ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การย้อมผมมักจะตามมาด้วยรอยเปื้อนตามผิว บริเวณไรผม และมือ เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะระมัดระวัง และป้องกันแล้วก็ตาม ครีมย้อมผมส่วนมากที่ซื้อมาทำเองที่บ้านสามารถลบออกจากผิวหนังได้ด้วยของใช้ภายในบ้าน เรามีเทคนิคต่างๆ มากมายให้คุณพิจารณาแล้วลองนำไปใช้ดู

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

ผงซักฟอก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [1] ใช้นิ้วมือถูน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาซักผ้า ประมาณ 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) ลงบนผิวของคุณที่เปื้อนยาย้อมผม
    • ใช้ผงซักฟอกที่ปราศจากสี และน้ำหอมเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุของการระคายเคืองผิว
    • ระวังให้ผงซักฟอกอยู่ห่างจากตาของคุณ
    • อย่าลืมว่าวิธีการนี้ใช้ได้ดีกับมือของคุณมากกว่าบนใบหน้า ผิวบนใบหน้ามีความบอบบางกว่าอาจจะทำปฏิกิริยากับผงซักฟอกได้
    • ใช้ผงซักฟอกมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดรอยเปื้อนที่ต้องใช้ผงซักฟอกทาทับ
  2. จุ่มผ้าสะอาดลงบนน้ำอุ่น และแตะเบาๆ ลงบนรอยเปื้อนที่แห้ง
    • คุณสามารถทาน้ำด้วยนิ้วมือ หรือผ่านน้ำไหลที่อ่างล้างจานของคุณ หรือด้วยแผ่นเช็ดเครื่องสำอางก็ได้
  3. ใช้เศษผ้า หรือสำลีเช็ดเครื่องสำอางค่อยๆ เช็ดบริเวณที่เปื้อนจนกว่ามันจะจางลง
    • วิธีนี้ทำงานได้ดีกับสีย้อมที่ไม่ติดทนนัก และอาจไม่แสดงผลกับสีย้อมที่เข้มข้นมาก หรือสีย้อมที่เปื้อนผิวคุณมานานแล้วเท่าไร
  4. หากรอยเปื้อนจางลงแล้ว แต่ยังไม่หายไป คุณอาจจะทำซ้ำอีกครั้งด้วยวิธีการใช้ผงซักฟอก
    • หากรอบแรกที่ใช้ผงซักฟอกยังไม่สามารถทำให้รอยเปื้อนจางได้ทั้งหมด คุณสามารถเลือกใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อลบรอยเปื้อนนี้ออกไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

เบกกิ้งโซดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมเบกกิ้งโซดา และน้ำยาซักล้างอย่างละเท่าๆ กัน. ใช้เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา (10 มิลลิลิตร) ผสมกับน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาซักผ้า 2 ช้อนชา (10 มิลลิลิตร) คนส่วนผสมจนกว่าจะเข้ากันดี
    • เบกกิ้งโซดาสามารถขูด และขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่เปื้อนสีย้อมออกได้ เผยให้เห็นผิวสะอาดที่อยู่ภายใต้รอยเปื้อน
    • ผงซักฟอกจะดึงดูดโมเลกุลของน้ำยาย้อมผม และทำความสะอาดผิวด้วยการเอาสีย้อมออกไป
    • หากเป็นไปได้ให้เลือกใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนที่ไม่ใส่น้ำหอม หรือสี เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการระคายเคือง
    • อย่าทาใกล้ดวงตา ส่วนผสมนี้จะปลอดภัยหากใช้กับพื้นที่ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้า
  2. ใช้สำลีสำหรับล้างเครื่องสำอางนวดผิวที่เปื้อนหลังทาเบกกิ้งโซดาแล้ว โดยนวดเป็นวงกลม นวดส่วนผสมลงบนผิวที่เปื้อนอย่างเบามือ
    • ใช้เบกกิ้งโซดามาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ของบริเวณที่เปื้อนมากแค่ไหน
    • นวดประมาณ 30 ถึง 90 วินาที หรือหยุดเมื่อรู้สึกแสบผิว คันผิว หรือรู้สึกถึงสัญญาณระคายเคืองอื่นๆ
    • คุณสามารถใช้สำสีก้อน หรือผ้าสะอาดแทนสำลีแผ่นได้เช่นกัน
  3. หลังจากนวดผิวที่เปื้อนด้วยเบกกิ้งโซดาแล้ว เช็ดผิวที่สะอาดด้วยผ้าเช็ดหน้าจนกว่าส่วนผสมเบกกิ้งโซดาจะออกไปจนหมด
    • คุณอาจพบว่ามันง่ายกว่าหากล้างผิวด้วยน้ำที่กำลังไหลอยู่ เมื่อคุณล้างเบกกิ้งโซดาออกจากผิวด้วยการเปิดน้ำให้ไหลผ่าน ให้นวดเบาๆ ด้วยนิ้วของคุณเพื่อให้เบกกิ้งโซดาหายไปด้วยน้ำ
  4. หากสีจางลง แต่ยังไม่หายไปอย่างหมดจด คุณอาจจะลองทำวิธีการนี้ใหม่อีกครั้งได้
    • หากวิธีนี้ยังไม่ได้ผลอีก ให้ลองใช้วิธีที่ต่างออกไปดู
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

ยาสีฟัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้นิ้ว หรือสำลีก้อนสะอาดๆ ป้ายยาสีฟันเล็กน้อยลงบนผิวที่เปื้อนสีย้อม ทายาสีฟันบนบริเวณที่เปื้อนอย่างทั่วถึงเท่าๆ กัน
    • ใช้ยาสีฟันเพียงแค่ทาคลุมบางๆ บริเวณผิวที่เปื้อน
    • ยาสีฟันสามารถใช้กับผิวที่เปื้อนบริเวณใบหน้าได้ดีเหมือนกันบนส่วนอื่นๆ อย่างมือ
    • ยาสีฟันเป็นตัวสครับที่อ่อนโยน และสามารถขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณรอยเปื้อนได้ เมื่อผิวถูกล้างเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ผิวที่ใหม่และสะอาดแน่นอน
    • ยาสีฟันทั่วไปทำงานได้ดี แต่ยาสีฟันที่มีเบกกิ้งโซดาผสมอยู่ด้วยจะทำงานได้ดีกว่า เพราะมีเม็ดเล็กๆ กระจายตัวมากกว่า
  2. ค่อยๆ นวดยาสีฟันบนรอยเปื้อนประมาณ 30 ถึง 60 วินาที. ใช้สำลีก้อน หรือแผ่นเช็ดเครื่องสำอางค่อยๆ นวดยาสีฟันลงบนบริเวณผิวที่เปื้อนสีประมาณหนึ่งนาที โดยนวดเป็นวงกลม
    • คุณก็สามารถใช้ปลายนิ้วมือนวดยาสีฟันลงบนรอยเปื้อนได้เช่นกัน
  3. หลังจากการนวดด้วยยาสีฟันแล้ว ค่อยๆ ล้างมันออกด้วยน้ำอุ่นจนกว่าจะไม่เหลือคราบของยาสีฟันเหลืออยู่
    • คุณอาจต้องนวดยาสีฟันออกขณะที่ล้างไปด้วย โดยใช้มือ หรือผ้าเช็ดหน้าสะอาดๆ
  4. หากรอยเปื้อนแค่จางลง แต่ยังไม่หายไปอย่างหมดจด คุณสามารถลองใช้ยาสีฟันล้างอีกครั้งได้
    • หากว่ายาสีฟันไม่ได้ผล ก็ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นๆ เพื่อล้างรอยสีย้อมผมได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

ปิโตรเลียมเจล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทาปิโตรเลียมเจลลงบนผิวของคุณเพียงเล็กน้อย และถูลงบนผิวที่เปื้อนเป็นวงกลม นวดไปจนกว่าคุณสังเกตเห็นว่ารอยเปื้อนเริ่มหายไป
    • ปิโตรเลียมเจลปลอดภัยต่อใบหน้า และมือ แต่ก็ยังคงต้องระวังไม่ให้เข้าตาอยู่ดี
    • คุณสามารถใช้นิ้วมือนวดปิโตรเลียมเจลลงบนรอยเปื้อน แต่สำลีก้อน หรือสำลีแผ่นอาจทำงานได้ดีกว่า เพราะสีย้อมอาจเปลี่ยนไปโดยไม่ได้ตั้งใจหากใช้นิ้วป้ายปิโตรเลียมเจลสัมผัสกับสีย้อมโดยตรง
    • หากปิโตรเลียมเจลซึมเข้าไปในสำลี ให้ใช้นิ้วมือแทน
  2. หลังจากปิโตรเลียมเจลเริ่มมีสีเหมือนสีย้อมที่เปื้อน ใช้ผ้าที่เปียก และสะอาดเช็ดปิโตรเลียมเจลออกจากผิวของคุณ
    • เมื่อรอยเปื้อนหายแล้ว ก็หยุดได้
    • เมื่อรอยเปื้อนจางลงโดยที่ยังมีบางส่วนหลงเหลืออยู่ ทำขั้นตอนต่อไป
  3. ใช้แผ่นสำลี หรือใช้นิ้วของคุณทาปิโตรเลียมเจล บางๆ บนผิวที่มีรอยเปื้อนสีย้อม แล้วทิ้งค้างคืนไว้
  4. ใช้ผ้าที่เปียก และสะอาดเช็ดปิโตรเลียมเจลและสีย้อมที่เหลืออยู่บนผิวออก ค่อยๆ ขัดไปจนกว่าจะเช็ดออก
    • หากยังคงมีรอยหลงเหลืออยู่หลังจากใช้วิธีนี้แล้ว ลองใช้วิธีอื่นๆ เพื่อเช็ดรอยสีย้อมออก
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

