ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
วิธีการแสนวิเศษที่จะช่วยทำให้ผมแตกปลายของคุณหายไปนั้นเป็นเพียงเคล็ดลับชั่วคราวและยังไม่ช่วยยับยั้งผมเสียด้วย การกำจัดผมแตกปลายอย่างถาวรคือการตัดมันทิ้ง อย่างไรก็ตาม มีวิธีการเป็นร้อยพันวิธีที่คุณสามารถใช้ป้องกันผมไม่ให้แตกปลายอีก ลองทำตามดูสิ เพื่อจะได้มีผมสุขภาพดีและนุ่มสลวย
ขั้นตอน
-
ตรวจดูผมเสีย. สังเกตผมของคุณอย่างใกล้ชิดด้วยกระจกในที่สว่าง ผมแตกปลายมักเกิดที่ปลายผม แต่ก็สามารถปรากฏที่ส่วนใดของผมก็ได้ ผมแตกปลายและปัญหาผมเสียที่เกี่ยวข้องสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ หากคุณพบปัญหาต่อไปนี้ ให้กำจัดมันด้วยวิธีการด้านล่าง:
- ผมแตกปลายออกเป็นสองส่วนหรือมากกว่านั้น
- รูโหว่ระหว่างเส้นผม (จะเห็นได้ชัดเมื่อกำผมขึ้นมาชิดกัน)
- จุดสีขาวที่ปลายผม
- เส้นผมติดกันเป็นปม (พบมากในผมแห้งหยิก)
-
เล็มผมด้วยตัวเอง . หากยังไม่ถึงเวลาตัดผมสำหรับคุณ ให้จัดการผมแตกปลายด้วยตัวเอง เล็มมันออกด้วยกรรไกรซอยผมขนาดเล็ก เนื่องจากกรรไกรปกติสามารถทำให้ผมแตกและทำให้ผมยิ่งแตกปลายกว่าเดิม ตัดปอยผมออกประมาณ ¼ นิ้ว (6 มิลลิเมตร) เหนือผมที่แตกปลาย หากคุณตัดใกล้ผมที่เสียมากเกินไป ผมอาจกลับมาแตกปลายอีก- ผมแตกปลายอาจเป็นกระจุกเหนือส่วนที่เสีย ให้ตัดเหนือขึ้นไป
- วิธีนี้อาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะถ้าคุณมีผมหนาหรือผมเสีย แต่คุณจะได้รักษาระดับความยาวของผมไว้
-
ตัดผมเป็นประจำ. ช่างตัดผมสามารถเล็มผมแตกปลายออกไปได้ แต่มักจะตัดผม 1⁄4 ถึง 1 นิ้ว (0.6 ถึง 2.5 เซนติเมตร) ออกไปด้วย ในไม่ช้า ผมจะยาวมากจนต้องใช้วิธีนี้ ระยะเวลาที่จะใช้รอระหว่างการตัดผมแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับชนิดเส้นผม สุขภาพของเส้นผม และระยะเวลาที่คุณยอมเสียเพื่อเล็มผมแตกปลายด้วยตัวคุณเอง อาจเป็น 6 สัปดาห์หรือ 6 เดือนก็ได้
- หากคุณไม่เล็มผมแตกปลายด้วยตัวเอง การหลีกเลี่ยงช่างทำผมก็ไม่ช่วยรักษาความยาวของผมคุณอยู่ดี ผมแตกปลายที่ไม่ได้รับการดูแลจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ และขาดในที่สุด
-
ทำตามขั้นตอนเพื่อรักษาความยาวผมเอาไว้. หากการเล็มปลายผมออกกระทบกับความยาวผมที่คุณต้องการ ให้ลองซอยผมดู ขอให้ช่างทำผมเล็มผมเสียที่อยู่ด้านนอกออก โดยเว้นผมชั้นล่างๆ และรักษาความยาวของผมไว้ หากคุณมีผมแบบอัฟโฟร (ผมหยิกและเส้นใหญ่) น้ำยายืดผมแบบอ่อนโยนจะให้ผลที่ใกล้เคียง ทำให้คุณจัดการกับผมได้ง่ายกว่าและหลีกเลี่ยงการเล็มผมสุขภาพดีทิ้ง
-
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมด้วยความระมัดระวัง. มีครีมคอนดิชันเนอร์และครีมบำรุงผมตามโฆษณาหลายยี่ห้อที่อ้างว่าช่วย “รักษา” ผมแตกปลายได้ ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะช่วยปิดผมแตกปลายไม่ให้มองเห็นได้ แต่ความเสียหายของผมยังคงอยู่ คุณอาจใช้มันเพื่อแก้ไขผมเสียชั่วคราว แต่การใช้ในระยะยาวอาจทำให้ผมเสียมากกว่าเดิม
- ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจช่วยป้องกันผมเสียในอนาคต แต่อาจทำลายผมที่เคยสุขภาพดีด้วยก็ได้
โฆษณา
-
ใช้ยาสระผมอย่างระวัง. ยาสระผมมากเกินไปอาจพรากน้ำมันที่เป็นประโยชน์ออกจากผม ทำให้ผมอ่อนแอและแห้งเสีย ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อหาวิธีการลดผมแตกปลาย:
- อย่าสระผมเกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือสระให้น้อยกว่านั้นหากคุณมีผมลอนหนาหรือผมแบบอัฟโฟร
- สระแค่หนังศีรษะและผมที่อยู่ใกล้ๆ โดยปล่อยผมที่เหลือลง มันจะได้การชำระล้างที่เพียงพอจากยาสระผมที่ไหลลงมา
- น้ำร้อนจะพรากน้ำมันที่คอยปกป้องผมออกไป ดังนั้น ให้ล้างผมด้วยน้ำเย็นที่สุดเท่าที่คุณจะทนได้
- หากผมยังคงแตกปลายอย่างรวดเร็ว ให้ลองยาสระผมแบบอื่นที่อ่อนโยนกว่า หลีกเลี่ยงยาสระผมที่มีซัลเฟตหรือพาราเบน
-
ใช้ครีมคอนดิชันเนอร์. หลังใช้ยาสระผม ให้ชโลมคอนดิชันเนอร์ตามแนวความยาวเส้นผม ปล่อยให้ซึมเข้าผมอย่างน้อย 3 นาทีก่อนล้างออก
-
เป่าผมด้วยความอ่อนโยน. การเช็ดผมอย่างแรงด้วยผ้าแห้งไม่ใช่สิ่งที่ดี ในทางกลับกัน ให้บีบเบาๆ ลงบนผมที่เปียกด้วยผ้า เพื่อกำจัดน้ำออก หลังจากน้ำส่วนเกินถูกกำจัดออกไปแล้ว ให้ปล่อยผมแห้งตามปกติ
- หากคุณต้องการให้ผมแห้งเร็วๆ ให้ใช้ไดร์เป่าผมปรับความร้อนระดับปานกลางหรือต่ำ จะดีมากหากใช้ลมเย็น และถือไดร์ให้ห่างจากผม 2-3 นิ้ว (หลายเซนติเมตร) เพื่อลดการทำลายเส้นผม
- หากโดยปกติคุณพันผมด้วยผ้าขนหนู ให้ลองใช้เสื้อยืดคอตตอนแทน
-
บำรุงผมอย่างล้ำลึกเป็นประจำ. หากวิธีใช้ครีมคอนดิชันเนอร์ใช้ไม่ได้ผล ให้ลอง “การบำรุงอย่างล้ำลึก” 1-2 ครั้งต่อเดือน วิธีนี้รวมไปถึงการใช้คอนดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออกหรือน้ำมันใส่ผมและปล่อยทิ้งไว้สักพัก น้ำมันโจโจบาและน้ำมันมะพร้าวใช้ได้ดีในวิธีนี้ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างวิธีปฏิบัติ:
- ทำผมให้เปียก
- หยดครีมบำรุงล้ำลึกหรือน้ำมันขนาดประมาณเหรียญลงบนฝ่ามือ ใช้หยดประมาณเหรียญ 50 สตางค์สำหรับผมที่เลยไหล่ และใช้ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาทสำหรับผมที่เลยเอว
- ลูบลงบนผม
- ปล่อยทิ้งไว้ 5 นาทีหรือ 10 นาทีสำหรับผมเสียมาก
- ล้างออกด้วยน้ำเย็น
-
หาหวีหรือแปรงที่อ่อนโยน. แปรงหรือหวีควรช่วยไม่ให้ผมพันกัน ไม่ใช่ทำให้ผมร่วง ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคนผมหนาคือหวีซี่ห่าง หวีไม้ หรือหวีทำผมอัฟโฟรแบบไม้ คนที่มีผมเส้นเล็กอาจใช้หวีซี่ถี่ หวีหรือแปรงไม้ที่มีขนแปรงหมูป่า หรือขนแปรงธรรมชาติที่ยืดหยุ่นได้
-
หวีผมด้วยความอ่อนโยน. เริ่มจากข้างล่างก่อนค่อยไล่ขึ้นด้านบน หากเจอผมพันกัน ให้สางออกด้วยนิ้วก่อนจะหวีต่อไป
- หยุดยีผมหรือหวีผมย้อนขึ้น เพราะมันจะดึงเกล็ดผมของคุณขึ้น ทำให้ผมขาดได้ง่าย
- อย่าหวีผมบ่อยเกินจำเป็น เมื่อสามารถใช้หวีหรือแปรงหวีผมได้โดยไม่สะดุด ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย
- ผมจะอ่อนแอมากเมื่อเปียก หวีผมเฉพาะเวลาที่ผมแห้ง เว้นแต่ว่าคุณมีผมหนาและหยิกมากซึ่งจะสามารถหวีได้เฉพาะตอนเปียก
โฆษณา
-
ปกป้องผมของคุณยามหลับ. ให้ถักเปียหรือม้วนผมมวยแล้วนอนเพื่อป้องกันผมพันและขาดหลุดร่วง หมวกคลุมผมสำหรับนอนหรือปลอกหมอนผ้าซาตินก็ช่วยได้เช่นกัน
-
กินอาหารให้สมดุล. อย่าลืมกินวิตามินและโปรตีนให้ครบตามจำนวนที่แนะนำ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายจะสร้างผมสุขภาพดี ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น กรดไขมันโอเมกา-3 สามารถช่วยให้ผมสุขภาพดีและเงางาม
- วิตามินอีมีประโยชน์อย่างยิ่ง วิตามินอีสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ถั่ว เมล็ดพืช อะโวคาโด น้ำมันจากผัก ผักใบเขียว และปลาบางชนิด
-
ใส่น้ำมันที่ผมเพื่อการป้องกัน. ใช้น้ำมันที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันจากเมล็ดอาร์แกน น้ำมันจากไข่ น้ำมันละหุ่ง หรือน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ วิธีนี้สามารถหล่อลื่นเส้นผม ป้องกันการแตกปลาย ใช้น้ำมันอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนโดยใส่หมวกคลุม แล้วจึงล้างออกตอนเช้า
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันพาราฟินหรือน้ำมันก๊าดซึ่งจะทำให้ผมแห้ง
- ใส่น้ำมันที่ตรงกลางและปลายผม การใส่น้ำมันใกล้หนังศีรษะจะทำให้เกิดรังแคและทำลายรากผมได้
-
ใช้อุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อผม. ยางรัดผมแน่นๆ หรือยางที่มีโลหะสามารถทำลายเส้นผมได้ โดยเฉพาะถ้ารัดเป็นเวลานาน ยางรัดผมผ้าและริบบิ้นจะอ่อนโยนต่อเส้นผมมากกว่า
- หากคุณจำเป็นต้องใช้ยางรัดผม ให้แน่ใจว่าไม่รัดแน่นเกินไปจนทำลายเส้นผม
-
ใช้ครีมหมักผม. ใช้ครีมหมักผมทุกๆ 1-2 อาทิตย์สามารถช่วยให้ผมสุขภาพดี ชุ่มชื้น และไม่แห้งเสีย ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที โดยเว้นตรงหนังศีรษะเอาไว้
- ลองผสมครีมหมักเองโดยใช้น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง และคอนดิชันเนอร์
โฆษณา
-
ปกป้องผมจากความร้อน. ความร้อนทำลายเคราติน (โปรตีน) ในเส้นผม ทำให้อ่อนแอลง ซึ่งง่ายต่อการเกิดผมแตกปลาย การทำทรีตเมนต์ด้วยความร้อนคือสาเหตุหลักที่ทำลายและทำให้ผมแตกปลาย ซึ่งหมายถึงการไดร์ผมด้วยความร้อน การแต่งผมด้วยความร้อน ยืดและม้วนผมด้วยความร้อน และการอบไอน้ำด้วย หากคุณใช้การบำรุงที่กล่าวมา ให้พิจารณาข้อควรระวังเหล่านี้ด้วย:
- อย่ายืดผมหรือบำรุงผมโดยใช้ความร้อนสูงบ่อยเกิน ควรทำแค่เพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์ หรืออาทิตย์ละครั้งจะดีกว่า
- หาเครื่องหนีบผมหรืออุปกรณ์อื่นที่สามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ ตั้งความร้อนให้ต่ำกว่า 180 องศาเซลเซียส (356 องศาฟาเรนไฮต์)
- บอกให้ช่างทำผมรู้ด้วยว่าคุณชอบการบำรุงผมที่ใช้ความร้อนต่ำ
-
ป้องกันผมก่อนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ มหาสมุทร หรือทะเลสาบ. ลองใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นก่อนว่ายน้ำดู หรืออีกทางหนึ่งคือใช้คอนดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออก ใส่น้ำมันให้เส้นผม และ/หรือใส่หมวกว่ายน้ำ การล้างผมทั้งศีรษะก่อนว่ายน้ำจะช่วยลดการดูดซับสารเคมีที่เป็นอันตราย อย่าลืมล้างผมหรือสระผมทันทีหลังจากว่ายน้ำ
-
สระผมด้วยน้ำที่อ่อนโยน. หากคุณมีผมบอบบาง แร่ธาตุและคลอรีนในน้ำจะทำลายผมของคุณ ลองใช้กระบวนการทำให้น้ำบริสุทธิ์ขึ้น หากน้ำบริเวณที่คุณอาศัยนั้น “กระด้าง” และมีแคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่มาก ใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อกำจัดคลอรีนหากมันจำเป็นในบริเวณที่คุณอยู่
-
ปกป้องผมจากดวงอาทิตย์. รังสีอัลตราไวโอเลตทำลายเส้นผมได้เช่นเดียวกับผิวของคุณ ม้วนผมมวยและใส่หมวก หรือใช้คอนดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออกที่ป้องกันแดดได้
-
ลดการใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม. สีย้อมผมและน้ำยากัดผมจะทำลายผมมากที่สุด แต่ผลิตภัณฑ์ใดก็ตามล้วนมีโอกาสทำลายเส้นผมทั้งนั้น ลองใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ผมของคุณก็จะมีสุขภาพดีได้นานขึ้นโฆษณา
เคล็ดลับ
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผมคงความสุขภาพดี
- อย่าดึงผมที่แตกปลายเพราะจะยิ่งทำให้ผมแตกมากขึ้น
- ลองใช้หวีซี่ห่างเพื่อหวีผม
- อย่ากัดสีผมบ่อย เพราะมันจะทำลายเส้นผม
- หลังจากอาบน้ำ ให้หลีกเลี่ยงการพันผมขึ้นไปด้วยผ้าขนหนู เพราะมันจะทำลายเส้นผม
- ใช้น้ำมันอัลมอนด์อาทิตย์ละครั้ง
- แทนที่จะใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม ให้ใช้กระดาษทิชชู่ผืนใหญ่แทน เพื่อลดการทำลายเส้นผม หากต้องการ
- บางคนทำให้สีผมสว่างขึ้นด้วยน้ำผึ้ง วิธีนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่มันก็จะทำลายเส้นผมน้อยกว่ายาย้อมผมตามโฆษณา
- น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิลอาจช่วยได้หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมเกินจำเป็น
- การทาน้ำมันละหุ่งในตอนกลางคืนและสระผมในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ช่วยได้มากเช่นกัน
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าดึงผมหางม้าให้แน่นขึ้นด้วยการแยกผมเป็นสองส่วนและดึงออกจากกันโดยเด็ดขาด วิธีนี้เทียบเท่ากับการยีผม และทำให้ผมเสียได้เท่ากัน [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กรรไกรเล็มผมปกติ
- ครีมหมักผมรายสัปดาห์
- ครีมคอนดิชันเนอร์
- ครีมคอนดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออก และครีมแก้ผมพันกัน
- หวีซี่ห่าง
- ที่คาดผม (ถ้าใช้)
-
กรรไกรตัดผม
โฆษณา
