ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการลบไฟล์ทั่วไปที่ลบไปจากคอมไม่ได้สักที ส่วนใหญ่ที่ลบไฟล์ไม่ได้เพราะมีบางโปรแกรมหรือ service ที่ยังใช้ไฟล์นั้นอยู่ ให้บูทเครื่องเข้า Safe Mode เพื่อเปิดเฉพาะโปรแกรมและ service ที่จำเป็น จะได้หาสาเหตุเจอ ถ้าไฟล์เสียหรือคอมขึ้นเตือนว่าหาไฟล์ไม่เจอ ให้แก้ disk errors ของฮาร์ดไดรฟ์ น่าจะช่วยได้ บทความวิกิฮาวนี้ไม่ได้แนะนำวิธีการลบไฟล์ระบบ เพราะเสี่ยงทำคอมเจ๊งได้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่เชี่ยวชาญ
ขั้นตอน
-
เปิด Start . คลิกโลโก้ Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ แล้วเมนู Start จะโผล่มา
-
คลิก Power . มุมซ้ายล่างของเมนู Start แล้วเมนู pop-up จะโผล่มา
-
กด ⇧ Shift ค้างไว้ แล้วคลิก Restart . คอมจะรีสตาร์ทตามปกติ แต่อย่าเพิ่งปล่อยปุ่ม Shift จนกว่าจะถึงขั้นตอนถัดไป
-
เลิกกด ⇧ Shift ตอนจอฟ้า. พอจอฟ้า ก็ปล่อยปุ่ม Shift แล้วทำขั้นตอนต่อไปได้เลย
-
คลิก Troubleshoot . ตรงกลางหน้าจอ
-
คลิก Advanced options . ที่อยู่ตรงกลางหน้าจอ
-
คลิก Startup Settings . ที่เป็นตัวเลือกทางขวาของหน้า
-
คลิก Restart . ทางด้านล่างของหน้าจอ
-
กดปุ่มเข้า "Safe Mode". ปกติปุ่มที่ว่าคือ 4 แต่ให้เช็คปุ่มที่ถูกต้อง โดยดูเลขที่ขึ้นทางซ้ายของตัวเลือก "Safe Mode" พอกดปุ่มที่ว่าแล้ว คอมจะรีสตาร์ทเข้า Safe Mode
- ถ้ากด 4 แล้วไม่ได้ผล ให้ลองกด F4 (อาจจะต้องกด Fn ค้างไว้ ตอนกด F4 ) [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Microsoft Support ไปที่แหล่งข้อมูล
-
หาไฟล์ที่จะลบ. พอคอมรีสตาร์ทแล้ว ให้ไปยังตำแหน่งที่มีไฟล์ที่จะลบ
-
เลือกไฟล์. คลิกเลือกไฟล์ที่จะลบ
-
กด Del . เพื่อย้ายไฟล์ไปอยู่ในถังขยะ หรือ Recycle Bin
- ถ้ายังลบไฟล์ที่เลือกไม่ได้ อาจจะต้อง ซ่อมฮาร์ดไดรฟ์ของคอม ก่อน แล้วค่อยลองลบไฟล์ดูอีกรอบ
-
ลบไฟล์ใน Recycle Bin. พอย้ายไฟล์ที่ว่าลงถังขยะหรือ Recycle Bin แล้ว ก็ทำขั้นตอนด้านล่างเพื่อลบไฟล์จากเครื่อง Windows แบบถาวรได้เลย
- คลิกขวาที่ไอคอน Recycle Bin
- คลิก Empty Recycle Bin ในเมนูที่ขยายลงมา
- คลิก Yes ตอนที่ขึ้น
-
รีสตาร์ทคอม. ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อออกจาก Safe Mode
- คลิก Start
- คลิก Power
- คลิก Restart
โฆษณา
-
เปิดเมนู Apple . คลิกโลโก้ Apple มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Restart… . ในเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Restart Now ตอนที่ขึ้น. เพื่อให้ Mac รีสตาร์ท
-
กด ⇧ Shift ค้างไว้. โดยรีบกดทันทีหลังคลิก Restart Now และกดค้างไว้จนถึงขั้นตอนถัดไป
-
ปล่อยปุ่ม ⇧ Shift ที่หน้าต่างล็อกอิน. เพื่อให้ Mac บูทเครื่องเข้า Safe Mode ไม่ใช้ boot settings ปกติ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หาไฟล์ที่จะลบ. ไปยังตำแหน่งที่มีไฟล์ที่จะลบ
-
เลือกไฟล์. คลิกเลือกไฟล์ที่จะลบ
- ถ้าอยากลบทีละหลายไฟล์ในตำแหน่งเดียว ให้กด ⌘ Command ค้างไว้ แล้วคลิกเลือกแต่ละไฟล์ที่จะลบ
-
คลิก File . ทางด้านบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Move to Trash . ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อย้ายไฟล์ลงถังขยะ หรือ Trash
- ถ้ายังลบไฟล์ที่เลือกไม่ได้ อาจจะต้อง ซ่อมฮาร์ดไดรฟ์ของ Mac ก่อน แล้วค่อยลองลบไฟล์ดูอีกรอบ
-
ลบไฟล์ใน Trash. พอย้ายไฟล์ที่ว่าลงถังขยะหรือ Trash แล้ว ก็ทำขั้นตอนด้านล่างเพื่อลบไฟล์จากเครื่อง Mac แบบถาวรได้เลย
- คลิกไอคอน Trash ค้างไว้
- คลิก Empty Trash ในเมนูที่โผล่มา
- คลิก Empty ตอนที่ขึ้น
-
รีสตาร์ท Mac. ทำขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อออกจาก Safe Mode
- คลิก Apple menu
- คลิก Restart...
- คลิก Restart Now ตอนที่ขึ้น
โฆษณา
-
ปิดไฟล์ที่เปิดอยู่. เวลาจะ repair หรือแก้ disk errors ของ Windows ควร (ไม่บังคับ) ปิดไฟล์ไหนที่เปิดอยู่ซะก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเพิ่มเติม
-
เปิด This PC. คลิกหรือดับเบิลคลิกไอคอน This PC ที่เป็นรูปหน้าจอคอม
- ถ้า This PC ไม่อยู่ที่หน้า desktop หรือในเมนู Start ให้พิมพ์ this pc ใน Start แล้วคลิก This PC ทางด้านบนของผลการค้นหา
-
เลือกฮาร์ดไดรฟ์ของคอม. คลิกเลือกฮาร์ดไดรฟ์ (ปกติจะเขียนว่า OS (C:) ) ล่างหัวข้อ "Devices and drives"
- คุณดับเบิลคลิกขยายหัวข้อ "Devices and drives" ออกมาได้ ถ้าไม่เจอรายชื่อฮาร์ดไดรฟ์
- ถ้าในคอมมีมากกว่า 1 ฮาร์ดไดรฟ์ ให้คลิกฮาร์ดไดรฟ์ที่มีไฟล์ที่จะลบ
-
คลิกขวาที่ฮาร์ดไดรฟ์. แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Properties . ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง pop-up
-
คลิก tab Tools . ทางด้านบนของหน้าต่าง pop-up
-
คลิก Check . ทางด้านบนของหน้าต่าง
-
คลิก Scan drive ตอนที่ขึ้น. เพื่อให้ Windows เริ่มสแกนฮาร์ดไดรฟ์หา error
- ถ้า Windows สแกนเจอ error ก็จะ repair อัตโนมัติ (ถ้าทำได้)
-
อนุญาตให้สแกน. ใช้เวลาตั้งแต่หลายนาที ไปจนถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของฮาร์ดไดรฟ์ที่เลือก รวมถึงจำนวนของ error
-
ลองลบไฟล์ดูอีกรอบ. พอแก้ error ในฮาร์ดไดรฟ์แล้ว ก็น่าจะลบไฟล์ (ที่ตอนแรกลบไม่ได้เพราะ error ในฮาร์ดไดรฟ์) ได้แล้ว
- อาจจะยังต้อง เข้า Safe Mode เวลาจะลบไฟล์ ถ้ามีโปรแกรมหรือ service ไหนใช้ไฟล์นั้นอยู่
- ถ้าสรุปแล้วก็ยังลบไฟล์ไม่ได้ แสดงว่าไฟล์ถูก user ไหนล็อคไว้ หรือเป็นไฟล์ระบบที่จำเป็น ไม่ว่าด้วยสาเหตุไหนที่ว่ามา ก็จะลบไฟล์นั้นไม่ได้อยู่ดี
โฆษณา
-
เปิดเมนู Apple . คลิกโลโก้ Apple ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Restart… . ในเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Restart Now ตอนที่ขึ้น. เพื่อรีสตาร์ท Mac
-
กด ⌘ Command กับ R ค้างไว้. ทันทีหลังคลิก Restart Now และกดค้างไว้จนกว่าจะถึงขั้นตอนถัดไป
-
ปล่อยปุ่มได้ถ้าโลโก้ Apple โผล่มา. เมนู Recovery จะเปิดขึ้นมา
- อาจจะต้องรอ 2 - 3 นาที กว่าเมนู Recovery จะโผล่มา
-
คลิก Disk Utility . ที่กลางหน้าจอ
-
คลิก Continue . ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อเปิดหน้าต่าง Disk Utility
-
คลิก View . ที่เป็นเมนูทางด้านบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Show All Devices . ในเมนูที่ขยายลงมา แล้วจะเห็นรายชื่อ storage เก็บข้อมูลต่างๆ ใน Mac โผล่มาทางซ้ายของหน้าจอ
-
เลือกฮาร์ดไดรฟ์ของ Mac. คลิกเลือกฮาร์ดไดรฟ์ของ Mac ในกรอบทางซ้าย
- ถ้า Mac มีมากกว่า 1 ฮาร์ดไดรฟ์ ต้องเช็คให้ดีว่าคลิกเลือกฮาร์ดไดรฟ์ที่มีไฟล์ที่จะลบ
-
คลิก Run ตอนที่ขึ้น. เพื่อให้ Disk Utility เริ่มสแกนและ repair หรือซ่อมแซมแก้ไขข้อผิดพลาดและ error ต่างๆ ในฮาร์ดไดรฟ์ของ Mac
-
ลบไฟล์ตอนที่ขึ้น. ถ้า Disk Utility ขึ้นเตือน error "overlapped extent allocation" จะมีให้เลือกทำขั้นตอนต่อไป กรณีนี้คุณก็เลือกลบไฟล์ที่เสียหายจากในรายการที่เกี่ยวข้องได้เลย ถ้าเห็นไฟล์ที่จะลบในรายการ ก็เลือกเพื่อลบก่อนทำขั้นตอนต่อไป
-
รีสตาร์ท Mac. พอ Disk Utility ทำงานเสร็จ ก็รีสตาร์ท Mac ได้เลย โดยคลิก Apple menu คลิก Restart... แล้วคลิก Restart Now ตอนที่ขึ้น
-
ลองลบไฟล์อีกรอบ. พอแก้ปัญหาในฮาร์ดไดรฟ์แล้ว ก็น่าจะลบไฟล์ (ที่ตอนแรกลบไม่ได้เพราะ error ในฮาร์ดไดรฟ์) ได้แล้ว
- อาจจะยังต้อง เข้า Safe Mode เวลาจะลบไฟล์ ถ้าโปรแกรมตั้งต้นของเครื่องต้องใช้ไฟล์นั้นตลอด
- ถ้าสรุปแล้วก็ยังลบไฟล์ไม่ได้ แสดงว่าไฟล์ถูก user ไหนล็อคไว้ หรือเป็นไฟล์ระบบที่จำเป็น ไม่ว่าด้วยสาเหตุไหนที่ว่ามา ก็จะลบไฟล์นั้นไม่ได้อยู่ดี
โฆษณา
เคล็ดลับ
- Safe Mode จะปิดการทำงานของโปรแกรมและ service ส่วนใหญ่ในคอม เพื่อให้แน่ใจว่าไม่รบกวน process อย่างการลบไฟล์ที่ลบไม่ได้สักที
- ไฟล์ระบบ (system-level files) อย่างไฟล์ DLL ของคอม Windows เป็นตัวทำให้คอมทำงานได้และมีหน้าตาอย่างที่คุณเห็นในหน้าจอ
โฆษณา
คำเตือน
- ลบไฟล์ระบบแล้ว คอมเจ๊ง แน่นอน ถ้าไม่ลงระบบปฏิบัติการใหม่ ก็ต้องซื้อคอมใหม่ยกเครื่องเลย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,481 ครั้ง
โฆษณา