เบบี้ออยล์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [2] ใช้นิ้วทาเบบี้ออยล์ให้ทั่วบริเวณผิวที่มีรอยเปื้อนสี
    • สามารถทาเบบี้ออยล์ด้วยสำลีก้อน ลำสีแผ่น หรือผ้าสะอาดๆ ก็ได้
    • ทาน้ำมันให้พอกับพื้นที่รอยเปื้อนบนผิวคุณ แต่อย่าทามากเกินไป เพราะมันจะไหลไปยังส่วนอื่นๆ ของผิวคุณ
    • เบบี้ออยล์ ปลอดภัยทั้งใบหน้า และมือ แต่คุณก็ยังควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าตาอยู๋
  2. ปล่อยเบบี้ออยล์ไว้บนผิวของคุณประมาณ 8 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืน
  3. ล้างบริเวณที่ทาด้วยน้ำอุ่นนวดเบาๆ ด้วยนิ้ว หรือสำลีก้อน
    • คุณอาจต้องใช้สบู่ หรือแชมพูเล็กน้อยเพื่อล้างน้ำมันออกจากผิว
    • สีย้อมจะถูกล้างออกด้วยน้ำมัน หากไม่เป็นเช่นนั้น คุณอาจต้องลองวิธีอื่นๆ เพื่อล้างมันดู
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

น้ำยาล้างเล็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จุ่มสำลีก้อน หรือสำลีแผ่นในอะซิโตนน้ำยาล้างเล็บ ใช้นิ้วมือบีบมันเพื่อเอาส่วนเกินออก
    • อะซิโตนในน้ำยาล้างเล็บเป็นตัวขัดที่ดี สามารถล้างสีย้อม และขัดเซลล์ผิวที่ตายบนผิวของคุณขณะเอาสีย้อมออกด้วยเช่นกัน
    • คอยระวังให้น้ำยาล้างเล็บออกห่างจากดวงตา
    • วิธีการนี้เสี่ยงต่อผิวที่บอบบางบนใบหน้า และอาจทำงานได้ดีกว่ากับรอยเปื้อนสีย้อมบนมือของคุณ
  2. นวดบริเวณที่เปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บหลายๆ รอบ. [3] ค่อยๆ นวดด้วยสำสีก้อนที่จุ่มน้ำยาแล้วบนรอยเปื้อนโดยนวดเป็นวงกลม
    • นวดส่วนที่เปื้อนหลายๆ รอบ อย่าขัด และอย่าปล่อยให้อะซิโตนอยู่บนผิวของคุณนานนัก
    • คุณจะสังเกตเห็นว่าสีย้อมจางลงอย่างรวดเร็ว หากไม่เป็นเช่นนั้น น้ำยาล้างเล็บอาจจะไม่ทำงานกับสีย้อมผมยี่ห้อที่คุณใช้
  3. ล้างบริเวณที่ทาให้สะอาดด้วยน้ำเย็นจนถึงน้ำอุ่นเพื่อล้างรอยของน้ำยาล้างเล็บออกให้หมด
    • หากทั้งหมด หรือบางส่วนของรอยเปื้อนยังเหลืออยู่ ลองใช้วิธีอื่นเพื่อลบรอยเปื้อนดู
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ล้างสีย้อมออกจากผิวคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรก็จะยิ่งล้างออกยากเท่านั้น
  • หากวิธีการเหล่านี้ยังไม่ได้ผลอีก ให้ปรึกษาช่างผมของคุณ หรือแพทย์ผิวหนังเกี่ยวกับน้ำยาล้างสีย้อมที่ดีสี่สุดที่จะใช้กับผิว
โฆษณา

คำเตือน

  • ของที่ใช้ทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการระคายเคืองได้หากมันเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหากสารพวกนี้เข้าตาโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • หากผิวของคุณเกิดแสบ, ไหม้ หรือระคายเคืองเมื่อใช้วิธีต่างๆ ตามบทความนี้ ให้ล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำเปล่าทันที
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • สำลีก้อน หรือสำลีแผ่น
  • เศษผ้าสะอาด
  • ผ้าพันแผล
  • ถุงมือแบบใช้ครั้งเดียว
  • น้ำเปล่า
  • น้ำยาซักฟอก
  • เบกกิ้งโซดา
  • ยาสีฟัน
  • ปิโตรเลียมเจล
  • เบบี้ออยล์
  • น้ำยาล้างเล็บ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,448 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา