ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ยาทาเล็บช่วยเนรมิตมือคุณให้สวยน่ามองได้ แต่ก็เลอะเทอะง่ายเหมือนกัน โดยเฉพาะมือใหม่หัดทา ถ้าเผลอทำยาทาเล็บกระเด็นหรือหกใส่จุดต่างๆ ของห้องไปแล้ว เช่น พรม ก็ถึงเวลาทำความสะอาดกันยกใหญ่ โดยเฉพาะคราบยาทาเล็บแห้งกรังที่ท้าทายเป็นพิเศษ แต่วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขจัดคราบยาทาเล็บเลอะพรม (ทั้งแห้งและสดๆ ร้อนๆ) ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
ใช้ช้อนตักยาทาเล็บ. ยาทาเล็บที่เพิ่งกระเด็นจะทำความสะอาดง่ายกว่าคราบแห้งเยอะเลย แต่ทริคเด็ดช่วยชีวิต คือต้องโกยยาทาเล็บออกจากพรมให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะทันแห้งกรัง ถ้าไม่ใช่แค่กระเด็นแต่เป็นกระฉอก ต้องใช้ช้อนตักยาทาเล็บที่ยังเป็นน้ำออกจากพรมโดยด่วน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พอช้อนเลอะเทอะไปหมดแล้ว ให้เช็ดก่อน แล้วค่อยเอาไปตักยาทาเล็บต่อ จะได้ไม่เผลอทำยาทาเล็บเลอะลามออกไป
-
ซับส่วนเกิน. พอกำจัดยาทาเล็บที่เป็นน้ำๆ ออกไปมากที่สุดแล้ว ก็ซับต่อด้วยผ้าขนหนูเก่า ผ้าขี้ริ้ว หรือเศษผ้า โดยพันผ้ารอบนิ้ว สัก 1 - 2 นิ้ว แล้วกดๆ ซับๆ ที่คราบ ห้ามถู ไม่งั้นคราบจะขยายวงกว้าง และซึมลึกเข้าไปในเส้นใยของพรม [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ละครั้งที่ซับ ให้เปลี่ยนจุดใหม่ที่ยังสะอาด จะได้ไม่ทำคราบเลอะกว่าเดิม
- ซ้ำไปเรื่อยๆ จนสีไม่ติดผ้าขึ้นมา
-
เลือกน้ำยาขจัดคราบ. มีหลายน้ำยาทำความสะอาดที่ขจัดคราบยาทาเล็บจากพรมได้ จุดสำคัญคือห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวและอะซิโตน เพราะ 2 อย่างนี้กัดสีพรม ทำเส้นใยเสียหายได้ จริงๆ แล้วน้ำยาที่ใช้ได้ผลดีที่สุด ก็คือน้ำยาล้างเล็บแบบไม่ผสมอะซิโตน แต่จะลองใช้น้ำยาต่อไปนี้แทนก็ได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- สเปรย์ฉีดผม
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (เฉพาะพรมสีอ่อนเท่านั้น)
- น้ำยาเช็ดกระจก
-
ลองทดสอบใช้กับพรมแค่มุมเล็กๆ ก่อน. สำคัญมากว่าต้องทดลองใช้น้ำยาที่มุมเล็กๆ ของผ้า ก่อนจะลงมือขจัดคราบจริง ให้เอาคอตตอนบัดแต้มน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มี แล้วไปแตะๆ ที่มุมลับตาของพรม [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จุดลับตาที่เหมาะจะใช้ทดสอบน้ำยาก็เช่น จุดที่ปกติมีเฟอร์นิเจอร์ทับอยู่
- อีก 1 - 2 นาทีค่อยกลับมาเช็ค ว่าจุดนั้นสีตกหรือผิดปกติไปไหม ถ้าพรมด่างเพราะน้ำยา แสดงว่าต้องเปลี่ยนตัวเลือก
- ถ้าพรมปลอดภัยดี ขนไม่พัง สีไม่ตก ก็แปลว่าใช้น้ำยานั้นขจัดคราบน้ำยาทาเล็บต่อไปได้เลย
-
ซับคราบด้วยน้ำยา. เอาผ้าขนหนูหรือเศษผ้าชิ้นใหม่ที่สะอาดๆ มาชุบน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นกดซับที่คราบเหมือนตอนใช้ผ้าแห้งซับคราบ เหมือนเดิมคือสลับใช้จุดสะอาดของผ้าซับไปเรื่อยๆ ไม่ให้คราบลาม ถ้าจำเป็น จะชุบน้ำยาล้างเล็บเพิ่มด้วยก็ได้ ซับไปเรื่อยๆ จนคราบจางหายไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามเทน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาดใส่คราบที่พรมโดยตรง เพราะจะซึมลงไปถึงใต้พรม เลอะเทอะและเสียหายกว่าเดิม
โฆษณา
-
ขูดคราบแห้งกรังออก. ใช้ช้อน มีด หรือเอาเล็บขูด แกะคราบยาทาเล็บแห้งกรังออกมาให้ได้มากที่สุด ถ้าเหลือคราบตกค้างน้อย จะทำความสะอาดได้ง่ายและเร็วขึ้นเยอะ
- อาจจะใช้กรรไกรเล็มขนพรมที่เลอะน้ำยาทาเล็บออกก็ได้ แต่ระวังอย่าตัดเยอะเกินไป ถ้าตัดกินวงกว้างหรือสั้นไป จะทำให้พรมจุดนั้นแตกต่างจากจุดเดิมอย่างเห็นได้ชัด
-
ดูดฝุ่นบริเวณนั้น. ดูดเศษยาทาเล็บที่ร่วงอยู่ตามเส้นใยของพรมหลังขูดออกไปให้หมด จะได้เหลือคราบที่ต้องกำจัดน้อยลง ละลายคราบยาทาเล็บได้ง่ายขึ้นด้วย
- การดูดฝุ่นเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างสำคัญ ถ้าใช้กรรไกรเล็มขนพรมที่เลอะออกไป เพราะเศษพรมและยาทาเล็บจะร่วงอยู่ตามขนพรม
-
ทดสอบน้ำยาที่จุดลับตาของพรม. น้ำยาล้างเล็บแบบไม่ผสมอะซิโตนจะขจัดคราบยาทาเล็บได้ดีที่สุด เพราะใช้ละลายยาทาเล็บโดยเฉพาะ ให้ใช้คอตตอนบัดชุบน้ำยาล้างเล็บ แล้วลองแต้มที่พรมแค่จุดเล็กๆ ดู จากนั้นทิ้งไว้ 1 - 2 นาทีค่อยกลับมาเช็ค ว่าทำพรมเสียหรือสีตกไหม
- น้ำยาอื่นที่ใช้ได้ก็เช่น แอลกอฮอล์ล้างแผล สเปรย์ฉีดผม น้ำยาเช็ดกระจก น้ำยาทำความสะอาดพรม และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ห้ามใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับพรมสีเข้มเด็ดขาด เพราะกัดสีพรมได้
- ห้ามใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีอะซิโตนหรือน้ำยาฟอกขาว เพราะจะทำพรมด่าง เสียหายได้
-
ซับคราบด้วยน้ำยา. เอาผ้าขนหนูหรือเศษผ้าชิ้นใหม่ที่สะอาดๆ มาชุบน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นกดซับที่คราบ ให้คราบแตกตัว ลอยขึ้นมา สลับใช้จุดสะอาดของผ้าซับไปเรื่อยๆ ไม่ให้คราบลาม ถ้าจำเป็น จะชุบน้ำยาล้างเล็บเพิ่มด้วยก็ได้ ซับไปเรื่อยๆ จนคราบจางหายไป [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามเทน้ำยาทำความสะอาดใส่คราบที่พรมโดยตรง เพราะจะซึมลงไปถึงใต้พรม เลอะเทอะและเสียหายกว่าเดิม
- ห้ามขัดถูแรงๆ เพราะเท่ากับขยี้ให้คราบยิ่งฝังแน่นในเส้นใยของพรม
- ให้ใช้แปรงเล็ก เช่น แปรงสีฟัน แปรงน้ำยาล้างเล็บขจัดคราบ แต่อย่าถูแรงหรือกระจายออกไป เพราะคราบจะลามได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ซับน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาดส่วนเกิน. พอขจัดคราบยาทาเล็บได้แล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสะอาดซับพรม เพื่อดูดเอาน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาดส่วนเกินขึ้นมาจากพรม
- ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือสลับไปใช้จุดอื่นที่ยังสะอาด แล้วกดซับที่พรมไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือน้ำยาตกค้าง หรือจนผ้าแห้ง ไม่ดูดซับน้ำขึ้นมาอีก [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยน้ำยาล้างจาน. ตักน้ำใส่ถังเล็กๆ แล้วผสมน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาทำความสะอาดพรม 1 - 2 ช้อนชา (5 - 10 มล.) ตีน้ำผสมให้น้ำยาเข้ากันและขึ้นฟอง เอาฟองน้ำจุ่มน้ำยาที่เจือจางแล้ว บีบให้พอหมาด จากนั้นขัดพรมกำจัดน้ำยาตกค้าง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พยายามล้างฟองน้ำแล้วชุบน้ำยาใหม่แล้วขัดไปเรื่อยๆ จนไม่มีกลิ่นน้ำยาล้างเล็บหรือน้ำยาทำความสะอาดหลงเหลืออยู่
-
ล้างน้ำสะอาด. ใช้ถังใบใหม่หรือล้างถังให้สะอาด แล้วเติมน้ำ จากนั้นใช้ฟองน้ำสะอาดชุบน้ำ บีบให้หมาด แล้วเอามาซับบริเวณที่เคยมีคราบ ไม่ให้เหลือทั้งน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาล้างจานตกค้าง
- ล้างฟองน้ำเรื่อยๆ และซับจนพรมสะอาด ไม่เหลือคราบน้ำยา
-
ซับให้แห้ง. ใช้ผ้าสะอาดซับน้ำส่วนเกินที่พรม พอพรมแห้งเท่าที่ต้องการ ก็เปิดพัดลมจ่อไว้จนแห้งสนิท [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ช้อน
- ผ้าขนหนูเก่าหรือผ้าขี้ริ้ว
- น้ำยาล้างเล็บแบบไม่ผสมอะซิโตน
- คอตตอนบัด
- เครื่องดูดฝุ่น
- ถังใบเล็ก
- น้ำยาล้างจาน
- ฟองน้ำ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.electrodry.com.au/helpful-steps-in-removing-nail-polish-from-carpet/
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/floor-carpets/remove-nail-polish-carpet
- ↑ http://spotremoval.coit.com/how-to-get-nail-polish-out-of-carpet
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/floor-carpets/remove-nail-polish-carpet
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-nail-polish-from-carpet/
- ↑ http://spotremoval.coit.com/how-to-get-nail-polish-out-of-carpet
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=ZKi3qb_3hNM
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-remove-nail-polish-from-carpet/
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/floor-carpets/remove-nail-polish-carpet
โฆษณา