PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

สมัยนี้นอกจากสนุกและท้าทายแล้ว การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยังมีประโยชน์แบบสุดๆ เป็นโอกาสให้คุณได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ แถมอาจยึดเป็นอาชีพได้ด้วย ถ้าอยากหัดเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็เริ่มจากอ่านบทความของเราข้างล่างนี่เลย ว่าจะเริ่มตรงไหนยังไงดี

สิ่งที่ควรรู่้

  • ตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าคุณอยากฝึกเขียนโปรแกรมภาษาอะไร เช่น Python, C++, หรือ JavaScript
  • ตอนที่เรียน อย่าลืมใช้ประโยชน์จากหลักสูตรออนไลน์ของทางมหาวิทยาลัย เครื่องมือหรือตำราต่างๆ
  • สอนตัวเองด้วยการสร้างโปรเจคท์โปรแกรม อ่านหนังสือให้มาก และลองหาวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ
ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เลือกภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเขียนโปรแกรมหลักๆ ก็คือการพิมพ์ชุดคำสั่งไว้ให้คอมปฏิบัติตาม (เขาเรียก binary coding) คุณเขียนคำสั่งพวกนี้ได้ด้วยหลาย "ภาษา" คือจัดการกับคำสั่งและข้อความต่างวิธีกันไป แต่ละภาษาก็เหมาะสำหรับเขียนโปรแกรมต่างกัน เพราะงั้นให้เลือกภาษาที่เหมาะกับโปรแกรมที่คุณอยากสร้าง ถ้าลองภาษาหนึ่งแล้วไม่เข้าเค้า ก็ให้เปลี่ยนไปเขียนโปรแกรมด้วยภาษาอื่นแทน [1]
    • การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นการเขียนคำสั่งที่คอมพิวเตอร์จะใช้ทำตาม คำสั่งเหล่านี้เขียนได้แตกต่างหลาย "ภาษา" หรือพูดอีกอย่างก็คือมีวิธีการจัดวางคำสั่งและถ้อยคำที่ต่างวิธีกัน
    • หากคุณเห๋็นว่าภาษาที่ใช้ไม่เหมาะกับความต้องการ คุณสามารถเปลี่ยนไปเรียนภาษาใหม่ได้เสมอ
  2. ลองเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C, C++, C# และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง. ภาษาพวกนี้เหมาะสำหรับเขียนโปรแกรมคอมเดี่ยวๆ (แบบ standalone) เช่น เกมต่างๆ แต่ภาษา C กับ C++ นั้นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ (แต่ไม่ยากเกินเรียนนะ) เรียนรู้ภาษานี้แล้วไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งแค่การเขียนโปรแกรม (ภาษาเขียนโปรแกรมส่วนใหญ่หยิบยืมแนวคิดและอื่นๆ ไปจากภาษา C กับ C++) แต่ยังลงลึกถึงการทำงานของคอมด้วย นับเป็นภาษาที่คนนิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะภาษา C# ที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Java [2]
  3. เป็นภาษาที่น่าสนใจ ถ้าใครอยากสร้าง web plugins (JavaScript) หรือแอพมือถือ (Java) ตอนนี้เรียกว่าเป็นภาษาฮอตฮิตติดลมบน เพราะงั้นเรียนรู้ไว้ไม่เสียหลายแน่ แต่ Java กับ JavaScript นั้นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถึงจะชื่อคล้ายกันก็เถอะ [3]
  4. ลองใช้ภาษา Python . Python เป็นภาษาที่ยืดหยุ่นมาก ใช้ได้กับหลายแพลตฟอร์มด้วยกัน [4] แถมทั้งๆ ที่ครบเครื่องขนาดนี้ยังเรียนรู้ได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่อีกต่างหาก ลองเริ่มจากภาษานี้ดู!
  5. PHP ย่อมาจาก PHP: Hypertext Processor เป็นภาษาสำหรับสร้างเว็บ ค่อนข้างเข้าใจง่ายเพราะไม่ต้องพิมพ์เยอะ แถมคนฮิตกัน (คือมีคนลง tutorial สอนกันไว้เยอะ) เหมาะสำหรับเขียนโปรแกรมฝั่งเซิร์ฟเวอร์
  6. ต้องบอกว่ามีอีกมหาศาลเลย แต่ละภาษาก็ต่างประโยชน์กันไป ถ้าคิดจะยึดอาชีพโปรแกรมเมอร์จริงๆ ต้องรู้มากกว่า 1 ภาษา เพราะงั้นเปิดหูเปิดตาไว้จะดีที่สุด
    • ง่ายที่สุดคือดูประกาศหางาน ว่าเขารับคนที่รู้ภาษาอะไรบ้าง แล้วเน้นเรียนรู้ภาษานั้นเลย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เรียนรู้ภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เดี๋ยวนี้บริษัทเขามักรับโปรแกรมเมอร์ที่ความสามารถ ไม่ใช่ที่ปริญญาหรือเกรด แต่ถ้าคุณกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วชอบด้านนี้จริงๆ เลือกคณะที่เกี่ยวข้องก็ยิ่งเป็นผลดี เพราะจะได้รู้ลึกรู้จริงกว่าที่ค้นคว้าเอาเองตามเน็ต แถมยังมีครูบาอาจารย์คอยแนะนำติชมอีกต่างหาก (เพื่อนๆ ในคณะด้วย)
    • ยุคนี้เขามีทุนด้านคอมเยอะแยะไป อย่าเพิ่งถอดใจว่าที่เรียนดีๆ ทำไมแพงจัง ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมดูก่อน!
  2. มีทั้งแบบเสียเงินลงเรียนจนได้ประกาศหรือปริญญา และแบบคอร์สฟรี (ส่วนใหญ่จะในต่างประเทศ) อย่าง Coursera ของ MIT ไม่ว่าแบบไหนขอแค่ตั้งใจ ก็หาความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมใส่ตัวได้แน่นอน
  3. ค่ายฝึกเขียนโปรแกรมนั้นทำมาให้คุณได้เรียนรู้อย่างเร่งรัด มักมีระยะสั้น (ปกติจะนาน 12 ถึง 25 สัปดาห์) บางค่ายก็อาจมีครูแนะแนวการหางานด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ทำอาชีพนี้เต็มตัว
    • ถ้ามองหาค่ายฝึกที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่จริงจังจนเกินไป ก็ลองดูที่ Free Code Camp
  4. มีโปรแกรมเมอร์เยอะมากที่เปิดเว็บสอนพื้นฐานการเขียนโปรแกรม รวมถึงทริคและทิปวงในต่างๆ ให้หาคลิป tutorial ของภาษาที่คุณสนใจแล้วศึกษาดูเลย
    • เดี๋ยวนี้ก็มีสอนเขียนโค้ดออนไลน์กันหลายคลาส อย่าง Khan Academy ก็สอนเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์พร้อม tutorial และคลิปง่ายๆ ส่วน Code Academy ก็เป็นอีกเว็บเรียนฟรี มี tutorial แบบละเอียดทีละขั้นตอนเลย
    • เว็บไซต์อย่าง Learn Python , Ruby in Twenty Minutes , และ Learn Java Online มี tutorials เฉพาะภาษาให้คุณได้เลือกเรียน
  5. มีหลายโปรแกรมเลยที่มุ่งเน้นสอนเด็กเขียนโปรแกรม เช่น Scratch ของ MIT เรียกได้ว่ายิ่งเด็กก็ยิ่งเรียนรู้ได้ไว (เหมือนเรียนภาษาต่างประเทศนั่นแหละ)
    • อย่าไปซื้อพวกชุด kit ต่างๆ พร้อม CD/DVD เพราะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

หาความรู้เพิ่มเติม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มจากตำราดีๆ สักเล่ม หรือคลิป tutorial สอนเขียนโปรแกรม. พยายามหาตำราภาษาเขียนโปรแกรมที่คุณสนใจ อย่างใน Amazon หรือเว็บอื่นๆ ก็จะมีบอกอันดับหนังสือที่คนนิยมในด้านนั้นๆ และมีรีวิวว่าใช้ได้จริงแค่ไหน
  2. interpreter เป็นโปรแกรมคอมใช้แปลงไอเดียที่คุณเขียนด้วยภาษาโปรแกรมออกมาเป็น "machine code" หรือโค้ดสำหรับคอม คุณจะได้เห็นว่าภาษาที่คุณพิมพ์ไปนั้น สุดท้ายใช้ได้ผลไหม มีหลายโปรแกรมให้เลือก ขอแค่เลือกมาสักโปรแกรมที่เข้าทางคุณที่สุด [5]
  3. มีแหล่งข้อมูลอยู่มากมาย เช่น Mozilla’s Developer Network, Stack Exchange, และ Try Ruby ในการเรียนและทดสอบโปรแกรม เว็บไซต์เหล่านี้ต้องการนักพัฒนาฝีมือดีช่วยขยายแหล่งข้อมูล ความรู้ในนั้นจึงอาจดีที่สุดในเว็บ
  4. ศึกษาตัวอย่างภาษาที่ตำราเขาใช้ แล้วเอาไปทดลองใน interpreter ลองปรับเปลี่ยนตัวอย่างดู ให้โปรแกรมทำอะไรต่างออกไป
  5. เริ่มจากโปรแกรมง่ายๆ ก่อน เช่น โปรแกรมแปลงสกุลเงิน แล้วค่อยพัฒนาไปเป็นโปรแกรมที่สลับซับซ้อนกว่าหลังจากศึกษาไปพักหนึ่งแล้ว
  6. พอเขียนโปรแกรมด้วยภาษาแรกเป็นแล้ว ให้ขยับขยายไปเรียนภาษาอื่นต่อไป ถ้าเลือกภาษาที่มีลักษณะโครงสร้างแตกต่างจากภาษาเดิมโดยสิ้นเชิงก็จะได้ประโยชน์มากขึ้นไปอีก เช่น ถ้าตอนแรกเรียน Scheme ก็ให้เปลี่ยนไปเรียนภาษา C หรือ Java แทน แต่ถ้าตอนแรกเรียน Java ก็อาจเปลี่ยนไปเรียน Perl หรือ Python แทน
  7. ถ้าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์มือดี อย่างน้อยก็ห้ามหยุดวิ่งตามเทคโนโลยีใหม่ๆ การเรียนรู้ไม่มีวันจบ ถ้าเป็นไปได้ให้เรียนภาษาใหม่ รูปแบบใหม่เรื่อยๆ ที่สำคัญคือสร้างสรรค์โปรแกรมใหม่ๆ ออกมาด้วยนะ!
    • การเป็นนักเขียนโปรแกรมที่ประสบความสำเร็จหมายถึงคุณเริ่มคิดเหมือนพวกเขา คุณจะมองว่าความท้าทายคือโอกาสของการเรียนรู้ อยากจะพัฒนาฝีมือตนเองและเปิดใจมองหาวิธีใหม่ๆ ที่จะพัฒนากระบวนการเขียนโปรแกรมของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าเริ่มจากภาษายากๆ อย่าง Java ให้เลือกภาษาที่ง่ายกว่าอย่าง Python เพราะเหมาะกับมือใหม่ และเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักแทบทุกองค์ประกอบที่จำเป็นของการเขียนโปรแกรม
  • Java มีแนวคิดเจ๋งๆ อย่าง multithreading ให้ลองศึกษาดูให้ดี
  • ตำราดีๆ ก็สำคัญ ข้อมูลต้องอัพเดทด้วย เพราะภาษาเขียนโปรแกรมนั้นพัฒนาอยู่ตลอด
  • เริ่มจากอะไรที่คุณเห็นว่าน่าสนุก จะได้มีแรงบันดาลใจในการเอาชนะอุปสรรค และพัฒนาฝีมือในการแก้ไขปัญหาเชาว์
  • ให้ใช้ Eclipse ตอนเขียนโปรแกรม Java เพราะเป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์มาก สามารถ debug คือแก้โค้ดที่ผิดพลาดของคุณได้ แถมยังใช้โค้ดนั้นได้ทันที รวมถึงมี package explorer ใช้ดูไฟล์ต่างๆ ของโค้ดได้ด้วย
  • syntax หรือรูปแบบการเขียนโปรแกรมต้องแม่น แล้วหลังจากนั้นคุณจะพัฒนาไปยังไงก็ตามสบาย ให้ลองศึกษาโปรแกรมตัวอย่างดู แล้วลองเขียนโค้ดในแบบของคุณ
  • มีภาษาโปรแกรมที่ง่ายสุดๆ สำหรับมือใหม่เหมือนกัน เขาเรียกว่า user-friendly เป็น VB (ภาษา Visual Basic) คือมีเมนูให้เห็นภาพชัดเจน ลองดูแล้วจะรู้ว่ามัน amazing มาก!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 133,662 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา