ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากเรากำลังจัด ลดขนาด หรือเปลี่ยนห้องพักแขกเป็นโฮมออฟฟิศ หรือห้องอื่นๆ ก็คงคิดไม่ตกว่าจะจัดการเก็บรักษาที่นอนซึ่งไม่ได้ใช้งานอย่างไรดี ที่นอนผืนนี้อาจเป็นที่นอนซึ่งเราใช้เวลาเลือกนานกว่าจะได้มาและยังอยู่ในสภาพดี ฉะนั้นเราก็คงไม่อยากทิ้งมันไปในตอนนี้ การดูแลและเก็บรักษาที่นอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้ที่นอนของเรายังอยู่ในสภาพดีและมีอายุการใช้งานยาวนาน ในบทความนี้จะบอกวิธีการดูแลและเก็บรักษาที่นอนให้สะอาด แห้ง และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

1

ดูดฝุ่นที่นอนทั้งสองด้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การดูดฝุ่นช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นออกจากที่นอน. ก่อนที่จะนำที่นอนไปเก็บรักษาไว้ เราต้องทำความสะอาดที่นอนให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นำเครื่องนอนและผ้ารองกันเปื้อนออกให้หมด จากนั้นดูดฝุ่นให้ทั่วทั้งสองด้านโดยใช้หัวแปรงของเครื่องดูดฝุ่น [1]
    • ถึงแม้ที่นอนของเราจะดูสะอาด แต่ก็ยังควรดูดฝุ่นก่อนนำไปเก็บรักษาไว้ เพราะที่นอนอาจสะสมไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ไว้ในเส้นใย ฉะนั้นเราต้องกำจัดออกไปก่อนที่จะนำที่นอนไปเก็บรักษาไว้
    โฆษณา
2

ดับกลิ่นด้วยเบกกิ้งโซดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เบกกิ้งโซดาช่วยทำให้กลิ่นของที่นอนยังคงสดชื่น. ถ้าที่นอนมีกลิ่นเก่าเล็กน้อยหรือเหม็นเปรี้ยว โรยเบกกิ้งโซดาบนที่นอนจนหนาเป็นชั้นบางๆ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเบกกิ้งโซดาและกำจัดกลิ่น [2]
    • เบกกิ้งโซดาเป็นสารระงับกลิ่นโดยธรรมชาติ ฉะนั้นจึงสามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นของที่นอนได้อย่างปลอดภัย
3

ทำความสะอาดและขจัดคราบต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขจัดคราบจะช่วยไม่ให้ที่นอนเป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรีย. หากสังเกตเห็นคราบใดๆ ขณะทำความสะอาดที่นอน ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารออกซิไดซ์ขจัดคราบออกจากที่นอน ฉีดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารออกซิไดซ์ใส่ผ้าที่สะอาด จากนั้นซับคราบเบาๆ ใช้ผ้าขนหนูสะอาดที่เปียกหมาดซับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารออกซิไดซ์ออกจากที่นอน
    • ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบที่มีสารออกซิไดซ์ยังนำมาใช้ขจัดคราบที่ฝังแน่นจากสัตว์เลี้ยงอย่างเช่น คราบปัสสาวะ ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
    โฆษณา
4

นำที่นอนไปผึ่งลม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนำที่นอนไปผึ่งลมจะช่วยกำจัดกลิ่นและความชื้น. ก่อนที่จะนำที่นอนไปเก็บรักษาไว้ ที่นอนจะต้องแห้งสนิท ไม่งั้นอาจมีราขึ้นได้ นำที่นอนไปผึ่งลมข้างนอกแบบไม่มีอะไรคลุม 2 ถึง 4 ชั่วโมงจนกระทั่งที่นอนแห้งสนิท [3]
    • การนำที่นอนไปผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนนำไปเก็บรักษาไว้เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นอนเมมโมรีโฟม เพราะที่นอนแบบนี้มักจะเกิดราขึ้นได้มากกว่า
5

นำพลาสติกมาห่อหุ้มที่นอน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พลาสติกจะป้องกันที่นอนไม่ให้เปื้อนและมีราขึ้นระหว่างการเก็บรักษา. ซื้อถุงเก็บที่นอนซึ่งทำมาจากพลาสติกบางๆ แบบระบายอากาศได้ จะได้ไม่เก็บความชื้น นำพลาสติกมาห่อหุ้มที่นอนทั้งผืน จากนั้นใช้แถบกาวที่แนบมาด้วยหรือเทปกาวปิดปากถุงไว้ [4]
    • ถ้าต้องเก็บรักษาฐานรองที่นอนด้วย นำพลาสติกมาห่อหุ้มฐานรองที่นอนแยกไว้อีกชิ้นเพื่อรักษาฐานรองที่นอนให้แห้งและสะอาด
    โฆษณา
6

ขนย้ายที่นอนด้วยรถขนของ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การใช้รถขนของเป็นวิธีขนย้ายที่นอนที่ปลอดภัยที่สุด. ถ้าต้องการขนที่นอนไปเก็บไว้ที่อื่น วิธีแรกที่คิดออกก็อาจเป็นการวางที่นอนไว้บนหลังคารถและขับรถเพื่อขนย้ายที่นอนไปทั้งแบบนั้น อย่างไรก็ตามการขนย้ายแบบนี้อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่คนอื่นๆ บนท้องถนนได้ หากที่นอนเกิดหล่นลงมา ยิ่งไปกว่านั้นที่นอนอาจงอหรือผิดรูปได้ระหว่างการขนย้าย ฉะนั้นเช่ารถขนของและวางที่นอนในแนวราบ [5]
    • ลองสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต หาบริการรับจ้างขนของดู ดูรายละเอียดการบริการของแต่ละแห่งและเลือกใช้บริการขนของจากผู้ให้บริการที่เราเห็นว่าดีที่สุด
    • ถ้าไม่มีบริการรถขนของ ให้ขนย้ายที่นอนด้วยรถ SUV หรือรถตู้แทนโดยวางที่นอนไว้ท้ายรถ
7

เก็บรักษาที่นอนไว้ในห้องที่มีการควบคุมสภาพภูมิอากาศ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เก็บรักษาที่นอนไว้ในห้องที่มีการควบคุมสภาพภูมิอากาศเพื่อให้ที่นอนปลอดความชื้น. ถ้าเราต้องการเก็บรักษาที่นอนไว้ในห้องๆ หนึ่ง พยายามหาและเลือกห้องที่มีการควบคุมสภาพภูมิอากาศ หมายความว่าห้องนั้นจะมีการควบคุมอุณหภูมิและเครื่องลดความชื้น [6]
    • ห้องที่ไม่มีการควบคุมสภาพภูมิอากาศไม่มีการควบคุมอุณหภูมิหรือความชื้น ทำให้ที่นอนของเรามีโอกาสราขึ้นมากยิ่งขึ้น
    • ลองสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต หาบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือพื้นที่เก็บของดู ลองสอบถามรายละเอียดผู้ให้บริการและเลือกเช่าห้องหรือพื้นที่ซึ่งสามารถเก็บรักษาที่นอนให้อยู่ในสภาพดีได้
    โฆษณา
8

ใช้เครื่องลดความชื้นหากเก็บรักษาที่นอนไว้ในโรงรถหรือห้องใต้ดิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เครื่องลดวามชื้นขจัดวามชื้นออกจากโรงรถและห้องใต้ดิน. ถ้าต้องการเก็บรักษาที่นอนไว้ในโรงรถหรือห้องใต้ดิน ซื้อเครื่องลดความชื้นไว้สักหนึ่งหรือสองเครื่องเพื่อช่วยขจัดความชื้น วางเครื่องลดความชื้นใกล้ที่นอนและหมั่น ทำความสะอาด เครื่องเป็นประจำเพื่อให้เครื่องอยู่ในสภาพที่ดีเสมอ [7]
    • เราสามารถเก็บรักษาที่นอนไว้ในบริเวณใดของบ้านก็ได้ ขอเพียงสามารถวางที่นอนในแนวราบได้ อย่าเก็บรักษาที่นอนไว้ข้างนอกหรือในเพิงเก็บของกลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ที่นอนมีราขึ้นได้
9

วางที่นอนในแนวราบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การวางที่นอนในแนวราบช่วยป้องกันไม่ให้ที่นอนเสียหายและยุบ. ถึงแม้อยากจะวางที่นอนพิงกับผนังก็ตาม แต่การวางที่นอนในแนวตั้งอาจทำให้ที่นอนค่อยๆ ยุบทีละนิด เราต้องวางที่นอนในแนวราบ ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นหรืออยู่ในกล่องเก็บของเพื่อให้ที่นอนยังคงอยู่ในสภาพที่ดี [8]
    • เรายังสามารถวางที่นอนบนวัตถุขนาดใหญ่ที่มีลักษณะแบนราบอย่างเช่น ชั้นหนังสือหรือตู้ลิ้นชักได้
    • ถ้าเราต้องการเก็บรักษาฐานรองที่นอน ใช้หลักการเดียวกันคือเลือกบริเวณที่เราสามารถวางฐานรองที่นอนในแนวราบได้ โดยไม่วางอะไรไว้บนฐานรองที่นอนนั้น
    โฆษณา
10

อย่าวางของไว้บนที่นอน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งของที่ใหญ่เทอะทะอาจสร้างความเสียหายแก่สปริงที่อยู่ภายในที่นอนได้. ถ้ามีพื้นที่ว่าง ก็อย่ากองสิ่งของไว้บนที่นอนเป็นระยะเวลานาน ถ้าจำเป็นที่จะต้องวางสิ่งของบนที่นอนจริงๆ เลือกวางของที่มีน้ำหนักเบาเพื่อที่นอนจะได้ไม่บุ๋มหรือผิดรูปในภายหลัง [9]
    • ถึงแม้ที่นอนของเราจะเป็นที่นอนเมมโมรีโฟม แต่การวางของหนักๆ ไว้บนที่นอนแบบนี้ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายแก่เส้นใยที่อยู่ภายในได้
11

นำที่นอนไปผึ่งลมก่อนใช้งานอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนำที่นอนไปผึ่งลมจะกำจัดกลิ่นเหม็นอับได้. ที่นอนของเราอาจมีกลิ่นอับเล็กน้อยหลังการเก็บรักษา เมื่อต้องการนำที่นอนกลับมาใช้งานอีกครั้ง แกะพลาสติกที่ห่อหุ้มอยู่ออกและผึ่งลม 3 ถึง 4 ชั่วโมง ถ้าจำเป็น สามารถใช้เบกกิ้งโซดาและเครื่องดูดฝุ่นกำจัดกลิ่นและฝุ่นออกจากที่นอนได้ [10]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,864 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา