ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
น้ำยาฟอกขาวสามารถช่วยขจัดคราบเปื้อนและสิ่งสกปรกบนรองเท้าสีขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณทิ้งน้ำยาฟอกขาวบนรองเท้าไว้นานจนเกินไปหรือเจือจางในอัตราส่วนที่ไม่เหมาะสม น้ำยาฟอกขาวอาจก่อให้เกิดคราบเหลืองบนพื้นผิวรองเท้าแทนได้ แม้ว่าการกำจัดคราบเหลือที่หลงเหลือจากการใช้น้ำยาฟอกขาวให้ออกอย่างสะอาดหมดจดอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่คุณสามารถขจัดคราบเหลืองให้หลุดออกหรือจางลงมากที่สุดได้ด้วยวิธีการต่างๆ อย่างการขัดด้วยเกลือและน้ำร้อน การแช่ในสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์ หรือการซักด้วยน้ำยาซักผ้าและน้ำส้มสายชู
ขั้นตอน
-
เติมน้ำร้อนจัด 240 มิลลิลิตรลงไปในชามใบเล็ก. เตรียมชามใบเล็กที่ทนความร้อนมาใบหนึ่ง จากนั้นเปิดก๊อกน้ำโดยบิดหมุนไปฝั่งน้ำร้อนจนสุดและปล่อยให้น้ำไหลสักพักเพื่อปรับให้น้ำเริ่มร้อนยิ่งขึ้นก่อนเติมลงไปในชามประมาณ 240 มิลลิลิตร [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำที่ใช้ควรร้อนจัดแต่ไม่ร้อนเกินไปจนถึงจุดเดือด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ละลายเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (17 กรัม) ในน้ำร้อน. ใช้ช้อนตวงตวงเกลือให้ได้ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะและเติมลงไปในน้ำร้อนที่เตรียมไว้ ใช้แปรงสีฟันสะอาดคนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกลือละลายจนหมด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แปรงสีฟันขัดสารละลายเกลือบนบริเวณที่เกิดคราบเหลือง. ใช้ผ้าขนหนูปูรองไว้เพื่อป้องกันพื้นผิวจากน้ำร้อนหรือสิ่งสกปรกที่หลุดออกมา จุ่มแปรงสีฟันลงไปในสารละลายเกลือที่เตรียมไว้จนขนแปรงชุ่มน้ำและออกแรงขัดตรงบริเวณที่เกิดคราบเหลือง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถจุ่มแปรงสีฟันกลับลงไปในสารละลายเกลือซ้ำๆ เพื่อให้ขนแปรงยังคงชุ่มน้ำและชโลมสารละลายเกลือลงไปบนคราบเหลืองเพิ่มขึ้น [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจต้องออกแรงขัดติดต่อกันนานหลายนาทีก่อนที่คราบเหลืองจะเริ่มจางลง
-
ผึ่งลมให้แห้งสัก 20 นาทีก่อนเริ่มขัดอีกครั้ง. เมื่อคราบเหลืองเริ่มจางลงเล็กน้อย ให้คุณวางรองเท้าทิ้งไว้บนผ้าขนหนูเพื่อผึ่งลมให้แห้งนานประมาณ 20 นาทีหรือจนกระทั่งรู้สึกแห้งเมื่อสัมผัส [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จากนั้นจึงเริ่มจุ่มแปรงสีฟันกลับลงไปในสารละลายเกลืออีกครั้งและนำไปขัดตรงบริเวณที่มีคราบต่ออีกสักพัก [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขัดไปเรื่อยๆ ให้คราบเหลืองจางลงไปมากที่สุด. หลังจากที่คราบเหลืองเริ่มจางลงมากขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะจางลงอีกแม้ว่าคุณจะยังคงขัดอย่างต่อเนื่องอีกหลายนาที ให้คุณเลิกขัดต่อและนำรองเท้าไปตากให้แห้ง คุณอาจไม่สามารถขจัดคราบเหลืองให้หลุดออกได้อย่างหมดจด แต่วิธีนี้จะช่วยให้คราบเหลืองจางลงไปค่อนข้างมากจนคุณสามารถนำรองเท้าสีขาวคู่ดังกล่าวกลับมาสวมใส่ได้อีกครั้ง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เติมน้ำร้อนจัด 950 มิลลิลิตรลงในภาชนะใบใหญ่. เตรียมชาม ถังน้ำ หรือภาชนะอื่นๆ ที่ทนความร้อนและมีขนาดใหญ่พอสำหรับรองรับน้ำและรองเท้าของคุณได้อย่างพอดี จากนั้นเปิดก๊อกน้ำโดยบิดหมุนไปฝั่งน้ำร้อนจนสุดและปล่อยให้น้ำไหลสักพักเพื่อปรับให้น้ำเริ่มร้อนยิ่งขึ้นก่อนใช้ถ้วยตวงตวงน้ำ 950 มิลลิลิตรเติมลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำที่ใช้ควรร้อนจัดแต่ไม่ร้อนเกินไปจนถึงจุดเดือด [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ผสมครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ถ้วย (110 กรัม) ในน้ำร้อน. ใช้ถ้วยตวงตวงครีมออฟทาร์ทาร์ให้ได้ปริมาณ ½ ถ้วยและเติมลงไปในน้ำร้อนที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนคันใหญ่คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำและครีมออฟทาร์ทาร์ผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ที่หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปมักวางขายในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก ดังนั้นคุณจึงอาจต้องซื้อครีมออฟทาร์ทาร์เป็นจำนวนหลายชิ้นเพื่อให้เพียงพอสำหรับน้ำในปริมาณ 950 มิลลิลิตร
- คุณสามารถหาซื้อครีมออฟทาร์ทาร์ในบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ได้จากร้านค้าออนไลน์
-
แช่รองเท้าในสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์นาน 30-90 นาที. นำรองเท้าที่เปื้อนคราบเหลืองจุ่มลงไปในสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์โดยให้แน่ใจว่าทุกส่วนของรองเท้าจมอยู่ใต้น้ำ จากนั้นแช่ทิ้งไว้และลองเช็คทุกๆ 30 นาทีเพื่อดูว่าคราบเหลืองหลุดออกไปแล้วหรือไม่ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หากรองเท้ายังคงไม่สะอาดดี ให้คุณแช่รองเท้าในสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์เพิ่มอีก 30 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง
- คราบเหลืองเพิ่งเกิดขึ้นหรือมีสีค่อนข้างอ่อนอาจเริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคราบเหลืองที่มีสีเข้มหรือถูกทิ้งไว้นาน คุณอาจจำเป็นต้องแช่รองเท้าทิ้งไว้นานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง
-
นำรองเท้าขึ้นมาและล้างให้สะอาดด้วยน้ำเย็น. เมื่อคราบเหลืองหลุดออกหรือจางลงมากที่สุดแล้ว ให้คุณนำรองเท้าขึ้นมาจากสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์และล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดเพื่อขจัดคราบครีมออฟทาร์ทาร์ที่หลงเหลืออยู่ออกอย่างหมดจด [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ครีมออฟทาร์ทาร์มีฤทธิ์เป็นกรดที่อาจทำลายพื้นผิวของรองเท้าได้ ดังนั้นคุณจึงควรล้างรองเท้าด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดทุกครั้งเพื่อขจัดสารตกค้างที่เป็นกรดให้สะอาดหมดจด
-
ตากรองเท้าให้แห้งสนิทก่อนนำไปใส่อีกครั้ง. ใช้ผ้าขนหนูปูรองไว้บนพื้นผิวที่เรียบก่อนวางรองเท้าที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วทับลงไปบนผ้าขนหนู ตากรองเท้าทิ้งไว้หลายชั่วโมงหรือข้ามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ารองเท้าแห้งสนิทดีแล้วก่อนนำไปใส่อีกครั้ง
- คุณยังสามารถทำให้รองเท้าแห้งได้ด้วยการนำรองเท้าเข้าเครื่องอบผ้าที่ตั้งความร้อนไว้ที่ระดับต่ำนาน 30 นาที แต่หากรองเท้ายังคงไม่แห้งสนิทหลังผ่านไป 30 นาที ให้คุณนำรองเท้าใส่กลับเข้าไปในเครื่องอบผ้าอีก 30 นาทีโดยตั้งความร้อนไว้ที่ระดับต่ำเช่นเดิม
โฆษณา
-
ถอดเชือกรองเท้าออก. เชือกรองเท้าอาจพันกันจนยุ่งเหยิงหรือขมวดเป็นปมได้เมื่อนำไปซักทำความสะอาดในเครื่องซักผ้า ดังนั้นคุณจึงควรถอดเชือกรองเท้าแยกออกมาทำความสะอาดต่างหาก [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณกังวลว่าคุณอาจหาเชือกรองเท้าไม่เจอเมื่อซักทำความสะอาดในเครื่องซักผ้า ให้คุณนำเชือกรองเท้าทั้งสองเส้นใส่รวมกันในปลอกหมอนมีซิปหรือถุงซักถนอมผ้าไว้เพื่อไม่ให้หายไป [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เปิดน้ำอุ่นใส่อ่างล้างมือที่สะอาด. เริ่มจากเช็ดอ่างล้างมือด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดและล้างด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้แน่ใจว่าอ่างล้างมือสะอาดหมดจด จากนั้นเปิดทั้งก๊อกน้ำร้อนและก๊อกน้ำเย็นพร้อมๆ กันก่อนปรับระดับความร้อนและความเย็นตามความเหมาะสมเพื่อให้ได้น้ำที่อุ่นตามต้องการ ปิดด้วยจุกปิดท่อระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลลงในท่อน้ำทิ้งและเปิดน้ำให้สูงขึ้นมาประมาณ ¾ ของอ่างล้างมือ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เติมน้ำยาซักผ้า ½ ช้อนโต๊ะ (7.4 มิลลิลิตร) ลงในน้ำ. ใช้ช้อนตวงตวงน้ำยาซักผ้าให้ได้ปริมาณ ½ ช้อนโต๊ะและเติมลงไปในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ใช้มือหรือช้อนคนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำยาซักผ้าละลายจนเกิดฟองสบู่ในน้ำ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณยังสามารถผสมน้ำยาซักผ้าได้โดยเทน้ำยาซักผ้าลงไปพร้อมเปิดน้ำให้ไหลผ่านในขณะที่คุณกำลังเติมน้ำอุ่นใส่อ่างล้างมือ
-
จุ่มรองเท้าลงไปในอ่างล้างมือและขัดด้วยแปรงสีฟัน. แช่รองเท้าไว้ในน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ในระหว่างการขัดทำความสะอาด จุ่มแปรงสีฟันสะอาดลงไปในน้ำสบู่ให้ชุ่มน้ำและนำไปขัดตรงบริเวณที่เกิดคราบเหลืองบนรองเท้าแต่ละข้างอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งคราบเหลืองเริ่มจางลง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในระหว่างที่กำลังขัดทำความสะอาดรองเท้าข้างหนึ่ง ให้คุณแช่รองเท้าอีกข้างหนึ่งทิ้งไว้ในน้ำสบู่
-
เปิดใช้งานเครื่องซักผ้าโดยตั้งโปรแกรมซักแบบถนอมผ้าและรอให้น้ำไหลเข้าถังปั่น. หลังจากที่คราบเหลืองเริ่มจางลงแล้ว ให้คุณนำรองเท้าขึ้นจากน้ำสบู่และใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า จากนั้นตั้งค่าการซักด้วยน้ำอุ่นและความเร็วรอบปั่นต่ำก่อนกดปุ่มเริ่มต้นเพื่อเริ่มการซัก [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปล่อยให้น้ำไหลเข้าเครื่องซักผ้าสักพักก่อนที่จะเติมน้ำส้มสายชู
- คุณไม่จำเป็นต้องล้างคราบฟองสบู่ออกก่อนนำรองเท้าไปซักในเครื่องซักผ้า
-
เติมน้ำส้มสายชู ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร) ลงไปในถังซักผ้า. เมื่อเครื่องซักผ้าเริ่มทำงานและเติมน้ำจนเต็มถังปั่นแล้ว ให้คุณเปิดฝาเครื่องเล็กน้อยและเทน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยลงไปในน้ำ จากนั้นจึงปิดฝาเครื่องแล้วปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำการซักตามปกติจนเสร็จสมบูรณ์ [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การเติมน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำที่เคลื่อนที่ไปมาจะช่วยเพิ่มแรงในการสลายคราบเหลืองให้หลุดออกง่ายยิ่งขึ้นและทำให้รองเท้าของคุณกลับมาดูขาวสดใสเช่นเดิม
- น้ำส้มสายชูยังมีประสิทธิภาพในการขจัดกลิ่นเหม็นบนรองเท้าได้ดีอีกด้วย [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หยิบรองเท้าออกจากเครื่องซักผ้าและตากให้แห้งสนิท. เมื่อเครื่องซักผ้าสิ้นสุดการซักลงแล้ว ให้คุณหยิบรองเท้าออกจากเครื่องซักผ้าก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้งโดยวางไว้บนผ้าขนหนูหรือบนราวตากผ้า หรือจะนำรองเท้าเข้าเครื่องอบผ้าที่ตั้งความร้อนไว้ที่ระดับต่ำนาน 30 นาทีก็ได้เช่นกัน
- หากรองเท้ายังคงไม่แห้งสนิทหลังผ่านไป 30 นาที ให้คุณนำรองเท้าใส่กลับเข้าไปในเครื่องอบผ้าอีก 30 นาทีโดยตั้งความร้อนไว้ที่ระดับต่ำเช่นเดิม
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หากต้องการทำความสะอาดรองเท้าสีขาวด้วยน้ำยาฟอกขาว คุณควรเจือจางน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่าเสียก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบเหลืองบนรองเท้าของคุณได้ โดยคุณสามารถเจือจางน้ำยาฟอกขาวได้ง่ายๆ โดยผสมน้ำยาฟอกขาว ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) ต่อน้ำเปล่า 1 แกลลอน (4 ลิตร) [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคราบเหลืองยังคงไม่หลุดออกหลังการทำความสะอาดด้วยเกลือ ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือน้ำยาซักผ้าและน้ำส้มสายชูตามขั้นตอนด้านบน คุณอาจต้องนำรองเท้าของคุณเข้ารับบริการทำความสะอาดจากร้านซักแห้งแทน เนื่องจากร้านซักแห้งจะมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะที่อาจช่วยให้คราบเหลืองบนรองเท้าของคุณจางลงได้ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ขัดด้วยเกลือและน้ำร้อน
- เกลือ
- น้ำร้อน
- ชามใบเล็ก
- แปรงสีฟันสะอาด
แช่ในสารละลายครีมออฟทาร์ทาร์
- ครีมออฟทาร์ทาร์
- น้ำร้อน
- ภาชนะทนความร้อนขนาดใหญ่
ซักด้วยน้ำยาซักผ้าและน้ำส้มสายชู
- น้ำยาซักผ้า
- น้ำส้มสายชู
- อ่างล้างมือ
- น้ำเปล่า
- แปรงสีฟันสะอาด
- เครื่องซักผ้า
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=5
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=10
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=23
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=36
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=51
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=54
- ↑ https://youtu.be/Mqd-nFvW32I?t=83
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ http://www.thetipsbank.com/yellow-bleach-stains.html#.XaCal5NKj-Y
- ↑ https://www.chatelaine.com/style/fashion/how-to-clean-white-sneakers/
- ↑ https://www.chatelaine.com/style/fashion/how-to-clean-white-sneakers/
- ↑ https://www.whowhatwear.com/how-to-clean-white-canvas-shoes
- ↑ https://www.whowhatwear.com/how-to-clean-white-canvas-shoes
- ↑ https://www.whowhatwear.com/how-to-clean-white-canvas-shoes
- ↑ https://www.sears.com/articles/appliances/washers-dryers/how-to-wash-sneakers-at-home.html
- ↑ https://www.sears.com/articles/appliances/washers-dryers/how-to-wash-sneakers-at-home.html
- ↑ https://www.sears.com/articles/appliances/washers-dryers/how-to-wash-sneakers-at-home.html
- ↑ https://www.clorox.com/how-to/laundry-basics/bleach-stains/preventing-yellow-bleach-stains/
- ↑ https://www.deseret.com/2006/11/2/19982817/hints-from-heloise-white-vinegar-removes-yellow-bleach-spots
โฆษณา