ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การดูแลเส้นผมนั้นไม่ยากเลยหากรู้หลักที่ถูกต้อง เส้นผมนั้นประกอบไปด้วยโปรตีนซึ่งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลสุขอนามัยให้ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เส้นผมเงางาม นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับเกี่ยวกับการดูแลผมที่สามารถทำได้เองที่บ้านเพื่อผมที่แลดูสุขภาพดีอย่างไม่น่าเชื่อ!
ขั้นตอน
-
สระผมบ่อยตามความจำเป็นเท่านั้นและควรใช้ยาสระผมที่มีคุณภาพดี. การสระผมบ่อยจนเกินไปจะทำให้ผมแห้ง แถมยังเป็นการชะเอาน้ำมันตามธรรมชาติออกและอาจทำให้ผมเสียเอาได้ง่ายๆ ควรจะสระผมเพียงวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละประมาณ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
-
ลองใช้ผลิตภัณฑ์สระผมที่ปราศจากสารซัลเฟตหรือพาราเบน. สารซัลเฟตก็คือส่วนผสมที่ทำให้ยาสระผมนั้นเกิดฟอง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ส่วนพาราเบนทำหน้าที่เป็นวัตถุกันเสียซึ่งสามารถก็ให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองดวงตาได้หลังจากใช้ติดต่อเป็นเวลานานๆ [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ DermNet NZ ไปที่แหล่งข้อมูล . นอกสารเคมีทั้ง 2 ชนิดนี้จะไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังไม่เป็นมิตรต่อตัวผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยาสระผมที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติมากกว่า
- เลือกยาสระผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมจริงๆ ยาเอาง่ายเข้าว่าแล้วเลือกใช้ไปทั่ว! ควรเลือกแบบที่เหมาะกับเส้นผมซึ่งสภาพเส้นแต่ละแบบอาจเหมาะกับผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้ (แต่ก็ไม่ใช่ข้อจำกัดนะ):
- ผมหยิก หรือ ผมแห้งหยาบ มักจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลเรื่องผมชี้ฟูหรืออาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติทำให้ผมนุ่มลง
- ผมตรง หรือ ผมมัน ควรเลือกยาสระผมสูตรอ่อนโยนหรือยาสระผมที่ถูกปรับสูตรมาเพื่อการสระผมทุกๆ วัน
- ผมทำสี หรือ ผมที่ผ่านการทำเคมี ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงหรือกรดอะมิโนต่างๆ เนื่องจากการทำเคมีก็เป็นการทำลายเส้นผมทางหนึ่ง
- ผมแห้ง ควรเลือกยาสระผมที่มีกลีเซอรีนและคอลลาเจนผสมอยู่เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม
- เลือกยาสระผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมจริงๆ ยาเอาง่ายเข้าว่าแล้วเลือกใช้ไปทั่ว! ควรเลือกแบบที่เหมาะกับเส้นผมซึ่งสภาพเส้นแต่ละแบบอาจเหมาะกับผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้ (แต่ก็ไม่ใช่ข้อจำกัดนะ):
-
เลือกใช้ครีมนวดผมที่เหมาะกับลักษณะเส้นผม ความยาว และสภาพของเส้นผม. จริงๆ แล้วแนะนำว่าควรจะนวดผมทุกครั้งหลังสระผมเสร็จ แต่อย่างไรก็ตามผมที่แห้งเสียจากการทำสีหรือโดนสารเคมีมาอย่างหนักก็ควรจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าผมที่ถูกปล่อยไว้ตามธรรมชาติเสียหน่อย
- หมักบำรุงสัปดาห์ละครั้ง อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ตามห้างร้านหรือจะลองค้นคว้าลองผสมสูตรขึ้นมาด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน การหมักบำรุงผมนั้นดีต่อเส้นผมมากๆ เพราะจะทำให้ผมนุ่มสลวย แข็งแรงและยังชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย!
-
บำรุงผมให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผม:
- สำหรับ ผมเส้นเล็ก ถ้าหากมีผมที่ขาดชีวิตชีวาให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติก่อนสระผม อาจเลือกลาเวนเดอร์หรือทีทรีออยล์ดู โดยให้นำน้ำมันมานวดหนังศีรษะก่อนจะลงมือสระผม จากนั้นเมื่อล้างแชมพูออกแล้วควรต่อด้วยครีมนวดด้วย โดยให้ลงตั้งแต่กึ่งกลางเส้นผมจรดส่วนปลาย ปล่อยทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงค่อยล้างออก
- สำหรับ ผมหนาปานกลาง ไปจนถึง ผมหนา ให้ใช้ครีมนวดผมที่สกัดจากธรรมชาติ โดยควรใช้ปริมาณน้อยๆ แต่ให้ใช้ทั่วศีรษะ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
-
ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่มีส่วนผสมของโปรตีนอย่างระมัดระวัง. การที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนมากเกินไปจะทำให้ผมแห้งๆ กรอบๆ และยังขาดง่ายอีกด้วย ถึงแม้ว่าโปรตีนจะเป็นตัวช่วยสร้างเส้นผมที่แข็งแรงก็ควรจะเลือกใช้ครีมนวดผมที่มีส่วนประกอบที่เหมาะสมแบบพอประมาณ
- เซรั่มลดปัญหาผมชี้ฟูก็สามารถใช้ได้ในปริมาณน้อยๆ อย่ามือหนักใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มากจนเกินไปและยังควรจะต้องสระผมด้วยยาสระผมสูตรที่ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกสัปดาห์ละครั้งด้วย ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสารเคมีซึ่งจะทำให้ผมไม่เงางามแถมยังดูแห้งๆ อีกด้วย
-
ล้างผมก่อนสระด้วยน้ำส้มสายชูปีละ 2 ครั้ง. การทำแบบนี้จะช่วยให้ผมดูเงางามและเป็นการทำความสะอาดที่ดีแถมยังช่วยเรื่องรังแคอีกด้วย! ให้ใช้น้ำส้มสายชู 1 ส่วน (ควรเลือกแอปเปิ้ลไซเดอร์หมักธรรมชาติ) ต่อน้ำอุ่น 3 ส่วน จากนั้นก็ทำการสระผมต่อได้ตามปกติ
-
มอบความชุ่มชื้นให้เส้นผม. ให้ใช้น้ำมัน 5 ชนิด: น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันละหุ่ง น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันลาเวนเดอร์ หรือจะเลือกใช้น้ำมันจากไข่ก็ได้ วิธีการก็คือให้นำมาหมักผมก่อนสระประมาณ 4 ชั่วโมง โดยทำซ้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้งโฆษณา
-
อย่าหวีผมบ่อยจนเกินไป. การหวีผมบ่อยๆ จะไปกระตุ้นรูขุมขนบนหนังศีรษะซึ่งช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น แต่การหวีผมบ่อยและมากจนเกินไปจะทำให้ผมเสียได้และยังอาจก่อให้เกิดการชี้ฟูหรือแตกปลายอีกด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลังอาบน้ำเสร็จอาจทดลองใช้หวีซี่ห่าง. หรือจะใช้นิ้วมือสางผมแทนการใช้แปรงก็ได้โฆษณา
-
หมั่นเล็มปลาย. วิธีการกำจัดผมแห้งเสียที่ดีที่สุดคือการทำด้วยตัวเองนี่ล่ะ! จับผมเป็นปอยเล็กๆ แล้วจัดการกับส่วนปลายประมาณ 0.6 ซม. (1/4 นิ้ว) นับจากส่วนที่เส้นผมเริ่มจะแยกออกจากกัน สาวๆ ผมยาวหลายๆ คนไม่เคยประสบปัญหาผมแตกปลายเลยเพราะพวกเธอเล็มผมเป็นกิจวัตรยังไงล่ะ อาจเล็มผมทุก 6-8 สัปดาห์ก็ได้
-
จัดแต่งทรงผมด้วยวิธีธรรมชาติเพื่อลดการเกิดผมเสียจากการแต่งทรง. จริงๆ แล้วการจัดแต่งทรงผมนั้นไม่ได้ทำให้ผมเสียเท่าไหร่หรอก แต่การจัดทรงบ่อยๆ สัปดาห์ละหลายๆ ครั้งจะทำให้ผมถูกดึงรั้งอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีแน่ๆ
- หลีกเลี่ยงการดัดผมถาวร การดัดด้วยแกนไฟฟ้า ยืดผม ม้วนลอน กัดสีผม หรือทำสีบ่อยๆ หากเป็นไปได้ โอเค.. คุณอาจต้องการผมตรงสลวยสำหรับนัดในคืนวันเสาร์ การหนีบมันสำหรับโอกาสพิเศษนั้นไม่เป็นปัญหาเลย เพียงแต่มันไม่มีความจำเป็นจะต้องทำให้ผมนั้นตรงเป๊ะถาวร
- ไม่ควรใช้หนังยางรัด รวบ หรือจัดแต่งทรงผม หนังยางอาจทำให้ผมขาดและหลุดร่วงออกมาจากหนังศีรษะได้
- พยายามหลีกเลี่ยงการทำผมทรงที่ต้องติดกิ๊บหรือดึงรั้งหนังศีรษะไว้แน่น การทำคอร์นโรล (เปียผมแน่นๆ ติดหนังศีรษะ) หรือการผูกหางม้าตึงๆ อาจไปทำลายรากผมได้และมันยังไม่ดีต่อรูขุมขนอีกด้วย
- อาจหันไปทดลองทรงผมรวบแบบต่างๆ อย่างหางม้าเรียบๆ หรือการทำมวยต่ำๆ ง่ายๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมายดูก็ได้ หรือจะปล่อยผมแล้วใช้ที่คาดผมก็เป็นอีกทางเลือกที่เก๋ไม่เบา
-
ทำเคมีหรือทำสีผมให้น้อยเข้าไว้ หรือหลีกเลี่ยงไปเลย. การทำสีหรือเคมีนั้นทำลายผมมากกว่าที่คิด คนที่ปล่อยเส้นผมไว้ตามธรรมชาติมักจะไม่ค่อยประสบปัญหาเหมือนกับผู้ที่มีผมแห้งเสียหรือผมที่ผ่านสารเคมีมากๆ
- หากคุณเป็นคนที่ทำสีผม ลองเว้นระยะในการทำสีดูบ้างซิ การให้ผมได้พักจากการทำสีบ้างมักได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมาเสมอๆ
โฆษณา
-
กินอาหารมีประโยชน์. มอบวิตามินที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสมกับเส้นผม เนื่องจากผมนั้นสร้างมาจากโปรตีนควรรับประทานให้ถูกหลักโภชนาการและเต็มไปด้วยโปรตีนดีอย่างธัญพืช ผลไม้ และผัก การรับประทานถูกหลักโภชนาการจะช่วยทำให้ผมแลดูสลวยสุขภาพดีแถมยังให้ความรู้สึกที่ดีอีกด้วย
- ควรให้ร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมเพราะวิตามินชนิดนี้จะทำให้เส้นผมแข็งแรง [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ] นอกจากนี้ธาตุเหล็กยังช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปยังเส้นเลือด ส่วนสังกะสีจะช่วยทั้งเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ในขณะที่โอเมก้า 3 นั้นจะช่วยการเจริญเติบโตของเส้นผม [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- ให้เวลากับเส้นผมก่อนที่มันจะโชว์สวยด้วย! การรับประทานอาหารดีมีประโยชน์นั้นจะไม่เห็นผลปุ๊บปั๊บในทันที แต่มันจะค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเส้นผมที่กำลังงอกใหม่เสียมากกว่า
-
กำจัดความเครียดออกไปเสีย. การที่มีความเครียดทั้งทางกายและทางใจจะส่งผลต่อสภาพเส้นผมด้วย! ความเครียดนั้นทำให้ผมร่วงได้เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ความเครียดมากล่ำกลายเชียว การปลดปล่อยอารมณ์นั้นมีหลายช่องทางเช่นโยคะ ปั่นจักรยาน ทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ ก็ได้ทั้งนั้นโฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าไดร์ผมบ่อยจนเกินไป การไดร์หรือใช้อุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ที่ทำให้ผมโดนความร้อนนั้นไม่เป็นผลดีต่อเส้นผมเลย
- ให้ล้างผมด้วยน้ำเย็นหลังจากที่สระด้วยแชมพูและครีมนวดเรียบร้อยแล้ว ทำแบบนี้จะช่วยให้ผมเงาขึ้นและยังแลดูสุขภาพดีกว่าเดิมอีกด้วย
- เวลาเช็ดผมไม่ควรขยี้แรงๆ เพราะจะทำให้ผมแตกปลายได้ อาจลองใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แทนเพราะมันสามารถซึมซับน้ำได้ดีเช่นกัน
- ความเครียดนั้นมีผลมากกว่าที่คิดมากมายทีเดียว! การทำสมาธินั้นช่วยได้ดีเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย
- ใส่น้ำมันลงบนเส้นผมก่อนจะอาบน้ำในตอนกลางคืนเพราะมันจะทำให้ผมนั้นเงางาม
- ผลิตภัณฑ์สเปรย์สำหรับแก้ปัญหาผมพันกันนั้นจะช่วยให้คุณไม่ต้องดึงผมแรงๆ เวลาที่พยายามจะหวีมัน
- หากจำเป็นต้องใช้ความร้อนควรจะต้องลงผลิตภัณฑ์สำหรับปกป้องเส้นผมจากความร้อนเสียก่อน มันมีราคาย่อมเยาทีเดียวล่ะ!
- อย่านอนขณะที่ผมยังเปียกหรือชื้นอยู่ หากทำแบบนั้นจะทำให้หนังศีรษะอ่อนแอและเส้นผมจะขาดง่าย ให้ไดร์บริเวณโคนผมด้วยความร้อนต่ำๆ เสียก่อน
- คนส่วนใหญ่มักใช้ยาสระผมมากเกินความจำเป็น จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ใช้แค่ประมาณ 1 ใน 4 ของปริมาณที่ใช้ปกติก็เพียงพอแล้ว
- ทำให้ผมแข็งแรงขึ้นตามธรรมชาติได้โดยให้ผสมแครอท ซี-วิต หรือเครื่องดื่มวิตามินอื่นๆ เข้าด้วยกันในเครื่องปั่นแล้วนำมาโชลมเบาๆ บนเส้นผมก่อนสระ อย่าลืมล้างออกให้เกลี้ยงด้วยล่ะ!
- การทานไบโอตินเสริมก็ช่วยในการเสริมสร้างให้ผมและเล็บแข็งแรง ชนิดปกติก็ใช้ได้แถมยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย
- นวดหนังศีรษะบ่อยๆ การทำแบบนี้จะกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและยังทำให้ผมยาวเร็วขึ้นอีกด้วย [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- ควรใช้อะไรที่เป็นธรรมชาติๆ ในการสระผมอย่างแอปเปิ้ลไซเดอร์ สารสกัดจากดอกดาวเรือง ผลกู๊ซเบอร์รี่ หรืออาจเป็นใบชาต้มในน้ำร้อนก็ดี จริงๆ แล้วไม่ควรใช้แชมพูด้วยซ้ำหรือหากจะใช้ก็ควรเลือกที่มีค่า pH ที่เป็นกลาง ยาสระผมที่มีค่า pH สูงหรือต่ำจะก่อให้เกิดรังแคซึ่งแน่นอนว่าจะนำไปสู่ผมหลุดร่วงได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้ครีมนวดผมเป็นประจำทุกๆ วันอีกด้วยเพราะมันจะทำให้เกิดปัญหาผมหงอก! ส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันก่อนสระผมนั้นก็ไม่ควรเพราะจะทำให้ผมมัน ควรเลือกใช้ปลอกหมอนที่เป็นไหมและอีกเรื่องที่สำคัญคือต้องไม่ลืมรับประทานวิตามินซีให้มากด้วย!
- สระผมสัปดาห์ละ 3 ครั้งด้วยแชมพูจากธรรมชาติที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ โดยใช้ใบต้นเฟื่องฟ้าและว่านหางจระเข้มาปั่นรวมกันให้เป็นเนื้อครีมและนำมาสระผม ควรทิ้งไว้สัก 15 นาทีแล้วค่อยล้างออก
- อย่าใช้ผลิตภัณฑ์อะไรมากจนเกินไป
- หากประสบปัญหาผมร่วงลองใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของไข่แดงซิ!
- เลือกใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยนเพื่อลดการเกิดปัญหาผมเสีย
- อย่าหวีผมบ่อยๆ เพราะมันจะทำให้ผมเสียได้ หากจะหวีก็ควรหวีเบาๆ ด้วย
- ไม่ควรใช้น้ำร้อนสระผมเพราะมันจะไปทำลายเซลล์ต่างๆ ในผมได้
- ไม่ควรมันผมแน่นจนเกินไปเพราะมันจะทำให้ผมหลุดร่วงมากขึ้น
- หากผมร่วงมากผิดปกติควรปรึกษาแพทย์
- ลองชโลมอาร์แกนออยล์ที่ปลายผมดูซิ!
- ไม่ควรใช้ยาสระผมมากๆ เพราะมันจะไปทำลายเส้นผมได้
- เวลาที่ใช้น้ำมันใส่ผมให้ก้มหัวไปด้านหน้าแล้วค่อยๆ นวดน้ำมันลงไป ทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นรากผมเพื่อให้มีผมสุขภาพดี
- ลองนวดน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวลงบนเส้นผมประมาณ 10 นาทีแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง การทำแบบนี้จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น!
- ก่อนสระผมลองหมักด้วยว่านหางจระเข้ทิ้งไว้ก่อนสักชั่วโมงเพื่อผมสุขภาพดี สลวย และเงางาม
- อย่าทำสีหรือสระผมบ่อยๆ สิ่งที่ควรทำก็คือการชโลมด้วยน้ำมัน
- อาจใช้ครีมหมักผมสูตรที่ทำขึ้นเองสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ได้
- เวลาสระผมอย่าไปเกาหนังศีรษะ! ให้นวดมันแทน
- อาร์แกนออยล์ดีต่อผมมากๆ แถมยังทำให้เส้นผมเงางามอีกด้วย
- อย่าประโคมใช้ยาสระผมปริมาณมากๆ ล่ะเพราะมันทำให้ผมเสีย หากคุณกำลังทำอยู่ล่ะก็ให้จัดการเปลี่ยนพฤติกรรมเสียทั้งปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ใช้หรือจะสระผมสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งก็พอ ขึ้นอยู่กับว่าใช้ยาสระผมมากน้อยแค่ไหน
- หากมีผมหยักศกและต้องการจะให้มันยืดตรงขึ้นหน่อยแนะนำให้ใช้น้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำ เพราะน้ำจะทำให้ผมยิ่งเป็นลอนเข้าไปอีกเท่านั้นเอง
- ใช้น้ำมันใส่ผมสัปดาห์ละครั้ง การทำแบบนี้จะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผมและยังทำให้ผมแข็งแรงและสุขภาพดี นอกจากนี้มันยังช่วยยับยั้งผมหลุดร่วงอีกด้วย
- ชโลมน้ำมันมะพร้าวลงบนเส้นผมแล้วมันเป็นมวยไว้หลวมๆ หมักไว้นาน 4 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันผมหลุดร่วงและยังทำให้ผมยาวเพียงชั่วข้ามคืนอีกด้วย!
- นวดหนังศีรษะประมาณ 2-4 นาที อย่ามากหรือน้อยไปกว่านี้นะ! จากนั้นจึงทดลองสูตรมาส์คผมดูบ้าง ควรใช้ไข่และน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชรวมไปถึงโยเกิร์ตและน้ำส้มด้วย
- อย่าไปแปรงผมเมื่อมันยังเปียกอยู่ ผมเปียกๆ จะค่อนข้างบอบบาง ถ้าหากแปรงล่ะก็เตรียมตัวรับกับผมหลุดร่วงมากกว่าปกติได้เลย!
- ลองใช้ไข่ขาวผสมกับน้ำมันสักหน่อยดูก็ไม่เลว สูตรนี้จะทำให้ผมเงางามแถมสลวยอีกด้วย มันจะไม่ชี้ฟูแน่ๆ!
- แน่นอนว่าการหวีหรือแปรงผมบ่อยๆ จะทำให้ผมเรียบลื่นไม่พันกัน แต่ต้องระวังไม่หวีบ่อยๆ เพราะมันจะไประคายเคืองหนังศีรษะและทำให้ผมหลุดร่วงได้
- สำหรับมาส์คผม ลองสูตรเดียวกับการทำมายองเนสก็ได้! ให้ใช้ไข่ น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวแล้วนำมาหมักผมไว้ให้นานที่สุด เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงล้างออกด้วยยาสระผมสูตรอ่อนโยน เท่านี้ผมก็จะนุ่มมากๆ เลยล่ะ!
โฆษณา
คำเตือน
- ปกป้องผมโดยไม่ให้โดนแสงแดดแรงๆ หรือสัมผัสกับฝุ่นควัน
- อุปกรณ์ม้วนและหนีบผมสามารถก่อให้เกิดการไหม้ได้หากไม่ระมัดระวังให้ดี ดังนั้นจึงควรใส่ใจในระหว่างการใช้สิ่งเหล่านี้ด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://cosmetics.specialchem.com/inci/sodium-laureth-sulfate
- ↑ http://www.dermnetnz.org/dermatitis/parabens-allergy.html
- ↑ http://www.cnn.com/2012/01/13/living/hair-myths-o/index.html
- http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/expert-answers/stress-and-hair-loss/faq-20057820
- http://www.totalbeauty.com/content/gallery/7-habits-for-perfect-hair
โฆษณา
