ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แรงดึงดูดทางเพศเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบาย – มันเป็นคุณลักษณะที่ดึงดูดคุณเข้าหาใครบางคน โดยเกิดขึ้นอย่างทรงพลังและทันทีทันใด แต่การที่มันเข้าใจยาก ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพัฒนาในจุดนี้ไม่ได้ ความมั่นใจและการรู้จักทอดสะพาน เป็นพฤติกรรมที่ทุกคนต่างยอมรับว่า ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ ถึงแม้ว่าจะมีรูปแบบและกลยุทธ์แตกต่างกันไปในแต่ละเพศวัย ลองเลื่อนลงไปอ่านตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 ดู หากคุณอยากรู้วิธีสำแดงความมั่นใจให้ดูเซ็กซี่ รวมถึงวิธีบริหารเสน่ห์ของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

หัดหว่านเสน่ห์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในโลกนี้มีคนมากมายที่มีนิสัยเหนียมอาย แต่คนที่มั่นใจและสามารถวางตัวอย่างสบายๆ ต่อหน้าผู้อื่นนั้น ช่างมีเพียงน้อยนิด คุณสามารถทำตัวเองให้โดดเด่นได้ด้วยการเข้าหาผู้อื่นอย่างหาญกล้า เริ่มเป็นฝ่ายจีบก่อน โดยพูดจาให้ฉะฉานและมั่นใจ และสื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณสนใจ แต่คุณไม่จำเป็นต้องหล่อลากไส้หรือฉลาดเหนือใครๆ ในการที่จะหว่านเสน่ห์ได้อย่างมั่นใจ ขอเพียงคุณมีความเชื่อมั่น และความอาจหาญอีกเพียงเล็กน้อย รวมถึงเข้าใจหลักการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ แค่นั้นคุณก็เซ็กซี่เกินห้ามใจแล้ว
  2. เรื่องที่น่ากลัวที่สุดในการหว่านเสน่ห์น่ะเหรอ? ก็คือการเข้าหาอีกฝ่ายก่อนไงล่ะ มันยากที่คุณจะรู้สึกเซ็กซี่และมีความมั่นใจ ในขณะที่เหงื่อไคลกำลังชุ่มเต็มฝ่ามือ เพราะมัวแต่คิดว่าจะเอามุกอะไรไปเริ่มเปิดการสนทนากับสาวสวยคนนั้นดี แต่ที่จริงแล้ว การเริ่มเปิดหัวข้อสนทนา ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนอะไรมากนัก คุณแค่ต้องรวบรวมสติ และวางท่าทางให้เป็นมิตรเปิดเผย อย่าให้ดูมีเงื่อนงำน่ากลัว และก็ใช้คำถามหรือข้อสังเกตบางอย่างในการเริ่มสนทนา
    • พยายามอ่านนิสัยและระดับอารมณ์ขันของอีกฝ่ายให้ดี ก่อนที่จะเริ่มเข้าไปพูดคุย หากคุณเพิ่งสังเกตเห็นคนไหนกลอกลูกตาไปมา หรือทำหน้าเอือมระอา ขณะมองดูเจ้าภาพของงานเมากร่างอยู่ล่ะก็ เลือกเข้าไปคุยกับคนๆ นั้นได้เลย โดยคุณอาจเปรยว่า “ท่าทางงานจะกร่อยแล้วนะ ผมว่าจะชิ่งก่อนล่ะ ไปด้วยกันมั้ยครับ?” เท่านั้นก็ละลายพฤติกรรมเป้าหมายได้แล้ว
    • อย่าเอาแต่คิดหามุกเปิดบทสนทนามากเกินไป การแนะนำตัวและถามชื่ออีกฝ่าย แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว หรืออาจจะใช้คำถามพื้นๆ เช่น “คุณรู้จักกับเจ้าภาพเหรอ?” หรือ “งานคืนนี้สนุกมั้ยครับ?” ไม่จำเป็นต้องเก่งโวหารขนาดสุนทรภู่หรอก
    • หลีกเลี่ยงมุกเชยๆ จำไว้ให้ดีว่า มุกที่มักใช้กันจนเชย มักจะให้ผลลัพธ์ตรงข้าม คือ มักทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเลี่ยน แถมยังอาจมองคุณเป็นเด็กไร้วุฒิภาวะและดูเฉิ่มด้วย พยายามอย่าเล่นมุกไร้สาระขณะที่คุณพยายามจะทำตัวเซ็กซี่ มันไม่ได้ผลหรอก
  3. เวลาที่คุณพยายามหว่านเสน่ห์ใคร อย่าก้มมองพื้น หรือมองข้ามไหล่ หรือเงยหน้ามองเพดาน มองเข้าไปในตาของอีกฝ่ายเลยการสบสายตาจะทำให้ดูสนิทสนมและมั่นใจด้วย แถมมันยังเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด ในการบรรลุวิชาหว่านเสน่ห์แบบเห็นผลทันทีอีกด้วย
  4. เวลากำลังจีบใคร พยายามพูดให้เสียงดังสักนิด เพื่อที่ว่าอีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องคอยเงี่ยหูฟัง หรือคอยเดาว่าคุณพูดอะไร พยายามพูดให้ช้าๆ ชัดๆ อย่าเร่งรีบพูดจนลิ้นพันรัว คุณต้องพูดให้เซ็กซี่กว่านั้น
    • หากคุณต้องการเวลาหายใจและครุ่นคิดว่าจะพูดอะไร ก็ตามสบายเลย! พยายามซื้อเวลาให้ตัวเอง ด้วยการสบสายตาและส่งยิ้ม หากคุณคิดว่า คู่สนทนาของคุณโชคร้าย ที่ต้องมาเจอคนเซ็กซี่และมั่นใจเช่นคุณคอยเอาแต่ส่งยิ้มให้ หรือไม่ยอมพูดอะไรต่อสักทีล่ะก็ เชื่อเถอะว่า คุณกำลังทำให้เขาหรือเธอมีความสุขต่างหาก
  5. การที่จะจีบใครได้อย่างราบรื่น คุณต้องทำ 2 เรื่องคือ แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่ดูเซ็กซี่และน่าสนใจ ซึ่งควรค่าแก่การรู้จักกัน กับการประเมินว่าคนที่คุณกำลังจีบนั้น ควรค่ากับคุณหรือเปล่าด้วย โดยคุณสามารถเพิ่มความเซ็กซี่ให้ตัวเองได้ ด้วยการเป็นคนที่รู้จักรับฟังและสนใจในตัวอีกฝ่ายจริงๆ พยายามฝึกทักษะการรับฟัง ความเอาใจใส่ และรู้จักตอบสนองตามความเหมาะสม
    • อย่าพูดเองเออเอง มันจะเป็นการหว่านเสน่ห์ที่แย่มาก หากอีกฝ่ายเล่าเรื่องเดือดร้อนใจให้ฟัง เช่นเล่าว่าข้างบ้านชอบส่งเสียงเอะอะโวยวาย ทำให้เขาหรือเธอนอนไม่ค่อยหลับ แต่คุณกลับบอกว่า คุณเองก็เคยเจอสถานการณ์แบบนั้น และก็แค่เอาสำลีอุดหู ข่มตานอนไป ไม่เห็นจะยากอะไร การตอบสนองในลักษณะนี้ ไม่ใช่วิธีที่ดี คุณไม่ควรเกทับอีกฝ่ายหรือฉายเดียว แต่ควรแสดงความเห็นใจมากกว่า
  6. หา "ช่องว่าง" ระหว่างประโยค เพื่อประคองการสนทนาให้ไหลลื่น. หากคุณมีปัญหาในการพยายามคิดเรื่องที่จะคุยไม่ออก คุณควรถามคำถามนำไปก่อน และฟังดูว่าจะต่อยอดอะไรจากคำตอบของอีกฝ่ายได้บ้าง พยายามนึกภาพเหมือนกับว่า คุณกำลังในโถงทางเดินและมองหาประตูที่เปิดไปสู่เรื่องราวต่างๆ ตลอดเวลา
    • หากคู่สนทนาพูดว่า “ฉันเพิ่งเรียนจบมา” ปฏิกิริยาแรกของคุณอาจจะพาให้ถามต่อว่า “จบคณะอะไรล่ะ?” ซึ่งอีกฝ่ายก็อาจจะตอบได้แค่ว่า “จบมนุษย์ศาสตร์ ภาษาอังกฤษน่ะ” เท่านั้นเอง ดังนั้น คุณควรยั้งไว้ก่อน และเปลี่ยนเป็นคำถามในลักษณะปลายเปิดแทน เช่น “สมัยเรียนมีเรื่องสนุกๆ มั้ย?” หรือ “จบมาแล้วคิดจะทำอะไรต่อล่ะ?” ซึ่งนอกจากจะทำให้บทสนทนาดำเนินต่อไปแล้ว ยังได้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นด้วย
    • อย่าปล่อยให้คำถามออกทะเลไปไกลเกิน พยายามใส่ใจท่าทีและภาษากายของอีกฝ่ายดูด้วยว่า คุณกำลังล้ำเส้นเกินไปหรือไม่ พยายามอย่ารบกวนใคร หากอีกฝ่ายทำท่าลุกลี้ลุกลน หรือมองไปทางอื่นๆ บ่อย รวมถึงอาจถามคำตอบคำ คุณควรตัดบทและปล่อยให้เขาหรือเธออยู่ตามลำพังไป การบากหน้าอยู่ต่อทั้งที่อีกฝ่ายเอือมระอา ไม่ใช่เรื่องน่าเซ็กซี่ตรงไหนเลย
  7. เวลาที่เริ่มการสนทนาเพื่อหว่านเสน่ห์ พยายามหลีกเลี่ยงการเอาแต่เล่าเรื่องราวของตัวเอง หรือบ่นเกี่ยวกับเรื่องใดๆ รวมถึงการใช้หัวข้อที่เข้าใจยากๆ มาเปิดการสนทนา
    • หากคุณต้องการพูดเรื่องของตัวเอง พยายามหาวิธีพูดให้น่าสนใจ ชีวิตประจำวันอันน่าเบื่อของคุณ ไม่มีอะไรเซ็กซี่หรือน่าสนใจไปกว่าหัวข้ออื่นๆ เลย พยายามคิดถึงเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ และค่อยๆ สอดแทรกเรื่องอื่นที่อยากพูดเข้าไป โดยไม่ให้ดูยัดเยียดจนเกินไป
    • หยุด "สาธยาย" เรื่องใดๆ ก็ตาม มันไม่ได้ดูเซ็กซี่เลยกับการที่คุณเหมาเอาว่า คนอื่นซื่อบื้อมากเสียจนต้องอธิบายทุกเรื่อง ให้เขาหรือเธอฟังโดยละเอียดยืดยาว ผู้หญิงคนที่คุณกำลัง “เสียสละ” อธิบายเรื่องเทคโนโลยีให้ฟัง อาจจะมีงานอดิเรกรับจ้างเขียนโปรแกรมให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อยู่ก็ได้
  8. หากทำอย่างถูกวิธี การถูกเนื้อต้องตัวอย่างสุภาพนุ่มนวล อาจชวนให้อีกฝ่ายวาบหวิวจนความสัมพันธ์พัฒนาไปอีกขึ้นก็ได้ แต่หากคุณทำผิดวิธี คุณจะกลายเป็นผีทะเลสายหื่นไปในบัดดล พยายามประเมินด้วยวิจารณญาณของคุณเอง และพยายามควบคุมสัญชาติญาณของตัวเองเอาไว้ อย่าสัมผัสใครในช่วงที่เพิ่งเริ่มจีบ เกินเลยไปกว่าบริเวณมือ แขน หรือหัวไหล่ [1]
    • โดยทั่วไปแล้ว สุภาพบุรุษไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวคนที่ตนเองกำลังจีบ เพราะมันจะดูก้าวร้าวและเกินเลยไปหน่อย ผู้หญิงควรจะเป็นฝ่ายถือสิทธิดังกล่าวมากกว่า ซึ่งพวกเธอสามารถสื่อให้รู้ว่าตนเองกำลังสนใจ ได้ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพอย่างเช่น ผลักไหล่ฝ่ายชายเบาๆ รวมถึงแตะที่มือหรือแขนของเขา
  9. คนเรามักชอบสิ่งที่หายากและดูน่าค้นหา ยิ่งมีน้อยเท่าไร ยิ่งโหยหามากเท่านั้น หากคุณต้องการเป็นที่จดจำของอีกฝ่าย คุณต้องรู้จักวางเหยื่อล่อให้เขาหรือเธออยากค้นหาบ้าง หากคุณเปิดเผยตัวเองเสียยืดยาว คุณอาจจะหมดความน่าสนใจและไม่มีอะไรให้พูดจาสานต่อกัน ดังนั้น พยายามรีบขอเบอร์แล้วปิดการขาย และค่อยหาทางนัดพบทีหลังเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไป ทั้งได้ใจและเซ็กซี่เลยล่ะ
    • ลดความซับซ้อนลง ด้วยการตรงไปตรงมา. คุณไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรเลิศหรูมาใช้เป็นข้ออ้างในการปลีกตัว แค่บอกว่า “ผมต้องกลับไปที่โต๊ะตัวเองแล้ว แต่ผมคงจะลืมแววตาของคุณไม่ได้แน่ๆ งั้นขอเบอร์เอาไว้ได้ไหม เผื่อยังไงจะได้นัดไปกินข้าวกัน”
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

แสดงออกถึงความมั่นใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าคุณจะไปท่องราตรี หรือมีนัดกับแฟน และแม้แต่ไปทำงาน หากคุณต้องการเพิ่มความเซ็กซี่ให้ตัวเอง ก็แค่ทำตัวให้สบายและมีความมั่นใจเป็นอันดับแรก บางคนอาจจะชอบใส่ชุดฟิตๆ กับรองเท้าราตรี บางคนอาจจะมั่นใจเมื่อใส่เชิ้ตกับกางเกงธรรมดาๆ มากกว่า ไมว่าคุณจะสวมใส่ชุดแบบใด ขอเพียงมั่นใจว่ากำลังรู้สึกเซ็กซี่ แค่นั้นคุณก็เซ็กซี่แล้ว
    • พยายามหาจุดกึ่งกลางระหว่างการแต่งตัวตามสบายแบบเสื้อยืด-รองเท้าแตะ กับแบบเซ็กซี่เต็มสูบอย่างรองเท้าแฟชั่นส้นสูงหกนิ้ว คุณไม่จำเป็นต้องแต่งตัวดีเหมือนกับจะไปเดินแคทวอล์ค แต่ก็ต้องไม่กระจอกเกินไปและรู้จักให้เกียรติสถานที่ ด้วยการแต่งกายอย่างสะอาดและเหมาะสมกับงาน นอกจากนี้ คุณยังควรรู้จักสำอางและคอยสำรวจตัวเอง ให้ดูดีมากพอที่จะรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจเวลาไปงานต่างๆ ได้จริงๆ
  2. ใช้เวลาเล็กน้อยในแต่ละวันจัดการสำอางตัวเองสักหน่อย และคอยใส่ใจดูแลรูปร่างตัวเองอย่างที่มันคู่ควร เสื้อผ้าหน้าผม ช่องปาก และเรื่องปลีกย่อยอื่นๆ สามารถทำให้ความมั่นใจคุณเพิ่มขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ มันยากที่จะรู้สึกหรือแสดงความเซ็กซี่ออกมาได้ หากคุณยังไม่มั่นใจแม้กระทั่งกลิ่นกายตัวเอง จงมั่นใจว่าคุณทำให้ตัวเองดูดีที่สุดอย่างเต็มกำลังแล้ว
    • คุณไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างดีเหมือนหุ่นแกะสลัก เพื่อที่จะรู้สึกมั่นใจในรูปร่างตัวเองก็ได้ แต่หากคุณรู้สึกเขินอายหน้าท้องหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ก็หาเวลาดูแลส่วนนั้นเถอะ บริหารร่างกายให้ฟิตเพื่อที่จะได้มั่นใจสักนิด การลดน้ำหนักแค่ไม่กี่กิโล ก็สามารถทำให้คุณมั่นใจและรู้สึกเซ็กซี่ขึ้นได้เป็นกองเลย
    • ค่อยเป็นค่อยไป. หลายๆ คนรู้สึกเซ็งกับแนวคิดของการลดน้ำหนัก เพราะมักจะเห็นตารางออกกำลังกายแบบอัดแน่น และการบริการร่างกายที่ดูยุ่งยาก แต่ที่จริงแล้ว มันไม่จำเป็นต้องซับซ้อนยุ่งเหยิงขนาดนั้น แค่เดินให้มากขึ้น แทนการใช้รถหรือใช้ลิฟท์ วิดพื้นและซิทอัพสัก 5-10 เซ็ตระหว่างดูทีวี มันจะช่วยได้มากและทำให้คุณเริ่มมีกำลังใจในการฟิตหุ่น แถมคุณอาจจะชอบมันในภายหลังด้วย
  3. ฝึกลักษณะท่าทางของคุณให้เหมาะสม อกผายไหล่ผึ่ง เชิดคางเล็กน้อย เพื่อแสดงออกถึงความเปิดใจกว้างและพร้อมเป็นมิตรกับทุกคน ยืนตรงอย่างสง่างามและสื่อให้เห็นถึงความมั่นใจ รวมถึงรู้สึกสบายๆ ในโลกที่เป็นของคุณเอง ต่อให้อยู่บนรถประจำทาง หรือเพิ่งโหมงานมาทั้งวัน พยายามยืนอย่างสง่างามเข้าไว้ คุณไม่รู้หรอกว่าอาจมีใครมองคุณอยู่
    • ภาษากายแบบปิดกั้น รวมถึงการนั่งหรือยืนห่อตัว กอดอก หรือก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ หากคุณอยากมีท่าทีเย็นชา และไม่ต้องการจะเชื้อเชิญให้ผู้อื่นเข้าหา ก็ลองใช้ภาษากายแบบปิดกั้นดังกล่าว และผู้อื่นจะเข้าใจได้เอง
  4. จงวางใจในวิจารณญาณ และความสามารถในการใส่ใจรับฟังข้อมูลจากผู้อื่น จากนั้น พยายามตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด คุณสามารถตัดสินใจได้ดีไม่แพ้คนอื่นหรอก
    • การมัวแต่เลือกเมนูที่จะสั่งเป็นเวลา 20 นาทีหลังจากที่คนอื่นสั่งกันหมดแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ดูเซ็กซี่เลย พยายามเลือกสักอย่างแล้วสั่งให้เสร็จไป หากคุณกำลังออกไปกับกลุ่มเพื่อนเพื่อท่องราตรี อย่ามัวเสียเวลาไปกับการลังเลไปมาเกี่ยวกับร้านที่จะเที่ยว หากคุณตัดสินใจไปแล้ว ก็ให้สนุกไปกับมัน เชื่อมั่นว่าคุณเลือกถูกร้านแล้ว คนส่วนใหญ่ชอบบุคลิกแบบนั้นมากกว่า
  5. หากมีใครไม่สนใจการทอดสะพานและหว่านเสน่ห์ของคุณ จงเปลี่ยนเป้าหมายโดยไม่ต้องบ่นหรือหัวเสีย พยายามไหลลื่นตามน้ำไป การทำตัวเองให้อยู่เหนือเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือโต้เถียง จะช่วยให้คุณดูลึกลับน่าค้นหา รวมถึงการที่คุณพร้อมเปิดรับ กรณีที่อีกฝ่ายเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาและหันเข้าหาคุณ พวกเขาจะทึ่งในความมั่นใจของคุณ ซึ่งเป็นความเซ็กซี่ในตัวมันเอง
    • การดึงดูดเข้าหากันเป็นเรื่องซับซ้อน และมีหลายสาเหตุที่ไม่เกิดปฏิกิริยาดังกล่าวขึ้น ดังนั้น แทนที่จะเจ็บปวดและขมขื่น คุณควรรักษาท่าทีเป็นมิตรเอาไว้ ต่อให้คุณกินแห้วกับเป้าหมายของคุณ แต่อาจมีใครบางคนมองเห็นความมั่นใจของคุณและแอบปลื้มอยู่ก็ได้
  6. สิ่งที่เรียบง่ายที่สุด แต่ผู้คนมักลืมให้ความสำคัญ ก็คือรอยยิ้มอย่างมั่นใจอันน่าหลงใหลนั่นเอง จะมีอะไรดีไปกว่ารอยยิ้มแบบจริงใจเช่นนั้นอีก หากคุณต้องการสำแดงความเซ็กซี่ พยายามคงรอยยิ้มเล็กน้อยไว้บนใบหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าคุณกำลังอะไร และโดยเฉพาะเวลาที่กำลังคุยหรือจีบเป้าหมายของคุณ คุณต้องสื่อให้รู้ว่าคุณมีความสุขล้นที่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่เหม่อลอยไปไหนต่อไหน
    • การยิ้มมักดึงความสนใจของผู้อื่น มาที่บริเวณปากของคุณ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาแอบอยากจูบคุณได้จริงๆ หากคุณยิ้ม โอกาสที่จะได้จูบอย่างดูดดื่มก็ยิ่งมากขึ้น
    • ตามป้ายโฆษณาหรืองานแฟชั่นทั่วไป นายแบบนางแบบส่วนใหญ่ถูกฝึกมาให้ทำสีหน้าบึ้งตึงอย่างเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แน่นอนว่า พวกเขาอาจจะดูเซ็กซี่ แต่ความเซ็กซี่ดังกล่าวเป็นไปในลักษณะปิดกั้นและ “ห่างเหิน” คุณถูกคาดหวังให้รู้สึกอยากซื้อสินค้าที่พวกเขากำลังจะขาย ซึ่งนั่นไม่ใช่รูปแบบความสัมพันธ์ที่คุณต้องการเวลาออกไปจีบคนแปลกหน้า หรือมองหาคนโสด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การดึงดูดเพศหญิง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงมักชอบคู่ชีวิตที่สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิผล แถมเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัดสินใจลงไปด้วย พยายามอย่าบ่ายเบี่ยงในการเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกหาร้านที่จะไปดินเนอร์ หรือเรื่องการตัดสินใจทำโครงการระยะยาวใดๆ ก็ตาม การไร้ซึ่งความกลัวเป็นคุณลักษณะที่เซ็กซี่ในตัวมันเอง ต่อให้เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
    • ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องทำตัวข่มเหนือผู้อื่น — มีความแตกต่างระหว่างการเป็นผู้นำและความก้าวร้าว การเป็นผู้นำนั้น สามารถสำแดงออกได้ แม้มีท่าทีสุขุมและสงบเงียบ
    • มีสถานการณ์ระหว่างออกเดทมากมาย ที่เปิดโอกาสให้คุณได้เป็นผู้นำ เช่น หากคุณกำลังชวนใครไปเที่ยว แต่พวกเขาไม่รู้จะไปที่ไหนดี พยายามอย่ามัวลังเลไปกับพวกเขาด้วย เลือกมาสักที่และตกลงกับพวกเขาไปตามนั้นเลย
  2. เป็นคนหลากหลายมิติ และมีความสนใจในหลายๆ สิ่ง. ผู้หญิงมักรู้สึกดึงดูดเข้าหาคนที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ คนที่เซ็กซี่คือคนที่น่าสนใจ และคนที่น่าสนใจมักจะมีงานอดิเรกและความหลงใหลในกิจกรรมหลากหลาย พยายามแบ่งเวลาไปค้นหาตัวเองและกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่คุณหลงใหลไปกับมัน
    • งานอดิเรกช่วยให้คุณมีเวลาปล่อยวางและคลายเครียด ซึ่งช่วยให้คุณผ่อนคลายและรู้สึกสงบมากขึ้น เวลาอยู่กับผู้อื่น มันยังช่วยให้คุณมีหัวข้อสนทนามากขึ้น (นอกเหนือไปจากเรื่องเรียน เรื่องาน หรือดินฟ้าอากาศ) เวลาที่ต้องพูดคุยกับคนอื่น หากคุณถามคู่สนทนาว่า “เธอชอบบิ๊กไบค์เหมือนกันมั้ย?” มันย่อมดูเท่ห์ไม่หยอก
    • หากคุณยังไม่มีความสนใจอะไรเป็นพิเศษ เลือกเอาสักอย่าง! ลองเล่นกีฬาที่คุณชื่นชอบ หรือจะฝึกศิลปะวาดภาพ ร้องเพลง ทำผลงานใดๆ ก็ได้ขึ้นมาสักชิ้น อะไรก็ได้ที่คุณอยากจะทำ แต่อย่าทำโดยไม่มีเป้าหมาย พยายามตั้งใจทำและนำมันมาเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับตัวเอง คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีความมั่นใจและเสน่ห์ดึงดูด
  3. ผู้หญิงมักไม่รู้สึกดึงดูดเข้าหาคนที่ทำตัวอ่อนเดียงสา หรือไร้สาระแบบเด็กๆ หากคุณต้องการดึงดูดพวกเธอ คุณต้องมั่นใจและมีไหวพริบ ที่สำคัญคือมีความเป็นผู้ใหญ่ การรู้จักดูแลตัวเอง ทะเยอทะยานอย่างมีเป้าหมาย และมีความชาญฉลาด ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเธอมองว่าเซ็กซี่ อย่ากลัวที่จะแต่งตัวให้เนี้ยบ พูดคุยอย่างมีสาระ และเล่าความฝันของคุณให้พวกเธอฟัง มันไม่ได้ดู "เลี่ยน" แต่มันทั้งเซ็กซี่และยังทำให้พวกคุณรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย
    • มีรสนิยมเหมาะสมตามโอกาส การดูภาพยนตร์ต่างประเทศ การจิบไวน์ชั้นเลิศ การสนใจในเพลงคลาสสิก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และผู้หญิงมักมองว่าเซ็กซี่ด้วยซ้ำ สำแดงรสนิยมหรือความเป็นศิลปินในตัวคุณออกมาเถอะ มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำกัน และมันก็เซ็กซี่ด้วย
    • แสดงความฉลาด แต่อย่าโอ้อวด การพูดถึงงานวิทยานิพนธ์ที่คุณเขียนสมัยเรียนนั้น ไม่ได้น่าสนใจเลย (เว้นแต่บทสนทนาจะพาไปเอง) พยายามทำให้ผู้หญิงทึ่งด้วยการมีไอเดียดีๆ มองโลกอย่างมีความสุข และมีไหวพริบอารมณ์ขัน อย่าเอาแต่พร่ำพรรณนาวิชาความรู้ที่คุณอ่านมาจากวิกิพีเดีย
  4. ผู้หญิงจะซึ้งใจเมื่อคุณชมเชยรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ รวมถึงมุกตลกของพวกเธอ ไม่ใช่เพราะพวกเธอหลงตัวเอง แต่เป็นเพราะพวกเธอเห็นคุณค่าของความใส่ใจและการร่วมแบ่งปัน [2] ลืมของขวัญหรือของกำนัลแทนใจไปได้เลย แค่บอกพวกเธอว่า คุณกำลังคิดถึงอยู่นะ นั่นล่ะเซ็กซี่แล้ว
  5. ผู้หญิงมักรู้สึกว่าอารมณ์ขันเป็นเรื่องเซ็กซี่ โดยเฉพาะถ้ามันกลั่นออกมาจากความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง หากคุณรู้ตัวเองว่า เป็นคนมีอารมณ์ขัน ก็จงแสดงมันออกให้เธอเห็น ผู้หญิงชอบผู้ชายที่ลุยๆ และน่าสนุกหากอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่พวกที่เอาแต่นั่งเล่นวิดีโอเกมส์จนก้นแฉะทุกสุดสัปดาห์ พยายามรู้จักออกไปผจญโลกภายนอก พร้อมด้วยอารมณ์ขันในสัดส่วนที่ลงตัว
    • หลีกเลี่ยงมุกสกปรกหรือทะลึ่งเถอะนะ คุณสุภาพบุรุษทั้งหลาย คุณไม่ใช่พวกหลังเขา มันมีความแตกต่างระหว่างการเป็นคนตลกแบบมีรสนิยม กับการตลกแบบเถื่อนๆ ซึ่งแต่ละมุกมันย่อมส่งผลต่างกันไป เลือกใช้ให้เหมาะกาลเทศะแล้วกัน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การดึงดูดเพศชาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผลการศึกษาพบว่าผู้ชายมักดึงดูดเข้าหาผู้หญิงที่ใส่ชุดสีแดงโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็อย่างที่คุณรู้ดีนั่นล่ะว่า มันไปกระตุ้นแรงปรารถนาและความกำหนดของพวกเขา ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงมนุษย์เราเท่านั้น นกและสัตว์เลี้ยงลูกนมบางชนิด ก็ใช้สีแดงเชื่อมโยงกับรูปแบบการหาคู่ด้วยเช่นกัน [3]
    • คล้ายๆ กับเวลาที่คนเราหน้าแดงเพราะเขิน เกิดอารมณ์ หรือรู้สึกร้อนผ่าว ผู้หญิงเองก็มีภาวะพร้อมเจริญพันธุ์ ให้สังเกตเห็นได้จากอาการแดงระเรื่อบริเวณหน้าอกและอวัยวะเพศ [4] มันเป็นเรื่องทางชีวภาพ!
  2. เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ผู้ชายมักฉาบฉวยกว่าที่เราคิด ผลการศึกษาพบว่า เมื่อแรกพบเจอกันนั้น พวกเขามักสะดุดกับแววตาของฝ่ายหญิง มากกว่าหน้าอกหรือร่องอกเสียอีก [5] ดังนั้น หากต้องการดึงดูดพวกเขา คุณควรแต่งหน้าโดยเน้นที่บริเวณดวงตา ให้ฉายความสุกสกาวและงดงามออกมา
    • สวมชุดหรือแต่งหน้า ในสไตล์ที่จะช่วยเน้นสีของลูกตาให้เด่นชัดขึ้น ผู้ชายจะได้เคลิบเคลิ้มไปกับมัน และคุณก็จะได้เขามาครอบครอง!
  3. ผู้ชายมองว่าการรู้จักยินดีที่จะคล้อยตาม ถือเป็นเรื่องที่เซ็กซี่ กรณีที่ต้องตัดสินใจทำอะไร ไปที่ไหน หรือจะเริ่มลงมืออย่างไรนั้น ผู้ชายมักชอบความเรียบง่าย มากกว่าจะมัวหาวิธีที่ดีหรือซับซ้อนที่สุด กล่าวคือ ผู้ชายอยากเห็นความถึงไหนถึงกัน และรู้จักคล้อยตามกัน จากตัวคู่ครองในอนาคตของพวกเขา
    • หากมีผู้ชายมาชวนคุณออกไปแค่หาพิซซ่ากินกัน การตกลงออกไปกับเขาทันทีนั้น จะทำให้เขามองว่าคุณมีความเซ็กซี่ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ตื่นเต้นอยากกินอะไรหรอก ซึ่งต่อให้คุณเพิ่งกินอิ่มมา จะมัวรออะไรล่ะ ไปนั่งเคี้ยวเล่นๆ ก็ได้ คุณจะสุขใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกันต่างหาก
    • นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องเป็นผู้หญิงเรื่อยเปื่อยนะ แต่คุณควรจัดลำดับความสำคัญว่า เรื่องใดสำคัญหรือต้องมีการปรึกษากันก่อน และเรื่องใดที่ไม่ควรคิดมาก ผู้ชายมักไม่ชอบต้องมาเสียเวลาปรึกษาว่าจะกินข้าวเย็นที่ไหน แต่หากวางแผนเตรียมจะออกทริปสุดสัปดาห์กัน ก็ว่าไปอย่าง
  4. ผลการศึกษาพบว่า ผู้ชายจะเซ็งเวลาอยู่กับคนสองประเภท คือ คนที่นิ่งเงียบเฉยชาเกินไป และคนที่คิดมากจนเกินงาม ทั้งนี้ คนที่ “ใช้ความคิดแต่พอเหมาะ” มักได้รับการมองว่าเซ็กซี่ที่สุดในสายตาพวกเขา คุณพอจะนึกอะไรออกหรือยัง ในจุดนี้?
    • การดึงดูดผู้ชาย คุณต้องหัดคิดแต่เรื่องใหญ่ๆ อย่าเสียเวลาคิดเรื่องเล็ก พยายามทิ้งเรื่องจุกจิกไว้ หากเป็นเรื่องงาน ครอบครัว และสุขภาพ คุณทำถูกแล้วที่คิดมาก จริงจัง และกังวล แต่หากเป็นเรื่องว่าจะไปกินข้าวกลางวันที่ไหน ไปร้านอะไรก็ได้น่า
    • พยายามอย่าทำตัวแปลกประหลาดเพื่อพยายามมีแรงดึงดูดทางเพศ คุณควรเป็นตัวของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการเล่าปัญหาส่วนตัวที่กำลังทำให้คุณประสาทเสีย เช่น เรื่องหูดประหลาดที่เพิ่งมาขึ้นตามตัวสุนัขของคุณ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้คำปรึกษานัก
  5. พยายามทำให้ผู้อื่นคาดเดาอยู่เสมอ! อย่าบอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณออกไปหมดทันที คนเรามักชอบปริศนา และพวกเขาจะสนใจคุณมากกว่า หากคุณยังมีอะไรบางอย่างที่ไม่ได้บอกเล่าให้ฟัง พยายามเก็บรายละเอียดบางเรื่องไว้ก่อน และรักษาความลับในบางเรื่องไว้จนกว่าจะถึงเวลา เมื่อถึงเวลาเปิดเผย ตอนนั้นคุณจะดูเซ็กซี่มากกว่า
    • หากคนที่คุณชอบ พยายามยุให้คุณเล่ารายละเอียดส่วนตัว คุณสามารถใช้จังหวะดังกล่าวแกล้งตอบแบบหว่านเสน่ห์ เช่น มุกคลาสสิกอย่าง “ถ้าฉันบอกคุณ ฉันอาจจะต้องฆ่าปิดปากคุณด้วยนะ” หรือคุณอาจลองตอบว่า “เสียใจด้วยจ้ะ เรื่องนั้นลับเฉพาะ” หรือ “นั่นเป็นข้อมูลต้องห้าม” ซึ่งหากคุณตอบด้วยรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์นิดๆ ล่ะก็ เซ็กซี่น่าดูเลย
  6. อย่ามัวแต่พยายามเสริมสร้างแรงดึงดูดทางเพศ หรือเดาความคิดของคนอื่น คุณควรพยายามหากิจกรรมส่วนตัวที่น่าสนใจทำ เช่น การพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง ทำงานอดิเรก และทดลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น และมีแรงดึงดูดมากขึ้นนั่นเอง
    • หากคุณเป็นคนเรียบง่ายธรรมดาๆ คุณก็สามารถทำตัวเหมือนยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้ เช่น หากมีใครชวนคุณไปเที่ยว คุณควรจะขอเลือกเวลาที่สะดวกสำหรับ คุณ เอง ทำให้พวกเขาอยากพบคุณมากขึ้น ซึ่งการปล่อยให้ผู้ชายรอสักสองสามวันก่อนตกลงออกไปเที่ยวกับเขา จะช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ให้คุณได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จงยั่วยวน ทอดสะพาน และหว่านเสน่ห์ แต่อย่าให้เยอะเกินไป ทุกคนมักชอบใจเมื่อได้รับการยั่วยวนแต่พองาม
  • อย่าทู่ซี้หรือดึงดันเวลาจีบใคร เพราะบางคนอาจจะรู้สึกว่าคุณหาเรื่องหรือแกล้งเมินเฉย จนกลายเป็นอารมณ์เสียหรือโมโหใสคุณได้ แน่นอนว่า คุณควรเปิดใจกว้างกับทุกคน แต่ต้องรู้จักปลีกตัวออกมาในเวลาที่คุณจีบจนหนำใจแล้ว หรือรู้สึกว่าคนๆ นั้นไปด้วยกันกับคุณไม่ได้แล้ว พยายามให้เกียรติผู้อื่นและเคารพขอบเขตของตัวเองไปพร้อมๆ กัน ด้วยการยืนกรานที่จะปลีกตัวให้ห่างอย่างสุภาพ
  • ยืนอย่างสง่างามและคอยสังเกตการณ์ หากคุณรู้สึกว่ากำลังมีสายตาจ้องมองมาที่คุณ จงเดินเข้าไปทักทาย โดยใช้คำทักทายง่ายๆ เช่น “หวัดดีครับ/ค่ะ (และแนะนำตัวเองไปอย่างมั่นใจ ชัดเจน) เป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย?” คุณไม่จำเป็นต้องรอให้คนๆ นั้นเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน
  • อย่าเถรตรงเกินไปในเวลาเดทกับใครสักคน หากคุณคิดว่าสิ่งไหนไม่เหมาะไม่ควร พยายามบอกกล่าวหรือตักเตือนกันอย่างสุภาพ แต่หนักแน่นมั่นใจ
  • ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจขึ้น เช่น ฉีดน้ำหอมให้กลิ่นกายสดชื่นสักหน่อย หรือจะกำจัดขนหน้าแข้งให้เนียนเรียบหมดจดก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องกลิ่นตัว หรือกลัวว่าจะมีใครมาสัมผัสหน้าแข้งอันสากขนของคุณ แม้แต่เรื่องเล็กที่สุด ก็สามารถทำให้คุณประหม่าได้มากมายแล้ว ดังนั้น พยายามดูแลตัวเองให้เต็มที่และดูดีที่สุดเสมอ!
  • เมื่อเขานัดคุณแล้ว จงอย่าไปสาย จำไว้ว่า ผู้ชายหรือเด็กชาย ต่างก็ไม่มีความอดทนเหมือนๆ กัน
  • อย่าใช้วิธีการถึงเนื้อถึงตัวหรือทำอะไรล่อแหลม ซึ่งอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณน่ากลัวหรือโรคจิต ไม่ว่าชายหรือหญิง เราต่างอยากได้รับการปฏิบัติเยี่ยงคนพิเศษมากกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 74,594 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา