ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คุณเคยซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาแล้วพบว่ามันกัดเท้าคุณหรือเปล่า? อ้อ อย่าเพิ่งเอามันกลับไปคืนร้านล่ะ คุณสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่ทำให้มันใส่สบายขึ้น มันไม่ใช่การทำให้รองเท้าเสียรูปทรงหรอกนะ แต่คือการทำให้เท้าชินกับรองเท้า ด้านล่างนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยคุณปรับรูปทรงรองเท้าให้ใส่ได้พอดีกับเท้าของคุณ
ขั้นตอน
-
ใส่รองเท้าใหม่เดินรอบบ้าน. ก่อนจะใส่มันออกไปข้างนอก ให้ลองเดินขึ้นบันได ยืนตามที่ต่างๆ (ทำอาหาร เล่นกับเด็กๆ ฯลฯ) นั่งลง หรือแม้แต่วิ่ง
- หมายเหตุ : นี่คือวิธีที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุด สำหรับการทำให้คุณชินกับรองเท้าได้อย่าง ง่ายๆ และ ไม่หนักหนา หากคุณมีรองเท้าหนังหรือรองเท้าทางการดีๆ รองเท้าที่คุณจะอารมณ์เสียมากถ้าเห็นมันถลอก เสียรูปทรง หรือสีซีด วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดที่จะลอง
-
ใส่รองเท้าครั้งละไม่นานก่อน. เวลาที่คุณลองรองเท้าใหม่ก่อนที่จะซื้อ คุณใส่มันเดินแล้วไม่ค่อยเจ็บใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่าคุณยังไม่ได้ใส่มันนานพอที่มันจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บ (หรือเปลี่ยนทรงรองเท้าให้พอดีกับเท้าของคุณ) ดังนั้น เวลาใส่รองเท้าให้ชินที่บ้าน ให้ใส่บ่อยๆ และไม่ต้องใส่รองเท้านานทีละชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกถึงความแตกต่าง
- ในความจริงแล้ว ให้เริ่มด้วยการใส่รองเท้าครั้งละ 10 นาทีก่อน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทำวิธีนี้สัก 2-3 วัน หลังจากนั้น ให้ใส่รองเท้าเพิ่มครั้งละ 10 นาที ทุกๆ 2-3 วัน จนกว่าคุณจะใส่รองเท้าได้ครั้งละเป็นชั่วโมง จนถึงตอนนั้น รองเท้าก็จะไม่กัดแล้ว!
-
นำรองเท้าไปที่ทำงาน. ใส่รองเท้าคู่เก่าไปที่ทำงาน แต่เวลานั่งที่โต๊ะ ให้หยิบรองเท้าใหม่ขึ้นมาและค่อยๆ เริ่มใส่มันเป็นประจำ นี่คือวิธีทำให้รองเท้าชินกับเท้าโดยประหยัดเวลาด้วย
-
ใส่รองเท้ากับถุงเท้า. ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รู้ว่าคุณต้องใส่ถุงเท้าหรือไม่เวลาใส่มัน มันยังสามารถป้องกันแผลพุพองเวลาที่ต้องทำความคุ้นเคยกับรองเท้าใหม่ด้วย
- ใส่รองเท้ากับถุงเท้าที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย ลองใส่ถุงเท้าคอตตอนหนาๆ และสวมรองเท้า แต่อย่าเดินมากเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจเกิดแผลพุพองได้ แค่วางเท้าไว้ในรองเท้าก็พอ ขนาดของถุงเท้าจะช่วยขยายโครงรองเท้า
โฆษณา
-
ใส่น้ำลงไปเกือบเต็มถุงแซนด์วิช 2 ใบ. ดูให้แน่ใจว่าถุงขนาดใหญ่พอ เพื่อที่จะได้เพิ่มแรงกดลงบนรองเท้าเวลาที่มันขยายตัวในช่องแช่แข็ง
- เวลาปิดถุง ให้ไล่อากาศในถุงออกให้หมด มันจะทำให้ง่ายต่อการ “หล่อ” รูปทรงน้ำในถุงให้เข้ากับโครงรองเท้าของคุณ
- สำหรับวิธีนี้ คุณจะต้องใส่รองเท้าลงในช่องแช่แข็งเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในระหว่างนี้มันอาจเปียกได้ ควรแน่ใจว่ารองเท้าที่คุณจะใช้ในขั้นตอนนี้จะไม่เสียหายได้ง่ายจากการทำลายของน้ำ
-
ใส่ถุงแต่ละถุงลงในรองเท้าแต่ละข้าง. ดูให้แน่ใจว่าถุงปิดดีแล้ว คุณคงไม่อยากให้รองเท้าปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเวลาที่คุณเอามันออกจากช่องแช่แข็ง
-
ใส่รองเท้าลงในถุงพลาสติกขนาดใหญ่กว่าที่ปิดมิดชิด แล้วจึงวางรองเท้าลงในช่องแช่แข็ง. รองเท้าของคุณควรบรรจุถุงพลาสติกที่เล็กกว่าไว้ข้างใน และถุงที่ใหญ่กว่าไว้ข้างนอกเพื่อปกป้องความชื้นภายนอก
-
รอ 3-4 ชั่วโมง. เมื่อน้ำในรองเท้าแข็งตัว รองเท้าก็จะขยาย และเพิ่มแรงกดไปยังช่องภายในรองเท้าและช่วยขยายให้มันใส่สบายขึ้น ข้อดีของการใช้น้ำแทนเครื่องขยายรองเท้าคือ น้ำจะปรับรูปร่างไปตามโครงร่างภายในของรองเท้าได้อย่างดีเยี่ยม
-
นำรองเท้าออกจากช่องแช่แข็ง. น้ำที่ใส่ในรองเท้าตอนนี้จะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด
-
นำถุงออกจากรองเท้า. คุณอาจจะต้องรอ 2-3 นาทีเพื่อให้ดึงมันออกมาได้ง่ายขึ้น
-
ลองใส่รองเท้า. เมื่อรองเท้าเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว ให้ลองใส่แล้วเดิน หรืออาจจะวิ่งและจ๊อกกิ้งหากมันเป็นรองเท้ากีฬา
- ตอนนี้ รองเท้าของคุณก็จะถูกทำให้เคยชินและขยายออกเล็กน้อย แถมสวมสบายยิ่งกว่าเดิมด้วย!
โฆษณา
-
ใส่รองเท้า 10 นาที. สวมรองเท้า ใส่ถุงเท้าด้วยก็ดี และเดินไปรอบๆ เป็นเวลาไม่เกิน 10 นาที เพื่อเตรียมรองเท้าให้พร้อม
-
ถอดรองเท้าออกและยืดรองเท้าด้วยมือ. หากรองเท้างอได้ ให้งอมันขึ้นและลงสัก 2-3 ครั้ง
-
เป่ารองเท้าด้วยลมร้อน. การให้ความร้อนรองเท้าจะขยายวัสดุที่ใช้ โดยเฉพาะถ้ามันเป็นหนัง และทำให้มันอ่อนตัวลงด้วย
- ใช้ไดร์เป่าผม ปรับระดับไปที่ร้อน (แต่อาจไม่ใช่ร้อนที่สุด) แล้วเป่าลมร้อนใส่รองเท้าเป็นเวลา 2-3 นาที
- หากคุณไม่มีไดร์เป่าผม ให้ลองวางรองเท้าไว้ใกล้เครื่องทำความร้อนในบ้าน หรือวางกลางแดด ความร้อนเพียงเล็กน้อยย่อมดีกว่าไม่มีเลย
-
ใส่รองเท้าทันทีหลังให้ความร้อน. ใส่รองเท้า 10 นาที แล้วเดินไปมา นั่ง หรือแม้แต่วิ่ง
-
ทำซ้ำอีกสักครั้ง. รองเท้าของคุณจะสวมใส่ได้สบายขึ้นหลังจากให้ความร้อนสัก 2-3 ครั้งโฆษณา
-
หากเป็นไปได้ ให้ซื้อเครื่องขยายรองเท้า. วิธีนี้จะช่วยให้รองเท้าคับน้อยลง หากคุณไม่ต้องการซื้อเครื่องขยายรองเท้า (แม้ว่าอาจมีขายถูกๆ ในอินเตอร์เน็ต) การจับที่ส้นรองเท้าและปลายรองเท้าแล้วยืดขึ้นและลงก็ช่วยได้เช่นกัน
- อย่าลืมใส่รองเท้าหลังจากที่ใช้มือยืด ไม่เช่นนั้นรองเท้าจะเสียรูปทรง!
-
ใช้มันฝรั่ง. ปอกเปลือกมันฝรั่งลูกใหญ่ออก และซับความชื้นออกด้วยกระดาษทิชชู่ วางมันฝรั่งลงในรองเท้าและทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วจึงเอาออกในตอนเช้า
- ให้แน่ใจว่ามันฝรั่งมีขนาดใหญ่กว่าช่องรองเท้าเล็กน้อย แต่ไม่ใหญ่มากจนทำเอารองเท้าบิดเบี้ยวเสียทรง คุณอาจต้องฝานมันฝรั่งออกบางส่วนเพื่อให้มันโค้งเว้าตามทรงรองเท้าโดยที่ยังคงขยายทรงรองเท้าออกได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซื้อสเปรย์ยืดขนาดรองเท้า. ฉีดสเปรย์ยืดขนาดรองเท้าลงบนรองเท้า โดยทำตามคำแนะนำข้างกล่อง ส่วนใหญ่แล้ว คำแนะนำจะบอกให้คุณใช้มือยืดรองเท้าขึ้นและลงไปด้วยระหว่างที่ฉีด
-
หาช่างซ่อมรองเท้ามายืดรองเท้าด้วยเครื่องให้. ชาวอเมริกันเสียเงินกว่าสองพันล้านดอลลาร์ไปกับการขยายขนาดรองเท้า [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ช่างซ่อมรองเท้าจะฉีดรองเท้าด้วยสเปรย์ยืดขนาดรองเท้า และจึงขยายรองเท้าด้วยเครื่องเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงระหว่างที่รองเท้าค่อยๆ แห้ง วิธีนี้จะเสียเงินไม่เกิน 700 บาท
-
หลีกเลี่ยงวิธีการเหล่านี้. วิธีการขยายรองเท้าบางประเภทใช้ไม่ได้ผลหรืออาจทำลายรองเท้าของคุณ โดยเฉพาะรองเท้าหนังดีๆ จงหลีกเลี่ยงวิธีการเหล่านี้:
- ทาแอลกอฮอล์ลงไปบนรองเท้า แอลกอฮอล์จะทิ้งรอยไม่น่ามองไว้บนรองเท้าหนังของคุณ และยังทำให้รองเท้าสูญเสียน้ำมันธรรมชาติด้วย
- ทุบรองเท้าด้วยค้อนหรือของแข็งอย่างอื่น ทุบส่วนหลังของรองเท้าอาจได้ผล แต่มันคุ้มเหรอ? มันคุ้มที่จะมีรองเท้าที่สวมสบายแต่เสียรูปทรงไหม?
- ให้คนที่เท้าใหญ่กว่าใส่รองเท้าให้ การให้คนที่เท้าใหญ่กว่าใส่รองเท้าเพื่อขยายมันนั้นผิดจริยธรรมแถมยังไม่ได้ผลด้วย ไม่เพียงแต่คุณนำความลำบากและเจ็บปวดไปให้คนๆ นั้น (คนที่น่าสงสารสุดๆ!) แล้ว คุณยังทำให้รองเท้าเปลี่ยนรูปทรงไปตามเท้าคนนั้น ไม่ใช่รูปทรงเท้าคุณอีกด้วย! ดังนั้น อย่าทำโดยเด็ดขาด
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หากคุณตั้งใจจะใส่รองเท้าใหม่ออกไปข้างนอก ให้นำรองเท้าเก่าติดไปด้วย เผื่อรองเท้ากัด
- พยายามซื้อรองเท้าให้ถูกไซส์ตั้งแต่แรกก่อน
- อย่าใส่รองเท้าใหม่ออกไปเดินบริเวณนอกบ้าน เพราะมันอาจสกปรกแล้วคุณก็จะใส่มันเดินรอบบ้านไม่ได้
โฆษณา
คำเตือน
- น้ำสามารถทำลายรองเท้าบางประเภทได้ อ่านฉลากสินค้าก่อนด้วย!
- วิธีการเหล่านี้อาจทำให้คุณนำรองเท้ากลับไปคืนร้านไม่ได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,132 ครั้ง
โฆษณา
