ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คราบน้ำมันอาจดูแย่ไปเสียหน่อย แต่มันกำจัดออกได้ง่ายอยู่นะ ขนาดคราบที่ติดฝังแน่นยังสามารถจำกัดออกได้ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อยเลย บทความวิกิฮาวนี้จะบอกถึงวิธีการกำจัดคราบน้ำมันออกจากผ้าชนิดต่างๆ รวมไปถึงผ้าขนสัตว์ด้วย
ขั้นตอน
-
รวบรวมอุปกรณ์. คราบน้ำมันนั้นสามารถเกิดได้ครั้งหนึ่งหรืออาจหลายครั้ง ไม่ว่าคุณจะผัดทอดอะไรบางอย่างหรือกำลังกินสลัดอยู่ก็ตาม แต่โชคดีที่มีวิธีง่ายๆ ในการกำจัดคราบน้ำมันอยู่ และนี่คือสิ่งที่คุณต้องใช้ในการกำจัดมัน
- กระดาษทิชชู่แผ่นหนา
- เบกกิ้งโซดา
- แปรงสีฟันเก่า
- น้ำยาล้างจาน
-
ซับน้ำมันส่วนเกินออกด้วยกระดาษทิชชู่แผ่นหนา. ให้ลองใช้ทิชชู่แผ่นหนาสีขาวธรรมดาซับออก ไม่อย่างนั้นสีทิชชู่อาจเสี่ยงติดกับเนื้อผ้าได้
-
ใช้เบกกิ้งโซดาโปะทับคราบน้ำมันไว้. คุณต้องใช้เบกกิ้งโซดาหนาๆ เลยล่ะ ถ้าหากว่าคุณไม่มีมัน ให้ใช้แป้งข้าวโพดแทนได้
-
ปล่อยเบกกิ้งโซดาทิ้งไว้ประมาณ 30 ถึง 60 นาที จากนั้นขัดออกด้วยแปรงสีฟันเก่าๆ. เมื่อคุณขัดเบกกิ้งโซดาออก คุณจะเห็นว่ามันเริ่มรวมตัวเป็นก้อน ก็เพราะว่าเบกกิ้งโซดาจะไปดูดซับน้ำมันเข้ามา และอาจยังสามารถซับสีของน้ำมันทำอาหารออกมาได้อีกด้วย
- มันจะยังมีคราบเบกกิ้งโซดาติดอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องกังวลไป มันเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวก็ล้างออกได้
- คุณอาจต้องโปะเบกกิ้งโซดาลงไปอีกครั้ง สำหรับคราบที่กำจัดออกยาก โดยเพียงแค่เพิ่มเบกกิ้งโซดาลงไป รอไปอีก 30 ถึง 60 นาที จากนั้นก็ขัดออก
-
เทน้ำยาล้างจานบางส่วนลงใส่เบกกิ้งโซดา. ค่อยๆ ถูน้ำยาล้างจานให้เข้าไปในเบกกิ้งโซดาด้วยนิ้วของคุณ คุณยังต้องใช้น้ำยาล้างจานชั้นบางๆ เทลงไปบนผ้าอีกด้วย ถ้าน้ำยาล้างจานซึมเข้าไปในเนื้อผ้าแล้วก็ให้เติมลงไปอีก
-
ซักผ้าในเครื่องซักผ้า. ทำตามคำแนะนำที่อยู่บนป้ายของผ้า น้ำร้อนจะช่วยกำจัดคราบน้ำมันออกได้อย่างดี แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะซักออกได้ด้วยน้ำร้อนนะ
- ลองเติมน้ำส้มสายชูใส ½ ถึง 1 ถ้วย (118 ถึง 237 มิลลิลิตร) ลงไปในตอนที่จะซักผ้า จะช่วยให้ผงซักฟอกมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้มีพลังซักมากขึ้นนั่นเอง
-
ดูให้แน่ใจว่าคราบน้ำมันได้ถูกกำจัดออกหมดแล้วก่อนที่จะนำไปอบแห้ง. ถ้าคราบยังอยู่ พอเอาไปอบแห้ง ก็จะเสี่ยงต่อการทำให้คราบฝั่งแน่นยิ่งขึ้น ให้ลองกำจัดคราบออกอีกครั้ง ถ้าทำไม่ได้ ก็ปล่อยให้ผ้าแห้ง จากนั้นก็นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดจัดการซะโฆษณา
-
รวบรวมอุปกรณ์. น้ำร้อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยกำจัดคราบออกจากเนื้อผ้าได้ แต่มันก็จะไปทำลายผ้าสเวตเตอร์ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คุณจึงต้องใช้ขั้นตอนพิเศษเพื่อกำจัดคราบน้ำมันออกจากผ้าสเวตเตอร์เสียหน่อย และนี่ก็คือสิ่งที่คุณต้องใช้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แป้งข้าวโพด
- น้ำยาล้างจาน
- น้ำเย็น
- อ่างล้างจานหรืออ่างน้ำ
- แผ่นกระดาษที่กว้างกว่าผ้า
- ดินสอหรือปากกา
- ผ้าขนหนูขนาดใหญ่
-
เริ่มด้วยการใช้แป้งข้าวโพดโปะบนคราบแล้วขัดออกเมื่อเวลาผ่านไป 30 นาที. ทำอย่างนี้ซ้ำๆ ไปสองสามครั้ง บางทีทำแค่นี้คราบก็อาจถูกกำจัดออกไปแล้วก็ได้ แต่ถ้าคราบยังอยู่ก็อ่านต่อได้เลย
-
วางสเวตเตอร์ลงบนกระดาษแล้ววาดตามรอยสเวตเตอร์ด้วยดินสอหรือปากกา. คุณอาจต้องนำผ้าไปแช่ในน้ำ ซึ่งอาจทำให้ผ้าเสียทรงได้ จึงต้องยืดผ้ากลับมาให้เท่ากับทรงเดิม รอยที่เขียนไว้จะเป็นตัวแบบสำหรับขั้นตอนนั้น
-
เติมน้ำเย็นลงในอ่าง. สำหรับสเวตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะ ให้ใช้อ่างอาบน้ำหรือกะละมังขนาดใหญ่แทน สเวตเตอร์ทั้งตัวต้องถูกจุ่มลงไปในน้ำ ฉะนั้นดูให้มั่นใจว่าน้ำลึกพอแล้ว
-
หยดน้ำยาล้างจานลงไปในน้ำสองสามหยด. จุ่มมือลงไปในน้ำสองสามครั้งเพื่อผสมส่วนผสมให้เข้ากัน อย่าตีน้ำมากจนเกิดฟอง น้ำยาล้างจานจะช่วยดึงคราบออกมาและกำจัดให้
-
จุ่มผ้าสเวตเตอร์ลงไปในน้ำแล้วค่อยๆ ลากไปมา. อย่าบิดหรือบีบเนื้อผ้าสเวตเตอร์ ไม่อย่างนั้นทรงอาจเสียและเส้นใยผ้าอาจเสียด้วยก็ได้
-
ทิ้งให้สเวตเตอร์แช่อยู่สองสามนาทีก่อนจะนำออกมา. และอย่าไปบิดหรือบีบสเวตเตอร์เด็ดขาด แค่ปล่อยให้น้ำหยดออกมาเองตามธรรมชาติก็พอ
-
ระบายน้ำสกปรกออกแล้วเติมน้ำใหม่ลงในอ่าง เพื่อที่จะล้างสเวตเตอร์. ระบายน้ำเก่าออก จากนั้นแช่สเวตเตอร์ลงในน้ำใหม่จนกว่าฟองสบู่จะหมดไป และน้ำที่แช่ใสในที่สุด คุณอาจต้องทำอย่างนี้ประมาณ 10 ถึง 12 ครั้ง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำให้สเวตเตอร์แห้งด้วยการกลิ้งม้วนไปกับผ้าขนหนูขนาดใหญ่. เมื่อน้ำใสและน้ำยาถูกล้างออกไปจนหมดแล้ว ให้นำสเวตเตอร์ออกจากอ่างและปล่อยให้น้ำไหลออกมา จากนั้นวางแผ่ไว้บนผ้าขนหนู แล้วเริ่มม้วนทั้งคู่ไปพร้อมกันจนสุดปลายผ้า ออกมาเหมือนขนมซินนามอนหรือเบอร์ริโต้ ผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำส่วนเกินออก จากนั้นคลายม้วนผ้าและนำสเวตเตอร์ออกมา
-
วางสเวตเตอร์กลับไปยังแผ่นกระดาษแล้วดึงให้กลับไปรูปทรงเท่าเดิม. ให้ค่อยๆ ดึงแขนเสื้อ กุ๊นผ้า และด้านข้างของเสื้อ จนกว่าทุกอย่างจะกลับไปตรงกับรอยที่คุณร่างเอาไว้ตอนแรก
-
รู้วิธีจัดการกับผ้าขนสัตว์. ถ้าคุณมีกระโปรง สูท หรือกางเกงขนสัตว์ที่เปื้อนคราบน้ำมัน ให้ลองใช้สารละลายที่ผสมจากน้ำยาล้างจาน 1 ส่วนผสมกับน้ำส้มสายชูใส 1 ส่วน และน้ำ 6 ส่วน โดยให้สารละลายปกคลุมรอยคราบน้ำมัน และซับเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันเก่าๆ รอสักสองสามนาที จากนั้นซับทุกอย่างออกให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด ทำความสะอาดคราบที่เหลือออกด้วยผ้าขนหนูชุ่มน้ำ เสร็จขั้นตอนโดยการซับให้บริเวณนั้นแห้งด้วยผ้าขนหนูแห้งอีกผืน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
รวบรวมอุปกรณ์. บางครั้งคุณก็ไม่รู้ว่ามีคราบน้ำมันติดอยู่ จนหลังจากที่คุณซักและตากหรืออบจนผ้าแห้งแล้ว น่าเสียดายที่ลมร้อนจากการอบผ้าจะไปทำให้คราบมันฝังแน่นขึ้นอีก แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ยังคงมีวิธีกำจัดมันออกได้ และนี่คือสิ่งที่คุณต้องการเพื่อกำจัดมันออก [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กระดาษลูกฟูก (แนะนำ)
- น้ำมันอเนกประสงค์ (WD-40)
- เบกกิ้งโซดา
- น้ำยาล้างจาน
- แปรงสีฟันเก่า
- ชามเล็กๆ และก้านสำลี (สำหรับคราบขนาดเล็ก)
- เครื่องซักผ้า
-
สอดกระดาษลูกฟูกไว้ใต้ผ้า หลังส่วนที่เกิดคราบน้ำมัน. พยายามตัดกระดาษลูกฟูกให้ใหญ่กว่ารอยคราบหลายๆ เท่า เผื่อในกรณีที่คราบกระจายตัวออกไป กระดาษลูกฟูกจะป้องกันไม่ให้คราบซึมเข้าไปยังเนื้อผ้าด้านหลังได้
-
ใช้น้ำมันอเนกประสงค์ฉีดลงบนคราบน้ำมัน. ถ้ามีเพียงแค่รอยคราบเล็กๆ ก็ให้ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ลงในชามเล็กๆ และใช้ก้านสำลีจุ่มมาเช็ดคราบที่ติดอยู่ น้ำมันอเนกประสงค์จะช่วยทำให้คราบน้ำมันแตกตัวออกและทำให้กำจัดได้ง่ายขึ้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แปรงสีฟันเก่าๆ ขัดเบกกิ้งโซดาลงบนส่วนที่เป็นคราบ. เทเบกกิ้งโซดาบางส่วนลงบนคราบน้ำมันและน้ำมันอเนกประสงค์ โดยต้องใช้ในปริมาณที่หนาเลยนะ ขัดด้วยแปรงสีฟัน และจะเห็นว่าเบกกิ้งโซดาจับตัวกันเป็นก้อน เพราะมันซึมซับน้ำมันเข้าไปนั่นเอง
-
ใช้เบกกิ้งโซดาซ้ำจนกว่าจะไม่จับตัวเป็นก้อนแล้ว. ปัดก้อนเบกกิ้งโซดาเก่าออกแล้วโรยอันใหม่ลงไป ขัดถูต่อไปเรื่อยๆ ปัดออก และโรยใหม่ จนกว่าเบกกิ้งโซดาจะไม่จับตัวเป็นก้อนอีกต่อไป [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คราบเบกกิ้งโซดาขาวๆ อาจติดเต็มไปหมด แต่ไม่ต้องห่วง เป็นเรื่องปกติ สามารถซักออกได้อยู่ดี
-
เทน้ำยาล้างจานบางส่วนลงบนเบกกิ้งโซดา. ค่อยๆ เทลงไปให้ซึมเข้าเนื้อผ้า โดยให้แน่ใจว่าเทลงไปบางๆ เท่านั้น ถ้าหากว่าน้ำยาซึมเข้าไปในเนื้อผ้าหมด ก็ค่อยเติมอีกเล็กน้อยทีหลัง
-
ซักผ้าในเครื่องซักผ้าตามป้ายแนะนำบนเสื้อผ้า. ไม่ต้องล้างน้ำยาล้างจานออก เดี๋ยวมันก็ออกไปเองตอนซักผ้านั่นแหละ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ให้มั่นใจว่าคราบได้หายไปแล้วก่อนที่จะนำไปอบแห้ง. ถ้าคราบยังติดอยู่ ปล่อยให้ผ้าแห้งโดยตากลมธรรมชาติ และใช้วิธีดังกล่าวอีกครั้ง หรือจะส่งซักแห้งเลยก็ได้ โดยต้องให้คราบหายไปหมดจดแล้วถึงจะปลอดภัยในการนำไปอบแห้ง เพราะความร้อนจากการอบแห้งอาจทำให้คราบฝังแน่นขึ้นได้โฆษณา
-
ขอให้อ่อนโยนกับผ้าที่ละเอียดอ่อน. ผ้าบางชนิด เช่น ผ้าไหมหรือผ้าชิฟฟ่อน จะไม่ค่อยทนกับการขัดถูแรงๆ หรือการใช้น้ำร้อนเท่าไร แทนที่จะทำอย่างนั้น ให้โปะแป้งเด็ก แป้งข้าวโพด หรือแป้งฝุ่นลงบนคราบแทน ปล่อยให้ผ้าอยู่ในบริเวณที่แห้งและอุ่นประมาณสองสามชั่วโมง (หรือทิ้งค้างคืนไว้เลยก็ได้หากจำเป็น) จากนั้นก็ขัดแป้งออก ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะไม่จับตัวกันเป็นก้อนและคราบน้ำมันก็หายไปแล้ว [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รู้วิธีการจัดการกับผ้าที่ต้องซักแห้งเท่านั้น. อย่างที่ชื่อของมันบอกไว้ ผ้าที่ต้องซักแห้งเท่านั้นไม่ควรที่จะเปียกเด็ดขาด นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถใช้พวกน้ำยาล้างจานหรือน้ำในการกำจัดคราบออกได้นั่นเอง โดยให้ใช้แป้งเด็ก แป้งข้าวโพด หรือแป้งฝุ่นโรยลงบนคราบแทน ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง จากนั้นจึงขัดออก ซึ่งก็พอที่จะทำให้คราบออกได้แล้ว แต่ถ้าคราบยังติดอยู่ แนะนำให้นำผ้าไปซักแห้งได้เลย [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กำจัดคราบด้วยแป้งข้าวโพดและน้ำยาล้างจาน. โรยแป้งข้าวโพดบางส่วนลงบนคราบและทิ้งไว้ประมาณ 30 ถึง 60 นาที เทน้ำยาล้างจานบางส่วนลงบนแป้งข้าวโพด และถูมันให้ซึมเข้าไป อย่าล้างน้ำยาล้างจานหรือแป้งข้าวโพดออก แต่ให้ส่งลงเครื่องซักผ้าและซักตามปกติตามคำแนะนำในการซักผ้าของผ้าชนิดนั้นๆ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณจะลองใช้แป้งที่ทำจากข้าวโพด (Cornmeal) หรือแป้งข้าวโพดเลย โดยไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจานควบคู่ด้วยก็ได้ แป้งจะไปช่วยดูดซับน้ำมันให้อยู่แล้ว [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้สเปรย์แต่งผมในการละลายคราบน้ำมันออก. เพียงฉีดสเปรย์แต่งผมคลุมคราบน้ำมัน ซักและอบแห้งตามคำแนะนำบนป้าย สเปรย์แต่งผมมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่จะช่วยดึงคราบและละลายน้ำมันออกให้ได้ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เบกกิ้งโซดา และน้ำยาล้างจาน. จุ่มคราบน้ำมันลงไปในไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จากนั้นก็โรยเบกกิ้งโซดาตามลงไปหนาๆ และตามด้วยน้ำยาล้างจานเทลงบนเบกกิ้งโซดา และโรยเบกกิ้งโซดาบางๆ ทับลงไปอีกที ถูบริเวณนั้นทั้งหมดด้วยแปรงสีฟัน จากนั้นทิ้งเอาไว้ 30 ถึง 60 นาที อย่าล้างสารเหล่านั้นออก แต่ให้นำไปซักตามปกติในเครื่องซักผ้า โดยให้ทำตามคำแนะนำบนป้ายที่ติดกับผ้าได้เลย [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ไม่ควรใช้กับผ้าสีเข้ม แต่ก็อาจใช้ได้ ถ้าหากว่าคุณกังวล ให้ลองใช้กับบริเวณที่ไม่เป็นที่สังเกตบนผ้าก่อน เช่น บริเวณกุ๊นผ้าหรือตรงข้อมือ
-
ใช้ว่านหางจระเข้ น้ำยาล้างจาน หรือแชมพูล้างก่อนที่จะกำจัดคราบน้ำมันออก. [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ซับน้ำมันส่วนเกินออกด้วยผ้าสะอาดหรือทิชชู่แผ่นหนา จากนั้นให้ใช้ว่านหางจระเข้ น้ำยาล้างจาน หรือแชมพู หยดลงบนคราบน้ำมัน ใช้แปรงสีฟันเก่าหรือแปรงขัดเล็บเก่าขัดคราบบนผ้า ทิ้งเอาไว้สักสองสามนาที [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไม่ต้องล้างว่านหางจระเข้ น้ำยาล้างจาน หรือแชมพูออก แต่ให้นำไปซักได้เลย โดยซักตามคำแนะนำที่อยู่บนป้ายแนะนำการซักผ้าบนผ้า [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ให้ลองใช้น้ำยาล้างคราบก่อนซักที่ซื้อมาจากร้าน. เริ่มด้วยการซับน้ำมันส่วนเกินออก จากนั้นใช้น้ำยาล้างคราบทาลงบนคราบ ทิ้งเอาไว้ 30 นาที จากนั้นซักผ้าตามวิธีที่ป้ายบนผ้าแนะนำ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ต้องซับน้ำมันส่วนเกินด้วยทิชชู่แผ่นหนาออกก่อนเสมอ อย่าไปถูหรือขัดมันออก ไม่อย่างนั้นคราบอาจฝังลึกกว่าเดิม
- ให้ตัดสินใจที่จะสอดกระดาษลูกฟูกเอาไว้ใต้รอยคราบ ซึ่งจะช่วยไม่ให้คราบซึมจากด้านหน้าไปยังด้านหลังของผ้าได้
- ให้จัดการอย่างรวดเร็ว ยิ่งจัดการกำจัดคราบออกเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งทำความสะอาดได้ง่ายเท่านั้น
- ให้ขัดคราบจากด้านนอกเข้าด้านใน โดยขัดเข้ามาในส่วนกึ่งกลางของคราบ อย่าขัดจากตรงกลางไปข้างนอก ไม่อย่างนั้นคราบอาจกระจายออกไปได้ [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
คำเตือน
- ไม่ใช่ว่าผ้าทุกชนิดจะทนกับน้ำร้อนได้ และไม่ใช่ผ้าทุกชนิดที่จะนำมาซักล้างได้ ให้อ่านวิธีการทำความสะอาดผ้าบนป้ายที่ติดมาเสมอ
- น้ำยาล้างจานอาจทำให้สีของผ้าที่เพิ่งย้อมมาใหม่จางลงได้ และยังส่งผลกับผ้าแบรนด์ใหม่ๆ ให้จางลงได้เช่นกัน ให้ตรวจสอบสีของผ้าก่อนที่จะใช้น้ำยาล้างจาน
- ความร้อนจากเครื่องอบผ้าอาจทำให้คราบน้ำมันฝังแน่นกว่าเดิม ต้องให้มั่นใจเสมอว่าคราบได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว ก่อนที่คุณจะนำผ้าไปอบ ไม่อย่างนั้นคราบก็จะฝังแน่นอยู่ในเนื้อผ้าอย่างไรอย่างนั้น [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ของที่ต้องใช้เมื่อจะกำจัดคราบจากผ้าปกติ
- กระดาษทิชชู่แผ่นหนา
- เบกกิ้งโซดา
- แปรงสีฟันเก่า
- น้ำยาล้างจาน
- เครื่องซักผ้า
ของที่ต้องใช้เมื่อจะกำจัดคราบฝังแน่น
- กระดาษลูกฟูก (แนะนำ)
- น้ำมันอเนกประสงค์ (WD-40)
- เบกกิ้งโซดา
- น้ำยาล้างจาน
- แปรงสีฟันเก่า
- ชามเล็กๆ และก้านสำลี (สำหรับคราบขนาดเล็ก)
- เครื่องซักผ้า
ของที่ต้องใช้เมื่อจะกำจัดคราบจากผ้าสเวตเตอร์หรือผ้าขนสัตว์
- แป้งข้าวโพด
- น้ำยาล้างจาน
- น้ำเย็น
- อ่างล้างจานหรืออ่างน้ำ
- แผ่นกระดาษที่กว้างกว่าผ้า
- ดินสอหรือปากกา
- ผ้าขนหนูขนาดใหญ่
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ How to Clean Stuff, How to Remove Olive Oil Stains from a Wool Sweater
- ↑ How to Clean Stuff, How to Remove Olive Oil Stains from a Wool Sweater
- ↑ Pacific Heights Cleaners, How to Remove Oil Stains from Wool
- ↑ Pacific Heights Cleaners, How to Remove Oil Stains from Wool
- ↑ Pacific Heights Cleaners, How to Remove Oil Stains from Wool
- ↑ Northern Belle Diaries, How to Remove Set-In Oil Stains or Grease Stains
- ↑ Northern Belle Diaries, How to Remove Set-In Oil Stains or Grease Stains
- ↑ Northern Belle Diaries, How to Remove Set-In Oil Stains or Grease Stains
- ↑ Northern Belle Diaries, How to Remove Set-In Oil Stains or Grease Stains
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Oil Stains from Clothes
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Oil Stains from Clothes
- ↑ Wise Bread, 14 Effective Grease and Oil Stain Removal Tips
- ↑ Mrs. Clean, Tips on Removing Oil Stains
- ↑ Wise Bread, 14 Effective Grease and Oil Stain Removal Tips
- ↑ One Good Thing by Jillee, Getting Oily Stains Out of Dark-Colored Fabric
- ↑ Wise Bread, 14 Effective Grease and Oil Stain Removal Tips
- ↑ Mrs. Clean, Tips on Removing Oil Stains
- ↑ The Kitchn, How to Remove Grease Stains
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Oil Stains from Clothes
- ↑ Good Housekeeping, Stain Buster - Cooking Oil
- ↑ How to Clean Stuff, How to Remove Grease Stains
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Oil Stains from Clothes
- Videos provided by essortment
โฆษณา