PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้ macOS High Sierra ในเครื่อง Windows โดยดาวน์โหลดแอพชื่อ Unibeast มาก่อน และต้องใช้ Mac กับ Windows ที่รองรับการใช้งานแบบนี้ด้วย สุดท้ายคือฮาร์ดไดรฟ์เปล่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 8:

เตรียมตัวก่อนติดตั้ง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณต้องใช้ Intel processor i5 หรือ i7 ถึงจะใช้ macOS High Sierra ได้ และต้องมี RAM อย่างน้อย 2 GB วิธีเช็คก็คือ
  2. ข้างหัวข้อ "BIOS Mode" ในเมนู System Information ให้มองหา "UEFI" หรือ "BIOS" แล้วจำหรือจดไว้ก่อน
    • หลังจากนี้ก็ออกจาก System Information ได้เลย
  3. เช็ค bit ของคอม . คอมมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ 32-bit กับ 64-bit คอมของคุณต้องเป็น 64-bit ถึงจะติดตั้ง macOS ได้
  4. เครื่อง Mac ที่ว่าต้องดาวน์โหลด macOS High Sierra ได้
    • ย้ำว่าต้องเป็นเครื่อง Mac รุ่นที่ใช้ macOS High Sierra ได้เท่านั้น
  5. จะติดตั้ง macOS High Sierra ใน Windows ได้ ต้องมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ [1]
    • ไดรฟ์ USB - เลือกแฟลชไดรฟ์ที่ใส่ข้อมูลได้ 16 GB
    • ฮาร์ดไดรฟ์ว่าง - เลือก USB external hard drive ที่ใส่ข้อมูลได้อย่างน้อย 100 GB (ใช้ติดตั้งไฟล์ต่างๆ ของ macOS เพราะงั้นยิ่งพื้นที่เยอะก็ยิ่งดี)
    • USB-C adapter - ถ้าใช้ Mac ที่ไม่มีพอร์ท USB แบบเก่า ก็ต้องใช้ adapter แบบแปลง USB-C เป็น USB-3.0
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 8:

ดาวน์โหลด Unibeast

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปที่ https://www.tonymacx86.com/ โดยใช้ Mac เพราะโฟลเดอร์จะดาวน์โหลดผิดแอพ ถ้าทำใน Windows แล้วพยายามถ่ายข้อมูลไปที่ Mac
  2. ที่ด้านขวาบนของหน้า แล้วเมนูจะโผล่มาที่ด้านบนของหน้า
  3. ในช่อง "Email address" ต้องเป็นอีเมลที่ใช้งานอยู่จริงๆ เพราะต้องต้องล็อกอินไป verify หรือยืนยันความถูกต้องทีหลัง
  4. ทางด้านล่างของเมนู
  5. เพื่อไปยังหน้า Create an Account
  6. กรอกรายละเอียดในช่องต่อไปนี้
    • Name — พิมพ์ชื่อที่จะใช้กับบัญชี
    • Password — พิมพ์รหัสผ่านที่จะใช้ตอนล็อกอิน
    • Confirm Password — พิมพ์รหัสผ่านด้านบนซ้ำเพื่อยืนยัน
    • Date of Birth — ใส่วันเดือนปีเกิด
    • Location — พิมพ์ชื่อประเทศ
  7. ทางด้านล่างของหน้า
  8. เป็นปุ่มที่อยู่ท้ายหน้า เพื่อสร้างบัญชีแล้วส่งอีเมลยืนยันไปยังอีเมลที่ระบุ
  9. เข้าอีเมลที่ระบุไว้ตอนสมัครบัญชี โดยล็อกอินเข้า inbox ด้วยอีเมลและรหัสผ่าน
  10. คลิกเปิดอีเมลจาก "tonymacx86.com"
  11. คลิกลิงค์ใต้ข้อความ "Confirm Account" กลางหน้าอีเมล เพื่อกลับไปยังเว็บดาวน์โหลด Unibeast
  12. ทางขวาของแถวบรรดา tab ทั้งหลาย ทางด้านบนของหน้า แล้วหน้า Downloads จะเปิดขึ้นมา
    • ถ้ามีแค่เมนูขยายลงมา ให้คลิก tab Downloads อีกรอบ
  13. ต้องคลิก Unibeast เวอร์ชั่นที่เลขข้างๆ สูงสุด
    • เช่น เวอร์ชั่นปัจจุบันของ Unibeast (พฤษภาคม 2561) คือ 8.3.2
  14. ที่มุมขวาบนของหน้า เพื่อดาวน์โหลด Unibeast ลง Mac
  15. โปรแกรมที่อยู่ในเว็บเดียวกับ Unibeast นี้ จะทำให้ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ต่างๆ แล้วใช้ลำโพง ต่อเน็ต และอื่นๆ ใน PC ได้
    • ดับเบิลคลิก tab Downloads อีกรอบ
    • คลิก Multibeast - High Sierra 10.2.0
    • คลิก Download Now ที่มุมขวาบนของหน้า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 8:

ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง macOS High Sierra

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง App Store
  2. พิมพ์ high sierra ในแถบค้นหา แล้วกด Return
  3. ทางขวาของไอคอน High Sierra เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งลง Mac
  4. พอเปิดขึ้นมาแล้วให้รีบปิดทันที [2]
  5. เพื่อปิดหน้าต่างติดตั้ง
  6. ทางซ้ายของหน้าต่าง Finder
  7. ไฟล์ติดตั้งจะชื่อ "Install macOS High Sierra" หรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง และจะมีรูปเทือกเขาด้านบน ถ้าไฟล์ติดตั้งอยู่ในโฟลเดอร์ Applications แล้วก็ไปต่อได้เลย
    • ถ้าไม่เจอไฟล์ติดตั้ง ให้ลองดาวน์โหลด High Sierra อีกรอบ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 8:

ฟอร์แมตไดรฟ์ USB

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จะติดตั้ง macOS High Sierra ในคอม ต้องใช้แฟลชไดรฟ์ 16 GB ขึ้นไป
    • ถ้า Mac ไม่มีพอร์ท USB ตามปกติ ให้ใช้ adapter แบบแปลง USB-C เป็น USB-3.0
  2. เพื่อค้นหาแอพ Disk Utility ใน Mac
  3. ล่างแถบค้นหาของ Spotlight เพื่อเปิด Disk Utility
  4. คลิกชื่อไดรฟ์ USB ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง
  5. ที่ด้านบนของหน้าต่าง แล้วจะมีช่อง pop-up โผล่ขึ้นมา
  6. ปกติจะอยู่กลางช่อง pop-up คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
  7. เพื่อกำหนด file system ของไดรฟ์ USB เป็นของ Mac
  8. จะอยู่ล่างช่อง "Format" ที่ขยายลงมา
  9. เป็นตัวเลือกในเมนู "Format" ที่ขยายลงมา
  10. เพื่อฟอร์แมตไดรฟ์ USB ใหม่ ไปใช้ file system ของ Mac
  11. เสร็จแล้วก็ไปสร้างไดรฟ์ติดตั้งได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 8:

ทำอุปกรณ์ติดตั้ง Unibeast

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดับเบิลคลิกโฟลเดอร์ Unibeast เพื่อ unzip แล้วเปิด
  2. ดับเบิลคลิกไฟล์ PKG ของ Unibeast เพื่อเปิด
  3. เพื่อเปิดหน้าต่างติดตั้ง Unibeast
    • ถ้าตอนนี้ Mac ใช้ macOS Sierra หรือใหม่กว่า ก็ต้อง verify หรือยืนยันการติดตั้ง Unibeast ก่อน
  4. ที่มุมขวาล่างของ 4 หน้าแรก ของหน้าต่างติดตั้ง Unibeast
  5. ทางด้านบนของหน้าต่าง
  6. คลิกชื่อไดรฟ์ USB เพื่อเลือก
  7. จะเห็น High Sierra ที่กลางหน้า
  8. อันนี้แล้วแต่ว่าเครื่อง Windows ของคุณใช้เมนบอร์ดแบบ UEFI หรือ BIOS เพราะตัวเลือกจะต่างกันออกไป
    • UEFI — คลิก UEFI Boot Mode แล้วคลิก Continue
    • BIOS — คลิก Legacy Boot Mode แล้วคลิก Continue
  9. ติ๊กช่องข้าง Inject [ชื่อการ์ด] เพื่อเลือก settings ของการ์ดจอที่จะใช้
    • ถ้าการ์ดจอใช้กับ macOS High Sierra ได้ตามค่า default ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
  10. ที่มุมขวาล่างของหน้า เพื่อใส่รหัสผ่านของ Mac
  11. พิมพ์รหัสผ่านที่ใช้ล็อกอินเข้า Mac
  12. แล้ว Unibeast จะเริ่มติดตั้งลงไดรฟ์ USB เท่านี้ก็พร้อมใช้ติดตั้ง macOS High Sierra ลงคอม พอติดตั้ง Unibeast เสร็จ ก็ให้ไปเปลี่ยนลำดับการบูทของ Windows
    โฆษณา
ส่วน 6
ส่วน 6 ของ 8:

เปลี่ยนลำดับการบูทของ Windows

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยเฉพาะอย่าเสียบไดรฟ์ USB ไว้
  2. เข้าหน้า settings ของ BIOS หรือ UEFI ของคอม . เป็นขั้นตอนที่แตกต่างกันไปตามแต่ละคอม แต่ปกติคือให้รีสตาร์ทคอมแล้วกดปุ่มรัวๆ (เช่น ปุ่ม Del ) ทันทีหลังคอมติด
  3. ปกติส่วนนี้จะอยู่ในหน้าหลักของ BIOS ให้กดปุ่มลูกศรเพื่อเลื่อนไปยัง tab "Boot" หรือ "Advanced"
    • หัวข้อ "Boot Order" จะต่างกันไปตาม BIOS ถ้าหาหน้า "Boot Order" ของ BIOS ไม่เจอ ให้อ่านคู่มือเมนบอร์ด หรือเอารุ่นคอมไปค้นในเน็ต เพื่อดูหน้า BIOS ของรุ่นนั้นโดยเฉพาะ
  4. ใช้ปุ่มลูกศรขยับแถบกะพริบไปที่ Removable Devices
    • บางเวอร์ชั่น หัวข้อนี้จะเป็น USB Devices หรืออะไรที่ใกล้เคียง (เช่น Peripherals )
  5. ปกติคือให้กดปุ่ม + โดยที่เลือก boot location หรืออุปกรณ์ที่ใช้บูทเครื่องไว้ จนตัวเลือกขึ้นมาอยู่ด้านบนสุดของรายชื่อ "Boot Order"
    • ต้องกดปุ่มไหน เช็คได้ที่ legend ทางขวา ท้ายหน้า BIOS
  6. มองหาปุ่มที่ต้องกดถ้าจะเซฟแล้วออก ใน legend ทางขวาของหน้าเช่นกัน เจอแล้วก็กดได้เลย เพื่อเปลี่ยน boot priority หรือลำดับอุปกรณ์ที่ใช้บูท Windows เท่านี้ไดรฟ์ USB สำหรับติดตั้งก็จะถูกเลือกเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บูทตอนเสียบเข้าไป
    • อาจจะต้องกดปุ่มอื่นเพื่อยืนยันตัวเลือก
    โฆษณา
ส่วน 7
ส่วน 7 ของ 8:

ติดตั้ง macOS ใน PC

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดโฟลเดอร์ของไดรฟ์ USB แล้วลากไฟล์ Multibeast ไปใส่ในโฟลเดอร์ เดี๋ยวต้องใช้ Multibeast ทีหลัง เพราะงั้นถ้ามีอยู่ในแฟลชไดรฟ์ เวลาจะใช้ก็สะดวก
  2. เปิด Finder แล้วคลิกไอคอน Eject ทางขวาของชื่อไดรฟ์ USB ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Finder จากนั้นก็ถอดไดรฟ์ USB ได้เลย
    • รอให้ติดตั้ง Unibeast เสร็จก่อนแล้วค่อยดึงไดรฟ์ออก
  3. กดปุ่ม Power ของเครื่อง Windows ค้างไว้จนคอมปิดสนิท ปกติคือภายใน 1 - 2 วินาทีหลังจอดับ
  4. เสียบที่พอร์ท USB ของคอมได้เลย
  5. กดปุ่ม Power เพื่อเปิดคอม พอคอมเริ่มบูทเครื่องแล้ว ก็จะเลือกบูทจากไดรฟ์ USB ที่เสียบไว้
  6. เพื่อเริ่มติดตั้ง macOS
  7. เพื่อไปยังหน้าติดตั้งหน้าถัดไป
  8. จะอยู่ที่มุมขวาล่างของหน้า
  9. จะอยู่ทางด้านบนของหน้าจอ
  10. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา [3]
  11. ในเมนูที่ขยายลงมา
  12. คลิกชื่อฮาร์ดไดรฟ์ว่าง ทางซ้ายของหน้า
  13. ทางด้านบนของหน้า
  14. ให้เปลี่ยนข้อมูลในช่องต่อไปนี้
    • Format — คลิกช่องให้ขยายลงมา แล้วคลิก Mac OS X Extended (Journaled)
    • Scheme — คลิกช่องให้ขยายลงมา แล้วคลิก GUID Partition Map
  15. เพื่อฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์ว่างอีกรอบ เป็น file system ของ macOS
  16. เท่านี้ก็ติดตั้ง macOS High Sierra ในฮาร์ดไดรฟ์ได้แล้ว
  17. เพื่อเลือกฮาร์ดไดรฟ์นั้นเป็นตำแหน่งติดตั้ง และเริ่มติดตั้ง macOS High Sierra
  18. ปกติจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที
  19. จะมีให้กรอกข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล รหัสผ่าน ภาษาที่เลือก ประเทศ และอื่นๆ พอติดตั้งเสร็จ ระบบ macOS ก็พร้อมใช้ในเครื่อง Windows แล้ว
    โฆษณา
ส่วน 8
ส่วน 8 ของ 8:

เปิดใช้ Multibeast กับไดรฟ์ต่างๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิด Finder แล้วคลิกชื่อแฟลชไดรฟ์ที่ใช้ติดตั้ง macOS High Sierra เพื่อเปิดหน้าต่างของแฟลชไดรฟ์ใน Finder
  2. เพื่อเปิดหน้าต่าง Multibeast
  3. ที่ด้านบนของหน้าต่าง
  4. ติ๊กช่อง "Clover UEFI Boot Mode" ถ้าเลือก UEFI boot mode ของเมนบอร์ดไว้ตอนทำอุปกรณ์ติดตั้ง Unibeast หรือติ๊กช่อง "Clover Legacy Boot Mode" แทน ถ้าใช้ legacy boot mode
  5. ตัวเลือกนี้จะอยู่ด้านบนของหน้าต่าง
  6. ทางซ้ายของหน้าต่าง
  7. คลิกหัวข้อ current audio item กลางหน้าต่าง เพื่อขยายออกมา แล้วติ๊กช่องข้างชื่อ audio provider ของคอม (อุปกรณ์กระจายเสียง)
  8. ทางซ้ายของหน้าต่าง
  9. ทางด้านบนของหน้าต่าง
  10. ทางซ้ายของหน้าต่าง
  11. คลิกชื่อของการ์ดอินเทอร์เน็ต แล้วติ๊กช่องข้างชื่อไดรฟ์เวอร์
  12. ทางด้านบนของหน้าต่าง
  13. ติ๊กช่องข้างชื่อการ์ดจอของคอม แล้วติ๊กช่อง "Fixup" ของยี่ห้อการ์ดจอ
    • เช่น ถ้าจะติดตั้งไดรฟ์เวอร์การ์ด NVIDIA ให้ติ๊กทั้งช่อง "NVIDIA Web Drivers Boot Flag" และ "NVIDIA Graphics Fixup"
    • ปล่อยตัวเลือก "Inject" ว่างไว้
  14. ทางซ้ายของหน้าต่าง
  15. คลิกหัวข้อประเภทของเครื่อง Mac (เช่น iMac ) ที่ใกล้เคียงกับคอมของคุณ แล้วติ๊กช่องข้างประเภทของ Mac ที่ใช้ settings การ์ดจอเหมือนกัน
  16. ที่ด้านบนของหน้าต่าง
  17. คลิกช่อง "Select Install Drive" ทางขวาของหน้าต่าง แล้วคลิกชื่อไดรฟ์ macOS ในเมนูที่ขยายลงมา
  18. พอเสร็จขั้นตอนนี้แล้ว ก็ใช้คอม macOS แบบแทบไม่ยุ่งยากอะไรเลย
    • คลิก Install ที่มุมขวาล่าง
    • คลิก Agree ตอนที่ขึ้น
    • พิมพ์รหัสผ่าน Mac ตอนที่ถูกถาม
    • คลิก Install Helper
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าใช้ macOS ในเครื่อง Windows แล้วชอบ ก็ลองซื้อ Mac มาใช้จริงๆ ซะเลย จะได้ไม่ขาดตอน
  • เครื่อง Windows ที่ลง macOS ไว้ เขาเรียก "Hackintosh" (Macintosh ที่ถูกแฮกไง)
  • macOS จะไม่มีไดรฟ์เวอร์สำหรับใช้ utilities ต่างๆ เช่น Wi-Fi หรือ sound เหมือนในเครื่อง Windows นี่คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องใช้ Multibeast ด้วย
โฆษณา

คำเตือน

  • การติดตั้ง macOS ลงเครื่อง Windows จริงๆ แล้วผิดกฎการใช้งานของ Apple (End User License Agreement) เต็มๆ
  • จะทำตามขั้นตอนในบทความวิกิฮาวนี้ได้ก็ต่อเมื่อคอมมี RAM มากพอ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 41,949 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา