ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การจัดการเก็บกวาดห้องที่แสนรกให้สะอาดอาจดูเหมือนเป็นงานยากและเกินกำลังที่จะทำไหวในตอนแรก แต่ยิ่งเราลงมือทำเร็วเท่าไร เราก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น! ก่อนอื่นจัดข้าวของที่วางระเกะระกะแยกออกเป็นกองๆ และเก็บของแต่ละกองเข้าที่ให้เรียบร้อย เมื่อห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ปัดกวาดหรือดูดฝุ่นให้ทั่วเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกให้หมด ห้องจะได้สะอาดแวววาว พยายามเก็บกวาดทำความสะอาดห้องจนเป็นกิจวัตรและหาเวลาสักเล็กน้อยในแต่ละคืนเก็บกวาดห้องให้สะอาดและจัดข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนเข้านอน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เก็บและแยกข้าวของในห้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อต้องทำความสะอาดห้องที่รกมาก! เรามักจะรู้สึกท้อแท้ได้ง่าย กำหนดก่อนว่าเราจะทำความสะอาดส่วนใดของห้องให้เสร็จและจะทำความสะอาดภายในระยะเวลาเท่าไรอย่างเช่น ทำความสะอาดเฉพาะชั้นวางของ โต๊ะ หรือมุมใดมุมหนึ่งก่อนเราต้องกำหนดด้วยว่าจะพักกี่นาทีและพักช่วงใดบ้างเพื่อให้ตนเองมีกำลังใจที่จะทำความสะอาดห้องให้เสร็จ [1]
    • ถ้าห้องนั้นรกมากหรือเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำความสะอาดให้เอี่ยมทั้งห้อง ให้แบ่งการทำความสะอาดออกเป็นส่วนๆ และทำความสะอาดแต่ละส่วนให้เสร็จภายในสองสามวันก็ได้
    • ตัวอย่างเช่น เราอาจเลือกเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นก่อน พอเสร็จแล้ว ก็ย้ายมาทำความสะอาดตู้ลิ้นชัก จากนั้นทำความสะอาดโต๊ะข้างเตียงเป็นอย่างสุดท้าย
  2. รวบรวมเสื้อผ้าที่สกปรกและยังไม่ได้ซักใส่ลงในตะกร้าผ้า. ดูสิว่าในห้องมีเสื้อผ้าที่สกปรกและยังไม่ได้ซักบ้างไหม ถ้ามี นำมาใส่ในตะกร้าผ้าให้หมด ในตอนที่สำรวจห้องเราอาจเห็นว่ามีเสื้อผ้าสกปรกอยู่บนพื้นหรือเห็นว่าถึงเวลาต้องซักผ้าปูเตียงแล้ว ถ้าเสื้อผ้าเยอะจนล้นตะกร้า ให้นำตะกร้ามาเพิ่มอีกใบหรือนำถุงมาใส่เสื้อผ้าที่ล้นออกมาก็ได้ [2]
    • เราไม่ต้องแยกเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักในตอนนี้ แค่เก็บเสื้อผ้าทั้งหมดใส่ตะกร้าเท่านั้น
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    NW Maids

    ผู้ก่อตั้ง NW Maids
    อิลย่า ออร์นาตอฟเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของ NW Maids ผู้ให้บริการเรื่องการทำความสะอาดในซีแอตเทิล วอชิงตัน อิลย่าก่อตั้ง NW Maids ในปี 2014 โดยเน้นที่ราคาเหมาะสม จองเวลาได้ง่ายทางออนไลน์ และบริการทำความสะอาดครบวงจร
    NW Maids
    ผู้ก่อตั้ง NW Maids

    แยกเสื้อผ้าที่สกปรกออกจากเสื้อผ้าที่สะอาด "พอเราแยกเสื้อผ้าที่สกปรกออกมาหมดแล้ว นำเสื้อผ้าสกปรกใส่ในตะกร้า นำเสื้อผ้าที่สะอาดมาพับแล้วเก็บใส่ในตู้เสื้อผ้า"

  3. แค่นำขยะทั้งหมดออกไปทิ้ง เราก็จะเบาแรงเวลาทำความสะอาดห้องลงไปเยอะ วางถังขยะไว้ข้างๆ ตัว เมื่อเห็นขยะอยู่ตรงไหนของห้อง ให้เก็บทิ้งลงถังขยะทันที เราสามารถนำขยะไปรีไซเคิลได้ ถ้าเป็นไปได้ แต่ถ้าขยะนั้นไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ก็ให้ทิ้งลงถังขยะไปเลย [3]
    • ถ้าเราไม่แน่ใจว่าอยากเก็บของชิ้นใดชิ้นหนึ่งไว้ไหม ให้เก็บของชิ้นนั้นเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งเสียเวลาตัดสินใจ เราสามารถกลับมาคิดดูอีกครั้งในภายหลังได้เสมอ
  4. หากมีจานที่ยังไม่ได้ล้างวางกองอยู่ในห้อง ห้องก็จะยิ่งรกและสกปรกไปกันใหญ่ หากพบจาน ชาม ถ้วย และช้อนส้อมที่ยังไม่ได้ล้างอยู่ในห้อง ให้นำมาวางรวมกันไว้ในอ่างล้างจาน วางจานซ้อนกันให้เรียบร้อย หลังจากทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วเราจะได้ล้างจานเป็นงานต่อไป [4]
    • การเอาจานที่ยังไม่ได้ล้างออกไปจะช่วยให้ห้องมีกลิ่นที่หอมสะอาดและสดชื่น
  5. นำข้าวของที่เป็นของในห้องนั้นมาแยกประเภทออกเป็นกลุ่มต่างๆ แต่อย่าเพิ่งเก็บเข้าที่. ขณะที่เรากำลังเก็บข้าวของอยู่นั้น ให้นำข้าวของที่เป็นของในห้องนั้นมาแยกประเภทออกเป็นกลุ่มต่างๆ ประเภทของกลุ่มข้าวของอาจได้แก่ รองเท้า เสื้อผ้าที่ซักแล้ว หนังสือ ของเล่น เอกสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เราสามารถนำข้าวของต่างๆ มาแยกประเภทออกเป็นกลุ่มย่อยได้อีก เช่น หนังสือที่อยู่บนชั้นหนังสือ หนังสือที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง เสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ลิ้นชัก [5] เป็นต้น
    • อย่าเพิ่งจัดสิ่งของเข้าที่ ให้แยกข้าวข้องออกเป็นประเภทต่างๆ ก่อนแล้วค่อยจัดเข้าที่ในภายหลัง
  6. นำของจิปาถะซึ่งไม่ได้เป็นของในห้องนั้นใส่ลงในกล่อง. นำกล่องพลาสติกหรือลังกระดาษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เรามีมาวางไว้ข้างตัวขณะเก็บข้าวของภายในห้อง นำข้าวของที่ไม่ได้เป็นของในห้องนั้นใส่ลงในกล่องเพื่อไว้จัดการทีหลัง ของเหล่านี้อาจจะได้แก่ ใบเสร็จ หนังสือ เครื่องสำอาง และนิตยสาร เป็นต้น
    • เราไม่จำเป็นต้องนำของที่อยู่ในลิ้นชักและตู้มาแยกประเภทว่าของสิ่งไหนควรเก็บและของสิ่งไหนควรทิ้ง แค่แยกประเภทข้าวของที่เราเห็นได้ชัดเจนก่อน ค่อยแยกประเภทข้าวของในลิ้นชักและตู้รกๆ ภายหลัง [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

จัดห้องให้เป็นระเบียบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นำเสื้อผ้าที่ซักแล้วและรองเท้าที่สะอาดมาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า. นำเสื้อผ้าที่ซักแล้วมาใส่ไม้แขวนเสื้อแล้วจากนั้นแขวนเสื้อผ้าเรียงกันในตู้ให้เป็นระเบียบ หรือเราจะนำเสื้อผ้ามาพับให้เรียบร้อยแล้วเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าก็ได้ เราต้องจัดเสื้อผ้าเข้าตู้โดยแบ่งตามประเภทต่างๆ อย่างเช่น เสื้อที-เชิ้ต กางเกงขาสั้น และเสื้อกันหนาว เราจะได้หาทุกอย่างเจอได้ง่าย เก็บรองเท้าทุกคู่ไว้ที่พื้นตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางรองเท้า [7]
    • ถ้ามีเสื้อผ้าที่เราไม่ค่อยได้ใส่บ่อยนักและในตู้เสื้อผ้าไม่มีพื้นที่เหลือเท่าไร เราอาจเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นไว้ในกล่องใส่ของ และนำกล่องนั้นเก็บไว้ที่ใต้เตียงอีกที
  2. เก็บหนังสือเข้าชั้นหรือเก็บไว้ในกล่องใส่ของ. เก็บหนังสือที่เราอ่านบ่อยๆ ไว้ในบริเวณที่เอื้อมถึงง่ายและเก็บหนังสือที่นานๆ จะอ่านสักครั้งไว้ในบริเวณอื่น เราอาจจัดเรียงหนังสือตามชื่อผู้แต่ง ความสูง หรือสีก็ได้ เราอาจจัดเรียงหนังสือที่อยู่หมวดเดียวกันลงในกล่องใส่ของหรือตะกร้าแล้วนำไปวางไว้บนชั้นหนังสือก็ได้ [8]
    • ถ้าหนังสือเหล่านั้นเป็นหนังสือที่เด็กๆ ชื่นชอบ ให้เก็บหนังสือเหล่านั้นใส่ตะกร้า เด็กๆ จะได้หยิบอ่านได้ง่าย [9]
  3. เก็บของเล่นทั้งหมดไว้ในกล่องเก็บของหรือกล่องธรรมดาที่หยิบได้ง่าย. แยกของเล่นออกเป็นประเภทต่างๆ อย่างเช่น ตุ๊กตารูปนคน แอ็คชั่นฟิกเกอร์ ตัวต่อ บล็อก ตุ๊กตารูปสัตว์ และอุปกรณ์งานฝีมือ เป็นต้น เก็บของเล่นประเภทเดียวกันเอาไว้ด้วยกัน เด็กจะได้หาของเล่นที่ต้องการเจอได้ง่าย ตัวอย่างเช่น เก็บตุ๊กตารูปสัตว์ไว้ในตะกร้าใบใหญ่แล้ววางไว้บนพื้น เก็บตัวต่อและบล็อกไว้ในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่แล้วนำกล่องนั้นไปเก็บไว้ใต้เตียง [10]
    • อาจเก็บตุ๊กตารูปคนและแอ็คชั่นฟิกเกอร์ไว้ในตะกร้าเก็บของแล้ววางไว้บนชั้น อาจเก็บอุปกรณ์งานฝีมือใส่กล่องแล้วนำไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า
    • ควรมีการกำหนดสถานที่เก็บของเล่นแต่ละชิ้นเอาไว้ จะได้ช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะเก็บของเล่นเข้าที่เดิม
  4. นำของจิปาถะซึ่งไม่ได้เป็นของในห้องนั้นกลับไปวางไว้ที่เดิม. เก็บของเหล่านี้ไว้ในกล่องธรรมดาหรือกล่องใส่ของขนาดใหญ่แล้วนำกลับไปวางไว้ที่เดิม ถ้าเราบังเอิญเจอของที่เราไม่จำเป็นต้องมีหรือไม่ต้องการอีกแล้ว จะบริจาค รีไซเคิล หรือนำไปทิ้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ของห้องให้มากขึ้นอีกนิดก็ได้ [11]
    • เราต้องนำของจิปาถะกลับไปวางไว้ที่เดิมจริงๆ ไม่ใช่แค่นำไปกองไว้ในห้องอีกห้องหนึ่ง เพราะถ้าเราแค่นำไปกองไว้ ห้องนั้นก็จะกลายเป็นห้องที่รกรุงรังต่อไปและเราต้องเข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดอีกในคราวหน้า
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำความสะอาดห้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฝุ่นจะสะสมอยู่บนพัดลมเพดานได้ง่ายมาก! ฉีดน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ใส่ผ้าที่สะอาดหรือกระดาษชำระอเนกประสงค์ จากนั้นเช็ดทำความสะอาดใบพัดโดยเริ่มจากใจกลางแกนพัดลมไปจนถึงปลายใบพัด วิธีทำความสะอาดพัดลมเพดานอีกวิธีหนึ่งคือใช้ไม้ปัดฝุ่นไฟฟ้าสถิตย์ปัดฝุ่นออกจากพัดลมเพดาน [12]
    • ปิดพัดลมก่อนทำความสะอาดเสมอ
  2. ปิดโคมไฟก่อนที่จะเริ่มเช็ดฝุ่นออก มือจะได้ไม่โดนลวก จากนั้นถือผ้านุ่มๆ ไว้แล้วขึ้นไปยืนอยู่บนเตียงหรือเก้าอี้ ใช้ผ้าเช็ดภายในและภายนอกของโคมไฟเพื่อเอาฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ออก [13]
    • ถ้าจะเช็ดโคมไฟบนเพดานที่อยู่เหนือเตียงนอน เราไม่ต้องดึงผ้าปูที่นอนออก เพราะหากมีฝุ่นหรือใยแมงมุมตกลงบนที่นอน หลังจากเช็ดทำความสะอาดโคมไฟเสร็จแล้ว ให้ดึงผ้าปูที่นอนออกไปซักได้เลย
  3. นำผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดชุบน้ำอุ่นเล็กน้อย ขัดถูกระจกเงาเป็นวงกลมเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกให้หมด ถ้ามีคราบที่หลุดออกยาก ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาล้างจานในปริมาณเล็กน้อยแล้วขัดถูคราบจนหลุดออก [14]
    • น้ำที่หลงเหลืออยู่บนกระจกอาจก่อให้เกิดคราบน้ำบนกระจกได้ ถ้าสังเกตเห็นว่ามีน้ำหลงเหลืออยู่บนกระจก ใช้ผ้าโครไฟเบอร์เช็ดน้ำออกให้หมด
  4. การมีกระจกหน้าต่างที่ใสจะทำให้ห้องดูสว่างขึ้น หยิบผ้าไมโครไฟเบอร์ขึ้นมาแล้วฉีดน้ำยาเช็ดกระจกไปที่กระจกหน้าต่าง ใช้ผ้าเช็ดกระจกหน้าต่างเพื่อเอาฝุ่น สิ่งสกปรก หรือคราบต่างๆ ออก ใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่ออกให้หมดเพื่อกระจกหน้าต่างจะได้ไม่มีคราบน้ำเหลืออยู่! [15]
    • อย่าใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดกระจกหน้าต่างเพราะหมึกอาจซึมออกมาได้
  5. ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดมู่ลี่และนำผ้าม่านไปซัก. ปิดมู่ลี่แล้วเปลี่ยนหัวดูดฝุ่นเป็นหัวแปรง เคลื่อนหัวดูดฝุ่นไปตามแผ่นมู่ลี่ทีละแผ่นเพื่อดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกให้หมด จากนั้นพลิกมู่ลี่ไปอีกด้านหนึ่งแล้วเคลื่อนหัวดูดฝุ่นไปตามแผ่นมู่ลี่เหมือนเดิม [16]
    • เราจะปัดหรือเช็ดฝุ่นออกจากแผ่นมู่ลี่ทีละแผ่นก็ได้ แต่อาจใช้เวลานานหน่อย
    • ถ้าเราติดผ้าม่าน ให้ถอดออกและซัก (ทำตามคำแนะนำที่ป้ายระบุวิธีดูแลรักษาบอก) ทุกๆ 2-3 เดือน
  6. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นที่อยู่ตามพื้นผิวต่างๆ เช่น โต๊ะ ธรณีหน้าต่าง และตู้ออกให้หมด เริ่มเช็ดทำความสะอาดโดยเริ่มจากบริเวณพื้นผิวที่อยู่สูงไล่ลงมาสู่บริเวณพื้นผิวที่อยู่ต่ำ การเช็ดทำความสะอาดจากที่สูงไปที่ต่ำจะช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นกลับมาสะสมในบริเวณที่เราเช็ดทำความสะอาดไปแล้ว [17]
    • อย่าลืมเช็ดฝุ่นออกจากผลงานศิลปะ อุปกรณ์ต่างๆ กรอบประตู และกระจกเงา [18]
  7. หลังจากเช็ดฝุ่นออกหมดแล้ว ให้เช็ดพื้นผิวทั้งหมดอีกครั้งเพื่อให้ดูสะอาดแวววาวยิ่งขึ้น!. หยิบผ้าไมโครไฟเบอร์แล้วฉีดน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ในปริมาณเล็กน้อยไปที่พื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด ใช้ผ้าเช็ดถูพื้นผิวเป็นวงกลมเล็กๆ การเช็ดถูพื้นผิวหลังจากเช็ดฝุ่นออกหมดแล้วจะช่วยให้ห้องสะอาดแวววาวยิ่งขึ้น [19]
    • ถ้ามีคราบที่หลุดออกยากหรือฝังแน่น ให้ปล่อยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ทิ้งไว้ 2-3 นาทีก่อนเช็ดออก
  8. ตอนนี้พื้นห้องไม่มีอะไรวางระเกะระกะอีกแล้ว ได้เวลาขจัดฝุ่นกับสิ่งสกปรกบนพื้นและทำให้พื้นสะอาดเอี่ยม! เครื่องดูดฝุ่นสามารถนำมาใช้ทำความสะอาดพื้นได้ทุกประเภท แต่ไม้กวาดและไม้ถูพื้นไม่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดพื้นปูพรมได้ เราต้องทำความสะอาดพื้นใต้เฟอร์นิเจอร์อย่างเช่น เตียง โต๊ะ และโซฟา เพราะเป็นบริเวณที่ฝุ่นจับได้ง่าย [20]
    • เราอาจต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้พ้นทางเพื่อจะได้กวาดและถูหรือดูดฝุ่นพื้นได้อย่างทั่วถึง
    • ถ้าเราถูพื้นเสร็จแล้ว ปล่อยให้พื้นแห้งก่อน อย่าเพิ่งเดินบนพื้นบริเวณนั้น
  9. แยกผ้าในตะกร้าผ้าและเริ่มซักไปทีละกองจนหมด เมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว ใช้เครื่องอบผ้าหรือนำผ้าไปตากแดดให้แห้ง เมื่อผ้าแห้งหมดแล้ว พับผ้าทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ถ้าเป็นพวกชุดเดรส เสื้อแจ็กเกต และเสื้อเชิ้ต ให้ใส่ไม้แขวนเสื้อแล้วแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า ถ้าเป็นพวกเสื้อที-เชิ้ต ถุงเท้า และกางเกงขายาว ให้พับแล้วเก็บในไว้ตู้ลิ้นชัก [21]
    • อย่าลืมนำตะกร้ากลับไปวางไว้ที่เดิมด้วยเมื่อซักและตากผ้าเสร็จแล้ว
  10. ล้างจานที่เรารวบรวมไว้ในอ่างล้างจานก่อนหน้านี้ เราจะล้างจานทั้งหมดด้วยตนเองหรือใช้เครื่องล้างจานก็ได้ เมื่อล้างจานเสร็จแล้ว นำผ้าสำหรับเช็ดจานมาเช็ดจานชามให้แห้ง นำจานกลับไปคว่ำไว้ที่ชั้นวางจานในครัว เราต้องคว่ำจานและชามซ้อนกันไว้บนชั้นให้เรียบร้อย [22]
    • อย่านำอาหารมากินในห้อง จะได้ไม่เผลอวางจานชามทิ้งเอาไว้ ให้กินอาหารในห้องครัว ห้องกินข้าว หรือห้องนั่งเล่นแทน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

รักษาความสะอาดของห้องอย่างสม่ำเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำความสะอาดห้องทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้ห้องรก. ถ้าห้องเริ่มรกแค่เล็กน้อย เราจะสามารถเก็บกวาดและทำความสะอาดได้ง่ายกว่าตอนที่ปล่อยทิ้งไว้จนรกมาก เราควรจัดตารางซักผ้าและตากผ้า รวมทั้งล้างจานชามต่างๆ เมื่อกินอาหารเสร็จแล้ว ถ้าสังเกตเห็นว่าห้องเริ่มรกแล้ว ให้เก็บกวาดทำความสะอาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าปล่อยให้ห้องรกหนักไปกว่านี้ ไม่อย่างนั้นจะทำความสะอาดห้องได้ยากลำบาก [23]
    • เริ่มจากการเก็บของให้เป็นที่เป็นทางเล็กๆ น้อยๆ ก็ถือว่าเป็นการทำความสะอาดห้องไปในตัวแล้ว เช่น วางรองเท้าไว้บนชั้นหรือในตู้วางรองเท้า นำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปใส่ในตะกร้าผ้า เป็นต้น [24]
  2. กำหนดว่าในแต่ละวันจะทำอะไรบ้างสัก 1-3 อย่างเพื่อเป็นการทำความสะอาดห้อง. ดูสิว่าในแต่ละวันเรามีเวลาทำความสะอาดห้องมากเท่าไรและกำหนดว่าจะทำอะไรบ้างสักสองสามอย่างเพื่อเป็นการทำความสะอาดห้อง เช่น เช็ดโต๊ะ ดูดฝุ่นใต้เตียง หรือเช็ดกระจกเงา แต่อย่ากำหนดให้ตนเองต้องทำงานหลายอย่างเยอะเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกท้อแท้ได้ [25]
    • การทำความสะอาดแม้แต่ส่วนเล็กๆ ของห้องเสร็จสักหนึ่งส่วนในแต่ละวันก็ช่วยให้ทั้งบ้านยังคงสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยได้
  3. ใช้เวลา 5-10 นาทีจัดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนนอน. การจัดห้องสักเล็กน้อยก่อนเข้านอนจะง่ายกว่าการจัดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในตอนเช้า เราอาจใช้เวลาก่อนนอนจัดห้องสักเล็กน้อย เช่น เก็บของเล่นไปวางไว้ที่เดิม เอาขยะออกไปทิ้ง นำของที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงกลับไปเก็บเข้าที่เดิม [26]
    • เราไม่ต้องทำความสะอาดใหญ่ตอนนี้ เพราะการทำความสะอาดไปทีละเล็กทีละน้อยจะทำให้ห้องของเราค่อยๆ สะอาดขึ้นเรื่อยๆ! เราสามารถทำความสะอาดห้องไปทีละเล็กทีละน้อยได้ เช่น เก็บหนังสือเข้าที่ พับผ้า หรือเช็ดฝุ่นออกจากพื้นผิวต่างๆ ไปทีละจุด
  4. ถึงแม้การเก็บที่นอนจะดูเหมือนยุ่งยากวุ่นวาย แต่ก็ทำให้ห้องนอนของเราเป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้เวลาไม่กี่นาทีดึงผ้าปูเตียงให้ตึง พับผ้าห่ม และจัดวางหมอนให้เข้าที่เข้าทาง [27]
    • การลดเครื่องนอนจะทำให้เราเห็นว่าการเก็บที่นอนไม่ใข่เรื่องยุ่งยากอะไร ตัวอย่างเช่น เราอาจใช้แค่ผ้านวมแบบซักได้ในการคลุมเตียงแทนการใช้ผ้าหุ้มที่นอน นำพวกหมอนอิงออกจากเตียงเพื่อจะได้เก็บที่นอนได้เร็วขึ้น
  5. มอบหมายงานบ้านที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดให้แต่ละคนรับผิดชอบ. การรักษาบริเวณต่างๆ ให้สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอนั้นจะง่ายขึ้นเมื่อเรามีคนช่วย ไม่ว่าจะแค่ห้องเพียงห้องเดียวหรือทั้งบ้านก็ตาม มอบหมายงานบ้านให้คนในบ้านทำคนละสองสามอย่าง ฝึกเด็กเล็กให้เก็บของเล่นและรองเท้าเข้าที่ ฝึกเด็กโตให้ทำความสะอาดบ้านและเก็บที่นอน [28]
    • เราอาจเขียนรายการงานบ้านที่ต้องทำในแต่ละวันและติดไว้ในบริเวณที่ทุกคนมองเห็น ทุกคนจะได้รู้อย่างชัดเจนว่าใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
    โฆษณา

คำเตือน

  • จานและเสื้อผ้าที่ใช้แล้วอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน โดยไม่ทำความสะอาด ก็จะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์รา แมลง และแบคทีเรีย [29]
โฆษณา
  1. https://www.cleanandscentsible.com/kids-bedroom-organization-2/
  2. https://www.thehairpin.com/2012/01/ask-a-clean-person-tackling-a-major-clean-up-part-one/
  3. https://www.bhg.com/homekeeping/house-cleaning/tips/how-to-clean-a-bedroom/
  4. https://www.apartmenttherapy.com/how-to-clean-your-bedroom-thoroughly-and-efficiently-a-quick-easy-guide-221947
  5. https://www.idealhome.co.uk/care-and-cleaning/how-to-clean-mirrors-202124
  6. https://www.apartmenttherapy.com/how-to-clean-your-bedroom-thoroughly-and-efficiently-a-quick-easy-guide-221947
  7. https://www.apartmenttherapy.com/how-to-clean-your-bedroom-thoroughly-and-efficiently-a-quick-easy-guide-221947
  8. https://www.thehairpin.com/2012/01/ask-a-clean-person-tackling-a-major-clean-up-part-one/
  9. https://www.apartmenttherapy.com/how-to-clean-your-bedroom-thoroughly-and-efficiently-a-quick-easy-guide-221947
  10. https://www.thehairpin.com/2012/01/ask-a-clean-person-tackling-a-major-clean-up-part-one/
  11. https://www.apartmenttherapy.com/how-to-clean-your-bedroom-thoroughly-and-efficiently-a-quick-easy-guide-221947
  12. https://www.thehairpin.com/2012/01/ask-a-clean-person-tackling-a-major-clean-up-part-one/
  13. https://www.thehairpin.com/2012/01/ask-a-clean-person-tackling-a-major-clean-up-part-one/
  14. https://www.cleanandscentsible.com/11-daily-habits-to-keep-a-house-clean-and-tidy/
  15. https://www.lifestorage.com/blog/organization/how-to-keep-house-clean/
  16. https://www.cleanandscentsible.com/11-daily-habits-to-keep-a-house-clean-and-tidy/
  17. https://www.cleanandscentsible.com/11-daily-habits-to-keep-a-house-clean-and-tidy/
  18. https://www.cleanandscentsible.com/11-daily-habits-to-keep-a-house-clean-and-tidy/
  19. https://www.cleanandscentsible.com/11-daily-habits-to-keep-a-house-clean-and-tidy/
  20. https://www.webmd.com/parenting/features/teen-bedroom#1

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,280 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา