PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ภาษาเกาหลี (한국어, ฮันกุกอ) เป็นภาษาราชการของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และในเขตปกครองตนเองเหยียนเปียนในประเทศจีน [1] รวมถึงกลุ่มชาวเกาหลีที่อยู่ในต่างแดน ตั้งแต่ในอุซเบกิสถาน [2] จนถึงญี่ปุ่นและแคนาดา แม้ว่าการริเริ่มใช้ภาษาเกาหลีจะเกิดปัญหามากมาย แต่ภาษาอันซับซ้อนนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสวยงาม ไม่ว่าจะกำลังวางแผนท่องเที่ยวในประเทศเกาหลี อยากเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี หรือเพียงต้องการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ให้ลองฝึกฝนตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้ แล้วคุณจะพูดภาษาเกาหลีได้คล่องขึ้นอย่างแน่นอน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

เริ่มต้น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเรียนรู้ตัวอักษรเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเรียนภาษาเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยากพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน แม้ว่าตัวอักษรเกาหลีจะดูค่อนข้างเรียบง่าย แต่สำหรับผู้พูดภาษาไทย อักษรเกาหลีอาจดูไม่คุ้นเคยอยู่บ้างในช่วงแรก เนื่องจากมีความแตกต่างกับอักษรภาษาไทยโดยสิ้นเชิง [3]
    • อักษรฮันกึลถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยราชวงศ์โชซอนในปี ค.ศ.1443 มีตัวอักษรทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย พยัญชนะ 14 ตัวและสระ 10 ตัว อย่างไรก็ตาม หากนับรวมสระประสมและพยัญชนะซ้ำ จะมีทั้งหมด 40 ตัว
    • อักษรจีนที่ยืมมาใช้ในภาษาเกาหลี หรือฮันจา มีจำนวนประมาณ 3000 คำ เป็นการนำตัวอักษรจีนมาใช้เขียนแทนอักษรเกาหลี ตัวอักษรฮันจานั้นมีความแตกต่างกับตัวอักษรคันจิ และมักใช้ในบางสถานการณ์ เช่น งานเขียนวิชาการ บทความศาสนา (พุทธ) พจนานุกรม พาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์ งานประพันธ์ดั้งเดิมและก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนามสกุล ส่วนในเกาหลีเหนือแทบไม่มีการใช้อักษรฮันจาแล้ว [4]
  2. การนับเลขเป็นทักษะที่จำเป็นที่สุดของแต่ละภาษา การเรียนรู้วิธีนับเลขในภาษาเกาหลีอาจดูยาก เนื่องจากตัวเลขในภาษาเกาหลีมี 2 ชุดที่มีการใช้แตกต่างกันขึ้นอยู่สถานการณ์ ได้แก่ ตัวเลขที่เป็นคำเกาหลีแท้ และตัวเลขที่เป็นคำยืมมาจากภาษาจีน [5]
    • ตัวเลขแบบเกาหลีแท้จะใช้กับลักษณนาม (ตั้งแต่ 1-99) และอายุ เช่น เด็ก 2 คน เบียร์ 5 ขวด อายุ 27 ปี การนับตัวเลขแบบเกาหลีแท้มีดังนี้ [6]
      • หนึ่ง = 하나 อ่านว่า “ฮานา”
      • สอง = 둘 อ่านว่า “ทุล”
      • สาม = 셋 อ่านว่า “เซด”
      • สี่ = 넷 อ่านว่า “เนด”
      • ห้า = 다섯 อ่านว่า “ทา-ซอด”
      • หก = 여섯 อ่านว่า “ยอ-ซอด”
      • เจ็ด = 일곱 อ่านว่า “อิล-กบ”
      • แปด = 여덟 อ่านว่า “ยอ-ดอล”
      • เก้า = 아홉 อ่านว่า “อาฮบ”
      • สิบ = 열 อ่านว่า “ยอล”
    • ตัวเลขแบบจีนจะใช้กับวันที่ เงิน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และตัวเลขตั้งแต่ 100 ขึ้นไป การนับตัวเลขแบบจีนมีดังนี้ [7] :
      • หนึ่ง = 일 อ่านว่า “อิล”
      • สอง = 이 อ่านว่า “อี”
      • สาม = 삼 อ่านว่า “ซัม”
      • สี่ = 사 อ่านว่า “ซา”
      • ห้า = 오 อ่านว่า “โอ”
      • หก = 육 อ่านว่า “ยุก”
      • เจ็ด = 칠 อ่านว่า “ชิล”
      • แปด = 팔 อ่านว่า “พัล”
      • เก้า = 구 อ่านว่า “คู”
      • สิบ = 십 อ่านว่า “ชิบ”
  3. ยิ่งคุณรู้คำศัพท์กว้างขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งพูดได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นเท่านั้น พยายามจำคำศัพท์เกาหลีที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด แล้วภาษาเกาหลีของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
    • เมื่อได้ยินคำศัพท์ภาษาไทยคำหนึ่ง ให้ลองนึกคำศัพท์คำนั้นเป็นภาษาเกาหลี หากไม่รู้ศัพท์ ให้จดเอาไว้แล้วค้นหาความหมายของศัพท์ในภายหลัง ดังนั้นจึงควรพกสมุดเล่มเล็กๆ ติดตัวไว้ตลอดเวลา
    • ติดกระดาษเล็กๆ ที่เขียนคำศัพท์ไว้บนสิ่งของต่างๆ เช่น กระจก โต๊ะกาแฟ หรือโหลน้ำตาล เมื่อเห็นศัพท์เหล่านั้นผ่านตาอยู่บ่อยๆ ก็จะทำให้จำคำศัพท์ได้โดยไม่รู้ตัวเอง [8]
    • สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้คำศัพท์และวลีจากเกาหลีเป็นไทยและไทยเป็นเกาหลีไปพร้อมๆ กัน วิธีนี้จะทำให้จำได้ว่าคำศัพท์หรือวลีนั้นพูดว่าอย่างไร ไม่ใช่เพียงจำได้เมื่อได้ยินเท่านั้น
  4. การท่องจำบทสนทนาเบื้องต้นจะทำให้คุณสื่อสารกับผู้ที่ใช้ภาษาเกาหลีในระดับเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว ลองจดจำคำศัพท์และวลีต่างๆ เหล่านี้
    • สวัสดี = 안녕 อ่านว่า “อันนยอง” (แบบไม่เป็นทางการ) และหากเป็นทางการและสุภาพมากขึ้น จะพูดว่า “อันนยองฮาเซโย”
    • ใช่ = 네 อ่านว่า “เน”
    • ไม่ใช่ = 아니요 อ่านว่า “อานิโย”
    • ขอบคุณ = 감사합니다 อ่านว่า “คัมซาฮัมนีดา”
    • ฉันชื่อ... = 저는 ___ 입니다 อ่านว่า ชอนึน ___ อิมนีดา
    • เป็นอย่างไรบ้าง? = 어떠십니까? อ่านว่า “ออตอซิมนีก๊ะ”
    • ยินดีที่ได้รู้จัก = 만나서 반가워요 อ่านว่า “มันนาซอ พันกาวอโย” หรืออาจพูดว่า “มันนาซอ พันกาวอ”
    • ลาก่อน (ผู้ฟังยังอยู่ที่เดิม) = 안녕히 계세요 อ่านว่า “อันนยองฮี คเยเซโย”
    • ลาก่อน (ผู้ฟังเป็นผู้ที่ไปหรือทั้งผู้พูดและผู้ฟังแยกจากกัน) = 안녕히 가세요 อ่านว่า “อันนยองฮี คาเซโย”
  5. ความแตกต่างของระดับความสุภาพของวลีแต่ละแบบของภาษาเกาหลีนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ ในภาษาเกาหลี การลงท้ายคำกริยามีหลายแบบขึ้นอยู่กับอายุและตำแหน่งการงานของผู้ฟัง รวมถึงฐานะทางสังคม เพื่อให้สื่อสารได้อย่างสุภาพและเหมาะสม จึงควรเข้าใจในเรื่องของความสุภาพของวลีแต่ละระดับ ระดับความสุภาพของวลีสามารถแบ่งได้ 3 ระดับ ดังนี้
    • ระดับไม่เป็นทางการ - ใช้กับผู้ฟังที่มีอายุเท่ากันหรือน้อยกว่า มักใช้ในกลุ่มเพื่อน
    • ระดับสุภาพทั่วไป - ใช้กับผู้ฟังที่มีอายุมากกว่า และในการสนทนาที่เป็นทางการ
    • ระดับสุภาพที่เป็นทางการ - ใช้กับสถานการณ์ที่ต้องการความเป็นทางการอย่างมาก เช่น การประกาศข่าวหรือการทหาร ไม่ค่อยใช้ในการสนทนาทั่วไป [9]
  6. เพื่อให้พูดแต่ละภาษาได้อย่างถูกต้อง สิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งคือการเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษานั้น ไวยากรณ์ภาษาไทยและไวยากรณ์ภาษาเกาหลีนั้นมีข้อแตกต่างอย่างมากมาย เช่น
    • การเรียงลำดับคำในประโยคของภาษาเกาหลีจะเป็น ประธาน - กรรม - กริยา ซึ่งในประโยคจะลงท้ายด้วยกริยาเสมอ
    • บางครั้งอาจละประธานในประโยคเมื่อทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้ว่าประธานที่กล่าวถึงในประโยคคือใคร โดยอาจรู้ได้จากบริบทหรือถูกกล่าวถึงแล้วในประโยคก่อนหน้า [10]
    • คำคุณศัพท์สามารถเปลี่ยนรูปได้เช่นเดียวกับคำกริยา โดยแต่ละรูปจะแสดงถึงกาลของประโยคแตกต่างกัน [10]
  7. การออกเสียงในภาษาเกาหลีมีความแตกต่างกับการออกเสียงในภาษาไทยเป็นอย่างมาก จึงควรหมั่นฝึกฝนเป็นประจำเพื่อให้ออกเสียงได้อย่างถูกต้อง
    • ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการที่ผู้เรียนคิดว่าอักษรโรมันที่ใช้ในการถอดอักษรเกาหลีนั้นออกเสียงเหมือนกับอักษรภาษาอังกฤษ ดังนั้น ผู้เริ่มเรียนจึงควรทำความเข้าใจในเรื่องของการถอดภาษาเกาหลีด้วยอักษรโรมันและการออกเสียงที่ถูกต้องให้ดีเสียก่อน [11]
    • ในภาษาอังกฤษ หากคำศัพท์ลงท้ายด้วยพยัญชนะ ผู้พูดจะออกเสียงพยัญชนะตัวนั้นเบาๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อออกเสียงคำว่า Ship ในภาษาอังกฤษ จะมีเสียงลมเบาๆ ออกมาตามหลังออกเสียง p เมื่อเปิดปาก [12] แต่ในภาษาเกาหลี พยัญชนะตัวท้ายจะไม่มีการออกเสียงลมออกมา แต่จะปิดปากโดยสนิทแทน [11]
  8. หากจริงจังกับการเรียนภาษาเกาหลีก็ควรตั้งใจและไม่ย่อท้อ เพราะความเชี่ยวชาญในภาษาที่สองนั้นช่างคุ้มค่ากับการเผชิญกับความยากในการเรียนภาษา การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน เพราะไม่มีใครเก่งได้เพียงชั่วข้ามคืน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

มุ่งมั่นในการเรียนภาษา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาก็คือการฝึกพูดกับเจ้าของภาษา เจ้าของภาษาจะช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของไวยากรณ์และการออกเสียงของคุณให้ถูกต้อง ทั้งยังช่วยแนะนำรูปแบบวลีแบบภาษาพูดที่คุณจะไม่เจอในตำราเรียนอีกด้วย [13]
    • คุณโชคดีมากถ้ามีเพื่อนที่ใช้ภาษาเกาหลีที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณ ไม่อย่างนั้นคุณอาจลองลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหรือในอินเทอร์เน็ต หรือเข้าร่วมกลุ่มสนทนาภาษาเกาหลีที่มีแถวบ้านคุณ
    • หากคนรอบตัวไม่มีใครพูดภาษาเกาหลีได้เลย คุณอาจหาเพื่อนพูดคุยกันในสไกป์ แล้วลองแลกเปลี่ยนบทสนทนาภาษาเกาหลีเป็นเวลา 15 นาที สลับกับภาษาไทยอีก 15 นาที
  2. หากต้องการแรงจูงใจเพิ่มเติมหรืออยากเรียนให้เป็นกิจจะลักษณะ คุณอาจลองสมัครเข้าคอร์สเรียนภาษาเกาหลีดู
    • มองหาคอร์สเรียนภาษาได้จากโฆษณาตามมหาวิทยาลัย โรงเรียน หรือศูนย์ชุมชน
    • หากกังวลกับการเข้าคอร์สเรียนภาษาก็ให้หาเพื่อนสมัครเรียนด้วยกัน คุณจะรู้สึกสนุกกับการเรียนมากขึ้น และมีคนให้ฝึกด้วยในระหว่างเข้าเรียน
  3. หาดีวีดีภาพยนตร์เกาหลี (พร้อมซับไตเติ้ล) มาดู หรือดูการ์ตูนเกาหลีผ่านทางออนไลน์ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและเพลิดเพลินในการเรียนรู้การออกเสียงและโครงสร้างประโยคของภาษาเกาหลี
    • อาจลองฝึกฝนด้วยการกดหยุดวิดีโอชั่วคราวหลังได้ยินประโยคที่ง่ายๆ แล้วลองพูดตาม วิธีนี้จะช่วยให้สำเนียงภาษาเกาหลีของคุณมีความถูกต้องมากขึ้น
    • ถ้าไม่สามารถหาซื้อภาพยนตร์เกาหลีได้ คุณอาจเช่าภาพยนตร์จากร้านเช่าหนังแทนได้ ซึ่งร้านเช่าหนังส่วนมากมักจะมีโซนของภาพยนตร์ต่างประเทศให้ได้เลือกชม หรือไม่อย่างนั้น คุณอาจหายืมภาพยนตร์เกาหลีจากห้องสมุดใกล้บ้านหรือถามดูว่าคุณจะสามารถหายืมได้จากที่ใดบ้าง
  4. แปลคำว่า "เรียนตัวหนังสือ" หรือ "เกมสำหรับเด็กเล็ก" เป็นภาษาเกาหลี จากนั้นก็อปปี้มาวางผลที่เป็นตัวหนังสือฮันกึลตรงช่องค้นหาในแอพสโตร์ แอพพวกนี้จะทำง่ายๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ คุณจึงไม่จำเป็นต้องอ่านเกาหลีออกก็ใช้งานมันได้ ซึ่งน่าจะราคาถูกกว่าการซื้อดีวีดี แอพจะสอนวิธีเขียนตัวหนังสือเกาหลีที่ถูกต้อง ยังมีเพลงกับท่าเต้นให้เล่น มีปริศนาและเกมให้เรียนรู้ประโยคที่ใช้งานบ่อยในชีวิตประจำวัน แต่ระวังอย่าไปเผลอซื้อแอพที่สอนเด็กเกาหลีให้รู้จักภาษาอังกฤษแทนล่ะ
  5. การฟังเพลงและ/หรือวิทยุเกาหลีเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยพัฒนาภาษาของคุณ แม้ว่าคุณอาจไม่สามารถฟังเข้าใจได้ทั้งหมด แต่ให้พยายามจับคำสำคัญที่จะช่วยให้คุณรู้ใจความสำคัญของประโยคได้
    • เพลงเกาหลีบางครั้งก็มีภาษาอังกฤษแทรกอยู่ในเนื้อร้องได้เหมือนกัน และบางครั้งก็จะมีแฟนคลับคอยแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษให้ทั้งเพลง ลองหามาอ่านดูเพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจความหมายได้ดียิ่งขึ้น
    • ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันฟังวิทยุเกาหลีบนมือถือเพื่อให้คุณสามารถฟังเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา
    • ดาวน์โหลดพ็อดคาสท์ภาษาเกาหลีไว้ฟังตอนออกกำลังกายหรือตอนทำงานบ้าน
  6. หากเริ่มรู้สึกมั่นใจในการพูดภาษาเกาหลีเบื้องต้นแล้ว ก็อาจลองไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีดู มีวิธีใดในการพัฒนาภาษาเกาหลีของคุณที่จะดีไปกว่าการท่องเที่ยวในประเทศของเจ้าของภาษาล่ะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้ลองคิดเรื่องต่างๆ เป็นภาษาเกาหลีโดยไม่ต้องคิดเป็นภาษาไทยก่อน
  • ควรแน่ใจว่าออกเสียงได้อย่างถูกต้อง หรือหากไม่แน่ใจ อาจลองหาวิธีการออกเสียงที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ต่างๆ ได้
  • วิธีที่จะทำให้จำภาษาเกาหลีได้ในระยะยาวคือการทบทวนบ่อยๆ และการใช้อารมณ์ความรู้สึก คุณสามารถเรียนคำศัพท์ประมาณ 500 คำได้จากการทบทวนซ้ำบ่อยๆ เพราะคำศัพท์จำนวนเท่านี้เป็นจำนวนที่คุณจะสามารถจำได้อย่างไม่มีปัญหาด้วยวิธีนี้ และคุณจะจำได้ดีมากขึ้นหากใช้อารมณ์ความรู้สึกมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณได้เรียน
  • พยายามทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมาแล้วเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการไม่ให้ลืม
  • ติดตั้งแอพพลิเคชันรวมบทสนทนาและคำศัพท์ภาษาเกาหลีที่จะให้คุณได้เรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาพื้นฐาน และติดตั้งแอพพลิเคชันพจนานุกรมเกาหลีเอาไว้ด้วย
  • ท่องศัพท์วันละ 5-10 คำ (หรืออย่างน้อยวันละ 3 คำ) ทบทวนโดยการพูดคำศัพท์แล้วจึงพูดคำแปล และพูดคำแปลแล้วจึงพูดคำศัพท์ซ้ำอีกครั้ง
  • ถ่ายรูปหน้าจอเมื่อเจอประโยคที่ชอบในเนื้อเพลงจากในคลิปวิดีโอ จากนั้นให้เขียนลงในกระดาษแล้วลองจำประโยคนั้น
  • ดูรายการเกาหลีหรือฟังเพลงเกาหลีแบบไม่มีซับไตเติ้ล หลังจากลองแปลเองแล้วจึงเปิดซับไตเติ้ลเพื่อตรวจดูคำตอบที่ถูกต้อง
โฆษณา

คำเตือน

  • ภาษาเกาหลีอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนไทยเนื่องจากมีความแตกต่างกับภาษาไทยเป็นอย่างมาก แต่อย่ายอมแพ้เมื่อเจอสิ่งที่ยากขึ้น ให้คิดว่าการเรียนภาษาเกาหลีก็เหมือนกับการแก้ปริศนาใหญ่ ดังนั้น จงสนุกไปกับมันดีกว่า!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 367,811 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา