PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการโทรออกโดยไม่โชว์เบอร์ตัวเองให้ปลายสายรู้ ง่ายที่สุดคือเติมโค้ดซ่อนเบอร์ (เช่น ถ้าใช้ AIS ให้กด *515 ) เข้าไปหน้าเบอร์คนที่จะโทรหา ถ้าใช้สมาร์ทโฟน ก็ยังมีตัวเลือกให้โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์ตลอดด้วย โดยเข้าไปปรับในแอพ Settings แต่ไม่ใช่มือถือทุกเครื่องจะมีตัวเลือกนี้ วิธีสุดท้ายคือใช้แอพ Google Voice ฟรี เพื่อขอเบอร์ใหม่เอาไว้ซ่อนเบอร์โทรที่แท้จริงของตัวเอง ถึงปลายสายจะใช้แอพ unmask เพื่อแสดงเบอร์ที่โทรเข้า ก็ไม่ได้ผล

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เติมโค้ดซ่อนเบอร์ไว้ข้างหน้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องรู้ก่อนว่าโค้ดซ่อนเบอร์ที่ต้องใช้คืออะไร. ถ้าอยากโทรออกแบบไม่โชว์เบอร์ ก็ต้องเติมโค้ดซ่อนเบอร์ไว้ข้างหน้า จากนั้นตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ 10 หลักที่จะโทรออก (หรือ 11 หลักถ้าโทรต่างประเทศ) แล้วกดปุม "Dial" (โทรออก) โค้ดซ่อนเบอร์ที่นิยมใช้กันก็เช่น *515 ของ AIS (ของค่ายอื่นลองสอบถาม call center ดู) ส่วนโค้ดของประเทศอื่นๆ ก็เช่น
    • *67 - มือถือและโทรศัพท์บ้านในอเมริกาเหนือ รวมถึงโทรศัพท์บ้านของแคนาดา
    • #31# - มือถือบางค่ายของอเมริกาเหนือ (เช่น AT&T) และมือถือบางค่ายของแคนาดา
    • 141 - มือถือและโทรศัพท์บ้านส่วนใหญ่ในอังกฤษ
  2. ไอคอนของแอพจะเป็นรูปหูโทรศัพท์บนพื้นสี ปกติจะอยู่ในหน้า home ของมือถือ
    • ถ้าใช้โทรศัพท์บ้านหรือมือถือที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน ก็คือยกหูขึ้นมาหรือเตรียมกดเบอร์ตามปกติ
  3. ถ้าเปิดแอพ Phone ในมือถือมาไม่เจอแป้นตัวเลข ให้มองหาไอคอนหรือ tab "Dialpad" แล้วแตะได้เลย ปกติไอคอนจะเป็นรูปแป้นพิมพ์เลย
    • ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ ถ้าใช้โทรศัพท์บ้านและมือถือที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน
  4. พิมพ์โค้ดซ่อนเบอร์ตามประเทศและค่ายมือถือ เช่น ถ้าใช้ AIS อย่างที่ยกตัวอย่าง ก็ให้พิมพ์ *515
    • อย่าเพิ่งกดปุ่ม "Call" (โทรออก)
  5. พิมพ์เบอร์โทรศัพท์ของคนที่คุณจะโทรหาแบบไม่โชว์เบอร์ เสร็จแล้วเบอร์ที่คุณจะโทรออก จะหน้าตาประมาณนี้ *5150801234567
  6. เพื่อโทรไปยังหมายเลขปลายสายแบบไม่โชว์เบอร์ เบอร์ที่ไปขึ้นในหน้าจอหรือจอ LCD ของเครื่องคนที่คุณโทรหา จะเป็น "BLOCKED", "RESTRICTED" หรือ "CALLER ID UNAVAILABLE"
    • บางคนเขาก็ลงแอพ call-unmasking ไว้ในเครื่อง แปลว่าจะยังเห็นเบอร์คุณ แม้คุณจะใช้โค้ดซ่อนเบอร์ก็ตาม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ปรับใน Settings ของ iPhone

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แตะไอคอนของแอพ Settings ที่เป็นรูปฟันเฟืองบนพื้นเทา ปกติอยู่ในหน้า Home ของ iPhone
  2. ที่เป็นตัวเลือกลงไปประมาณ 1/3 ของหน้า ทางขวาของไอคอนรูปหูโทรศัพท์สีขาวเขียว
  3. ปกติจะอยู่กลางหน้าจอ ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ หรือตัวเลือกอื่นที่ใกล้เคียง (เช่น Caller ID ) แสดงว่าคุณปรับค่าในแอพ Settings ของ iPhone เพื่อซ่อน caller ID หรือเบอร์ตัวเองไม่ได้
    • ถ้า iPhone คุณซ่อน caller ID ไม่ได้ ให้เข้าเว็บหรือลองสอบถาม call center ของค่ายมือถือที่ใช้ ว่ามีฟีเจอร์ไม่โชว์เบอร์แบบคิดค่าบริการไหม
  4. ต่อไปนี้ ทุกครั้งที่คุณโทรออกด้วยแอพ Phone ของ iPhone ก็จะไม่โชว์เบอร์ เบอร์คุณจะไม่ไปขึ้นในเครื่องปลายสาย
    • แต่ถ้าอีกฝ่ายลงแอพ call-unmasking ไว้ในเครื่อง เขาก็อาจจะยังเห็นเบอร์คุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ปรับใน Settings ของ Android

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แตะไอคอนแอพ Phone ที่ปกติเป็นรูปหูโทรศัพท์บนพื้นสี
  2. ที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
    • ในมือถือบางเครื่อง ตัวเลือกนี้จะขึ้นว่า MORE แทน
  3. ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเข้าหน้า Phone settings
  4. ให้มองหาตัวเลือก Calls , Outgoing หรือ Call settings ในเมนูนี้ เจอแล้วแตะเลย
  5. ปกติตัวเลือกนี้จะอยู่ในเมนู Calls
    • อาจจะต้องแตะ Additional settings หรือตัวเลือกอื่นก่อน ถึงจะเข้า setting นี้ได้
  6. ที่อยู่ในเมนู Caller ID settings ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ แสดงว่าคุณซ่อนเบอร์ตอนโทรออกโดยปรับค่า settings ของ Android ไม่ได้
    • ชื่อตัวเลือกนี้บางทีก็ต่างออกไป (เช่น HIDE )
    • ถ้าใน settings ของ Android ไม่มีตัวเลือกซ่อนเบอร์ ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ แบบเสียเงินที่ใช้ซ่อน caller ID ได้ ยังไงลองเข้าเว็บหรือสอบถาม call center ของค่ายมือถือที่ใช้ ว่ามีฟีเจอร์ไม่โชว์เบอร์แบบคิดค่าบริการไหม
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ Google Voice

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แตะไอคอนของแอพ Google Voice ที่เป็นรูปหูโทรศัพท์สีขาวในลูกโป่งคำพูดสีฟ้า เพื่อเปิดหน้าแชทของ Google Voice ถ้ายังไม่ได้เปิดไว้
    • ถ้ายังไม่มีแอพ Google Voice ให้ดาวน์โหลดแอพฟรีนี้ลง iPhone หรือ Android ก่อน
    • ถ้ายังไม่มีบัญชี Google Voice จะมีให้สมัครบัญชีผู้ใช้ใหม่ตอนเปิดแอพครั้งแรก (หรือแตะ SIGN UP ) โดยทำตามขั้นตอนในหน้าจอ
    • ถ้ายังไม่ได้ล็อกอินเข้า Google Voice ให้เลือกอีเมล หรือพิมพ์อีเมลและรหัสผ่านตอนที่ขึ้น
  2. ที่เป็นไอคอนรูปหูโทรศัพท์ท้ายหน้าจอ (iPhone) หรือด้านบนของหน้าจอ (Android)
  3. ที่เป็นตัวเลือกมุมขวาล่างของหน้าจอ ถ้าใช้ iPhone จะมีเมนูเด้งขึ้นมา
    • ถ้าใช้ Android ปุ่มนี้จะเป็นรูปหูโทรศัพท์แทน
  4. ในเมนูที่เด้งขึ้นมา เพื่อเปิดหน้าโทรออก
    • ถ้าใช้ Android ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
  5. พิมพ์เบอร์ของคนที่คุณอยากโทรหาแบบไม่โชว์เบอร์
  6. ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา ล่างช่องพิมพ์ทางด้านบนของหน้าจอ
  7. เพื่อโทรออกไปยังเบอร์ที่ระบุ อีกฝ่ายจะเห็นเบอร์ที่ได้จาก Google Voice ไม่ใช่เบอร์โทรจริงๆ ของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การโทรออกแบบไม่โชว์เบอร์เหมาะจะใช้เป็นครั้งเป็นคราว เช่น โทรสอบถามเรื่องซื้อของออนไลน์ หรือโทรคุยเรื่องงาน เรื่องการบ้าน กับเพื่อนร่วมชั้น/ร่วมงานที่ไม่สนิท
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามนำวิธีไม่โชว์เบอร์นี้ไปใช้แบบผิดๆ หรือก่อกวนคนอื่นเด็ดขาด


โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นข้อความเตือนว่าไม่มีซิม
กำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอย
ใช้งาน WeChat
หา PUK Code ของมือถือ
เช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิม
ปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUK
โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)
แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้น
โกงจำนวนนับก้าวในมือถือแบบไม่ต้องเดิน
ค้นหา Apple Watch ที่หายไปอย่างไรเมื่อแบตเตอรี่หมด
หาเบอร์มือถือสำหรับใช้ชั่วคราว
เช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยัง
ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีบลูทูธหรือไม่
เช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยัง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 131,041 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา