PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

กำลังคิดที่จะซื้อเครื่องประดับจากไข่มุกหรือเปล่า? แล้วมีมรดกตกทอดที่สืบจากครอบครัวที่ทำจากไข่มุกบ้างไหมล่ะ? การทดสอบอย่างง่ายไม่กี่วิธีนี้ที่ช่วยให้คุณรู้ว่าไข่มุกที่คุณมีอยู่นั้นเป็นของปลอมหรือ"ของจริง"ด้วยเวลาแค่ไม่กี่นาที เรียนรู้วิธีดูและสัมผัสถึงสัญญาณของไข่มุกแท้ๆ ในวันนี้ แล้วคุณจะไม่กังวลที่ต้องตกหลุมพรางกับของเลียนแบบอีกต่อไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การตรวจสอบด้วยสายตา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่างที่บอกไว้ ไข่มุกของแท้นั้นยากที่จะออกมา "สมบูรณ์แบบ" ปกติแล้วมันมักจะมีตำหนิหรือรอยขรุขระอยู่เล็กน้อยอยู่แล้ว [1] ผิวภายนอกของไข่มุกอาจสะท้อนแสงที่ดูต่างกันในแต่ละส่วนต่างๆ ของไข่มุก ส่วนไข่มุกปลอมนั้นมักจะดู "สมบูรณ์แบบเกินไป" ดูกลมเกลี้ยง มันเงาในทุกส่วนของผิวมุก และไม่มีส่วนไหนเลยที่เป็นรอยตำหนิหรือความไม่สมบูรณ์แบบ

    เคล็ดลับ: ไข่มุกของแท้ที่กลมเกลี้ยงอาจหายาก แต่จะไม่เห็นการนำไข่มุกประเภทนี้มาทำสร้อยคอเท่าไรนัก สร้อยคอที่ทำมาจากไข่มุกที่ดูกลม ดูเรียบเนียนเหมือนกันไปหมดทุกลูกนั้น ตีความได้เลยว่าแทบจะเป็นของเก๊แน่นอน [2]

  2. ความมันเงาในที่นี้ คือการที่ช่างเครื่องประดับใช้บอกถึงแสงที่สะท้อนออกมาจากเพชรพลอยล้ำค่าชิ้นหนึ่ง ความมันเงาของไข่มุกก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มันสวยได้ขนาดนี้ โดยไข่มุกชั้นดีจะต้องมีความมันเงาที่เปล่งประกาย สดใส ที่จะส่องออกมาเมื่อแสงตกกระทบมัน หากคุณได้ลองมองใกล้ๆ คุณจะสามารถเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่บนผิวมุกได้ [3]
    • ปัญหาอย่างหนึ่งในการใช้บททดสอบนี้คือไข่มุกคุณภาพต่ำ (ที่มักจะดูขุ่น มีสีที่ขาวทึบเหมือนชอล์ค) จะดูคล้ายกับไข่มุกของปลอมได้ ให้ลองดูผลการทดสอบด้วยวิธีอื่นอีกสักสองสามวิธีในบทความนี้มาประกอบการตัดสินใจด้วยจะดีกว่า [4]
  3. ราคาไข่มุกที่มีคุณภาพมักขึ้นอยู่กับสีโอเวอร์โทน ซึ่งเป็นสีที่แทรกอยู่ และจะเผยออกมาบนผิวมุกเมื่อมีแสงตกกระทบ ไข่มุกของเทียมมักจะไม่มีสีโอเวอร์โทน เพราะมันยากที่จะจำลองขึ้นมา ดังนั้น ถ้าไข่มุกของคุณดูเปลี่ยนสีไปเมื่อโดนแสง นั่นอาจแปลว่ามันเป็นของจริงก็เป็นได้ สีกุหลาบและสีงาช้าง เป็นสองสีที่มักเป็นสีโอเวอร์โทนของมุกสีขาวเสียส่วนใหญ่ แต่ก็สามารถเป็นสีอื่นได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับไข่มุกสีดำ [5]
    • เพราะไข่มุกของแท้บางเม็ดไม่มีสีโอเวอร์โทนปรากฏขึ้นมา ฉะนั้นการที่ ไม่เห็น สีโอเวอร์โทน จึงไม่ใช่สัญญาณที่แน่ชัดว่าไข่มุกนั้นจะไม่ใช่ของแท้เสมอไป
  4. ไข่มุกที่ร้อยในเส้นเชือก หรือที่ร้อยเป็นสร้อยคอก็จะต้องมีรูที่ถูกเจาะลงไปเพื่อให้เชือกสอดผ่านเข้าไปได้ การสังเกตที่รูนี้ก็จะช่วยบอกคุณได้ว่าไข่มุกที่มีอยู่นี่เป็นของแท้หรือของเทียม สิ่งที่คุณต้องสังเกตก็มีดังนี้:
    • ขอบของรูที่กำหนดไว้อย่างดี ไข่มุกของแท้มักจะมีรูเจาะที่ขอบเรียบเนียน (เหมือนขอบของรูในทรงกระบอก) ส่วนของปลอมมักจะมีขอบที่ขรุขระหรือเป็นขอบมนๆ กลมๆ อย่างไรก็ตาม ไข่มุกของแท้ที่ถูกใส่จนเก่าแล้ว ขอบที่รูก็อาจมนๆ กลมๆ ได้เช่นกัน ไข่มุกปลอมอาจเป็นรอยโค้งเห็นได้ชัดที่ผิวนอกของไข่มุก มากกว่าที่จะดูเป็นรูปทรงกระบอกอย่างสมบูรณ์แบบ
    • สีที่หลุดลอกออกมาหรือเป็นชั้นขึ้นมาตรงแถวๆ รูที่เจาะไข่มุก อย่างเวลาที่พวกไข่มุกปลอมเสียดสีกันเมื่อถูกใช้ซ้ำๆ สีเคลือบเทียมอาจหลุดลอกออกจากบริเวณรอบๆ รูก็เป็นได้ คุณอาจเป็นเงิน แก้ว หรือพลาสติกที่อยู่ข้างใต้ ถือว่าเป็นสัญญาณอันแน่ชัดว่าไข่มุกนี้ของปลอมอย่างแน่นอน
  5. มองเข้าไปในรูแล้วสังเกตเส้นระหว่างเปลือกมุกกับเนื้อของไข่มุก. ไข่มุกของแท้มักจะมีชั้นผิวมุกข้างนอกที่เห็นได้ชัด ขณะที่ไข่มุกของปลอมจะมีชั้นเปลือกมุกปลอมบางๆ หรือไม่ทั่วทั้งผิวมุก ถ้าหากไข่มุกของคุณมีรอยเจาะเรียบร้อย คุณสามารถตรวจสอบหาเปลือกมุกได้ด้วยแว่นขยาย มุกของแท้มักจะเห็นเส้นที่แยกออกระหว่างเปลือกมุกและเนื้อมุก (ส่วนที่เป็นตัวมุกภายใน) ได้อย่างชัดเจน (แต่ก็ไม่เสมอไป)
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การตรวจสอบด้วยการสัมผัส

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถือไข่มุกหนึ่งหรือสองเม็ดไว้ด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วค่อยๆ กดมันลงไปเบาๆ บนขอบล่างของฟันหน้าคุณ ถูมันไปมา ปกติแล้วไข่มุกของแท้จะมี เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหยาบและเป็นเม็ดเล็กๆ จากสิ่งที่คล้ายสะเก็ดเล็กๆ ดูไม่สมบูรณ์แบบบนพื้นผิวเปลือกของมัน ส่วนมุกปลอมที่ทำจากแก้วหรือพลาสติกมักจะ ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ มีความเรียบเนียน [6]
    • คุณอาจอยากแปรงฟันก่อนที่จะลองใช้วิธีทดสอบนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าฟันคุณสะอาดพอ เศษอาหารจากมื้อที่แล้วอาจทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อนไปได้
  2. ถือไข่มุกสองสามเม็ดเอาไว้ด้วยนิ้วแล้วค่อยๆ ถูไข่มุกเข้าด้วยกัน ให้พอจับความรู้สึกเล็กน้อยจากการเสียดสี มุกแท้จะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยลงรอย มีแรงเสียดทานเล็กน้อยเมื่อถูมุกเข้าด้วยกัน เพราะเปลือกมุกนั้นไม่ได้เรียบเนียนสมบูรณ์แบบ [7] ส่วนมุกปลอม ผลที่ได้ออกมาจะต่างกัน คือจะรู้สึกเรียบลื่นเมื่อถูเข้าด้วยกัน เพราะมันมักจะถูกเคลือบให้เรียบเนียน
    • ตรวจดูที่มือของตัวเองดีๆ เมื่อทำการทดสอบเสร็จแล้ว เมื่อมุกสองเม็ดถูเข้าหากันแล้ว ชั้นเปลือกมุกมักจะกร่อนออกมาในปริมาณเล็กน้อย หากคุณสังเกตเห็นผงสีขาวละเอียดหลุดร่วงติดนิ้วหลังจากที่ถูมุกเข้าด้วยกันแล้ว มันอาจเป็นผงของเปลือกมุกก็ได้ ซึ่งเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่ามุกเม็ดนี้เป็นของแท้ [8]
  3. เพราะมุกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ มุกแท้ทุกเม็ดย่อมต้องมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เหมือนเกล็ดหิมะหรือรอยนิ้วมือของมนุษย์นั่นแหละ ไข่มุกส่วนใหญ่จะไม่เป็นทรงกลมเกลี้ยง ปกติแล้วก็อาจมีลักษณะของทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กน้อย หรือไม่ก็ต้องมีข้อบกพร่องบางอย่าง ถ้าหากว่าไข่มุกของคุณดูกลมจนสมบูรณ์แบบ นั่นก็อาจเป็นเพราะมันเป็นของปลอมก็ได้
    • แต่ก็เป็นไปได้ที่ไข่มุกแท้จะออกมากลมเกลี้ยง อย่างไรก็ตาม แบบนั้นมันหายาก มาก และมีราคาที่สูงมากเช่นกัน [9]
    • ไม่แน่ใจว่ามุกเม็ดนี้กลมเกลี้ยงหรือไม่น่ะหรือ? ลองค่อยๆ กลิ้งมันบนพื้นผิวเรียบๆ ดูสิ ไข่มุกที่ไม่สมบูรณ์แบบจะไม่สามารถกลิ้งเป็นเส้นตรงไปอย่างง่ายดายได้ [10]
  4. สำหรับการทดสอบนี้ คุณต้องใช้ไข่มุกจำนวนหนึ่งที่วางทิ้งเอาไว้ ไม่ใช่เครื่องประดับมุกที่คุณสวมใส่อยู่ตลอด ถือมุกเอาไว้ในมือ จากนั้นตั้งสมาธิกำหนดถึงความรู้สึกที่มันส่งผ่านไปถึงผิวหนังของคุณ ไข่มุกแท้จะให้ความรู้สึกเย็นๆ สักสองสามวินาทีก่อนที่มันจะอุ่นขึ้น [11] เป็นความรู้สึกที่คล้ายๆ กับเวลาที่คุณใช้เท้าเปล่าเหยียบลงไปบนพื้นหินอ่อนนั่นแหละ
    • ไข่มุกที่ทำจากพลาสติกจะให้ผลที่ต่างกัน มันจะมีอุณหภูมิเดียวกับอุณหภูมิห้อง และอุ่นขึ้นเร็วกว่ามุกแท้ [12]
    • จำไว้ว่า: ไข่มุกที่ทำจากแก้วคุณภาพดีอาจให้ความรู้สึก เย็น เช่นกัน ให้พิสูจน์ผลลัพธ์ด้วยวิธีทดสอบอื่นๆ ถ้าใช้วิธีนี้เป็นวิธีแรก
  5. ค่อยๆ เดาะมุกสักเม็ดสองเม็ดบนมือเพื่อรับรู้ถึงน้ำหนักของมัน มุกของแท้ส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงน้ำหนักตามขนาดของมัน ส่วนของปลอม (โดยเฉพาะที่ทำจากพลาสติก) จะให้ความรู้สึกเบาบาง
    • ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน วิธีทดสอบนี้ไม่ค่อยให้ผลที่สมบูรณ์แบบเท่าไรนัก การที่จะตัดสินน้ำหนักจากมุกเม็ดเล็กๆ นั้นอาจไม่ตรงตามความจริงได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรเทียบระหว่างมุกของคุณกับมุกที่คุณ รู้อยู่แล้ว ว่าเป็นของจริงหรือไม่ และควรทดสอบด้วยวิธีทดสอบอื่นๆ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกมั่นใจในน้ำหนักของมันแค่ไหนก็ตาม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การทดสอบขั้นสูง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตรวจหาผิวที่เป็นลาย "แผ่นสะเก็ด" ด้วยกล้องจุลทรรศน์. หรือคุณจะใช้กล้องส่องเพชรเลนส์ 30x ก็ได้ แต่กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายถึง 64 เท่านั้นใช้งานได้ดีกว่าในกรณีนี้ ผิวของไข่มุกแท้จะดูเป็นแผ่นสะเก็ดลักษณะคล้ายเขาวงกต ซึ่งลวดลายนี้จะดูเหมือนแผนที่ภูมิประเทศ [13] มาตรวัดของกล้องจุลทรรศน์จะทำให้เห็นผิวที่เป็น "เม็ดหยาบเล็กๆ" ของไข่มุกแท้ได้
    • อีกนัยหนึ่ง ไข่มุกปลอมมักจะมีผิวที่ปกคลุมไปด้วยก้อนขรุขระธรรมดาๆ หยาบๆ พอสมควร (ดูค่อนข้างคล้ายกับปล่องภูเขาไฟบนผิวดวงจันทร์) [14]
  2. เปรียบเทียบไข่มุกของคุณกับไข่มุกแท้ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว. วิธีทดสอบด้านบนจะง่ายขึ้นเป็นกองเลย เมื่อคุณมีไข่มุกที่คุณ รู้อยู่แล้ว ว่ามันเป็นของจริง เพื่อใช้ในการนำมาเทียบกัน ให้ลองติดต่อช่างเพชรพลอยเพื่อขอไข่มุกแท้ๆ สักชุดที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว เพื่อเอามาเปรียบเทียบกับมุกของคุณ หรืออีกทางหนึ่งคือยืมไข่มุกแท้จากเพื่อนหรือญาติมาใช้ในการเทียบกัน
    • ใช้การตัดสินเบื้องต้นในการเลือกทดสอบกับไข่มุกแท้ที่ผ่านการรับรองแล้ว ตัวอย่างเช่น คุณอาจไม่อยากใช้วิธีกัดพิสูจน์หรือวิธีที่ต้องขูดหรือเสียดสีกับสมบัติอันล้ำค่าของใครบางคนหรอก
  3. หากคุณรู้สึกว่าการตรวจสอบความแท้ของไข่มุกด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ก็สามารถนำไข่มุกไปหาช่างเครื่องประดับหรือช่างเพชรพลอย ช่างผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีเครื่องมือ มีการฝึกฝน และมีดวงตาที่สามารถบอกว่าไข่มุกเม็ดไหนเป็นของแท้ได้ (และถ้ามันเป็นของแท้ ก็ยังบอกได้ด้วยว่ามีคุณภาพเพียงใด) อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มักต้องจ่ายในราคาไม่ใช่น้อย การตรวจสอบขั้นพื้นฐานก็สามารถตีราคาง่ายๆ ไปได้ถึง 100 ดอลลาร์ (3500 บาท) แล้ว [15]
  4. ด้วยวิธีทดสอบนี้ ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการตัดสินว่าไข่มุกอันไหนเป็นของแท้หรือของปลอมด้วยการใช้เครื่องเอกซเรย์ ไข่มุกแท้จะปรากฏสีเทากึ่งโปร่งใสในเครื่องเอกซเรย์ ส่วนของปลอมจะเป็นของแข็งสีขาวในฟิล์มเนกาทีฟ และเป็นของแข็งสีดำในฟิล์มโพสิทีฟ
  5. วิธีทดสอบขั้นสูงนี้จะวัดปริมาณแสงที่สามารถลอดผ่านไข่มุก เพื่อใช้ในการตัดสินว่าใช่ไข่มุกของแท้หรือไม่ ปกติแล้วไข่มุกจะมีการหักเหของแสง (ที่เรียกกันว่า "มาตรดรรชนีหักเห") อยู่ที่ประมาณ 1.530 ถึง 1.685 ความแตกต่างระหว่างสองค่านี้ (0.155) จะถูกเรียกว่า ค่าไบรีฟรินเจนซ์ (ค่าความแตกต่างระหว่างดัชนีหักเหสูงสุดและต่ำสุด) ของไข่มุก ซึ่งจะส่งผลต่อลักษณะของไข่มุกเมื่อมันต้องแสง คุณภาพเหล่านี้จะเป็นตัวบอกผู้เชี่ยวชาญว่าไข่มุกเม็ดนี้เป็นของจริง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขอย้ำไว้อีกครั้ง ทุกๆ วิธีข้างต้นที่กล่าวมาอาจให้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด เพื่อความมั่นใจ ให้ลองทดสอบหลายๆ วิธี หลายๆ ครั้งเข้าไว้
    • ขอยกตัวอย่างว่าการทดสอบด้วยวิธีเดียวจะก่อให้เกิดข้อผิดพลาดได้อย่างไร ดังนี้ มีแหล่งทดสอบหนึ่งได้ผลการทดสอบออกมาว่าไข่มุกที่แท้จริงนั้น ได้ผ่านการเคลือบเงาอย่างพิเศษจนทำให้ดูเรียบเนียน และทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ลงรอยกัน
  2. บางแห่งอาจแนะนำให้ถือไข่มุกไว้แล้วจุดไฟเพื่อตรวจสอบว่าเป็นมุกแท้หรือมุกปลอม ตามข่าวลือนี้ได้บอกว่า ไข่มุกปลอมจะไหม้หรือละลายเหลวไป ส่วนไข่มุกแท้ก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น แต่ความเป็นจริงมันมีอะไรซับซ้อนกว่านี้นัก ในขณะที่ไข่มุกปลอมอาจถูกไฟเผาไหม้จนเสียหาย ไข่มุกของแท้ก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน มุกแท้ที่ผ่านขั้นตอนกระบวนการเคลือบผิวชั้นนอกจะยิ่งเสียหายได้ง่ายเมื่อโดนไฟ และอาจได้รับผลกระทบทำให้เกิดรอยตำหนิ รูเจาะที่อาจเสียรูปทรง และไปทำลายความมันเงาด้วยเปลวไฟไม่กี่วินาทีนั่นเอง
    • นอกจากนี้ มันยังไม่คุ้มอีกเพราะไข่มุกนั้นนำไฟได้ดี และจะร้อนมากเมื่อถูกจุดไฟใส่ หากคุณจะทดสอบด้วยวิธีนี้ ให้ใช้วิธีป้องกันที่จำเป็นทุกรูปแบบเพื่อไม่ให้มันไหม้ได้
  3. อย่าหลงกลไข่มุกปลอมที่ขายด้วยชื่อแปลกๆ หายาก. หากคนขายต้องการขายไข่มุกให้คุณโดยเน้นที่ชื่อของมันมากกว่าลักษณะคุณสมบัติของมันแล้วล่ะก็ คุณอาจถูกหลอกแล้วก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่น ไข่มุกมายอก้า ("Mallorca" หรือ "Majorca") ซึ่งตั้งชื่อตามเกาะแห่งหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่จริงๆ แล้วก็เป็นไข่มุกที่มนุษย์ทำขึ้นเองทุกกระบวนการต่างหาก และบางครั้งก็ขายออกให้กับลูกค้าที่เชื่ออีกด้วย
  4. อย่าละเลยสัญชาติญาณพื้นๆ อย่างราคาของไข่มุก. ราคาของไข่มุกแท้นั้นมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง สีโอเวอร์โทน และคุณสมบัติอื่นๆ ของมัน อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางที่จะราคาถูกทั้งหมดอย่างแน่นอน อย่างเช่น สร้อยคอที่ทำจากมุกน้ำจืด (มุกที่ราคาถูกที่สุด) นั้นก็ตีราคาขายปลีกได้ง่ายๆ ประมาณ 700 ดอลลาร์ (24,900 บาท) แล้ว ถ้าคนขายให้ราคามุกของแท้ทั้งชุดที่ดูราคาเหมือนของจริง มันก็อาจเป็นของจริงจริงๆ ก็ได้
    • ตามที่รู้กันทั่วไป คุณอาจอยากซื้อไข่มุกจากช่างเครื่องประดับหรือคนขายมุกที่ได้รับการรับรอง มีความน่าเชื่อถือ การซื้อไข่มุกจากร้านข้างทางหรือโรงรับจำนำอาจทำให้เกิดความเสี่ยง ควรหาอ่านคู่มือในการซื้อไข่มุกเพื่อข้อแนะนำโดยเฉพาะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่ามุกแท้นั้นมาจากสองที่เท่านั้น ได้แก่: มุก ธรรมชาติ ที่ได้มาจากการจับหอยจากทะเลโดยตรง และมุก เลี้ยง ที่ได้มาจากการเลี้ยงในฟาร์ม มุกบางชนิดอาจมีสี เปลือก ความมันเงา และรูปร่างที่อยู่ระหว่างมุกเลี้ยงและมุกธรรมชาติ มุกธรรมชาติจะหายากกว่า และมีราคาที่แพงกว่ามุกเลี้ยง
  • หากคุณต้องการทำความสะอาดไข่มุก (ของแท้) ของคุณ ควรไปขอให้ช่างเครื่องประดับผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัดการให้ดีกว่า น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ในบ้านอาจทำให้ความมันเงาของไข่มุกหม่นลงไปอย่างถาวรเลยก็เป็นได้ โชคดีที่ช่างเครื่องประดับบางแห่งมีบริการทำความสะอาดที่น่าไว้ใจอยู่แล้ว [16]
โฆษณา

คำเตือน

  • โปรดระวังเมื่อใช้วิธีทดสอบด้วยฟันเมื่อใช้กับไข่มุกแต่ละเม็ด จับมุกไว้ให้เหมาะมือเพื่อหลีกเลี่ยงการเผลอกลืนมันลงไป
  • คุณอาจรู้สึกถึงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเมื่อใช้วิธีทดสอบด้วยฟันหรือการถูกันไปมา ให้ใช้นิ้วโป้งถูรอยนั้นหลายๆ ครั้ง แล้วจะช่วยให้รอยขีดข่วนหายไปได้


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,146 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา