ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีตู้เสื้อผ้าที่เป็นระเบียบเป็นก้าวแรกสู่การมีห้องที่เป็นระเบียบและชีวิตที่เป็นระบบ การจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบนั้น คุณจะต้องสำรวจเสื้อผ้าและสิ่งของของคุณทั้งหมดว่ามีของชิ้นไหนบ้างที่คุณต้องการใช้มันจริงๆ และจัดเก็บสิ่งของเหล่านั้นเข้าที่อีกครั้ง ถ้าคุณอยากรู้ว่าจะจัดตู้เสื้อผ้าของคุณให้เป็นระเบียบได้อย่างไร ลองทำตามวิธีการในบทความนี้สิ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การสังคายนาเสื้อผ้าของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าจะอยู่บนไม้แขวน อยู่ในกล่อง หรืออยู่ในลิ้นชัก กองเสื้อผ้าของคุณรวมกันไว้บนเตียงหรือบนพื้นก็ได้ นี่รวมถึงรองเท้า เข็มชัด ผ้าพันคอ กระเป๋าและเครื่องประดับอื่นๆ ด้วยนะ [1]
  2. คุณอาจอยากเก็บของไว้ทั้งหมดหรือโยนทิ้งไปทั้งหมดเสียทีเดียว แต่การพิจารณาเสื้อผ้าและสิ่งของอย่างเป็นระบบทีละชิ้นๆ ดูว่าของชิ้นไหนบ้างที่คุณใช้เป็นประจำ เหมาะกับการใช้งานของคุณและสามารถจัดเก็บในพื้นที่อันจำกัดของคุณได้
    • คุณใส่ชุดนี้ได้พอดีหรือเปล่า? เสื้อผ้าที่คุณจะเก็บไว้ควรเป็นเสื้อผ้าที่ใส่พอดีตัว ไม่หลวมเกินไปหรือแน่นเกินไป หมายความว่า ชุดนั้นสวมใส่สบาย ติดกระดุมได้ง่าย ใส่แล้วไม่รัดเกินไปจนสร้างรอยแดงบนผิวของคุณ รวมถึงเสื้อผ้าตกยุคและกระโปรงที่สั้นเกินไป ไม่เหมาะกับหน้าที่การงานของคุณด้วย
      • เสื้อผ้าอีกกลุ่มที่ควรตัดใจทิ้งไป คือ พวกที่เป็น "แรงบันดาลใจ" เช่น กางเกงยีนส์ตัวเก่งที่เคยใส่ได้หวังว่าจะได้ใส่อีกครั้ง พอถึงเวลาผอมจริงๆ กางเกงทรงนี้อาจตกกระแสไปแล้วก็ได้ แต่ถ้าจะเก็บ "กางเกงตัวยักษ์" ที่เคยใส่ตอนอ้วนไว้เพื่อความภาคภูมิใจว่าครั้งหนึ่งคุณเคยลดน้ำหนักได้ กรณีนี้ถือว่าโอเค
    • ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มที่น้ำหนักไม่แน่ไม่นอน กำลังเป็นขาขึ้นหรือขาลง (เช่น วัยรุ่นกำลังโต คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนที่กำลังลดน้ำหนัก) แล้วจะเอาเรื่องนี้มาอ้าง เราก็จะยังขอแนะนำเหมือนเดิมว่าให้ทิ้งเสื้อผ้าที่มันไม่พอดีกับคุณเสีย
    • คุณใส่ชุดนี้หรือเปล่า? ปีที่ผ่านมาคุณใส่ชุดนี้บ้างหรือไม่? คุณใส่ชุดนี้บ่อยแค่ไหน อาทิตย์ละครั้งหรือปีละครั้ง? ถ้าคุณไม่ได้ใส่ชุดนี้มานานมากๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องทิ้งชุดนี้แล้วหละ
      • ชุดสำหรับโอกาสพิเศษแม้จะไม่ได้หยิบมาใส่บ่อยๆ แต่ก็ควรมีติดตู้เอาไว้ เช่น เสื้อกันหนาวสำหรับช่วงคริสต์มาส ชุดสำหรับสัมภาษณ์งาน ชุดราตรี
    • คุณชอบชุดนี้หรือไม่? ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องเก็บมันไว้ อย่าเก็บเสื้อผ้าเพียงเพราะความรู้สึกผิด เช่น เสื้อที่พ่อซื้อมาให้
    • คุณมีเสื้อผ้าแบบนี้กี่ชุด? ชุดยูนิฟอร์มหรือชุดนักเรียนให้ผ่านได้ แต่ถ้าคุณมีเสื้อสีดำ 7 ตัวที่แทบจะเหมือนกันเป๊ะทั้ง 7 ตัว ก็น่าจะถึงเวลาก็ทิ้งไปบ้างแล้ว
    • แบ่งเสื้อผ้าและสิ่งของที่ตัดสินใจจะเก็บและใช้งานออกมาเป็นกอง "เก็บไว้"
  3. ตัดสินใจว่าจะแยกเก็บชุดไหนเข้าตู้เก็บของบ้าง. เสื้อผ้าตามฤดูกาลอาจจะต้องถูกเก็บเข้าตู้ไปก่อน เพราะถ้าตอนนี้เป็นฤดูร้อน เราคงไม่ใส่เสื้อกันหนาวและผ้าพันคอแน่ๆ และถ้าเป็นช่วงกลางฤดูหนาว เราก็คงไม่ใส่เสื้อกล้ามตัวจิ๋วกับเดรสผ้าบางเบาเหมือนกัน
    • คุณเก็บเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้วแต่มีคุณค่าทางจิตใจไว้ได้เหมือนกัน เช่น เสื้อกันหนาวที่คุณย่าถักให้หรือเสื้อยืดจากทีมเทนนิสสมัยมัธยม โดยพยายามเลือกเก็บเท่าที่จำเป็น เพราะสุดท้ายแล้วเสื้อผ้าถูกออกแบบมาเพื่อสวมใส่ไม่ใช่เพื่อเก็บ
      • ลองหาพื้นที่ให้ของรักของคุณได้เฉิดฉายแทนที่จะเก็บไว้เฉยๆ ในตู้ เช่น นำเสื้อยืดจากคอนเสิร์ตมาใส่กรอบ นำเหรียญสดุดีสมัยเป็นลูกเสือมาใส่ตู้โชว์ หรือนำเสื้อจากงานวิ่งมาราธอนมาตัดปะให้ออกมาเป็นเสื้อยืดก็ได้
    • หลังจากเลือกสิ่งของที่แยกไว้สำหรับเก็บเข้าตู้เก็บของแล้ว ให้นำสิ่งของกองนี้มาแพ็คเพื่อจัดเก็บ โดยสามารถใส่ในกล่องหรือถุงพลาสติกและติดป้ายให้เห็นได้ชัด จากนั้นคุณสามารถนำไปเก็บไว้ด้านบนของตู้เสื้อผ้า ใต้เตียงหรือส่วนอื่นของบ้านก็ได้
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Joanne Gruber

    สไตลิสต์อาชีพ
    โจแอนน์ กรูเบอร์เป็นเจ้าของ The Closet Stylist ผู้ให้บริการด้านสไตล์ส่วนตัวโดยผสานการออกแบบเครื่องแต่งกายให้เข้ากับองค์กร เธอทำงานในแวดวงแฟชั่นกับสไตล์มาเกิน 10 ปี
    Joanne Gruber
    สไตลิสต์อาชีพ

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : จัดเก็บเสื้อผ้าของคุณตามฤดูกาล เก็บเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ยักษ์นั้นไว้ในช่วงหน้าร้อนและเก็บกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะเอาไว้ในหน้าหนาว

  4. ตัดสินใจว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนจะนำไปบริจาคหรือนำไปทิ้ง. นี่เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดและสำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณต้องการจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบจริงๆ คุณจะต้องกำจัดเสื้อผ้าและข้าวของออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทิ้งเสื้อผ้าตัวโปรดทุกตัวหรอกนะ เพียงแต่ว่าคุณควรถามตัวเองจริงๆ ว่าเสื้อผ้าและข้าวของชิ้นไหนที่คุณจะหยิบมาใช้อีกครั้งจริงๆ [2]
    • ถ้าคุณมีชุดที่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใส่เลยทั้งปีและชุดนั้นก็ไม่ได้มีคุณค่าทางจิตใจ ชุดนั้นควรถูกนำไปบริจาค
    • ถ้าคุณมีชุดที่เคยหยิบมาใส่ แต่ตอนนี้ชุดนั้นเป็นรูหรือสีซีดจาง ดูแล้วไม่มีใครอยากใส่ต่อ ชุดนั้นควรนำไปทิ้ง
    • ถ้าคุณมีชุดที่เล็กเกินไปมากๆ บอกเลยว่าอย่ารอให้ผอมจนใส่ชุดนั้นได้ นำไปบริจาคได้เลย
    • การบริจาคเสื้อผ้าที่คุณไม่ได้ใส่หรือใส่ไม่ได้เป็นเรื่องดีหรือคุณอาจจะส่งต่อให้ญาติๆ หรือเพื่อนของคุณก็ได้
  5. คุณควรใช้โอกาสนี้ปัดกวาดเช็ดถูตู้ ลิ้นชัก บริเวณโดยรอบและซอกหลืบต่างๆ ที่อาจมีหยากไย่สะสมมาเป็นเวลานาน
    • ถ้าคุณอยากเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เช่น ทาสีภายในตู้หรือเอาชั้นวางของบางจุดออก นี่คือเวลาที่เหมาะสมเลย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การจัดระเบียบภายในตู้เสื้อผ้าของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแขวนเสื้อผ้าช่วยให้คุณหาเสื้อผ้าได้ง่ายและช่วยประหยัดพื้นที่ด้วย เพราะฉะนั้นพยายามแขวนเสื้อผ้าของคุณให้ได้มากที่สุด การจัดระเบียบราวผ้าจะยิ่งช่วยให้คุณหยิบใช้เสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น คุณสามารถทำตามได้ตามวิธีการนี้เลย [3]
    • จัดเสื้อผ้าตามฤดูกาล เหลือเสื้อผ้าไว้สำหรับครึ่งปีก็พอ ที่เหลือสามารถแยกเก็บเอาไว้ที่อื่น เช่น ถ้าตอนนี้เป็นฤดูร้อนเสื้อผ้าที่แขวนในตู้จะเริ่มจากเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนก่อนแล้วจึงตามด้วยเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ร่วง
    • แยกเสื้อผ้าตามประเภท เสื้อกล้าม เสื้อเชิ้ต กางเกง กระโปรงและชุดเดรส [4]
    • แยกชุดทำงานออกจากชุดอยู่บ้านหรือชุดไปเที่ยว เพื่อให้คุณสามารถแต่งตัวได้อย่างรวดเร็วในตอนเช้าของวันทำงาน
    • เรียงลำดับตามความถี่ของการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะจัดเรียงเสื้อผ้าภายในตู้ด้วยวิธีไหน ก็สามารถการนำเสื้อผ้าตัวโปรดที่ใช้งานบ่อยๆ จำนวนหนึ่งมาแขวนไว้ในจุดที่หยิบใช้ง่ายได้เหมือนกัน
    • ถ้าที่ว่ามาทั้งหมดดูธรรมดาเกินไป ลองวิธีนี้ดู แยกประเภทด้วยสีของไม้แขวนเสื้อ ยกตัวอย่างเช่น ใช้ไม้แขวนเสื้อสีชมพูสำหรับเสื้อหรือใช้ไม้แขวนเสื้อสีเขียวสำหรับชุดทำงาน
    • เรียงลำดับแบบไล่สี จะเรียงสีแบบสายรุ้งก็ได้
    • คุณสามารถเพิ่มราวแขวนภายในตู้เสื้อผ้าของคุณได้ด้วย
  2. เมื่อคุณจัดการแขวนเสื้อผ้าบนราวเรียบร้อยแล้ว คุณก็ต้องหาที่เก็บเสื้อผ้าส่วนที่เหลือ โดยเสื้อผ้าที่พับเก็บในลิ้นชักหรือกล่องจะต้องเป็นเสื้อผ้าที่คุณใช้งานบ่อยน้อยกว่าพวกที่แขวนไว้หรือเป็นเสื้อผ้าประเภทที่ไม่ต้องแขวนก็ได้ เช่น ชุดออกกำลังกาย ลองทำตามไอเดียเหล่านี้ดู
    • อย่าปล่อยให้พื้นที่ใต้ราวแขวนผ้าเปล่าประโยชน์ ลองหากล่องพลาสติกอเนกประสงค์หรือกล่องจัดระเบียบมาวางข้างใต้ดู
    • ถ้าคุณมีห้องสำหรับตู้ลิ้นชัก ลองรวมลิ้นชักนั้นเข้ากับตู้เสื้อผ้าของคุณดู เพราะมันจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพื้นที่ได้อีกเยอะเลยทีเดียว
    • ลองใช้พวกอุปกรณ์จัดระเบียบในการการจัดเก็บเสื้อผ้าที่ยังเหลืออยู่
    • ถ้าคุณยังเหลือพื้นที่เหนือศีรษะ เช่น ด้านบนของตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของ คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนนั้นได้ด้วย
  3. การจัดเก็บรองเท้าในตู้เสื้อผ้าของคุณอาจเป็นการเปลืองพื้นที่ไปหน่อย ถ้าคุณเลือกได้แล้วว่าจะเก็บรองเท้าคู่ไหนไว้บ้าง คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าจะจัดเก็บรองเท้าเหล่านั้นยังไงให้ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองดูวิธีการจัดเก็บรองเท้าเหล่านี้
    • จัดเก็บตามประเภท โดยแยกเป็นรองเท้าสุภาพ รองเท้าแตะและรองเท้าบูท
    • จัดเก็บตามความถี่ของการใช้งาน วางรองเท้าบูท รองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบคู่โปรดไว้ในที่ที่หยิบง่ายที่สุด
    • การซื้อชั้นวางรองเท้ามาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าของคุณจะช่วยให้คุณมองเห็นและเลือกรองเท้าได้ง่ายขึ้น
    • การเก็บรองเท้าไว้ที่ชั้นเหนือศีรษะหรือด้านบนของตู้เสื้อผ้าก็ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้เช่นกัน
    • ถ้าตู้ของคุณเป็นแบบบานเปิด (ไม่ใช่บานเลื่อน) การใช้ที่แขวนรองเท้าก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี
    • ถ้าคุณมีพื้นที่สำหรับวางของและใส่รองเท้าใกล้ๆ ประตูบ้าน คุณสามารถนำรองเท้าที่ใส่บ่อยๆ ไปวางไว้ประจำตรงนั้น เพื่อประหยัดพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าส่วนตัวของคุณได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การจัดระเบียบส่วนที่เหลือนอกเหนือจากเสื้อผ้าของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากล่องอเนกประสงค์มาใส่ในตู้เสื้อผ้าของคุณ. ถ้าตู้เสื้อผ้าของคุณใหญ่มากๆ ล่ะก็ มักจะมีอย่างอื่นนอกจากเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอยู่ในนั้น เช่น กล่องเก็บถ้วยรางวัล อัลบั้มรูปหรือแผ่นซีดีที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว เพื่อปิดงานการจัดตู้เสื้อผ้านี้ คุณก็ต้องสังคายนาสิ่งของพวกนี้เหมือนกันว่าชิ้นไหนจะเก็บหรือทิ้ง ลองทำดูตามนี้
    • กำจัดข้าวของจำพวกกระดาษที่ไม่สำคัญและไม่มีคุณค่าทางจิตใจ
    • รวมสิ่งของต่างๆ เข้าในกล่องเดียวกันเพื่อประหยัดพื้นที่ ถ้าในตู้เสื้อผ้าของคุณเต็มแล้ว คุณยังสามารถนำสิ่งของเหล่านี้ไปเก็บไว้ที่อื่นได้ เช่น เก็บหนังสือรุ่นสมัยมัธยมไว้ที่ชั้นล่างสุดของตู้หนังสือ
    • ถ้าก่อนหน้านี้คุณใช้กล่องกระดาษในการเก็บของ แนะนำให้ลองเปลี่ยนเป็นกล่องพลาสติกแทนเพราะพลาสติกมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าและสามารถมองเห็นสิ่งของข้างในได้ด้วย
    • ติดป้ายบอกหน้ากล่องเพื่อให้รู้ว่าภายในกล่องเป็นของประเภทไหน เพื่อความสะดวกในการหาและการจัดเก็บในอนาคต
  2. ของบางอย่างที่ไม่ใช่ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอาจจำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ถ้าคุณพิจารณาดูแล้วว่าสิ่งนั้นจำเป็นต้องเก็บในตู้เสื้อผ้าจริงๆ ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดู
    • ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่มหรือผ้านวม ควรเก็บไว้ในชั้นสำหรับเก็บผ้าอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ตู้เสื้อผ้า)
    • ถ้าคุณมีเก้าอี้พับหรือเฟอร์นิเจอร์เก่าที่ไม่ได้ใช้มานาน วางพิงไว้ข้างในหรือนอกตู้เสื้อผ้าของคุณ ถึงเวลาต้องกำจัดทิ้งแล้วหละ
    • ถ้าคุณหยิบของชิ้นนึงขึ้นมาและยังนึกไม่ออกว่าของชิ้นนั้นคืออะไรหรือเอาไว้ทำอะไร ก็จัดการโยนทิ้งได้เลย
    • สำรวจเพิ่มเติมว่าของที่อยู่ภายในตู้เสื้อผ้าของคุณเป็นของที่ต้องเก็บในตู้เสื้อผ้าจริงๆ หรือเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ควรเก็บไว้ที่ส่วนอื่นของบ้าน เช่น หลอดไฟหรือหนังสือการ์ตูน
  3. พักเรื่องความคิดสร้างสรรค์ไว้ก่อนและเน้นที่ความสุขขณะหยิบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของคุณทุกเช้า ถ้าคุณใช้เวลาเพิ่มอีกนิดหน่อยทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณน่ารักน่าใช้ ก็มีแนวโน้มว่าในอนาคตคุณจะไม่ทำให้ตู้ของคุณรกอีก
    • ทาสีตู้เสื้อผ้าของคุณด้วยสีอ่อนๆ น่ารักๆ
    • ติดกระจกเงาเพิ่มเข้าไป
    • แขวนเครื่องประดับและผ้าพันคอในมุมที่สามารถมองเห็นได้และไม่ขวางทางการใช้ตู้เสื้อผ้าของคุณ
    • ติดโปสเตอร์หรือรูปภาพที่ทำให้คุณยิ้มได้ คุณจะได้มีความสุขทุกครั้งที่แต่งตัว
  4. ถอยหลังออกมา 1 ก้าวและชื่นชมกับผลงานการจัดตู้เสื้อผ้าของคุณ ตอนนี้ตู้เสื้อผ้าของคุณมีของเท่าที่จำเป็น หาของได้ง่ายและจัดเรียงแบบที่คุณชอบแล้ว แต่ถ้ายังไม่ใช่ คุณก็ยังสามารถปรับแต่งได้อีกนิดหน่อย
    • หลังจากนี้ เมื่อคุณต้องเก็บเสื้อผ้าใหม่เข้าไปก็ควรจัดให้เสื้อผ้าและข้าวของของคุณอยู่ในรูปแบบเดิมเพื่อป้องกันการรื้อตู้เสื้อผ้าครั้งใหญ่อีกครั้งในอนาคต
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำให้การจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าของคุณเป็นเรื่องบันเทิงโดยการเปิดเพลงคลอไปด้วยหรือนึกภาพว่านี่คือเกมส์ การทำงานของคุณก็จะสนุกขึ้นไปอีก
  • ไม่แนะนำให้ใช้ไม้แขวนเสื้อโลหะ เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าของคุณเป็นรอยสนิมหรือรอยอื่นๆ แนะนำให้ใช้ไม้แขวนเสื้อที่ทำจากพลาสติก ไม้หรือผ้าจะดีกว่า
  • เทคนิคการกลับด้านไม้แขวนเพื่อสำรวจว่าคุณใส่ชุดไหนบ่อยและชุดไหนที่คุณไม่ได้ใส่เลย วิธีนี้ง่ายมาก เริ่มจากแขวนชุดของคุณโดยหันตะขอของไม้แขวนเสื้อเข้าหาตัว ชุดไหนที่หยิบออกไปใส่แล้ว เมื่อนำกลับมาแขวนให้หันตะขอออกตามปกติ เมื่อเวลาผ่านไป 4 - 6 เดือน คุณก็จะพอเห็นแล้วว่าชุดไหนที่คุณไม่ได้แตะต้องมันเลย คราวนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเก็บชุดนั้นไว้หรือจะนำไปบริจาค
  • การใช้ไม้แขวนเสื้อสีเดียวกันทั้งราวนั้นจะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณดูเป็นระเบียบมากขึ้น
  • คุณสามารถจัดระเบียบเสื้อผ้าด้วยการแบ่งสีหรือแยกตามการออกแบบได้ด้วยเหมือนกัน
  • เมื่อฤดูกาลใหม่มาถึง ลองสำรวจดูว่าเสื้อผ้าที่คุณมีสำหรับฤดูกาลนั้นยังสามารถสวมใส่ได้อยู่หรือไม่ ถ้าใส่ไม่ได้แล้วก็บริจาคหรือทิ้งไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคัดเลือกอีกในปีหน้า
  • ชั้นวางรองเท้าแบบแขวนที่ประตูช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับชั้นวางรองเท้าแบบตั้งพื้น
  • เก็บกางเกงในทั้งหมดลงในกล่องและแยกเก็บเสื้อชั้นในทั้งหมดในอีกกล่อง
  • การจัดเรียงเสื้อผ้าตามสีนั้นก็ดูสร้างสรรค์ไปอีกแบบ
  • คุณสามารถเพิ่มราวแขวนผ้าภายในตู้เสื้อผ้าได้อีกถ้าคุณยังมีพื้นที่เหลือ
  • คุณสามารถจัดเรียงเสื้อตามความยาวของแขนเสื้อได้
  • ลังพลาสติกสี่เหลี่ยมที่ได้มาจากการซื้อนมหรือของอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดระเบียบได้ดีเพราะมันสามารถวางซ้อนกันได้ เหมาะสำหรับการเก็บเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ รองเท้าและของอื่นๆ
  • ถ้าคุณมีพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า คุณสามารถใส่ตู้ลิ้นชักไว้ข้างในได้
  • คุณสามารถนำห่วงเปิดกระป๋องมาคล้องกับไม้แขวนเสื้อเพื่อให้มีพื้นที่เล็กๆ ให้สามารถแขวนไม้แขวนเสื้อได้เพิ่มอีกอัน [5]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,906 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา