม่สามารถรับประกันได้ว่า คนที่ติดเชื้อจะไม่แพร่โรคนี้ไปยังผู้อื่น
  3. วิธีป้องกันการสัมผัสกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ดีที่สุดก็คือ การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย [17]
    • คุณจะปลอดภัยที่สุดก็ต่อเมื่อคุณไม่มีเพศสัมพันธ์หรือมีคู่นอนแค่คนเดียว โดยที่คนๆ นั้นต้องไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    • ถ้าคุณมีคู่นอนหลายคน ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

รักษาอาการคันจากภาวะช่องคลอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ภาวะช่องคลอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเป็นคำกว้างๆ ที่ไว้เรียกอาการระคายเคืองที่อวัยวะเพศที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อใดๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาแพ้ การระคายเคืองที่ผิวหนัง หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน [18]
    • การแยกความแตกต่างระหว่างภาวะช่องคลอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อกับการติดเชื้อนั้นเป็นเรื่องยาก คนมักจะสับสนระหว่างการติดเชื้อรากับอาการแพ้น้ำยาซักผ้า จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรไปพบแพทย์ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นสาเหตุ อาการที่พบบ่อยได้แก่ การแสบร้อนที่อวัยวะเพศและมีของเหลวไหลออกมา รวมถึงมีอาการปวดท้องน้อยด้วย
  2. เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง. อาการคันที่อวัยวะเพศอาจเกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ เช่น สบู่หรือน้ำยาหล่อลื่น [19]
    • ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้สิ่งต่างๆ ได้ง่าย ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมไปเลย
    • ถ้าคุณเริ่มมีอาการคันที่อวัยวะเพศหลังจากเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ไม่นาน ให้เลิกใช้ทันทีและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมเดียวกัน
  3. ผู้หญิงหลายคนมีอาการคันที่อวัยวะเพศในช่วงก่อนและระหว่างระยะหมดประจำเดือนได้ไม่นานเนื่องจากเอสโตรเจนลดลง ในการรักษาอาการนี้ แพทย์อาจจะจ่ายครีมเอสโตรเจน ยาเอสโตรเจนชนิดเม็ด หรือห่วงเอสโตรเจนสำหรับใส่ในช่องคลอด [20]
    • ถ้าคุณมีอาการอวัยวะเพศแห้งในช่วงระยะหมดประจำเดือน การใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับช่องคลอดที่มีขายทั่วไป กับน้ำยาหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถลดอาการเจ็บลงได้ [21]
  4. ในบางกรณี ผิวหนังรอบๆ อวัยวะเพศก็อาจจะระคายเคืองจากปัญหาผิวหนัง ซึ่งในกรณีนี้ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุด
    • โรคผิวหนังอักเสบชนิดแห้งฝ่อเป็นอาการที่ทำให้เกิดเป็นรอยด้านขาวๆ แตกเป็นแผ่นบนผิวหนัง ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยครีมสเตียรอยด์ที่มีความเข้มข้นระดับที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ [22]
    • โรคผิวหนังอักเสบและโรคสะเก็ดเงินก็ทำให้เกิดอาการคันที่อวัยวะเพศได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนรีแพทย์หรือแพทย์ผิวหนังสามารถจ่ายยาที่ช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ [23]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,881 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา