ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หลอดเลือดแดง (Arteries) เป็นหลอดเลือดขนาดใหญ่ที่ส่งผ่านเลือดจากหัวใจไปทั่วร่างกาย มันสามารถอุดตันได้ทั้งจากคราบไขมัน คลอเรสเตอรอล และสารอื่นๆ โดยคราบที่เกาะในหลอดเลือดจะสะสมมากขึ้นและจะทำให้หลอดเลือดตีบลงเมื่อเวลาผ่านไป ผลก็คือคุณก็อาจจะเป็นโรคหลอดเลือดแข็งได้ โดยโรคหลอดเลือดแข็งสามารถทำให้เกิดความผิดปกติได้หลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดแดงโคโรนารี (หลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปที่หัวใจโดยตรง) และอาการอื่นๆ ที่ถึงแก่ชีวิตได้ วิธีที่ได้ผลที่สุดที่จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้ได้แก่การเปลี่ยนวิธีการทานอาหารและการใช้ชีวิตของคุณเอง
ขั้นตอน
-
หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์. ไขมันอิ่มตัวนั้นเป็นผู้ร้ายสำคัญในการทำให้ระดับคลอเรสเตอรอลสูงขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล คุณควรที่จะหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ด้วยเช่นกัน ซึ่งมันจะมีชื่อปรากฎบนฉลากอาหารว่ามันเป็นน้ำมันและไขมันที่ “เติมสารไฮโดรเจน (Hydrogenated)” [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- ตัวอย่างอาหารที่มีไขมันเหล่านี้จำนวนมากได้แก่ เนย มาการีน ชีส ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็ม เนื้อแดง และเนื้อที่ผ่านการแปรรูป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณควรที่จะตรวจสอบระดับไขมันอิ่มตัวบนฉลากอาหารและจำกัดปริมาณแคลอรี่ของไขมันที่ควรได้รับต่อวันให้อยู่แค่ 5-6 เปอร์เซนต์ (ตัวอย่างเช่น ไขมัน 13 กรัมในการทานอาหาร 2,000 แคลอรี่ต่อวัน) [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการทำอาหาร. เพราะว่าเนย น้ำมันหมู และมาการีนนั้นมีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่สูงมาก คุณควรที่จะเลือกน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการทำอาหาร น้ำมันที่ควรเลือกนั้นมักจะมีไขมันเชิงเดี่ยวที่ไม่อิ่มตัวและไขมันเชิงซ้อนที่ไม่อิ่มตัวอยู่สูง ซึ่งจะให้ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลและลดการอักเสบในโรคหลอดเลือดแดงแข็ง [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Medical School ไปที่แหล่งข้อมูล น้ำมันเหล่านี้ได้แก่ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- น้ำมันมะกอก
- น้ำมันคาโนลา
- น้ำมันถั่วลิสง
- น้ำมันงา
- น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าวไม่ได้อยู่ในรายการนี้และก็ควรหลีกเลี่ยงด้วย [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
-
เพิ่มการทานไขมันโอเมก้า 3. ไขมันโอเมก้า 3 (หรือไขมัน “ดี”) จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล คุณสามารถพบไขมันชนิดนี้ได้ในอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะปลา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาเทราต์ ซึ่งเป็นแหล่งที่ดีของไขมันชนิดนี้ ดังนั้น คุณควรลองทานอาหารเหล่านี้สัก 2 ครั้งต่ออาทิตย์ [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล อาหารอื่นๆ ที่มีโอเมก้า 3 สูงได้แก่ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมล็ดแฟลกซ์และน้ำมันแฟลกซ์
- วอลนัท
- เมล็ดเชีย
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้
- ถั่วเมล็ดแห้ง
- ผักใบเขียว
- อะโวคาโด
-
เลือกทานโฮลเกรน. ธัญพืชที่ขัดสีแล้วจะขัดเอาไฟเบอร์และสิ่งที่มีประโยชน์ต่างๆ ออกไป แทนที่จะเลือกทานอาหารที่ทำจากแป้งขาว (ข้าวขาว ขนมปังขาว พาสต้าซาโมลินา เป็นต้น) ให้เลือกเป็นโฮลเกรนแทน [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณควรที่จะทานโฮลเกรน 3 ครั้งต่อวัน [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล ซึ่งโฮลเกรนที่แนะนำได้แก่ พาสต้าโฮลวีท ควินัว ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังธัญพืชเก้าชนิดเป็นต้น [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลดของหวาน. ของหวานเป็นแหล่งที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแข็ง เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วน คุณควรที่จะหลีกเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงเพื่อช่วยส่งเสริมให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้น [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณควรจำกัดการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงในปริมาณมากสุด 5 ชิ้นต่ออาทิตย์ (และน้อยกว่านั้นถ้าคุณสามารถทำได้) [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
-
เพิ่มปริมาณไฟเบอร์ที่ได้รับ. อาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยควบคุมทั้งระดับคลอเรสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ทานผัก ผลไม้ และถั่วเมล็ดแห้งให้เยอะขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มไฟเบอร์ โดยอาหารที่มีไฟเบอร์สูงได้แก่ [21] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถั่วฝัก
- แอปเปิ้ล
- ผลไม้ตระกูลส้ม
- ข้าวโอ๊ตและข้าวบาร์เลย์
- ถั่วเปลือกแข็ง
- กระหล่ำดอก
- ถั่วแขก
- มันฝรั่ง
- แครอท
- โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงควรทานไฟเบอร์ 21-25 กรัมต่อวัน ผู้ชายควรทานไฟเบอร์ 30-38 กรัมต่อวัน [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ลดปริมาณโซเดียมที่ได้รับ. โซเดียม (เกลือ) มีผลต่อความดันโลหิต หากมีความดันโลหิตสูงก็จะทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่หลอดเลือดแดงของคุณจะแข็งตัวและเสียหาย เลือกอาหารที่มีโซเดียมต่ำที่ร้านค้าหรือร้านอาหารและจำกัดปริมาณที่ได้รับมากสุดแค่ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้าแพทย์ของคุณได้วินิจฉัยว่าคุณมีความดันโลหิตสูง คุณควรที่จะจำกัดปริมาณโซเดียมที่ได้รับให้เข้มงวดขึ้นโดยสามารถทานโซเดียมได้มากสุดแค่ประมาณ1,500 มิลลิกรัมต่อวัน [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
เลิกสูบบุหรี่. สารเคมีในบุหรี่และยาสูบอื่นๆ จะทำร้ายเซลล์เม็ดเลือดของคุณ รวมถึงขัดขวางการทำงานของหัวใจและเส้นเลือด [25] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล และมันยังทำให้มีคราบก่อตัวขึ้นที่หลอดเลือด (โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว) [26] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล การเลิกสูบบุหรี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อสุขภาพที่ดีของหัวใจและปอด
- การเลิกสูบบุหรี่แบบหักดิบอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน ให้ใช้อุปกรณ์ตัวช่วยต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ในการเลิกสูบบุหรี่ เช่น ใช้แผ่นปิดผิวหนังและหมากฝรั่งที่เป็นนิโคติน หาชุมชนที่สนับสนุนการเลิกสูบบุหรี่ เป็นต้น
-
ออกกำลังกายให้มากขึ้น. การออกกำลังกายส่งผลต่างๆ ที่จะช่วยให้ปัญหาต่างๆ ที่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแดงอุดตันดีขึ้น การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำจะช่วยคุณลดน้ำหนักส่วนเกิน บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง และลด LDL ซึ่งเป็นคลอเรสเตอรอลที่ “ไม่ดี” [27] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการออกกำลังกาย คุณอาจจะเริ่มออกกำลังกายช้าๆ ก่อน ปรึกษากับแพทย์เพื่อให้ช่วยวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ
- เมื่อคุณเริ่มชินกับกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณแล้ว คุณควรตั้งเป้าในการออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับกลางๆ เป็นเวลา 30 นาที (เช่น วิ่งจ๊อกกิ้งหรือปั่นจักรยาน) โดยออกกำลังกาย 5 ครั้งต่ออาทิตย์ ถ้าคุณอยากออกกำลังกายในระดับหนัก (เช่น การออกกำลังกายแบบครอสฟิต (CrossFit)) ให้ตั้งเป้าว่าจะออกกำลังกายเช่นนี้ 75 นาทีต่ออาทิตย์ [28] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- การออกกำลังกายแบบแอโรบิกคือการออกกำลังกายให้ระดับการเต้นของหัวใจสูงขึ้น [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล ซึ่งได้แก่ การวิ่งหรือกีฬาที่มีการกระแทกสูงและการออกกำลังกายที่มีการกระแทกต่ำอย่างการว่ายน้ำและการปั่นจักรยาน
-
รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่สุขภาพดี. การเปลี่ยนแปลงอาหารและการออกกำลังกายจะทำให้น้ำหนักตัวของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่มีสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน คุณสามารถตั้งเป้าหมายน้ำหนักตัวของคุณโดยใช้ดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งเป็นการนำน้ำหนักตัวและส่วนสูงมาประเมินเปอร์เซนต์ของไขมันในร่างกาย [30] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล ให้ตั้งเป้าหมายให้น้ำหนักตัวอยู่ในช่วงปกติ ซึ่งคือระหว่างค่า 18.5-24.9 [31] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 25-29.9 นั้นถือว่ามีน้ำหนักเกิน และถือว่าค่า 30 หรือค่าที่มากกว่านั้นเป็นโรคอ้วน [32] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณสามารถหาข้อมูลในการคำนวณค่า BMI ของคุณได้จากบทความอื่นๆ
-
จัดการกับระดับความเครียด. การมีความเครียดในระดับสูงจะทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนในร่างกายซึ่งจะมีผลทำให้มีการอักเสบอย่างเรื้อรังและสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดแข็งได้ [33] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณมีความเครียดสูงเมื่ออยู่ในที่ทำงานหรือที่บ้าน เป็นเรื่องสำคัญที่จะจัดการการทำงานของร่างกายให้เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความเสี่ยงต่างๆ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อลดความเครียด [34] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
- ทำสมาธิ
- ทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบเช่นโยคะหรือรำไทชิ
- ฟังเพลง ดูภาพยนตร์ หรืองานศิลปะอื่นๆ ที่คุณพบว่ามันช่วยให้จิตใจคุณสงบ
- ใช้พลังงานในร่างกายไปกับการทำงานอดิเรกที่ชอบที่จะช่วยผ่อนคลาย
-
ลดปริมาณแอลกอฮอล์. การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดจะทำให้คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้ [35] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายควรจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์แค่ 2 หน่วยบริโภคต่อวันและผู้หญิงควรจำกัดเหลือแค่ 1 หน่วยบริโภคเท่านั้น [36] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล ปริมาณของแอลกอฮอล์หนึ่งหน่วยบริโภคนั้นแตกต่างกันไปตามชนิดของแอลกอฮอล์ ให้ใช้แนวทางต่อไปนี้ [37] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- เบียร์ 354.8 มิลลิลิตร
- ไวน์ 147.8 มิลลิลิตร
- สุรา 44.3 มิลลิลิตร
-
จัดการกับโรคเบาหวาน. การเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะทำให้คุณมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน ให้ดูแลอาการโดยการไปตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด จัดการดูแลเรื่องอาหาร และออกกำลังกายให้ร่างกายกระฉับกระเฉง [39] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Diabetes Association ไปที่แหล่งข้อมูล ปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
-
ไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ. แพทย์อาจจะตรวจความดันเลือด คลอเรสเตอรอล และระดับไตรกลีเซอไรด์อย่างละเอียด ขณะที่คุณเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มันอยู่ในช่วงที่ดีขึ้น ให้นัดแพทย์อย่างเป็นประจำเพื่อตรวจเช็คความก้าวหน้าของคุณและดูสิ่งบ่งชี้ต่างๆ เพื่อดูว่าคุณได้ทำอะไรสำเร็จไปบ้าง [40] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูลโฆษณา
-
ทานอาหารเสริมน้ำมันปลา. ถ้าคุณไม่ชอบปลาหรือไม่สามารถซื้อหาปลาได้ คุณอาจจะเพียงแค่ทานอาหารเสริมน้ำมันปลาเพื่อให้ได้ไขมันโอเมก้า 3 ให้มองหาน้ำมันปลาที่มีสาร EPA และ DHA [41] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เพิ่มการทานอาหารเสริมไซเลียม. ถ้าคุณมีปัญหาในการทานไฟเบอร์ให้เพียงพอ คุณสามารถใช้อาหารเสริมไซเลียมได้ ไซเลียมเป็นไฟเบอร์ละลายน้ำที่พบได้ในแบบชนิดเม็ดและแบบผง (เช่น Metamucil)
-
เพิ่มซอยโปรตีนจากการทานอาหารเสริม. ปกติแล้วซอยโปรตีนมักจะเป็นรูปแบบผงที่คุณสามารถผสมในอาหารและครื่องดื่มต่างๆ ได้ (น้ำผลไม้ สมูทตี้ เป็นต้น) หลายงานวิจัยได้แสดงผลว่าอาหารเสริมซอยโปรตีนนั้นมีประโยชน์ในการลดระดับของคลอเรสเตอรอล [42] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล ให้ใช้ตามคำแนะนำที่ระบุ
-
ใช้อาหารเสริมไนอาซิน. คุณสามารถใช้ไนอาซิน (วิตามินบี 3) เพื่อช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลได้ [43] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่างไรก็ตามให้พูดคุยกับแพทย์และดูการใช้อาหารเสริมไนอาซินอย่างใกล้ชิด ผลข้างเคียงทั่วไปจากการใช้ในปริมาณมาก ได้แก่ [44] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผิวหนังแดง
- ปวดท้อง
- ปวดหัว
- มึนงง
- สายตาพร่าเลือน
- เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อตับ
-
ใช้อาหารเสริมสเตอรอลจากพืช. Beta-sitosterol และ Sitostanol เป็นสองอาหารเสริมที่มีผลดีในการลดคลอเรสเตอรอล [47] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล คุณสามารถหาอาหารเสริมชนิดนี้ได้ที่ร้านขายวิตามินส่วนใหญ่หรือร้านขายอาหารสุขภาพ
-
ทานโคเอนไซม์คิวเทน (CoQ-10). โคเอนไซม์คิวเทนเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ใช้ในการรักษาอาการที่เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด [48] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง มันยังช่วยลดการเจ็บกล้ามเนื้อที่เกิดจากยาลดคลอเรสเตอรอลที่มีชื่อว่า “สแตติน (Statin)” [49] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลองทานโคเอนไซม์คิวเท็นถ้าแพทย์ได้สั่งยาชนิดนี้โฆษณา
คำเตือน
- ขณะที่บทความนี้มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกับคลอเรสเตอรอล คุณไม่ควรถือว่ามันเป็นคำแนะนำจากแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์เสมอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอาหารและการออกกำลังกายรวมถึงการเริ่มใช้อาหารเสริม
- ปรึกษากับแพทย์ก่อนการเริ่มใช้อาหารเสริมเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารเสริมจะไม่มีผลอะไรกับการใช้ยาที่แพทย์จ่ายให้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000095.htm
- ↑ http://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/top-food-sources-of-saturated-fat-in-the-us/
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.health.harvard.edu/family_health_guide/what-you-eat-can-fuel-or-cool-inflammation-a-key-driver-of-heart-disease-diabetes-and-other-chronic-conditions
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/10189324
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000767.htm
- ↑ https://www.umassmed.edu/uploadedfiles/LoweringTriglycerides.pdf
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12740068
- ↑ https://www.umassmed.edu/uploadedfiles/LoweringTriglycerides.pdf
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/dash
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/fiber/art-20043983
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/fiber/art-20043983
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/fiber/art-20043983?pg=2
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/dash
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/dash
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/smo
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/smo
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11801260
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/atherosclerosis/treatment
- ↑ http://circ.ahajournals.org/content/108/12/1527.full
- ↑ http://www.diabetes.org/living-with-diabetes/recently-diagnosed/where-do-i-begin/taking-care-of-your-diabetes.html
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=1583
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/atherosclerosis
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmedhealth/PMH0023614/
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/vitamin-b3-niacin
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/vitamin-b3-niacin
- ↑ http://umm.edu/health/medical-reference-guide/complementary-and-alternative-medicine-guide/herb/garlic
- ↑ http://umm.edu/health/medical-reference-guide/complementary-and-alternative-medicine-guide/herb/garlic
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/high-blood-cholesterol/in-depth/cholesterol-lowering-supplements/art-20050980
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/natural/938.html
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/natural/938.html
โฆษณา