ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าใครชอบอาหารอิตาเลียน อย่างพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่เน้นซอสมะเขือเทศเป็นหลัก แล้วอยู่ๆ กระเด็นเลอะเสื้อหรือผ้าปูโต๊ะขึ้นมา ก็อาจจะทำเอาเครียด เพราะปกติซอสมะเขือเทศ ซอสมารีนารา และอื่นๆ ที่ผสมน้ำมันและมะเขือเทศ เวลาเป็นคราบแล้วขจัดออกได้ยาก แต่บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขจัดคราบซอสมะเขือเทศให้คุณเอง ทั้งคราบใหม่และคราบแห้งกรังติดเสื้อผ้าหรือผ้าปูโต๊ะ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ขั้นตอน
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:
ซักผ้าอะคริลิค ไนลอน โพลีเอสเตอร์ และผ้ายืด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขูดซอสออกจากผ้าให้หมด. ให้กำจัดซอสออกจากผิวหน้าของผ้าให้เร็วที่สุด โดยไม่ทำให้คราบฝังลึกกว่าเดิม จะใช้ทิชชู่ซับมัน หรือผ้าขี้ริ้วก็ได้ แต่ต้องเช็ดซอสออกจากผ้าโดยด่วน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
-
ลงน้ำเลมอนหรือน้ำมะนาวที่คราบ. จะลงน้ำมะนาวด้วยฟองน้ำ หรือบีบมะนาวฝานก็ได้ แล้วขัดคราบออก
- ถ้าเป็นผ้าขาว ก็ลงน้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือ hydrogen peroxide ที่คราบโดยตรง แทนน้ำมะนาวได้เลย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้น้ำยาขจัดคราบ. หาสเปรย์ เจล หรือแท่งที่ใช้ทาขจัดคราบ แล้วลงที่คราบโดยตรง จากนั้นทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาที
-
ล้างคราบออก แล้วเช็คว่ายังเหลือคราบไหม. ให้เปิดน้ำเย็นไหลผ่านคราบจากผ้าอีกด้าน แล้วยกขึ้นส่องไฟดูว่ายังเหลือคราบตกค้างไหม
-
ถ้ายังเหลือคราบให้แช่ผ้า. แช่ผ้าในน้ำยาสูตรต่อไปนี้ 30 นาทีด้วยกัน
- น้ำอุ่น 1 ควอร์ต (1 ลิตรกว่าๆ หรือ 1/4 แกลลอน)
- น้ำยาล้างจาน 1/2 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วตากแดดให้แห้ง. ให้ตากโดยที่ผ้าโดนแดดตรงๆ และหันด้านที่เคยมีคราบออกด้านนอก แสงแดดจะช่วยให้คราบที่เหลือเล็กน้อยสลายไปเอง
-
ซักผ้า. ซักผ้าตามวิธีการที่เหมาะกับผ้าชนิดนั้นตามปกติโฆษณา
-
ขูดซอสออกจากผ้าให้หมด. ให้กำจัดซอสออกจากผิวหน้าของผ้าให้เร็วที่สุด โดยไม่ทำให้คราบฝังลึกกว่าเดิม จะใช้ทิชชู่ซับมัน หรือผ้าขี้ริ้วกำจัดซอสส่วนเกินก็ได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เปิดน้ำเย็นไล่คราบ. พลิกผ้าไปด้านหลังของคราบ แล้วเปิดน้ำใส่ เพื่อให้ขจัดคราบออกจากเสื้อผ้า อย่าราดน้ำใส่บนคราบ เพราะจะกลายเป็นกดให้คราบยิ่งฝังลึก [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ถูน้ำยาล้างจานที่คราบ. ซอสมะเขือเทศมีน้ำมันผสม เลยต้องใช้น้ำยาล้างจานจะยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่เวลาขจัดคราบ ให้ลงน้ำยาทั่วคราบ แล้วถูเป็นวงกลมจากตรงกลางคราบออกด้านนอก [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าผ้านั้นต้องซักแห้งอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ ให้เอาไปร้านซักแห้งใกล้บ้าน ปรึกษาเขาว่าคราบลักษณะนี้ เขาจะจัดการให้คุณเอง
- ลงน้ำยาล้างจานที่มุมเล็กๆ ของผ้าจุดไม่เป็นที่สังเกต เพื่อทดสอบก่อนว่าน้ำยาจะทำเส้นใยเสียหายไหม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ให้ใช้น้ำยาซักผ้าปกติแทนน้ำยาล้างจาน
-
ล้างน้ำให้สะอาด ปราศจากน้ำยาตกค้าง. ให้ราดน้ำจากด้านหลังของคราบ เพื่อดันคราบออกจากเส้นใยผ้า
-
ซับ (ห้ามถูหรือขยี้) คราบด้วยฟองน้ำอย่างเบามือ. ใช้ฟองน้ำหรืออะไรที่ซึมซับดี เช่น ทิชชู่ซับมัน มาซับคราบออกด้วยน้ำเย็นเพื่อขจัดคราบจากผิวหน้าของผ้า ถ้าเป็นผ้าขาว ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรอ่อนๆ น้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือ hydrogen peroxide แล้วซับด้วยฟองน้ำเพื่อให้คราบจางหายไป [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซักตามปกติ แล้วเช็คว่ายังเหลือคราบไหม. เอาผ้าส่องไฟ ว่ายังเหลือคราบไหม ถ้ายังมีคราบตกค้าง ให้ใช้สเปรย์ เจล หรือแท่งขจัดคราบ ตอนเสื้อยังเปียกๆ ให้ลงน้ำยาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีขึ้นไป สุดท้ายซักตามปกติ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตากแดดจนแห้ง. เอาผ้าไปตากแดด โดยหันด้านที่เคยมีคราบขึ้น แล้วทิ้งไว้จนแห้งสนิท รังสี UV จะสลายคราบที่เหลือเอง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ราดน้ำใส่คราบ. วิธีนี้ใช้ขจัดคราบมะเขือเทศแห้งกรังตามเสื้อผ้าหรือผ้าอื่นๆ ไม่ต้องให้เปียกไปทั้งผืนก็ได้ แค่เฉพาะส่วนที่เป็นคราบเท่านั้น
-
ลงน้ำยาล้างจานที่คราบ (ไม่ผสมน้ำยาฟอกขาว). ให้ลองทดสอบลงน้ำยาล้างจานที่มุมเล็กๆ ของผ้าดูก่อน ว่าทำผ้าสีตกหรือเส้นใยเสียไหม ถ้าผ่านแล้วค่อยถูวนเบาๆ บริเวณคราบที่เปียก
-
ใช้ก้อนน้ำแข็งถูน้ำยาล้างจาน. ใช้ก้อนน้ำแข็งถูน้ำยาล้างจานที่คราบวนไป จนคราบหลุดออกมา
-
ซับคราบด้วยฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู. ถ้ายังเหลือคราบ ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู มาซับดูดคราบออกไป กรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบที่เหลือได้
-
ซักแล้วตากแดดให้แห้ง. ซักผ้าตามวิธีการที่เหมาะกับผ้าชนิดนั้นตามปกติ แล้วตากให้โดนแดดตรงๆ โดยหันคราบขึ้น รังสี UV ในแดดจะสลายคราบที่เหลือเองโฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณใช้ผ้าขนหนูสีขาวกับคราบใหม่ได้เลยได้เลย หลังเปิดน้ำไล่คราบแล้ว โดยพับผ้าด้านที่สะอาด แล้วซับคราบ คอยเช็คไปเรื่อยๆ ว่าซับคราบออกแค่ไหนแล้ว ทุกครั้งที่ซับครั้งใหม่ ให้พับด้านสะอาด จนไม่เหลือคราบแล้ว
- ถ้าเป็นไปได้ให้รีบขจัดคราบทันที ยิ่งปล่อยไว้นาน ถึงจะยังทำความสะอาดได้ แต่จะยากกว่าลงมือทันทีเยอะเลย
- เช็คดีๆ ว่าผ้าชนิดนั้นต้องทำความสะอาดยังไง ถ้าต้องซักแห้งอย่างเดียว เอาไปร้านซักรีดจะดีกว่า โดยแจ้งให้เขาทราบว่ามีคราบตรงไหน
โฆษณา
คำเตือน
- ห้ามเอาผ้าใส่เครื่องอบผ้า จนกว่าจะไม่เหลือคราบ เพราะโดนความร้อนแล้วคราบเซ็ตตัวฝังแน่นแน่นอน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://video.about.com/laundry/Remove-Tomato-Sauce-Stains.htm
- ↑ http://home.howstuffworks.com/how-to-remove-tomato-juice-and-tomato-sauce-stains.htm
- ↑ https://www.kidspot.com.au/lifestyle/home/home-solutions/how-to-remove-tomato-sauce-stains/news-story/f10d0d0675f0f4cf0e977429d5c980a6
- ↑ http://www.enkivillage.com/how-to-get-tomato-stains-out-of-clothing.html
- ↑ 5.0 5.1 5.2 http://www.doityourself.com/stry/tomatosauce
- ↑ https://www.kidspot.com.au/lifestyle/home/home-solutions/how-to-remove-tomato-sauce-stains/news-story/f10d0d0675f0f4cf0e977429d5c980a6
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-tomato-stains/
- ↑ http://www.cleaninginstitute.org/clean_living/spaghetti_dinner_stains.aspx
- ↑ http://www.cleaninginstitute.org/clean_living/spaghetti_dinner_stains.aspx
โฆษณา