ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการติดตั้งและใช้งาน Microsoft Excel ทั้งในเครื่อง Windows และ Mac ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
ติดตั้ง Microsoft Office ถ้ายังไม่มี. Microsoft Excel ไม่ใช่โปรแกรมเดี่ยวแบบ standalone แต่เป็นหนึ่งในชุดโปรแกรมของ Microsoft Office สำหรับคนที่ซื้อหรือ subscribe
-
เปิดไฟล์ Excel ที่มี. ถ้าจะเปิดไฟล์ Excel ที่มีอยู่ ก็แค่ดับเบิลคลิกไฟล์นั้น แล้วไฟล์จะโผล่มาในหน้าต่าง Excel
- ถ้าจะเปิดไฟล์ใหม่ใน Excel ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
-
เปิด Excel. คลิกหรือดับเบิลคลิกไอคอนของโปรแกรม Excel ที่เป็นรูปตัว "X" สีขาวบนพื้นเขียวเข้ม
-
เลือกเทมเพลตที่ต้องการ. ถ้าจะใช้เทมเพลตของ Excel (เช่น เทมเพลตแผนงบประมาณ) ให้เลื่อนลงไปจนเจอเทมเพลตที่ว่า แล้วคลิก 1 ครั้งเพื่อเปิดเทมเพลตขึ้นมาในหน้าต่าง
- ถ้าแค่อยากเปิดเอกสารใหม่ว่างๆ ใน Excel ก็คลิกตัวเลือก Blank ที่ด้านซ้ายบนของหน้าได้เลย และไม่ต้องทำขั้นตอนถัดไป
-
คลิก Create . ทางขวาของชื่อเทมเพลต
-
รอจน workbook ของ Excel เปิดขึ้นมา. อาจจะต้องรอ 2 - 3 วินาที พอเทมเพลตหรือหน้าว่างโผล่มาใน Excel แล้ว ก็ไปกรอกข้อมูลลง sheet ได้เลยโฆษณา
-
รู้จัก ribbon tab ต่างๆ ของ Excel. ใน "ribbon" สีเขียวทางด้านบนของหน้าต่าง Excel จะเห็น tab ต่างๆ แต่ละ tab ก็ใช้เปิด tool ต่างๆ ของ Excel ซึ่งหลักๆ ที่ควรรู้ก็คือ
- Home — จะมีตัวเลือกต่างๆ สำหรับปรับฟอร์แมตข้อความ เปลี่ยนสีพื้นหลังของเซลล์ และอื่นๆ
- Insert — จะมีตัวเลือกต่างๆ สำหรับปรับแต่งตาราง แผนผัง กราฟ และสมการ
- Page Layout — จะมีตัวเลือกต่างๆ สำหรับปรับ margins ของหน้า การวางแนว และธีม
- Formulas — จะมีตัวเลือกสูตร (formula) ต่างๆ รวมถึงเมนูฟังก์ชั่น
-
ใช้แถวบนของเซลล์เป็น header. เวลาจะป้อนข้อมูลใน spreadsheet ว่าง ให้ใช้เซลล์บนสุดของแต่ละคอลัมน์ (เช่น A1 , B1 , C1 แบบนี้ไปเรื่อยๆ) เป็นหัวข้อของคอลัมน์ เหมาะสำหรับการสร้างกราฟหรือตารางที่ต้องใช้ label
-
เลือกเซลล์. คลิกเซลล์ที่จะป้อนข้อมูล
- เช่น ถ้าใช้เทมเพลตแผนงบประมาณ อาจจะคลิกเลือกเซลล์แรกที่ว่าง
-
พิมพ์ข้อความ. พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการในเซลล์
-
กด ↵ Enter . เพื่อเพิ่มข้อมูลในเซลล์ แล้วขยับไปเลือกเซลล์ถัดไปที่ว่าง
-
แก้ไขข้อมูล. คุณกลับไปแก้ไขข้อมูลได้ในภายหลัง โดยคลิกเซลล์ที่จะแก้ไข แล้วเปลี่ยนแปลงข้อมูลในช่องพิมพ์ ทางด้านบนของเซลล์แถวบนสุด
-
แก้ไขฟอร์แมตข้อความตามต้องการ. ถ้าจะเปลี่ยนฟอร์แมตข้อความในเซลล์ (เช่น ถ้าจะเปลี่ยนฟอร์แมตจากการเงินเป็นวันที่) คลิก tab Home คลิกช่องที่ขยายลงมา ทางด้านบนของหัวข้อ "Number" แล้วคลิกประเภทฟอร์แมตที่ต้องการ
- หรือใช้ conditional format เพื่อให้เซลล์ปรับตามเงื่อนไขใน spreadsheet (เช่น ถ้าค่าของเซลล์ต่ำกว่าจำนวนที่กำหนด ให้เซลล์นั้นกลายเป็นสีแดง)
โฆษณา
-
เลือกเซลล์ที่จะใส่สูตร. คลิกเซลล์ที่จะสร้างสูตร
-
ใช้คำสั่งง่ายๆ. คุณบวก ลบ คูณ หารค่าในเซลล์ได้ด้วยสูตรต่อไปนี้
- บวก
— ให้พิมพ์ =SUM(cell+cell)
(เช่น
=SUM(A3+B3)
) ถ้าจะบวกค่าของ 2 เซลล์เข้าด้วยกัน หรือพิมพ์ {{kbd|=SUM(cell,cell,cell) (เช่น=SUM(A2,B2,C2)
) ถ้าจะบวกค่าของหลายเซลล์เข้าด้วยกัน - ลบ
— ให้พิมพ์ =SUM(cell-cell)
(เช่น
=SUM(A3-B3)
) ถ้าจะลบค่าของเซลล์หนึ่งด้วยค่าจากอีกเซลล์ - หาร
— ให้พิมพ์ =SUM(cell/cell)
(เช่น
=SUM(A6/C5)
) ถ้าจะหารค่าของเซลล์หนึ่งด้วยค่าจากอีกเซลล์ - คูณ
— ให้พิมพ์ =SUM(cell*cell)
(เช่น
=SUM(A2*A7)
) ถ้าจะเอาค่าจาก 2 เซลล์มาคูณกัน
- บวก
— ให้พิมพ์ =SUM(cell+cell)
(เช่น
-
บวกจำนวนจากทั้งคอลัมน์. ถ้าอยากเอาจำนวนต่างๆ จากทั้งคอลัมน์ (หรือหัวข้อของคอลัมน์) มาบวกกัน ให้พิมพ์ =SUM(cell:cell) (เช่น
=SUM(A1:A12)
) ในเซลล์ที่จะใช้แสดงผลลัพธ์ที่ได้ -
เลือกเซลล์ที่จะใส่สูตรขั้นสูง. ถ้าอยากใช้สูตรที่ซับซ้อนขึ้น ให้ใช้ Insert Function tool โดยเริ่มจากคลิกเซลล์ที่จะแสดงสูตร
-
คลิก Formulas . ที่เป็น tab ด้านบนของหน้าต่าง Excel
-
คลิก Insert Function . ที่เป็นตัวเลือกทางซ้ายสุดของ toolbar Formulas เพื่อเปิดหน้าต่างขึ้นมา
-
เลือกฟังก์ชั่น. คลิกฟังก์ชั่นที่จะใช้ในหน้าต่าง แล้วคลิก OK
- เช่น ถ้าจะเลือกสูตรสำหรับหาค่า tan (tangent) ของมุม ก็ให้เลื่อนลงไปคลิกตัวเลือก TAN
-
กรอกแบบฟอร์มฟังก์ชั่น. ตอนที่ขึ้น ให้พิมพ์จำนวน (หรือเลือกเซลล์) ที่จะใช้สูตร
- เช่น ถ้าเลือกฟังก์ชั่น TAN ก็ให้พิมพ์จำนวนที่จะหาค่า tan
- อันนี้แล้วแต่ฟังก์ชั่นที่เลือก บางทีก็ต้องคลิกผ่านไปหลายหน้าก่อน
-
กด ↵ Enter . เพื่อใช้ฟังก์ชั่น และแสดงผลในเซลล์ที่เลือกโฆษณา
-
ป้อนข้อมูลที่จะสร้างแผนผัง. เช่น ถ้าจะสร้างกราฟเส้นหรือกราฟแท่ง ให้ใช้เซลล์ 1 คอลัมน์เป็นแกนแนวนอน และเซลล์อีก 1 คอลัมน์เป็นแกนแนวตั้ง
- พูดง่ายๆ คือคอลัมน์ทางซ้ายใช้เป็นแกนแนวนอน ส่วนคอลัมน์ติดกันทางขวาใช้เป็นแกนแนวตั้ง
-
เลือกข้อมูล. คลิกแล้วลากเมาส์จากข้อมูลเซลล์ซ้ายบน ลงไปที่ข้อมูลเซลล์ขวาล่าง
-
คลิก Insert . ที่เป็น tab ทางด้านบนของหน้าต่าง Excel
-
คลิก Recommended Charts . ปกติตัวเลือกนี้จะอยู่ในหัวข้อ "Charts" ของ toolbar Insert คลิกแล้วหน้าต่างเทมเพลตแผนผังต่างๆ จะโผล่มา
-
เลือกเทมเพลตของแผนผัง. คลิกเทมเพลตแผนผังที่ต้องการ
-
คลิก OK . ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อสร้างแผนผัง
-
แก้ไขชื่อแผนผัง. ดับเบิลคลิกชื่อทางด้านบนของแผนผัง แล้วลบ จากนั้นเปลี่ยนชื่อเดิมของแผนผังเป็นชื่อใหม่
-
เปลี่ยนชื่อแกนของแผนผัง. ถ้าจะตั้งชื่อแกนในแผนผังซะใหม่ ให้ไปเปลี่ยนในเมนู "Chart Elements" โดยคลิก + สีเขียว ทางขวาของแผนผังที่เลือกโฆษณา
-
คลิก File . ทางด้านซ้ายบนของหน้าต่าง Excel (Windows) หรือหน้าจอ (Mac) แล้วเมนูจะโผล่มา
-
คลิก Save As . ทางซ้ายของหน้า ถ้าใช้ Windows
- ถ้าใช้ Mac ให้คลิกตัวเลือกนี้ในเมนู File ที่ขยายลงมา
-
ดับเบิลคลิก This PC . กลางหน้า
- ถ้าใช้ Mac ให้คลิก On my Mac แทน
-
พิมพ์ชื่อไฟล์งาน. พิมพ์อะไรก็ได้ที่อยากตั้งเป็นชื่อ spreadsheet ในช่อง "File name" (Windows) หรือ "Name" (Mac) ในหน้าต่าง Save As
-
เลือกโฟลเดอร์ที่จะเซฟไฟล์. คลิกโฟลเดอร์ที่จะเซฟ spreadsheet ไว้
- ถ้าใช้ Mac อาจจะต้องคลิกช่อง "Where" ให้ขยายลงมาก่อน ถึงจะเลือกไฟล์ได้
-
คลิก Save . ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟ spreadsheet ในโฟลเดอร์ที่เลือก ตามชื่อที่ตั้งไว้
-
เซฟค่าใหม่ด้วยคีย์ลัด "Save". ถ้าแก้ไขอะไรในไฟล์ Excel อีกเมื่อไหร่ ก็ให้กด Ctrl + S (Windows) หรือ ⌘ Command + S (Mac) เพื่อเซฟสิ่งที่เพิ่มเติมหรือแก้ไขไปในเอกสาร โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่าง Save As ขึ้นมาโฆษณา
โฆษณา