ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คุณจำเป็นต้องเก็บปัสสาวะไว้เผื่อการตรวจหาสารเสพติดในอนาคต คุณอาจจะขอให้เพื่อนช่วยและเก็บตัวอย่างปัสสาวะที่ไร้สารเสพติดของเพื่อน หรือคุณอาจจะอยากเก็บตัวอย่างปัสสาวะที่ไม่มีสารเสพติดของคุณไว้ใช้ในอนาคตก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเก็บปัสสาวะของตัวเองหรือของคนอื่น ยิ่งคุณใช้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เก็บตัวอย่างปัสสาวะไว้ในภาชนะสุญญากาศ และแช่ปัสสาวะที่คุณยังไม่ใช้ภายใน 1 ชั่วโมงไว้ในตู้เย็นหรือช่องฟรีซ จากนั้นก็แค่ทำให้ปัสสาวะกลับไปอยู่ที่อุณหภูมิร่างกายสำหรับนำไปใช้วันหลัง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

เก็บปัสสาวะให้ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เก็บตัวอย่างใกล้กับวันและเวลาที่จะตรวจสารเสพติดให้ได้มากที่สุด. ปัสสาวะจะเริ่มรวมตัวกับออกซิเจนและสลายตัวทันทีที่ออกจากร่างกาย ทำให้มีสีเข้มขึ้นและกลิ่นแรงขึ้น ยิ่งคุณปัสสาวะทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสนำไปใช้ตรวจหาสารเสพติดได้น้อยลง [1]
    • เพื่อเพิ่มโอกาสในการนำปัสสาวะไปตรวจให้ได้มากที่สุด ปัสสาวะที่ใช้ควรจะเพิ่งขับออกมาและยังอุ่น
  2. เก็บปัสสาวะไว้ในภาชนะพลาสติกหรือแก้วที่มีฝาปิด. ภาชนะที่ใช้ต้องปิดแน่นสนิทเพื่อไม่ให้ปัสสาวะหกออกมา ใช้ภาชนะพลาสติกสำหรับการเก็บระยะสั้น หรือภาชนะแก้วสำหรับการเก็บระยะยาว เพราะพลาสติกอาจทำให้สารเคมีอื่นๆ ปนอยู่ในปัสสาวะได้ [2]
    • หรือคุณอาจจะนำภาชนะใส่ไว้ในถุงพลาสติกซิปล็อกเพื่อป้องกันเพิ่มอีกชั้น
    • ถ้าคุณกะจะเก็บปัสสาวะเป็นเวลานาน ให้เขียนวันที่เก็บตัวอย่างไว้บนฉลาก
    • จำไว้ว่าแก้วอาจจะแตกได้ถ้าคุณแช่ไว้ในช่องฟรีซหรือเร่งอุ่นให้ร้อนเร็วเกินไป
  3. คงความอุ่นของปัสสาวะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในถุงทรายร้อน. ถ้าคุณวางแผนจะใช้ตัวอย่างปัสสาวะภายใน 1 ชั่วโมง ให้เก็บปัสสาวะไว้ในขวดเล็กๆ ที่มีฝาปิดแน่น เช่น ขวดยา และใช้ถุงทรายร้อนคงความอุ่นเอาไว้ ก่อนที่จะไปตรวจ ให้แกะถุงทรายร้อนออกและปล่อยให้ความร้อนของปัสสาวะลดลงเท่าอุณหภูมิร่างกาย [3]
    • ใช้หนังยางรัดถุงทรายร้อนไว้กับขวด
  4. ถ้าคุณยังไม่ใช้ปัสสาวะภายใน 1 ชั่วโมง ให้นำไปแช่ตู้เย็นให้เร็วที่สุด. ยิ่งคุณนำปัสสาวะไปแช่ตู้เย็นเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่ตัวอย่างจะนำไปใช้ได้ก็จะมีมากขึ้น คุณควรนำตัวอย่างไปแช่ตู้เย็นทันทีที่เก็บได้ แต่ถ้าภายใน 30 นาทีก็ยังพอไหว [4]
    • ใช้หรือแช่ปัสสาวะที่แช่ตู้เย็นแล้วไว้ในช่องฟรีซภายใน 1 วัน
  5. แช่ตัวอย่างปัสสาวะไว้ในช่องฟรีซหากคุณวางแผนจะใช้ภายใน 1 ปี. ถ้าคุณไม่ได้กะจะใช้ตัวอย่างปัสสาวะภายใน 24 ชั่วโมง ก็แช่ช่องฟรีซไว้ดีกว่า เก็บปัสสาวะไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดแน่นหนาและใช้ภายใน 1 ปี
    • แต่ละแหล่งข้อมูลก็บอกไม่ตรงกันว่าคุณสามารถแช่ปัสสาวะในช่องฟรีซไว้ได้นานเท่าไหร่จึงจะยังใช้ได้อยู่ แต่โดยหลักการทั่วไปแล้ว ยิ่งคุณใช้เร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี
    • คุณต้องแน่ใจว่าปัสสาวะที่แช่อยู่ในช่องฟรีซไม่มีสารเสพติด เพราะการแช่ปัสสาวะที่มี THC จะยิ่งเพิ่มความเข้มข้น [5]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

อุ่นตัวอย่างปัสสาวะที่เย็น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปล่อยให้ปัสสาวะที่กลายเป็นน้ำแข็งละลายที่อุณหภูมิห้องข้ามคืน. วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ตัวอย่างปัสสาวะอยู่ที่อุณหภูมิห้องก็คือ การทิ้งไว้ให้ละลายเอง การใช้ไมโครเวฟอุ่นปัสสาวะอาจทำให้ตัวอย่างเสียหายจนไม่สามารถนำไปใช้ได้
    • คุณต้องใช้ตัวอย่างที่ละลายแล้วภายใน 1 วัน
  2. ใช้ถุงน้ำร้อน ไมโครเวฟ หรือถุงทรายร้อนเพิ่มอุณหภูมิปัสสาวะ. เมื่อปัสสาวะอยู่ที่อุณหภูมิห้องแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เพิ่มอุณหภูมิให้สูงเท่าอุณหภูมิร่างกายหรือสูงกว่าเล็กน้อย ใช้ถุงน้ำร้อนหรือถุงทรายร้อนพันรอบขวดเอาไว้ หรืออุ่นในไมโครเวฟ 10 วินาที ถ้าคุณอุ่นด้วยไมโครเวฟ คุณควรใช้ถุงทรายร้อนพันรอบขวดด้วยเพื่อให้ปัสสาวะยังอุ่นระหว่างที่คุณถ่ายภาชนะ [6]
    • ถ้าจะให้ดีที่สุด คุณควรอุ่นตัวอย่างปัสสาวะให้อุ่นกว่าอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อย เพราะพอถึงตอนที่คุณต้องไปตรวจมันก็จะเย็นลงพอดี
  3. การแนบตัวอย่างไว้กับร่างกายจะรักษาอุณหภูมิเอาไว้ ซึ่งควรจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกายให้ได้มากที่สุด อุณหภูมิตัวอย่างปัสสาวะที่ยอมรับได้อยู่ระหว่าง 32-38 องศาเซลเซียส [7]
    • พยายามแนบตัวอย่างไว้กับลำตัวช่วงล่าง เช่น ระหว่างต้นขา
    โฆษณา

คำเตือน

  • จำไว้ว่าการให้ตัวอย่างปัสสาวะที่ไม่ถูกต้องนั้นผิดกฎหมาย ใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อคุณไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น [8]
  • ถ้าผู้ตรวจเชื่อว่าคุณให้ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง คุณอาจจะต้องเก็บตัวอย่างที่สองภายใต้การตรวจตราอย่างรัดกุม [9]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,587 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา